“ซะ โซล!” คนที่ฉันไม่อยากจะเจอเดินยิ้มแย้ม มานั่งข้างฉันก่อนจะคว้าขวดน้ำที่พี่นพซื้อให้ไปเปิดดื่ม “อะ ไอ้บ้า! พี่นพซื้อให้ฉันนะ เออ...”
ตายล่ะพี่นพนั่งอยู่ แถมยังมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง เขารู้ว่าฉันหยิ่งแค่ไหนแต่ไม่เคยเห็นมุมว้ากๆ แบบนี้ กรี๊ด! เพราะไอ้บ้านี่คนเดียวเลยนะ
“เออ มารยาทแย่จังนะโซล”
“โทษทีครับพี่นพ ผมเหนื่อยอีกอย่างมีธุระจะคุยกับพริกหวาน... สองต่อสองด้วย”
“ใครเขาอยากจะคุยกับนายกัน”
“อ่อเหรอ? ไม่อยากคุยงั้นเหรอ” สายตาของฉันเบิกกว้างที่หมอนั่นหยิบมือถือขึ้นมากดๆ ราวกับให้ฉันรู้ว่าเขากำความลับของฉันไว้ หนอย!
“ไม่เป็นไร ไม่คุยก็ไม่คุย คืองี้นะครับพี่นพ พริกหวานเธอชะ...”
“ช้อปปิ้ง!”
“เอ๋?”
“โซลนายจะให้ฉันไปช่วยดูของให้สาวๆ ใช่ไหม เพราะงั้นจะชวนไปช้อปปิ้งสินะ” ฉันคว้าข้อมือของฉันโซลให้ลุกขึ้นตามหลังมา ก่อนจะส่งยิ้มให้กับพี่นพที่พยักหน้ารับอย่างมึนงง เมื่อมาถึงรถสุดหรูของเขาฉันก็สะบัดมือออกอย่างรังเกียจไม่ต่างจากเขา
“ระรื่นเลยนะ เห็นแล้วจะอ้วก”
“นายจะเอายังไงว่ามาเลยนะโซล... ส่งคลิปเสียงนั่นมาให้ฉันนะ”
“เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องทำตามเธอด้วย ฉันไม่คิดว่าพระเจ้าจะเข้าข้างฉันขนาดนี้นะ ได้รู้ความลับที่ไม่ควรรู้ของเธอ แหมได้เห็นสีหน้าตกใจของเธอมันน่าตื่นเต้นกว่าเห็นเธอหยิ่งจองหองนะ พริกหวาน”
“นายต้องการอะไร!” ฉันย้ำคำถามกับเขา แน่นอนว่าโซลยังคงเล่นลิ้นไปมา ไม่พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาโยนขวดน้ำที่พี่นพซื้อให้ฉันเขวี้ยงถังขยะ ถึงแม้จะเสียดายแต่ให้เขาไปก่อนค่อยเก็บก็ได้
“ต้องการอะไรเหรอ? ฉันคิดมาแล้วล่ะว่าต้องการอะไร”
“...”
“ตราบใดที่เธอต้องรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองและพี่นพ เธอจะต้องยอมฉันทุกอย่าง”
“ไม่มีทาง!”
“ก็เอาสิ งั้นโทรไปหานักข่าว อ่อพี่นพด้วยจะได้รู้กันไปเลยดีไหม? ฉันจะทำให้เธอสมหวังเองนะพริกหวาน”
หมับ
“อย่านะโซล!” ร่างสูงหยุดชะงักทันทีที่ฉันคว้าข้อมือเขาเอาไว้ ใบหน้าหล่อยกยิ้มอย่างเหนือกว่ารอยยิ้มที่ฉันไม่ชอบเลย ทำไมจะต้องมาจนมุมเพราะคนอย่างหมอนี่ด้วยนะ!
“อ้าวไหนบอกว่าไม่มีทางยอมฉันไง”
“นายต้องการอะไร เอาให้แน่ๆ”
“ต้องการเอาคืนเธอมั้ง?”
“...”
