หญิงสาวในชุดทำงานกำลังประชุมอยู่กับผู้บริหารของSPN เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทำเกี่ยวกับโรงแรม ห้างสรรพสินค้าและสื่อโฆษณา
"ทางบริษัทของเรากำลังจะเปลี่ยนเจ้าของใหม่ เป็นลูกบุญธรรมของมิสเตอร์ชาร์ล มหาเศรษฐีแห่งประเทศอังกฤษ พรุ่งนี้ต้องเตรียมการต้องรับอย่างดีที่สุด"
"หมายความว่าคุณมิ้นท์ไม่ใช่เจ้าของแล้วเหรอครับ"
"ใช่ เห็นว่าเขาอยากจะไปทำธุรกิจอื่น จึงขายธุรกิจให้กับคุณณภัทร ลูกบุญธรรมของมิสเตอร์ชาร์ล"
ทุกคนหันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง ทำไมลูกบุญธรรมของมิสเตอร์ชาร์ลถึงได้มีชื่อเป็นคนไทย
"ท่านไม่มีลูกไม่มีญาติที่ไหนพอมาเจอคุณณภัทรก็ถูกชะตาแล้วก็รับเลี้ยง ท่านดูแลมิสเตอร์ชาร์ลมาตลอดจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต และตอนนี้สมบัติทุกอย่างเป็นของคุณณภัทร เห็นว่าท่านไปเรียนต่อที่นั้นแล้วตอนนี้จะกลับมาอยู่ที่ไทยถาวร"
ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ แสดงว่าเขาเป็นคนมีบุญมากจริงๆถึงได้มีคนอุปถัมภ์และมีทุกวันนี้ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีชั่วข้ามคืน ข้าวหอมนั่งฟังเรื่องราวพอได้ยินชื่อณภัทรก็นึกไปถึงอดีตคนรักของเธอ
'ตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ จะเรียนจบหรือยัง จะมีหน้าที่ตำแหน่งการงานดีหรือยัง'
เธอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงคนรักถึงจะเป็นแค่อดีตแต่เธอไม่เคยลืมเขาสักวินาทีเดียวในชีวิต หญิงสาวกระพริบตาปริบๆไล่น้ำตาที่มันเอ่อออกมา อดีตมันก็คืออดีตไปแล้วยังไงเธอกับณภัทรคงไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว
"เอาเป็นว่าผมขอมอบหน้าที่การดูแลคุณณภัทรให้คุณข้าวหอมนะครับ คุณเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์และบุคลิกดีที่สุด ยังไงผมฝากเทคแคร์ท่านประธานด้วยนะครับ"
"ค่ะ ฉันจะทำให้เต็มที่ค่ะ"
ข้าวหอมยิ้มออกมาก่อนจะนั่งฟังว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง คุณณภัทรไม่ชอบกินปลา ไม่ชอบดื่มน้ำอัดลม และไม่ชอบอาหารเวียนนาม เธอต้องจำทุกรายละเอียดเพราะต้องจัดเตรียมอาหารต้อนรับอย่างสมเกียรติ
"ได้ค่ะ ข้าวหอมจะจัดการให้ตามนี้เลยค่ะ"
"โอเคเยี่ยมมาก ฝากด้วยนะ"
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป เธอต้องเริ่มจากการไปสั่งเชฟให้ทำเมนูตามที่เธอสั่งโดยคิดเองทุกอย่าง ความชอบหรือไม่ชอบของประธานคนใหม่คล้ายกับอดีตคนรักของเธอเลย เหมือนกันมากจริงๆ
"ข้าวหอม มันต้องขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย"
ดาหวันเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เรียนด้วยกันสมัยมัธยม เธอเป็นเชฟของโรงแรมที่นี่และพรุ่งนี้จะต้องเป็นคนจัดทำเมนูตามที่เธอบอกทุกอย่าง
"อืม คุณณภัทรเขาไม่ทานบางอย่างก็เลยต้องละเอียดในขั้นตอนหน่อย"
"ชื่อเหมือนผัวเก่าแกเลยอ่ะ อุ๊บ!"
