บทที่ 2 อดีตคนรัก

1109 Words
“งานง่าย ๆ แค่นี้ก็ทำพลาด!” เจ้านายของเอกโวยวายอย่างเสียอารมณ์ เขาหงุดหงิดจนทำลายข้าวของที่อยู่ใกล้มือ “ขอโทษครับนาย!” เอกพูดเสียงสั่นเครือ มือของเขาเต็มไปด้วยเลือด “ปกติมึงไม่เคยทำงานพลาด!” “มีคนลอบยิง” เอกพูดพร้อมใช้มือล้วงกระเป๋าเสื้อสูท จึงพบกับอะไรบางอย่าง ทำให้เจ้านายของเขาที่โมโหและหงุดหงิดอยู่แล้วยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีก “โธ่เอ๊ย!” มาเฟียหนุ่มตะโกนด้วยน้ำเสียงโมโห ก่อนจะหยิบอุปกรณ์จีพีเอสในมือของเอกโยนทิ้งลงทะเล หลังมือหนาออกแรงตบหน้าลูกน้องอย่างไม่ยั้งมือ เพี๊ยะ! คาริสามองกลับไปยังบริเวณเทีบยท่าซึ่งไกลจากเธอออกไปเรื่อย ๆ ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มันเหนือความคาดหมายของเธอ ไม่คิดว่าจะติดมากับเรือด้วย ทว่าอยู่ ๆ ก็มีมือหนาของใครบางคนปิดปากเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวออกแรงดิ้นพล่าน ส่งผลให้ปืนที่ถือไว้อย่างไม่มั่นคงนักกระเด็นหลุดจากมือของเธอ ก่อนจะถูกอีกฝ่ายชกท้องแล้วลากตัวเข้าไปภายในเรือ “นายครับ! มีคนบุกรุก” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนพร้อมลากตัวเธอเข้ามา ด้วยอารมณ์ที่ยังเดือดดาลไม่หายทำให้มาเฟียหนุ่มคว้าปืนจากลูกน้อง หวังจะยิงปลิดชีพคาริสาเพื่อระบายความโกรธ ทว่าทันทีที่ได้เจอเธอ เขากลับต้องหยุดการกระทำทั้งหมด “เคส!” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ อีกทั้งน้ำเสียงที่ใช้นั้นราวกับรู้จักกันเป็นอย่างดี คาริสาหวาดกลัวจนต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะ เธอมองคนตรงหน้าที่เกือบจะฆ่าเธอด้วยความรู้สึกมากมายภายในใจ “แดน” ชื่อของเขาถูกเรียกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเช่นกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า ‘แดเนียล’ ขว้างปืนในมือทิ้งก่อนจะเดินตรงไปกระชากแขนของคาริสาอย่างแรง เขาลากเธอเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ลูกน้องภายในเรือต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง พรึ่บ! “เธอขึ้นมาบนเรือนี้ได้ไง” แดเนียลโยนร่างคาริสาลงบนเตียงอย่างแรง น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเค้นถามขึ้นด้วยความสงสัย “คือ... ฉันหนีเจ้าหนี้ก็เลยวิ่งมาหลบในเรือ ไม่คิดว่าเป็นเรือของ...” คนหน้าคะมำแนบกับฟูกลุกขึ้นตอบคำถามขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “งั้นเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเธออย่างงั้นเหรอ” ดวงตาคมปลาบมองสำรวจเธอตั้งแต่ศีรษะจรดลายเท้า ใครจะไปเชื่อยัยตัวร้ายจอมเจ้าเล่ห์อย่างเธอ เขารู้จักนิสัยคาริสาดีกว่าใคร ๆ “เธอเป็นตำรวจ” “ใช่...