“ทำอะไรกับฉันไว้บ้างล่ะพริกหวาน หักหน้าฉันกลางงานทั้งที่ตอนนั้นฉันจริงจังกับเธอ... รู้ไหมกว่าฉันจะกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลบข่าวหน้าแตกมันนานแค่ไหนกัน ส่วนเธอก็ไปโลดแล่นอยู่ต่างประเทศ คำพูดของเธอมันทำให้ฉันจมดินนะ คราวนี้ตาฉันบ้าง” ฉันมองเขาที่ยิ้มอย่างสะใจที่เห็นฉันเป็นแบบนี้ โซล! จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้จะได้เห็นดีกัน
“ตอนนั้นนายก็รู้นี่ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับนาย หรือว่าไงที่เอาคืนฉันเพราะยังชอบฉันอยู่”
“เปล่า ใครมันจะไปชอบผู้หญิงที่หักหน้าตัวเองกลางงานและนักข่าวนับร้อยได้ลงล่ะ”
“แล้วทำแบบนี้ทำไม?”
“เอาคืน”
“!”
“ชัดเจนนะ ส่วนจะเอาคืนแบบไหน... คอยติดตามให้ดีล่ะ คนอย่างโซลไม่เอาคืนธรรมดาๆ หรอกนะ” เสียงหัวเราะของโซลดังขึ้น ก่อนจะโบกมือให้ฉันและบึ้งรถสุดหรูของตัวเองออกไป ปล่อยให้ฉันยืนกำหมัดตัวเองแน่น มองไปที่ถังขยะก็ขุดคุ้ยหาขวดน้ำแร่ของพี่นพ
“แล้วคิดว่าคนอย่างฉันจะยอมให้นายเอาคืนฝ่ายเดียวหรือไง? หึ”
-PHRIKWAN TALK END-
ผมมาถึงคอนโดในเวลาต่อมา หลังจากที่ได้กุมความลับอะไรบางอย่างจากยัยพริกเน่า ไม่ยักรู้ว่าที่เธอปฏิเสธผมเป็นเพราะว่าชอบพี่นพ มันเหลือเชื่อมากๆ เลยนะที่ผู้หญิงหยิ่งจองหองแบบนั้นจะชอบพี่นพที่ควงสาวไม่ซ้ำหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่สุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แต่เรื่องด้านล่างมันไม่เข้าใครออกใครนี่นา
“หึ เสร็จฉันแน่ยัยพริก” ผมจัดการอัดคลิปเสียงบันทึกในเครื่องหลายไฟล์ เพราะถึงยังไงก็ถ้ามือถือหายไปยังไงก็ปลดล็อคไม่ได้ แต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ผมอยากจะเอาคืนยัยบ้านั่นที่บังอาจทำให้ผมอับอายเป็นเวลานานกว่าจะกลับมาโลดแล่นได้ เสียหน้าไปแค่ไหนที่โดนหักอกกลางงานและนักข่าวเยอะๆ แบบนั้น
มันไม่ใช่การแก้แค้น แต่เป็นเอาคืนเพราะว่าอยากเห็นยัยนั่นดิ้นรนให้มากกว่านี้
ผมอยากจะรู้ว่าพริกหวานจะทำอะไรตามที่ผมต้องการจริงๆ หรือเปล่า มันก็แค่นั้นล่ะ
Rrr
“ครับพี่จอย”
(“น้องโซลคะ พรุ่งนี้น้องโซลมีงานถ่ายแบบแบรนด์รองเท้านะคะ ตอนบ่ายโมงค่ะ”)
“งานเดียวใช่ไหมครับ?”
(“ค่ะ งานเดียวเพราะน้องโซลบอกว่าไม่อยากรับงานออกรายการเท่าไหร่”) ก็แหงล่ะ ออกอากาศทีไรเป็นต้องถามเรื่องเกี่ยวกับพริกหวานตลอด เรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปนั่งตอบคำถามบ้าๆ นั่นด้วยเล่า ไม่ใช่เรื่อง
“ครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ”
(“ไม่ออกปาร์ตี้นะคะ”)
“รับทราบครับ” ซะเมื่อไหร่เล่า ถึงแม้ว่าไอ้ตังจะไม่อยู่ แต่เพื่อนนายแบบของผมก็เยอะพอควรและก็นัดแล้วด้วยว่าจะไปที่คอนโดของนางแบบชื่อแวนดี้ เธอเป็นเพื่อนกับผมและไอ้ตัง ผมอาบน้ำและแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเอง ไม่ลืมที่จะหยิบของสำคัญไปด้วย ไม่ใช่อะไรเพราะอาจจะต้องนอนกับใครสักคนก็ได้นี่ หลังจากที่ห่างหายไปนาน
รถของผมมาจอดที่บริเวณคอนโดสุดหรูแห่งหนึ่งที่เป็นย่านของพวกดาราเซเล็บมาอยู่กันเยอะ ผมผิวปากและขึ้นมาถึงหน้าห้องแวนดี้ที่ตอนนี้เสียงเพลงดังออกมาจากนอกห้อง ดีนะที่ว่าชั้นนี้ทั้งชั้นมีแค่สามห้อง ไม่งั้นคงโดนคนข้างห้องด่าเละแน่
“มาแล้วเหรอโซล ยินดีต้อนรับนะแล้วตังล่ะ?”
“ทำงานที่ต่างจังหวัด หลายวันอะ”
“อ่อ เชิญเลยจ๊ะ” แวนดี้ยิ้มให้กับผม เธอเคยร่วมงานกับผมอยู่ช่วงหนึ่งและก็หันไปเอาดีด้านการแสดงแต่ก็มีบ้างที่ยังคงรับงานถ่ายแบบเวลาถ่ายละครเสร็จสิ้น ภายในห้องของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยบรรดาเซเล็บและนายแบบ นางแบบที่กำลังยืนเต้นกันไปมา แหล่งมั่วสุมอย่างเหล้าก็มีอยู่ทุกที่ ผมกวาดสายตามองแต่ละคนที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ต่อหน้ากล้องก็ต้องฉีกยิ้มและบอกว่าไม่มีอะไร แต่หลังกล้องก็แบบนี้ล่ะนะ เหมือนกับผมอะ
“โซล...”
“หือ โมนาเหรอ?”
“จำได้ด้วย นี่หายไปนานมากเลยนะเนี่ย ดีใจจัง” โมนาเป็นอีกคนที่ดังพร้อมผม ตอนนี้เธอไปอยู่ค่ายเพลงที่ตอนนี้ไปได้ดี เธอมีเสียงที่ดีมากถึงได้ไปเข้าตากับบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ ความจริงผมเองก็จะไปนะ แต่ชอบงานถ่ายแบบมากกว่า เพราะการร้องเพลงจะต้องฝึกร้อง ฝึกเต้น ผมเริ่มจะไม่ชอบถึงแม้ว่าตัวเองจะดังมาเพราะร้องเพลงลงยูทูปก็ตามที
“จำได้สิ เธอสวยขึ้นนะ”
“ชมกันแบบนี้... ไม่รอดนะ”
“ก็เอาสิ ไม่รอดก็ไม่รอด” ผมยิ้มกว้างโอบไหล่เธอเดินไปนั่งที่โซฟามุมแคบ ก่อนจะมองใบหน้าสวยที่เคลื่อนเข้ามาแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผม “พูดแล้วนะ โมจะได้จองห้อง”
“คนอย่างโซลพูดแล้วเคยคืนคำเหรอ”
“ชิ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง” โมนาลุกขึ้นเดินไปหาแวนดี้เพื่อพูดคุยกัน ส่วนผมก็นั่งจิบเหล้าอย่างสบายใจ ในห้องมืดสนิทแต่ก็มีเพียงแสงไฟผับที่ถูกเปิดขึ้นเป็นสีฟ้าและสีขาวสลับกันไปมา
“เฮ้ วันนี้พริกหวานมาด้วยนะ”
“...”
“จริงดิ เพิ่งกลับมานี่นา ใช่มะ?”
