ยามเช้าใกล้สาย คาริสาบิดขี้เกียจด้วยความเหนื่อยและความง่วงเล็กน้อย เมื่อขยับตัวเธอกลับรู้สึกว่าแขนทั้งข้างเธอถูกมัดขึงไว้กับขอบเตียง และรู้สึกว่าช่วงล่างมันคับแน่นไปหมด เธอค่อย ๆ ลืมตาอย่างช้า ๆ
ปึก! ปึก! ปึก!
“เป็นไง เธอชอบไหม” คาริสาถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของแดเนียล
ปึก! ปึก! ปึก!
แดเนียลที่คร่อมอยู่บนตัวของเธอพลางทำหน้าฟิน เมื่อคาริสามองเห็นอย่างนั้นเธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาดังลั่น
“แดน! นี่นายลักหลับฉันเหรอ” คาริสาพูดพลางสีหน้าหงุดหงิด
“เมื่อวานเรายังไปได้ทำกิจกรรมก่อนนอนเลยนะ เธอดันเล่นเป็นลมไปก่อนนี่ยังมาตื่นสายอีก ฉันทนรอไม่ไหวแล้วขอหน่อยแล้วกันนะ”
เมื่อวานจำได้ว่าจูบอยู่กับแดเนียลแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
“ไม่ขัดขืนแบบนี้แปลว่าชอบใช่ไหม”
“ทุเรศ! นายมันลามกบ้ากามวิปริตผิดมนุษย์ นายทำได้ยังไง”
“ฉันก็ทำไม่ได้ขนาดนั้นหรอก แต่ฉันทำได้มากกว่านั้น”
“นายจะทำอะไร” แดเนียลหยิบแส้ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เขาทำท่าฟาดแส้ใส่คาริสา แต่มีหรือที่หญิงสาวจะยอมเธอได้แต่ส่งเสียงกรี๊ดออกมาดัง ๆ
กรี๊ดดดดด!
คาริสากรีดร้องจนสะดุ้งตื่น เธอหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาเดินเล่นข้างนอก
คาริสามองแดเนียลโยนก้อนหินลงน้ำทะเลอยู่ห่าง ๆ เธอต้องคิดหนักทุกครั้งที่เห็นหน้าของแดเนียล ความรู้สึกลำบากใจที่มองหาทางออกไม่เจอ
“ถ้าแดนรู้ความจริงว่าฉันเป็นใคร ถึงตอนนั้นเรื่องระหว่างเราสองคนจะเป็นยังไง” คาริสาบ่นออกมาอย่างใจลอย อยู่ ๆ เขาก็โผล่หน้ามาหลังจากที่หายไปหลายปี เธอตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ เมื่อรู้ว่าแดเนียลคือคนที่เธอตามสืบหาตัวมาตลอดค่อนปี
เธอจะทำอย่างไรให้เขาเปลี่ยนใจ
คาริสายังคิดไม่ตก สายตาก็เหลือบไปเห็นคนร้ายร่างกายบึกบึนสองคนกำลังจะเล็งปืนไปที่แดเนียล
“แดน ระวัง!”
ปัง!!!