ฉันเป็นตำรวจ” อยู่ ๆ เธอก็ยอมรับสารภาพออกมาเสียดื้อ ๆ คาริสาจับไหล่กว้างของแดเนียลดันเข้ากับกำแพงพร้อมชูนิ้วชี้และนิ้วกลางทำเป็นกระบอกปืนจี้ไปที่หลังของชายหนุ่ม “นายโดนจับแล้วแดน” “เธอจะมาจับฉันข้อหาอะไร” “ก็ข้อหาที่นายขโมยหัวใจฉันไปตั้งห้าปี” คาริสาเขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู ทำเอามาเฟียหนุ่มต้องหันมามองเธอตาเขม็ง “หลอกฉันเหรอ!” “อะไรกันแดน” คาริสาหัวเราะอย่างชอบใจ เธอยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางชูขึ้น “แค่นิ้วนายก็กลัวเหรอ” “อย่าเล่นแบบนี้อีกนะเคส ใจหายหมด” เขารวบตัวเธอเข้ามากอดด้วยความคิดถึง แต่ทว่าคนที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนหน้านี้กลับแปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งอึ้ง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น แดเนียลเป็นคนบงการอย่างนั้นเหรอ? อยู่ ๆ มาเฟียหนุ่มก็จัดการถอดเสื้อแจ็กเกตของคาริสาออก เขาทำแบบนั้นทำไม “แดน! นะ...นายจะทำอะไร” คาริสาร้องตะโกนพร้อมบ่ายเบี่ยงการกระทำของเขาสุดฤทธิ์ “อยู่นิ่ง ๆ อย่าขัดขืน!” เพียงไม่กี่วินาทีแดเนียลก็สามารถถอดเสื้อแจ็กเกตออกจากร่างของคาริสาได้สำเร็จ เขาดันหญิงสาวให้นอนลงบนเตียงแล้วตามขึ้นไปคร่อมบนตัวเธอ “นะ...นายจะทำอะไรน่ะแดน!” เขาไม่เอ่ยอะไรนอกจากโน้มตัวเข้าหาคาริสาโดยใช้แขนทั้งสองข้างกักขังเธอไว้ไม่ให้หนี “นิดเดียว ไม่เจ็บหรอก” มือหนาค่อย ๆ ไล้สัมผัสเรือนร่าง ตั้งแต่ทรวงอกมาจนถึงสะโพก ขณะที่สองมือน้อยทำได้แค่ดันแผงอกแกร่งเอาไว้ “แดน! นี่นายจะ...” แม้คาริสาจะแสดงอาการตกใจกลัว ก็ไม่ทำให้แดเนียลหยุดการกระทำ “แค่สำรวจร่างกาย เธอจะกลัวอะไร” ว่าแล้วเขาก็หยิบแจ็กเกตขึ้นมาสำรวจดูทุกซอกทุกมุม “นายไม่ไว้ใจฉันเหรอ” “ฉันไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น” คำพูดของเขาทำเอาคาริสาใจหาย คนรักที่เธอรอคอยมานานกว่าห้าปีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เซียวเหรอ แม้แต่เธอ เขาก็ไม่ไว้ใจหรือ? “แล้วเธอเป็นหรือเปล่า” แดเนียลเอ่ยถามอีกครั้ง ทำเอาคนที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยต้องหลุดออกจากภวังค์ “ปะ...เป็นอะไร” “ตำรวจ!” “นายทำกับฉันถึงขนาดนี้ยังจะกล้าถามอีกเหรอ อย่างฉันเนี่ยนะเป็นตำรวจ หางานทำยังจะไม่มีเลย” คาริสาพูดพร้อมหย่อนตัวลงนั่งบนเตียง “โกหก! เชื่อไม่ได้ตั้งแต่ที่บอกว่าหนีเจ้าหนี้แล้ว คนอย่างเธอเหรอเคสจะติดหนี้” “ฉันพูดความจริงนะ ก็ฉันตกงานหางานทำไม่ได้ ฉันไม่อยากรบกวนคุณย่าของนาย ไม่อยากทำให้ท่านต้องเป็นห่วง ก็เลยไปกู้หนี้นอกระบบมาใช้ก่อน ฉันชะล่าใจเองหาเงินจ่ายหนี้ไม่ทันกำหนด ฉันถึงได้โดนตามไล่ล่าแบบนี้ไง” คาริสาแต่งเรื่องโกหกร่ายยาวเต็มหน้ากระดาษเอสี่ภายในไม่ถึงนาที นอกจากจะอำพรางตัวตนด้วยหน้ากากแล้ว การเอาตัวรอดด้วยวาจาถือว่าเป็นงานถนัดของเธอ “ถ้าเป็นอย่างที่เธอพูดก็ดี เพราะถ้าเธอเป็นตำรวจเราได้เป็นศัตรูกันแน่” คาริสาพูดอะไรไม่ออก เธอจะบอกกับแดเนียลได้อย่างไรว่าเธอเป็นคนขององค์กรที่ทำงานกับตำรวจอีกที “จะว่าไป เจอเธอก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้มีเพื่อน” คาริสาได้แต่ยิ้มเจือน เธอพยายามแสดงสีหน้าและท่าทางให้ปกติที่สุด อีกทั้งยังต้องข่มความรู้สึกไม่ให้เอาเรื่องงานมาปะปนกับเรื่องส่วนตัว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD