ณ. ตอนนี้เด็กสาวกำลังยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์เพียงลำพัง เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วจึงทำให้ไม่มีรถเมล์หรือรถโดยสารวิ่งผ่านเส้นทางนี้แล้ว จะมีก็แต่รถของผู้คนบนท้องถนนเพียงเท่านั้น
“เมื่อไหร่รถจะมาเนี้ย~”
แป๊ะ! เด็กสาวบ่นขึ้นพึมพำพลางตบยุงที่ขาของตัวเองโดยที่มืออีกข้างยังคงกอดกระเป๋าสะพายเอาไว้แน่
ในขณะที่เด็กสาวกำลังยืนอยู่นั้นๆจู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซค์ของใครบางคนมาจอดตรงหน้าของเธอ ซึ่งคนสองคนนั้นเป็นชายฉกรรจ์ที่เธอไม่รู้จักและไม่เคยเห้นหน้ามาก่อน
“ไงจ๊ะน้องสาว มายืนทำอะไรคนเดียวตรงนี้”
“รอรถค่ะ” เด็กสาวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นเพราะตรงนี้ค่อนข้างที่จะห่างไกลจากประตูรั้วของบริษัทพอสมควร
“ให้พี่ไปส่งไหม บ้านอยู่ที่ไหนล่ะ”
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ”
“เห้ย ลงไปชวนน้องเค้ามาดิ้!” ชายฉกรรจ์คนขับได้พูดขึ้นก่อนที่ชายคนซ้อนจะเดินลงมา ทำให้เด็กสาวนั้นต้องรีบเดินถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
“มะ..ไม่ไปค่ะ! อย่ามายุ่งกับหนู~”
“มาเถอะน่า พี่สองคนจะไปส่งให้ถึงสวรรค์เลยแหล่ะ!” ชายฉกรรจ์พูดพลางใช้มือหนาลูบไปที่คางของตัวเองอย่างน่ารังเกียจ ก่อนจะรีบเดินมาจับแขนของเด็กสาวเอาไว้พร้อมกับฉุดกระชากเธอ
“ไม่นะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
ตุบ! เด็กสาวพยายามสบัดแขนของตัวเองออกจากการจับกุมของชายฉกรรจ์ก่อนจะใช้เท้าของตัวเองเหยียบไปที่เท้าของชายฉกรรจ์คนนั้นจนเธอมีโอกาสได้วิ่งหนี
“ไปเอาตัวมาสิว้ะ!”
“เออ!” เสียงชายฉกรรจ์ทั้งสองคุยกันเสียงดังก่อนที่ชายอีกคนจะรีบวิ่งตามเด็กสาวมาตามทาง ซึ่งเค้านั้นก็ตามเธอจนทันและต่อยเข้าที่ท้องของเธอด้วยความโกรธเคือง
“อึก!” แรงต่อยของชายฉกรรจ์ทำให้เด็กสาวนั้นต้องทรุดตัวนั่งลงอย่างหมดแรง
“ฤทธิ์เยอะนักนะมึง!”
“ใครว้ะ!” ฉกรรจ์ได้พูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีแสงไฟจากรถเก๋งของใครบางคนสาดส่องมาที่ใบหน้าของเค้า ซึ่งคนคนนั้นก็คือเฮดีลนั่นเอง
“ปล่อย”
“ปล่อยอะไรของมึง! อย่ามายุ่งกับน้องกู!!”
“อึก! ชะ..ช่วยด้วย~” ด้วยความที่เด็กสาวนั้นยังมีสติเมื่อเธอได้ยินเสียงของใครอีกคนก็ทำให้เธอนั้นต้องรีบเอ่ยร้องขอความช่วยเหลือทันที
“…” ประโยคขอความช่วยเหลือของเด็กสาวทำให้ชายฉกรรจ์คนนั้นต้องทำสีหน้าเลิกลักพร้อมกับมองหาเพื่อนของตัวเอง
“แม้งเอ่ย! ฝากไว้ก่อนนะมึง!”