เมื่อได้ยินคาริสาตะโกนเตือนมาจากไกล ๆ แดเนียลจึงไหวตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งลูกกระสุนก็เฉียดศีรษะเขาไปนิดเดียว
มาเฟยหนุ่มรีบวิ่งตรงไปหาคาริสาโดยเร็ว เนื่องจากเห็นว่าคนร้ายอีกสามคนวิ่งมาจับตัวเธอไว้ คนไม่ได้ตั้งตัวทั้งตกใจและสับสน ใจอยากจะจัดการพวกนั้นให้หนีเตลิดเปิดเปิง แต่อีกใจก็เธอกลัวเหลือเกินว่ามันเป็นเพียงแผนการของแดเนียล คาริสาจึงทำได้แค่ร้องขอชีวิตและร้องตะโกนให้อดีตคนรักมาช่วย
“ปล่อยฉันนะอย่าทำอะไรฉันเลย ฮือ ๆ แดนช่วยฉันด้วย” คนร้ายจับคาริสาไว้แน่นพร้อมเอาผ้าอาบยาสลบอุดจมูกจนเกือบขาดอากาศหายใจ เพียงไม่นานเธอก็หมดสติไป
“ปล่อยเธอ!” คนบงการออกคำสั่งเสียงนิ่งเรียบ คนร้ายพวกนั้นเป็นคนของเขา ที่ทำไปก็เพราะต้องการทดสอบอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินมาคว้าตัวเธอไว้ในอ้อมกอด “หมดหน้าที่ของพวกมึงแล้ว กลับไปได้แล้ว”
ทุกคนก้มหน้ารับคำก่อนจะเดินออกไปอย่างรู้งาน แดเนียลอุ้มร่างเล็กเข้าไปภายในบ้าน แต่หารู้ไม่ว่าคาริสาไม่ได้หมดสติไปจริง ๆ ในขณะที่คนร้ายเอาผ้าอาบยาสลบอุดจมูกเธอ เธอกลั้นหายใจไว้แล้วแกล้งทำเป็นสลบไป
“ฉันไว้ใจเธอได้แล้วใช่ไหม เราไม่ได้เป็นศัตรูกันใช่ไหมเคส” แดเนียลทวงถามขณะที่มือของเขาลูบศีรษะอดีตคนรักอย่างอ่อนโยน
อยู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็นึกโทษตัวเองที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป มันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เมื่อจิตใจไม่สงบนิ่งเขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปปรับอารมณ์นอกห้อง
คาริสาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น น้ำสีใสไหลนองแก้มสวยทั้งสอง เมื่อรู้ว่าแดเนียลไม่ไว้ใจเธอ
เธอไม่อยากหลอกลวงเขาแบบนี้เลย มันเจ็บปวดใจทุกครั้งที่ต้องโกหกเขา
หลังจากที่แดเนียลพาคาริสาไปพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวด้วยกันตามลำพัง แดเนียลอ้างเอาความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นเพื่อพาคาริสากลับไปยังบ้านพักส่วนตัว ระหว่างทางเดินเรือเขาไม่ปล่อยให้เธออยู่ห่างกายแม้แต่วินาทีเดียว
“เธอโอเคหรือเปล่าเคส” แดเนียลเป็นฝ่ายชวนคาริสาคุยก่อน ทั้งคู่มองหน้ากันเหมือนมีความในใจจะบอกกันและกัน ก่อนที่น้ำตาของคาริสาจะค่อย ๆ ไหลออกมานองหน้า
“เธอร้องไห้ เธอร้องไห้ทำไม” แดเนียลถามด้วยความร้อนใจพลางรีบเอื้อมมือไปซับน้ำตาให้กับเธอ
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษนะแดน” คาริสาพูดเสียงสะอื้น
“เธอขอโทษฉันเรื่องอะไร”
“คือฉันไม่ได้อยากร้องแต่น้ำตามันไหลเอง” คาริสาพูดแล้วพลางนึกถึงอดีต อดีตที่ทำให้เธอและเขาต้องจากกัน วันนั้นเธอควรจะทำอะไรสักอย่าง ไม่น่าปล่อยให้เขาไปอยู่กับแอเรียลพ่อของเขาที่ฮ่องกงเลย
“คิดอะไรอยู่เหรอ” แดเนียลมองเธออยู่นาน เขาเดาใจเธอไม่ออกเสียทีจึงเอ่ยถาม
คาริสาหันไปยิ้มให้แดเนียลแบบฝืน ๆ พร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด
มาเฟียหนุ่มค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าหาเธอหวังจะปลอบโยน เขาใช้มือทั้งสองข้างโอบรัดเอวคอดไว้ ริมฝีปากทั้งคู่ก็ค่อย ๆ เข้าหากันและกันแล้วประกบแนบชิดในที่สุด
นานนับนาทีที่เขาและเธอต่างคนก็ต่างให้ความร่วมมือ รสจูบดูดดื่มแฝงไปด้วยความคิดถึง ห้าปีที่จากกันมันเนิ่นนานเหลือเกิน ขอบคุณที่วนกลับมา
“ฉันดีใจที่ได้เจอเธออีกนะ” แดเนียลเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปจูบหน้าผากมนเบา ๆ แล้วสวมกอดเธอไว้
คาริสางุดหน้าลงด้วยความเขินจนหูแดงไปหมด แต่แล้วอยู่ ๆ สีหน้าของเธอก็ซีดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แค่ว่าเธอและเขาคือศัตรูที่อยู่กันคนละฝั่ง หัวใจดวงน้อยมันล้นไปถึงตาตุ่ม
“หัวใจเธอเต้นแรงจัง เขินเหรอ” แดเนียลกระซิบถาม
“แดน ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ว่ามาสิ”
“นายกำลังทำงานอะไรอยู่เหรอ”
“ถามแบบนี้หมายความว่าไง” แดเนียลพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ พร้อมผละเธอออกจากอ้อมกอดเล็กน้อย
“ที่ฉันเจอนายบนเรือเมื่อวันก่อน...” คาริสาเริ่มพูดเสียงสั่น ก่อนจะถูกอีกคนเอ่ยแทรกอย่างเสียมารยาท
“เธอพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะ ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอ”
“เกี่ยวสิ เมื่อเช้าฉันเกือบตายนะแดน” แดเนียลถึงกับเงียบไปชั่วขณะ เขาจะบอกกับเธอได้อย่างไรว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามันเป็นแค่แผนการของเขา “งานนี้มันสำคัญมากเลยเหรอ นายถึงบอกฉันไม่ได้ มันต้องเก็บเป็นความลับขนาดนั้นเลยเหรอ”
คาริสาพยายามเค้นถามเพื่อให้แดเนียลยอมบอกอะไรกับเธอบ้าง เธอยินดีที่จะช่วยเหลือเขา ถ้าหากเขาต้องการความช่วยเหลือ
“มันไม่มีอะไรหรอก เธออย่าไปใส่ใจมันอีกเลยนะ แล้วอีกอย่างฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรอีกแน่นอน เชื่อใจฉันนะเคส”
“เราเคยคุยกันได้ทุกเรื่องไม่ใช่เหรอ แต่ทำไม...”
“หยุดถามเรื่องไร้สาระได้แล้ว”
“แดน”
“ถ้าเธอไม่หยุดถาม ฉันจะจัดการกับเธอยังไงดีนะ” ว่าแล้วดันศีรษะหญิงสาวมาจุ๊บเหม่ง “ฉันว่าเราอย่ามาทะเลาะกันเรื่องนี้อีกเลยนะ”
แดเนียลมองหน้าคาริสาด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ก่อนจะเอ่ยความในใจออกมา
“ฉันยังคิดถึงเธอนะเคส”
“แดน...”
“เธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เพราะฉันรู้ว่าเธอก็คิดถึงฉันเหมือนกัน”
“หลงตัวเอง”
“หลงเธอมากกว่า” เขาสวมกอดเธออีกครั้งอย่างอารมณ์ดี
แดเนียลอุ้มคาริสาลงจากเรือ ทำให้เอกรวมทั้งลูกน้องคนอื่น ๆ มองเป็นตาเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยเห็นแดเนียลยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“แดน ปล่อยได้แล้ว ดูสิคนมองเต็มไปหมดเลย” คาริสาพูดแล้วหลบสายตาทุกคนที่มองมา
“เธออายเหรอ”
“อืม”
“จะอายทำไม มีแต่คนของฉันทั้งนั้น”
“จะใครก็เถอะ ฉันไม่โอเคทั้งนั้นแหละ” แดเนียลมองคาริสาแล้วยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์
“หอมแก้มฉันก่อนแล้วจะยอมปล่อย”
“ไม่เอา คนเยอะ”
“แปลว่าถ้าไม่มีคน เธอจะ...” แดเนียลยังพูดไม่จบคาริสาก็พูดแทรกและเปลี่ยนเรื่องทันที
“ไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยฉันเลยนะแดน ถ้าไม่ปล่อยฉันจะโกรธแล้วนะ”
“กล้าโกรธเหรอ” แดเนียลพูดแล้วโน้มใบหน้าเข้าหาคาริสา เธอไหวตัวทันจึงใช้ศีรษะตัวเองกระแทกกับศีรษะของเขา ซึ่งก็แรงพอที่จะทำให้แดเนียลโอนเอนไปมาจนต้องยอมปล่อยคาริสาลง เมื่อเขาตั้งหลักได้คาริสาก็หัวเราะชอบใจใหญ่
“ทีใครทีมันก็แล้วกันนะ” ว่าแล้วเธอก็รีบวิ่งจากไป
“ยัยตัวแสบ” แดเนียลมองตามหลังคาริสาจนสุดทางพลางเผลอยิ้มออกมา เธอยังเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้เสมอ