| 3 - 1

1202 Words
หลังจากส่งใบสมัครฝึกงาน ไปที่บริษัทของทรงโปรดแล้ว ต้องมนตร์ก็ถูกสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์ จนผ่านได้รับคัดเลือกให้มาฝึกงานที่นี่ ความรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่งที่เธอยังทันอยู่ เพราะกว่าจะส่งใบสมัครฝึกงานก็เป็นช่วงท้ายๆ แล้วนั่นเอง นึกแล้วก็อยากทำโทษตัวเองที่มัวแต่ลังเลอยู่นาน จนเกือบจะพลาดการฝึกงานที่บริษัท ฟอร์เวิร์ด แห่งนี้เสียแล้ว                                วันเริ่มต้นของการฝึกงาน เธอค่อนข้างตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะเธอได้ฝึกอยู่ฝ่ายวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งตรงกับสายที่เธอเรียนมานั่นเอง ในใบสมัครฝึกงานให้นักศึกษาระบุเองว่าอยากฝึกตรงส่วนไหน และเธอจึงเลือกรายการการท่องเที่ยวชื่อดังและรายการทอล์คโชว์แนวโดนใจวัยรุ่น ที่มีพิธีกรชื่อดังอารมณ์ดีอย่างพี่กี๋ พี่แจ็ค และพี่อ้นเป็นพิธีกรประจำอยู่                                           วันนี้ต้องมนตร์มาถึงบริษัทตั้งแต่เช้า เธอได้รับการต้อนรับจากบรรดาพี่ๆ ที่ฝ่ายเป็นอย่างดี มีการแนะนำรายละเอียดต่างๆ ในฝ่าย และแนะนำบุคลากรฝ่ายนี้ให้เธอรู้จัก                  "ต้องจ๊ะ" ขณะที่ต้องมนตร์กำลังช่วยพี่อ้นครีเอทีฟคนเก่งเรียบเรียงข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในภาคใต้ พี่กี๋ผู้เป็นที่ทั้งโปรดิวเซอร์และพิธีกรชื่อดังได้เดินมาหาที่โต๊ะ ต้องมนตร์เงยหน้าจากหน้าจอแล็ปท็อปขึ้นมา ก็พบกับกระดาษขนาดเอสี่จำนวนปึกหนึ่งที่พี่กี๋ยื่่นมาให้ตรงหน้า  "ช่วยถ่ายเอกสารสคริปต์นี้ให้พี่ด้วยนะ อ้อ ขอสิบชุดนะจ๊ะ"                                                                                          "ค่ะ พี่กี๋" ต้องมนตร์รับสคริปต์จากมือนั้นด้วยรอยยิ้ม แล้วลุกไปยังเครื่องถ่ายเอกสาร ทว่า ทันทีที่ลุกขึ้นดวงตาเธอก็สบเข้ากับดวงตาที่มีแววดุร้ายคู่หนึ่งเข้า ดวงตาของโรสิตานั่นเอง ที่กำลังยืนกอดอกมองหน้าเธอตั้งเมื่อไหร่ไม่รู้ ต้องมนตร์ถอนใจน้อยๆ เดินไป ก่อนจะหยุดตรงหน้าอีกฝ่ายเพื่อยกมือไหว้แล้วเดินไปที่เครื่องถ่ายเอกสาร แต่...                                                                      "ขนาดมีโควต้าแค่หนึ่งคน ก็ยังสามารถเบียดนักศึกษาคนอื่นๆ มาจนได้" น้ำเสียงของโรสิตาฉายแววเยาะหยันจนสัมผัสได้ "สวัสดีค่ะ คุณโรส" กี๋ที่เห็นลูกสาวหุ้นส่วนบริษัทมาถึงฝ่าย ก็รีบออกมารับหน้า "มีอะไรให้พวกเรารับใช้มั้ยคะ "                 "ไม่" โรสิตาตอบจนเกือบเป็นกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะเบนสายตามาดูนักศึกษาฝึกงานตรงหน้าด้วยความไม่ชอบใจ                   "โรสก็แค่... มาต้อนรับนักศึกษาฝึกงานกิตติมศักดิ์น่ะพี่กี๋ เพราะในที่สุดก็มาจนได้... หายหน้าจากการเป็นเด็กส่งข้าวต้มมัดไปสักพัก แต่ก็กลับมาก็เป็นนักศึกษาฝึกงานกิตติมศักดิ์เสียแล้ว"           "ต้องไม่เข้าใจที่คุณโรสพูดค่ะ" ต้องมนตร์ตอบ พร้อมกับมองตอบอย่างไม่ยอมบ้าง                                                          โรสิตาอดที่จะหลุบมองอีกฝ่าย ตั้งแต่เท้าเรื่อยมาจนถึงใบหน้า แล้วพูดอีก "เธอก็ยังเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรคนเดียวอยู่ดี ในขณะที่คนอื่นๆ เขาเข้าใจกันหมด ก็ดีนะ...