“ใช่ๆ สวยกว่าเดิมนะ หุ่นนี่แบบเป๊ะกว่าเก่าเยอะ แต่เสียดายหยิ่งจองหองไปหน่อย” ผมมองนายแบบคนอื่นที่กำลังพูดถึงยัยพริกเน่าที่จะมาในงานคืนนี้ด้วย พวกนั้นพูดถึงยัยพริกได้แบบถึงพริกถึงขิงสมชื่อ กระทั่งเจ้าของชื่อเข้ามาในห้อง ทุกคนต่างนิ่งเงียบและมองใบหน้าสวยนิ่งที่เชิดคอขึ้นราวกับพญาหงส์ วันนี้เธอสวมแค่กางเกงขาสั้นสีขาวกับเสื้อยืดเอวลอย แต่ถึงจะธรรมดามันก็ดูดีมากในสายตาของทุกคน
“ยินดีต้อนรับพริกหวานนะ”
“ขอบใจที่ชวนฉันนะแวนดี้ จุ๊บ!” เธอ Kiss กับแวนดี้ด้วยธรรมเนียมแบบฝรั่งก่อนจะคว้าแก้วค็อกเทลสีฟ้าไปนั่งที่มุมของนางแบบที่กำลังคุยกันอย่างออกรส ส่วนผมก็จับจ้องใบหน้าสวยพลางดื่มเหล้าไปด้วย เวลาผ่านไปสักพักเธอก็ลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว ผมยกยิ้มและลุกตามเธอไปก็เห็นว่าเธอกำลังยืนหยิบอะไรในตู้เย็นอยู่ จนเธอปิดตู้เย็นก็ตกใจเมื่อผมยืนกอดอกอยู่
“ซะ โซล นายมาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?”
“ใช่ ตกใจเหรอ...”
“เปล่า ถอย” ฝ่ามือบางผลักไหล่ผมให้ออกไป แต่ผมก็ต้อนร่างบางจนเธอถอยหลังติดกับซิงค์ล้างจาน ใบหน้าสวยเงยหน้าสบตากับผม “ต้องการอะไร?”
“อืม อะไรดีน่า ทุกคนมาพร้อมแบบนี้ก็อยากให้รู้นะว่าพริกหวานที่หยิ่งจองหองมีความลับอะไร”
“!”
“หึ ชอบเวลาเธอทำหน้าแบบนี้จัง สะใจดี”
“นายมัน...” ผมยิ้มมุมปากขยับใบหน้าเข้าเรื่อยๆ จนพริกหวานเบือนหน้าหนี ผมสูดดมความหอมจากลำคอเธอและลากไล้ลงมาจนถึงทรวงอกที่ขยับตามอัตราการหายใจที่ถี่รัว
“กลัวเหรอ หายใจแรงจังนะ”
“ใครกลัวกัน อย่ามาพูดมั่วๆ” เธอเชิดหน้าใส่ผมอีกครั้ง และครั้งนี้มันทำให้ผมมองใบหน้าเธอได้ใกล้ขึ้น ชนิดที่ว่าริมฝีปากแทบจะจูบกันอยู่แล้ว
“ไม่กลัว แต่ดูเธอสั่นไปทั้งตัวเลยนะ”
“ฉะ ฉันแค่... หิว”
“หิวอะไร? หิวน้ำ” คำพูดกำกวมของผมทำให้พริกหวานเม้มปากตัวเอง ก่อนจะยิ้มให้ผมอย่างยั่วยวน ฝ่ามือบางเลื่อนไปตามแผงอก จนผมแทบจะลืมหายใจ มือนุ่มชะมัด!
“รู้ได้ไงว่าฉันหิว... น้ำ”
“รู้สิ เพราะว่าถ้าเธอหิว ฉันยินดีให้เธอกินน้ำฉันไง” พริกหวานยิ้มหวาน เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ คว้าท้ายทอยผมให้โน้มต่ำลงไปจนใบหูสัมผัสถึงริมฝีปากที่ร้อนระอุ
“แต่พอดีว่าฉันหยิบน้ำออกมากินแล้ว!”
ตุ้บ
“อ๊ากกก...”
“สมน้ำหน้า ไอ้หื่นกาม!” ผมร้องดังลั่นห้องครัวเพราะยัยบ้านั่นดันกระทืบเท้าผมอย่างแรง แถมยังเดินชนไหล่ผมเชิดฉายออกจากห้องไป
“แสบจริงนะยัยพริกเน่า!”
ดีดิ แล้วเราจะได้เห็นดีกันแน่ เธอเล่นผิดคนแล้วพริกหวาน หึ