พรึ่บ! ทันทีที่ชายฉกรรจ์พูดจบเค้าก็รีบทิ้งเด็กสาวลงและวิ่งหนีไปทันที ทำให้ตอนนี้เด็กสาวนั้นนอนกองอยู่ที่พื้นด้วยท่าทางอิดโรย
“ลุก”
“บะ..บอส~”
“เลิกงานแล้ว ฉันไม่ใช่เจ้านายเธอ!”
“อึก~ ขอโทษค่ะ..”
“ลุกขึ้นมา!”
“มุกริน! อย่ามาสำออย!” เฮดีลยืนเรียกเด็กสาวอยู่นานสองนานก่อนจะตัดสินใจนั่งลงยองๆก่อนจะเห็นว่าเด็กสาวนั้นได้สลบไปแล้ว
“สำออย!” เฮดีลพูดขึ้นก่อนจะช้อนตัวของเด็กสาวขึ้นพาดบ่าและเดินมาที่รถ
“ให้ไปส่งเธอที่ไหนครับนาย”
“ไม่รู้”
“อ่าว~”
“จอดหน้าสวนหย่อม”
“ครับนาย” คิวรับคำสั่งของนายตัวเองโดยไม่ถามหาเหตุผลเลยสักนิด
ส่วนเหตุผลที่เฮดีลให้จอดที่หน้าสวนหย่อมก็เพราะว่าเค้านั้นไม่รู้ว่าควรพาเลขาของตัวเองไปส่งที่ไหน และไม่อยากพาไปในที่ๆส่วนตัวของเค้าด้วย..
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงตอนนี้เด็กสาวยังคงนอนหลับอยู่ที่เบาะหลังโดยที่ตอนนี้เฮดีลกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกรถ
ฟู้วววว~ ควันสีขาวคลุ้งพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากอมชมพูของเฮดีลเป็นจำนวนหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งเค้านั้นได้ยินเสียงของเด็กสาวในรถ
“อื้อ~ อึก! จุกชมัด~” เด็กสาวว่าพลางดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบๆจนสะดุดตาเข้ากับคนด้านนอกรถที่กำลังยืนสูบบุหรี่มองมาทางเธออยู่
เมื่อเด็กสาวเห็นว่าเป็นเจ้านายของตัวเองเธอจึงรีบลงมาจากรถทันที แต่ด้วยความจุกและเจ็บที่ยังคงอยู่จึงทำให้เธอนั้นต้องจับท้องของตัวเองเอาไว้ตลอดเวลา
“ขอบคุณที่ช่วยไว้นะคะ~”
“ไม่ได้เต็มใจ” เมื่อเฮดีลพูดจบเค้าก็ทิ้งบุหรี่ลงพื้นทันทีก่อนจะเหยียบเพื่อดับมันและเดินมาขึ้นรถ
“จะกลับเอง?”
“เอ่อ.. ไปส่งหนูหน่อยได้ไหมคะ แค่หน้าปากซอยก็ได้~”
“ขึ้นมา” เมื่อเด็กสาวได้ยินเช่นนั้นก็รีบพาตัวเองขึ้นมาบนรถทันที
“บอกทางไอ้คิว”
“ค่ะ~”
ตลอดทางไปบ้านของมุกรินไม่มีบทสนามอื่นๆเลยนอกจากบอกทาง และสายตาของใครบางคนที่จับจ้องเด็กสาวมาจากด้านหลัง เด็กสาวที่รู้สึกได้จึงเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นทันที
แต่ทว่าเมื่อเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าก็ไม่พบกับสิ่งที่เธอนั้นต้องการ รวมไปถึงกระเป๋าตังใบน้อยและใบใหญ่ของเธอ
“กะ..กระเป๋าตัง! กระเป๋าตังกับโทรศัพท์หนูหาย! คะ..คุณเห็นไหมคะ!” เด็กสาวเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับหันไปหาเฮดีลที่กำลังมองมาทางเธอ
“ไม่”
“ตะ..ตังหนูทั้งหมดอยู่ในนั้น~”
“…”
“ฮึก!” เมื่อเด็กสาวทำอะไรไม่ได้จึงทำได้แค่ปรดปล่อยน้ำตาแห่งความเสียใจออกมา ซึ่งเธอนั้นร้องให้มาตลอดทางจนรถของเฮดีลมาจอดที่หน้าบ้านของเธอ
“ฮึก! ขอบคุณที่มาส่งค่ะ!” เมื่อเด็กสาวพูดจบเธอนั้นก็รีบลงจากรถไปทันทีโดยไม่ได้รอให้เจ้านายของเธอพูดอะไรออกมา
“หึ!”
“หึอะไรหรอครับนาย” คิวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเค้าได้ยินเสียงหัวเราะของนายตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง
“นั่นมันกระเป๋าคุณมุกรินนิครับ!”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง กลับบ้าน!”
“ครับนาย~” เมื่อคิวไม่สามารถพูดอะไรได้เค้าจึงทำได้แค่ทำตามคำสั่งของนายตัวเองคืิอขับรถกลับบ้าน ส่วนตอนนี้เฮดีลนั้นก็กำลังนั่งมองโทรศัพท์และกระเป๋าตังสองใบของเด็กสาวอยู่
ย้อนกลับไปตอนที่จอดรถ
ในขณะที่เด็กสาวกำลังนอนหลับอยู่นั้นกระเป๋าตังและโทรศัพท์ของเธอได้ไหลออกมาจากกระเป๋าและหล่นลง เมื่อเฮดีลเห็นเช่นนั้นจึงทำให้เค้านั้นคิดอะไรสนุกๆขึ้นได้ก่อนจะเดินไปหยิบของๆเด็กสาวมาไว้ที่ตัวเอง
บ้านเฮดีล
ตอนนี้มาเฟียหนุ่มกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยที่มือของเค้านั้นกำลังแกว่งแก้วที่มีน้ำอำพันสีเข้มอยู่ก้นแก้ว
“มุกริน..” เฮดีลเอ่ยชื่อของเด็กสาวขึ้นเบาๆพร้อมกับมองไปที่แก้วราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“หึ!” ราวกับคนบ้าที่กำลังนั่งหัวเราะคนเดียว ซึ่งเสียงหัวเราะของเค้านั้นมันดูเจ้าเล่ห์ไม่น้อยเลยสักนิด..
บริษัท
เช้านี้เด็กสาวยังคงเดินหากระเป๋าตังและโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ที่ที่เธอนั้นถูกทำร้ายเมื่อคืน ซึ่งเธอนั้นหาอยู่เป็นชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่เจอสักที
“หายไปไหนเนี่ย~ ทำไมฟ้าชอบกลั่นแกล้งกันแบบนี้!” เด็กสาวว่าพลางใช้หลังมือปาดน้ำตาของตัวเองออกลวกๆก่อนจะรีบก้มหาอีกครั้ง เพราะตอนนี้ใกล้จะได้เวลาเข้าทำงานแล้ว
“ฟ้าใจร้ายชะมัด!” เด็กสาวบ่นขึ้นอีกครั้งก่อนจะรีบพาตัวเองเข้ามาในบริษัทเพราะตอนนี้ได้เวลาทำงานแล้ว เมื่อเด็กสาวขึ้นมาบนห้องทำงานเธอนั้นก็ไม่พบกับเฮดีล บ่งบอกได้ว่าตอนนี้เค้ายังไม่มา
ติ๊ง! ในขณะเดียวกันเสียงลิฟต์ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเฮดีลที่เดินออกมาจากลิฟต์ฉุดให้เด็กสาวต้องรีบเอ่ยทำความเคารพในทันที
“สวัสดีค่ะ”
“อืม”
“เดี๋ยวหนูลงไปเอากาแฟให้ค่ะ”
“อืม” เฮดีลตอบเด็กสาวกลับมาเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง ส่วนเด็กสาวนั้นก็รีบลงไปเอากาแฟมาให้กับเค้า
“มาแล้วค่ะ” เด็กสาวว่าพลางวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะเบาๆก่อนจะเหลือบตาไปเห็นข้าวของๆตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะของเฮดีล
“นั่นมัน!!”
ใจดำแล้วยังขี้แกล้ง
ฝากกดใจ + คอมเมนท์ให้ไรท์ด้วยนะค้าบบ❤️??
รีไรท์เมื่อ 17/04/66