ไม่ต้องเข้าใจแบบนี้ สามารถใช้เป็นเกราะป้องกันตัวเพื่อลอยตัวเหนือปัญหาทั้งหมดได้ดี" โรสิตากล่าวจบก็ถือวิสาสะวางมือข้างหนึ่งลงไปที่ไหล่บางของต้องมนตร์แล้วตบเบาๆ ตาม "ตั้งใจฝึกงานให้สมกับที่เบียดคนอื่นๆ ตกหล่นไปล่ะ โปรดจะได้ภูมิใจที่อุตส่าห์ช่วยเธอเอาไว้"      เอ่ยจบด้วยความสาแก่ใจแล้ว โรสิตาก็หันไปแค่นยิ้มให้กับกี๋ แล้วหมุนตัวเดินจากไปทันที กี๋เองก็ลอบกลืนน้ำลาย ก่อนจะยิ้มแหยๆ ให้ต้องมนตร์บ้างแล้วหลบหน้าไปเพื่อจะไม่พูดถึงเรื่องที่โรสิตาตั้งใจมาทิ้งเป็นระเบิดเอาไว้เสีย ต้องมนตร์มองพี่ๆ คนอื่นที่เงยหน้าขึ้นมาจากฉากกั้นสำนักงานบ้างแล้วพากันรีบหลบหน้าไป บ้างก็ยิ้มเจื่อนๆ ให้แทน เธอรู้สึกหน้าชาจากกิริยาเหล่านั้นเหลือเกิน นี่ก็เป็นเพราะเขา         ทรงโปรด... เขาอีกแล้วเหรอ!                                           "ได้แล้วค่ะพี่กี๋"                                                                  ต้องมนตร์วางสคริปต์ที่โปรดิวเซอร์คนเก่ง อยากได้ลงกับโต๊ะ เธอได้ยินอีกฝ่ายพึมพำขอบคุณเบาๆ ขณะสายตายังจ้องอยู่กับภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอแล็ปท็อป และเมื่อกี๋สังเกตได้ว่า เธอไม่ยอมขยับตัวไปไหน เลยต้องเงยหน้าขึ้นมาถามว่า              "มี...อะไรจะถามพี่หรือเปล่า" กี๋เอ่ยแล้วยิ้มเจื่อนๆ กับสายตาคู่ที่มองตนแทบไม่กะพริบตา                                              ต้องมนตร์มีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่แล้ว เลยต้องรีบเข้าเรื่องที่เธออยากรู้ทันที "ต้องมีเรื่องอยากถามพี่กี๋ พี่กี๋ว่างพอจะช่วยตอบคำถามต้องมั้ยคะ"  "จ้ะ ว่ายังไงจ๊ะ?"                                                     "ก็เรื่องโควต้าเด็กฝึกงานนี่มันยังไงกันแน่คะ"                     กี๋มีท่าทางอึกอักลำบากใจขึ้นมาอย่างชัดเจน แต่ก็ยอมตอบว่า "จริงๆ ก็อย่างที่คุณโรสว่านั่นแหละ ว่าแต่ละฝ่ายของตึกนี้จะได้โควต้านักศึกษาฝึกงานมาแค่หนึ่งคนเท่านั้น"                              "แล้ว...สำหรับต้องละคะ พี่กี๋พูดมาตามตรงได้มั้ยคะ ว่ามีใบสั่งของใครรึเปล่า ต้องก็แปลกใจอยู่ เพราะต้องเองก็ส่งใบสมัครมาจนเกือบหมดระยะเวลาแล้ว แต่ก็ยังได้รับเลือกให้ฝึกที่นี่"            แล้วกี๋ก็นึกถึงโทรศัพท์จากใครบางคนที่เกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานที่ชื่อ 'ต้องมนตร์' ขึ้นมาทันที ความอิหลัก  อิเหลื่อมีเพิ่มขึ้น แต่กี๋ก็ต้องรีบทำให้เรื่องนี้มันจบๆ ไป ไม่อย่างนั้น ต้องมนตร์เองก็คงจะคาดคั้นเอาความจากคนอื่นๆ ในฝ่ายนี้จนได้แน่ "ความจริงแล้ว ต้องไม่ต้องคิดมากหรอก พี่ตัดสินใจเลือกต้องเองเพราะคุณสมบัติที่ต้องมีก็ตรงตามที่พี่ต้องการทุกอย่างน่ะ"                       ต้องมนตร์ดูออกว่า พี่กี๋กำลังจะหาทางออกเรื่องนี้ให้ดูดี แต่เธอรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ไปแล้ว เขาแนะนำย่าให้บอกเธอให้มาฝึกงานที่นี่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีที่เอาเปรียบคนอื่นแบบนี้ ตอนนี้ต้องมนตร์เริ่มจะวางตัวไม่ถูกแล้ว แน่นอนว่า เรื่องระหว่างเขากับเธอที่เป็นข่าวดังครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน ย่อมทำให้เป็นที่สนอกสนใจต่อคนอื่นๆ อยู่แล้ว แม้เขาจะรับผิดชอบชีวิตของเธอต่อจากบิดา แต่เขาก็ไม่ควรทำถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ ป่านนี้เรื่องที่เขาเข้ามากะเกณฑ์การฝึกงานที่ฝ่ายนี้ คงกระฉ่อนไปทั่วตึก ฟอร์เวิร์ด แล้วล่ะ                                                                                ต่อไปก็คงมีแต่คนคอยดูถูกเธอเหมือนอย่างโรสิตาแน่ ว่าแค่เรื่องฝึกงาน ยังใช้ความอนุเคราะห์ต่อกันขนาดนี้ ต่อไปใครจะกล้ามายุ่งอะไรกับเธอ หลังจากที่ได้คำอธิบายที่ยังดูคลุมเครือจากพี่กี๋แล้ว ต้องมนตร์ก็ขอตัวกลับมาช่วยงานครีเอทีฟชื่อดังที่โต๊ะตามเดิม แล้วข่มความไม่พอใจเอาไว้ก่อน รอให้ถึงเวลาเลิกงานเถอะ ต้องมนตร์จะขอพูดเรื่องนี้กับเขาเองแน่นอน! 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD