ตลอดการร่วมโต๊ะอาหาร ณภัทรพยายามจะพูดถึงอดีตของเขาและเธอเพื่อให้คนรอบข้างได้รู้ว่า เขากับเธอเคยมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งมาก่อน ข้าวหอมไม่รู้จะบอกเขายังไงเธอพยายามที่จะเลี่ยงการพูดคุยกับชายหนุ่มซึ่งเป็นไปได้ยากเหลือเกิน
"ทานของว่างมั้ยคะ"
หญิงสาวเอ่ยถาม เขามองเมนูตรงหน้าเธอก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
"ผมไม่ชอบกินของหวานคุณก็รู้"
"ดิฉันคิดว่าคุณอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว"
ข้าวหอมเอ่ยขึ้นก่อนจะส่งมันกลับไปตามเดิม เพราะดูลักษณะเขาไม่ชอบเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
"อะไรที่ผมเคยชอบผมก็ยังชอบเหมือนเดิม ส่วนอะไรที่ไม่เคยชอบก็จะไม่มีทางชอบ"
"ผลไม้มั้ยคะ"
ข้าวหอมไม่สนใจที่เขาพูดทำเป็นหูทวนลมไปซะจะได้ไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืด เธอหยิบสตรอเบอร์รี่ที่เขาชอบกินมาให้ตรงหน้า
"สตรอเบอร์รี่ค่ะ"
"ป้อนหน่อย"
เขาอมยิ้มมองเธออย่างกวนประสาท ตฤณลอบสังเกตทั้งสองคนที่คุยกันอย่างสนิทสนมรู้ใจกันมากเกินไปก็เกิดอาการกังวลใจแปลกๆ
"คนตั้งเยอะทำไมไม่ทานเองคะ"
"ป้อนหน่อย ผมเป็นเจ้านายคุณนะทำไมถึงไม่ฟังเลยอ่ะ"
ข้าวหอมถอนหายใจออกมาก่อนจะใช้ส้อมจิ้มผลไม้ป้อนเขาถึงปาก ณภัทรยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ เขาจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาให้ได้ทั้งตัวทั้งใจ รับรองว่าหญิงสาวไปไหนไม่รอดแน่นอน
"อร่อยเนาะ"
หญิงสาวถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่งเอาใจเขาตามสั่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาทำอะไรแบบนี้นะ หวังว่าคนอื่นจะไม่ส่งเธอมาต้อนรับท่านประธานคนใหม่เหมือนอย่างวันนี้อีก
"อิ่มหรือยังคะ"
"ไม่อ่ะ ป้อนอีกสิ"
คนอื่นๆเหลือบสายตามองทั้งสองคนก่อนจะก้มหน้าทานข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เวลาผ่านไปอีกสิบนาทีต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำงานโดยณภัทรรั้งตัวข้าวหอมไว้ไม่ยอมให้กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
"คุณข้าวหอมช่วยมาแนะนำรายละเอียดของSPNหน่อย คุณเป็นฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์น่าจะมีข้อมูลละเอียดที่สุด"
"คุณตฤณก็ให้ข้อมูลได้ค่ะ เขาเป็นผู้ช่วยมีข้อมูลในมือเยอะกว่าดิฉันอีก"
ข้าวหอมเอ่ยแย้งชายหนุ่ม คนอย่างเขาจะซื้อธุรกิจจากใครจะคงจะศึกษามาหมดแล้วด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่จะไม่มีข้อมูลอะไรเลย ซึ่งเธอเดาว่าคงหาเรื่องแกล้งเธอมากกว่า
"ผมอยากถามคุณมากกว่า คุณตฤณเขาต้องไปทำสรุปรายงานให้ผมจริงมั้ยครับ"
ตฤณหันไปมองหน้าท่านประธานก่อนจะตอบรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"ครับ"
"คุณมานั่งกับผมตรงนี้"
ณภัทรเรียกให้หญิงสาวมานั่งลงข้างเขา ส่วนตฤณที่รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นส่วนเกินก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันทีอย่างช้ำใจ ข้าวหอมเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของบริษัทก่อนจะนั่งลงข้างชายหนุ่ม
"อยากรู้เกี่ยวกับอะไรคะ ดิฉันจะได้ตอบคำถามคุณณภัทรถูก"
หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน ชายหนุ่มยิ้มมุมปากก่อนจะดึงเธอขึ้นมานั่งลงบนตักของเขา ข้าวหอมร้องลั่นอย่างตกใจที่อยู่ๆเขาก็ทำแบบนั้น
"ว๊าย! คุณทำอะไรคะ"
ข้าวหอมโอบคอเขาไว้เพราะกลัวจะตกลงไปที่พื้น เขาอมยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะยื่นใบหน้าไปคลอเคลียกับหญิงสาวอย่างเคย
"หยุดนะคะคุณณภัทร คุณไม่ควรทำแบบนี้"
"ทำไม หรือว่าตอนนี้คุณมีแฟนใหม่ไปแล้วผมถึงทำไม่ได้"
เธอเงียบไปไม่กล้าตอบ เพราะตั้งแต่เลิกรากับเขาเธอไม่เคยมีใครอื่นมาแทนที่เขาได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานซักแค่ไหนเขาคือคนที่อยู่ในใจตลอดมาจนถึงตอนนี้
"ข้าว... ยังรักภัทรอยู่ใช่มั้ย"
เขาเอ่ยถามเสียงอ่อนโยนมอบสบตาของหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ ข้าวหอมแววตาสั่นไหวเธอตัวสั่นไปทั้งตัวด้วยกลัวความความรู้สึกของตัวเอง และสิ่งที่เขากำลังถามมันทำให้เธอระแวงว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
"คิดจะทำอะไรคะคุณณภัทร"
"ทำไมล่ะ... ผมยังรักคุณอยู่ถึงกลับมาหาไง"
"ไม่จริง คุณกำลังคิดจะทำอะไร คุณเกลียดข้าวขนาดไหนตอนนั้น มันเป็นไปไม่ได้"
ข้าวหอมไม่มีทางเชื่อคนอย่างเขา ตอนนั้นสภาพของเขาเจ็บปวดมากไม่มีทางที่จะยอมให้อภัยเธอแน่นอน การกลับมาครั้งนี้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นแน่
"มันผ่านไปนานแล้ว ผมเคยเสียใจแต่มาคิดได้และตอนนี้ผมมีทุกอย่างแล้วผมสามารถดูแลคุณได้ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย"
เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับมองสบตาหญิงสาวอย่างไม่หลบสายตา แต่ยังไงเธอก็ไม่มีทางเชื่อว่าคนอย่างเขาจะอยากคืนดีกับเธอจริงๆ
"คุณแค่อยากทำให้ฉันเจ็บปวดเหมือนอย่างที่คุณเคยเจอ ฉันพูดถูกใช่มั้ย"
หญิงสาวเอ่ยถามตามตรง ณภัทรยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปลูบไล้แก้มหญิงสาวอย่างเบามือ
"ผมจะพิสูจน์ให้คุณดูว่าผมยังรักและรอคุณอยู่จริงๆ"
พูดจบเขาก็โน้มใบหน้าไปจูบริมฝีปากหญิงสาวอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่ห่างหายไปนานยากที่จะลืมมันกลับมาอีกครั้งทำเอาหญิงสาวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เธอเคลิ้มไปกับสิ่งที่เขาทำให้จนลืมไปว่ามันต้องไม่ใช่ความจริง เขาไม่มีทางอยากจะดีกับเธอเหมือนก่อน พอคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ผละเขาออกก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที ณภัทรมองตามเธอก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์สุดๆ
"ยังลืมไม่ได้สินะ..."
เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดไปหาผู้ติดตามของเขา วันนี้จะออกไปซื้อของและจะไปหาซื้อเครื่องประดับสวยๆสักชิ้นมาให้ข้าวหอมด้วย
ทางด้านของหญิงสาวเมื่อวิ่งออกมาจากห้องของชายหนุ่มก็กุมหน้าอกตัวเองแน่นก่อนจะหายใจถี่ด้วยความกลัว เธอจะหลีกเลี่ยงจากเขายังไงดี.. ถ้ายังวนเวียนอยู่ด้วยกันแบบนี้เธอแย่แน่นอน
"เฮ้อ! ทำยังไงดี"
ตกเย็น...
วันนี้ข้าวหอมและดาหวันพานารามาทานไอศกรีมที่ห้างใกล้ๆโรงเรียนของเธอ เด็กน้อยชอบมากเวลาที่คุณแม่พามาเดินเล่นที่ห้างแบบนี้
"นาราชอบเดินห้างค่ะคุณแม่"
"ไว้แม่ว่างจะพามาอีกนะคะ แต่ตอนนี้อยู่กับป้าดาหวันก่อนแม่ขอไปห้องน้ำแปบหนึ่งนะ"
"ค่ะคุณแม่"
"ฝากลูกแปบหนึ่งนะ"
ดาหวันพยักหน้าก่อนจะจูงมือนาราไปเดินเล่นระหว่างคนเป็นแม่ไปทำธุระส่วนตัว เด็กน้อยยืนมองตุ๊กตาที่อยู่เต็มไปหมดบนชั้นก็ร้องว้าวออกมาอย่างตื่นเต้น
"ป้าดาหวันคะตุ๊กตาสวยจังเลยค่ะ"
"อยากได้มั้ยป้าซื้อให้ หนูไปเลือกเลยค่ะ"
"จริงเหรอคะ คุณแม่จะไม่ดุใช่มั้ยคะ"
นาราทำหน้ากังวลกลัวว่าคุณแม่จะดุที่ซื้อของฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะให้คนอื่นซื้อของให้คุณแม่ไม่ค่อยอยากให้เธอขอใครเท่าไหร่
"ไม่ดุหรอกค่ะป้าจะปกป้องหนูเอง"
นารายิ้มกว้างออกมาก่อนจะวิ่งเข้าไปในร้านแล้วเดินเลือกตุ๊กตาอย่างเพลิดเพลิน เธอวิ่งไปอีกฝั่งจนไปชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
"โอ๊ย!"
เด็กน้อยร้องลั่นก่อนจะเงยหน้ามองสบตากับชายคนนั้น ณภัทรรีบคุกเข่าลงช่วยประคองเด็กน้อยที่ชนเขาจนล้ม
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะตัวเล็ก"
"คุณพ่อ! คุณพ่อจริงด้วย"
นารารีบลุกขึ้นก่อนจะกระโดดกอดคอชายหนุ่มอย่างคิดถึง คุณแม่ให้เธอดูรูปทุกวันเด็กน้อยจำได้ดีในความทรงจำว่าชายตรงหน้าคือคุณพ่อของเธอ
"อะไรนะ... คือฉันไม่ใช่พ่อหนูนะ"
นาราผละออกก่อนจะยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดคุณพ่อก็กลับมาหาเธอแล้ว
"คุณพ่อกลับมาหานารากับคุณแม่แล้วใช่มั้ยคะ"
"เอ่อ.. คือ"
เขายังอึ้งและงงอยู่กับเด็กน้อยตรงหน้า ดาหวันที่เดินตามหาเด็กน้อยพอเห็นเธอกำลังกอดคอณภัทรก็ตกใจรีบวิ่งไปดึงตัวกลับมาทันที
"นารา! ออกมาเดี๋ยวนี้"
ดาหวันดึงหลานสาวมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะมองหน้าณภัทรด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรซักเท่าไหร่ เขาเจอดาหวันก็จำได้ทันทีเพราะเธอก็คือเพื่อนของเขาเหมือนกัน
"ดาหวันไม่เจอกันนานเลยนะ"
"ณภัทร.. อ่อไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคุณณภัทรใช่มั้ยคะ"
"นาราเจอคุณพ่อแล้วค่ะ"
ดาหวันตาโตอย่างตกใจก่อนจะอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนทันที
"เขาไม่ใช่พ่อของหนูค่ะนารา หนูจำผิดคนแล้ว"
"แต่ว่าในรูป..."
"ขอตัวก่อนนะ"
ดาหวันรีบอุ้มนาราออกไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ณภัทรยืนงงอยู่ตรงนั้นอย่างสงสัยว่าทำไมเด็กน้อยคนนั้นถึงเรียกว่าเขาเป็นพ่อ
"แล้วแม่ของเด็กเป็นใคร..."