ดาหวันเผลอจี้ใจดำเพื่อนอย่างเต็มคำ เธอรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้แน่นก่อนจะยิ้มออกมาแห้งๆ
"ขอโทษด้วยนะแก"
"ไม่เป็นอะไร ฉันทำใจได้แล้ว"
"เหอะ! ดูรูปถ่ายทุกวันทำใจได้ตรงไหนกัน"
ดาหวันอดแขวะเพื่อนสาวไม่ได้ คนที่ทำใจได้เขาต้องมูฟออนออกไปจากสถานะนั้นนานแล้ว ไม่ใช่ยังเก็บทุกอย่างที่เคยทำร่วมกันอย่างที่เพื่อนเธอทำอยู่
"ก็แค่คิดถึงห่วงว่าเขาอยู่ที่นั้นจะลำบากหรือเปล่า ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง"
"แกควรห่วงตัวเองค่ะ ลำบากกว่ามันเยอะแน่นอนฉันฟันธง"
ดาหวันมองบนก่อนจะดึงเมนูมาดูแล้วเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"โอเคฉันจะทำตามที่สั่งมาเนี้ยแหละ เดี๋ยวจะเอาเมนูให้เชฟใหญ่ดูอีกที"
"อืม ขอบใจนะดาหวัน งั้นฉันไปรับลูกก่อนนะได้เวลาแล้ว"
ดาหวันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองเพื่อนสนิทเดินออกไปจากตรงหน้าเธอ นี่ก็ผ่านมาห้าปีแล้วข้าวหอมควรจะมีความสุขสักที ไม่ใช่ยังจมอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
"ขอให้แกหลุดพ้นได้ไวๆนะข้าวหอม"
ทางด้านของข้าวหอมหลังจากที่กลับมาจากบริษัทเธอก็เดินทางมาที่โรงเรียนอนุบาลของนารา ลูกสาวคนเดียวอายุอานามได้ประมาณสี่ขวบครึ่งแล้ว
"คุณแม่ขา"
นาราสะพายกระเป๋าวิ่งเข้ามาหาคุณแม่ของเธออย่างดีใจ เด็กน้อยกระโดดกอดผู้เป็นแม่ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาอย่างที่เคยทำ
"ไงคะคนเก่ง วันนี้ตั้งใจเรียนมั้ยเอ่ย"
"ตั้งใจเรียนมากค่ะ แล้วนาราก็ทำที่คุณครูสั่งได้ทุกข้อเลย"
"เก่งจังเลย เก่งเหมือนใครน้า"
ข้าวหอมทำเสียงลากยาวเพื่อรอลูกสาวตอบนารายิ้มกว้างออกมาก่อนจะตอบคำถามของผู้เป็นแม่
"เก่งเหมือนคุณแม่ไงคะ"
ข้าวหอมยิ้มออกมาทันที ลูกสาวกอดคอเธอแน่นก่อนจะพาไปขึ้นรถแล้วพากลับไปคอนโดของตัวเอง บ้านจริงๆของเธออยู่ต่างจังหวัดแต่เนื่องด้วยมาทำงานที่กรุงเทพจึงต้องมีคอนโดอยู่อาศัย ตอนแรกพ่อกับแม่ของเธอจะให้นาราอยู่ต่างจังหวัดแต่เธอคิดว่าลูกมีแค่แม่คนเดียว ควรจะได้รับความอบอุ่นอย่างเต็มที่ งานที่ทำถึงจะเหนื่อยแต่มีเวลามากพอที่จะดูแลลูกได้ อีกอย่างเพื่อนของเธอก็อยู่คอนโดห้องข้างๆช่วยกันดูแลนารามาตั้งแต่เด็ก ดาหวันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอแล้ว
"น่ารักที่สุด ปากหวานซะด้วย"
"คุณแม่บอกว่าให้นาราตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดีแล้วคุณพ่อจะได้กลับมา"
ข้าวหอมหยุดยิ้มก่อนจะมีสีหน้าที่กังวลขึ้นมา เธอไม่รู้จะตอบลูกยังไงต่อเพราะยิ่งโตขึ้นยิ่งถามหาแต่คุณพ่อจนเธอบ่ายเบี่ยงไม่ไหว
"คุณพ่อไปทำงานค่ะ ส่งเงินมาให้หนูตลอดเพื่อให้หนูได้เรียนโรงเรียนดีๆ เพราะฉะนั้นถึงคุณพ่อจะมาหาไม่ได้ แต่เขารักหนูที่สุดนะรู้มั้ย"
นาราพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้างออกมา เธอเป็นเด็กน่ารักใสซื่อจนคนเป็นแม่รู้สึกผิดที่จะต้องโกหกไปวันๆแบบนี้
"รู้ค่ะ กลับบ้านเถอะค่ะนาราจะไปทำการบ้าน"
"จ๊ะลูก กลับกัน"
เธอขับรถมาเรื่อยๆเมื่อมาถึงคอนโดข้าวหอมก็พาลูกสาวไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน และระหว่างที่เธอกำลังทำอาหาร นาราก็นั่งทำการบ้านรอ
"มาทานข้าวค่ะคนเก่ง"
"ค่ะคุณแม่"
สองแม่ลูกทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่านาราจะขาดพ่อแต่เธอเชื่อว่าตัวเองจะทำให้ลูกมีความสุขโดยไม่รู้สึกขาด
เช้าวันต่อมา....
ข้าวหอมเดินมาตรวจความเรียบร้อยในงานต้อนรับเจ้าของบริษัทคนใหม่ของSPN ตอนนี้ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ห้องรับรอง ห้องทำงานใหม่ถูกตกแต่งเรียบร้อยภายในเวลาวันเดียว
"เดี๋ยวรถมาถึงข้าวหอมไปต้อนรับคุณณภัทรนะ"
"ได้ค่ะคุณตฤณ"
ข้าวหอมเดินไปยังหน้าล็อบบี้ระหว่างรอรถของท่านประธานคนใหม่มาถึง สักพักก็มีรถตู้เคลื่อนที่ตามกันมาหลายคัน รถหรูจอดหน้าประตูข้าวหอมและผู้บริหารคนอื่นเดินไปยืนต้อนรับหน้าประตูพร้อมกัน
ประตูรถถูกเปิดออก ณภัทรก้าวเท้าลงมาจากรถในชุดสูทดูดี สวมแว่นตาสีดำในลุคดูดีใครเห็นเป็นต้องหลงไหล ชายหนุ่มเดินมาเรื่อยๆก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของข้าวหอม หญิงสาวที่ก้มหน้าอยู่โค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นกล่าวทักทาย
"สวัสดีค่ะคุณณภัทร ยินดีต้อนรับสู่SPNค่ะ"
เธอส่งช่อดอกไม้ไปให้ชายหนุ่มตรงหน้าก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อประธานคนใหม่ของSPN คือคนเดียวกับอดีตคนรักของเธอ
"ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ"