บทที่ 3 (3/3)

836 Words
ภายในห้องทรงงานของ หมิงซ่งเหยียน พลันปรากฏร่างของชายสองคนนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง มือหนาวางพู่กันไว้บนแท่นก่อนจะปรายตามองทั้งสองคน “ถวายบังคมท่านอ๋องพ่ะย่ะ!” “อย่าลีลา รีบว่ามา” “เมื่อครู่ หวางเฟยจู่ๆ ก็ล้มพับไปนอนขดบนพื้นดีที่องค์ชายใหญ่อยู่ด้วยจึงช่วยเหลือไว้ทัน” “ปลอดภัยหรือไม่” ดวงตาเหยี่ยวหรี่ลงข่มความร้อนใจไว้ “ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย หวางเฟยเพียงพักผ่อนน้อยเท่านั้นและ…” “และอะไร” “ยินดีกับท่านอ๋องด้วยพ่ะย่ะค่ะ หวางเฟยทรงพระครรภ์แล้ว” คราวนี้หมิงซ่งเหยียนเด้งตัวยืนตบโต๊ะเสียงดัง ปัง! “เอ่อ ท่านอ๋อง…” “ตอนนี้นางอยู่ที่ใด” “ตำหนักองค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ” “อืม พวกเจ้าไปได้แล้ว” ว่าแล้วสะบัดชายเสื้อแล้วเดินลิ่วออกจากห้องทรงงาน ใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นเหนือเวหาไปทางวังหลวง วันนี้เขาอุตส่าห์ใจดีไม่ไปแกล้งชายาบุรุษแล้วไฉนถึงได้เจ็บได้ปวดอีก แล้วไหนเลยจะข้ามเรื่องตั้งครรภ์ ก็ชายาของเขาเป็นบุรุษเพศจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร!? “หวางเฟยไหวไหมเพคะ” เหมยลี่ประคองร่างที่อ่อนแรงขึ้นมา สีหน้าย่ำแย่ยิ่งทำให้นางเป็นห่วง “ไม่เป็นไร ข้าไหว องค์ชายใหญ่ไปไหนแล้ว” “เมื่อครู่องค์ชายใหญ่เดินออกไปจากตำหนักแล้วเพคะ” พอได้ยินเช่นนั้น ในหัวโจวผินซียิ่งคิดไม่ตก เขาทำอะไรผิดนะเจ้าเด็กนั่นถึงได้เดินสะบัดตูดหนีไปแบบนี้ “หวางเฟย!” “อะ! ถวายพระพรท่านอ๋องเพคะ” เหมยลี่รีบลุกขึ้นทำความเคารพก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง หมิงซ่งเหยียนเดินเข้าไปหาอีกคนที่นอนขดอยู่บนเตียงใหญ่ เขารู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ ที่ชายานอนบนเตียงของชายอื่น แม้ว่าเจ้าของเตียงนั้นจะอายุเพียงสิบเอ็ดก็เถอะ “เป็นอย่างไรบ้าง” “อือ” “ทำอะไรมาถึงได้ปวดท้องเช่นนั้น” “ข้าโดนหลานเจ้ายัดข้าวยัดขนมจนแน่นท้องไปหมด” โจวผินซีเอ่ยเป็นกันเองเมื่อบ่าวสาวออกไป หมิงซ่งเหยียนเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มล้อ “เพราะตะกละนี่เอง แล้วเรื่องที่เจ้าตั้งครรภ์เล่า” “นี่เจ้า!” “หึหึ เห็นทีคงต้องหาเด็กมาต้มพวกที่รู้เรื่องแล้วล่ะ” “เด็ก ต้ม” โจวผินซีขมวดคิ้วเป็นปมก่อนจะเข้าใจความหมาย และยิ้มออกมา ข่าวเรื่องครรภ์ของโจวหวางเฟย พระชายาเอกในเหยียนอ๋องลือกันทั่ววังหลวง ทุกฝ่ายต่างจับจ้องกันเป็นตาเดียวเมื่อองค์ฮ่องเต้เรียกเหยียนอ๋องและพระชายาเอกเข้าเฝ้า “ครรภ์ของเจ้าโตขึ้นมากกว่าเดือนที่แล้วมากเลย มาๆ เจิ้นขออวยพรให้” ฮ่องเต้กล่าวเสียงอ่อนโยน พลางกวักมือเรียกชายาเอกของน้องชายให้เข้ามาใกล้ๆ “เจิ้นขอให้ทั้งเจ้าตัวน้อยและตัวมารดาแข็งแรง ปลอดภัย ขอให้เกิดมาอย่างมีความสุขและเฉลียวฉลาด เก่งกาจเหมือนอย่างบิดา ให้งดงามสง่าผ่าเผยเหมือนมารดา” “ขอบพระทัยเพคะ” “อืม เหยียนอ๋อง” “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” “ดูแลใส่ใจชายาให้ดีๆ” “เป็นหน้าที่กระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากนั้น ฮ่องเต้ก็ประชุมเช้าต่อ โจวผินซีจึงต้องพาตัวเองพร้อมก้อนผ้าที่หน้าอกและท้องออกมาเดินเล่นรอกับพวกเหมยลี่ ตั้งแต่วันนั้นที่หมอหลวงบอกว่าเขาตั้งครรภ์ สวามีจอมเจ้าเล่ห์และมากกลอุบายก็วางแผนต้มคนทั้งวัง โดยการให้เขาแกล้งตั้งครรภ์และไปรับเด็กทารกกำพร้ามาแสร้งว่าเป็นบุตรที่คลอดออกมา ถ้านับดูก็ผ่านมาราวๆ สองเดือนได้แล้ว หมอหลวงตรวจครั้งเมื่อวันก่อนบอกว่าครรภ์เขามีอายุประมาณสองเดือนเห็นจะได้ ตอนนี้เขาจึงครรภ์ได้สี่เดือนแล้วอีกสามเดือน เจ้าอ๋องนั่นว่าให้ทำเป็นคลอดก่อนกำหนดและแกล้งทำเป็นบุตรไม่แข็งแรงไปก่อน ก็ถือว่าเป็นแผนที่เข้าท่า “หวางเฟยเพคะ นั่นองค์ชายใหญ่” ฉางเอ๋อร์เอ่ยเสียงร่าเริงพร้อมมองไปทางศาลาริมสระบัว ที่เมื่อก่อนเขามักมาเป็นประจำ “ถวายพระพรองค์ชายเพคะ” โจวผินซีย่อกาย ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย หากเป็นเมื่อสองเดือนก่อนเด็กตรงหน้าคงยิ้มแล้ววิ่งเข้ามาหาทันที แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม พอเห็นหน้าเขาทำเหมือนเห็นผี ทั้งยังทำท่าจะเดินหนีอีกต่างหาก “องค์ชายใหญ่ตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว พระองค์ไม่พอพระทัยอะไรหม่อมฉันหรือเพคะ” องค์ชายมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ไม่ ไม่มีอะไร” “องค์ชาย…” “ข้าขอตัว” “เดี๋ยวเพคะ!” องค์ชายชะงักตัวไปเล็กน้อย ก่อนจะเดินเร็วหนีไปอีกทาง ทิ้งให้สามคนนายบ่าวยืนงงกัน แม้กระทั่งตัวต้นเหตุอย่างโจวผินซียังไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD