บทที่ 8 เดินไม่เป็นเหรอ?
เลิกเรียน
รอแล้วรออีกก็ยังไม่มา เลิกเรียนผ่านมาสิบห้านาทีแล้วก็ยังไม่มา อะไรวะเนี้ย ก็บอกไปแล้วไงว่าจะไปหาพ่อที่ สน. อีกอะ
‘ ปี๊นน! ’
ฉันสะดุ้งโหยงหันไปมองรถเก๋งสีขาวที่บีบแตรใส่ ไม่รู้ว่าครูคนไหนจะใช้อะไรอีกล่ะ เฮ้อ! ฉันค่อยๆ เดินไปใกล้ กระจกค่อยๆ ลดลง อ้าว ไม่ใช่ครูนี่น่าแต่เป็น…
“ มาขึ้นรถ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ไอ้บอสคงอีกนาน ตอนนี้มันกำลังง้อควีนอยู่ ไม่รู้ทะเลาะอะไรกันอีก ”
“ แล้วพี่โอเว่นไม่รอแยกทั้งคู่เหรอคะ พี่ก็รู้ว่าพี่ควีนเป็นนักมวย ดีไม่ดี พี่ชายเบนซ์อาจจะนวมเอานะ ”
“ เพื่อนๆ ก็มีอีกกันหลายคนที่ยังไม่กลับ ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างไอ้บอสก็วานให้พี่พาเบนซ์ไปหาพ่อด้วย ”
“ ค่ะ ” ฉันทำท่าจะเปิดประตูหลังแต่…
“ มานั่งข้างหน้า ”
“ ค่ะๆ ” ฉันพยักหน้าแล้วอ้อมไปอีกฝั่งก่อนจะเปิดประตูแล้วพาร่างบางนั่งลงบนเบาะหน้าคู่พี่เขา
“ เดี๋ยวนี้ไม่กลัวพี่แล้วเหรอ ”
“ ก็….พี่บอกไม่แค้นแล้วไง หนู…เอ่อ…เบนซ์จะกลัวทำไม ”
“ ไม่ใช่ว่าเพราะพี่เลี้ยงขนมหรอกเหรอ ”
“ งุ้ย 555+ รู้ด้วย ”
“ 555+ ร้ายไม่เบานะเราอะ ”
“ นานๆ ทีจะหาคนมาเปย์ได้แบบเต็มใจ นี่ถ้าเป็นพี่บอสนะ บ่นเบนซ์แน่ๆ แล้วถ้าเป็นพี่ควีน เบนซ์ก็เกรงใจอีก ”
“ เกรงใจนี่ หยิบไปกี่ห่อขนมอะ ”
“ เกือบๆ ห้าห่อค่ะ 5555+ ”
“ 555+ ”
ระหว่างทางไปหาพ่อ พี่เขาก็ชวนคุยเยอะมาก ไม่คิดว่าจะคุยเก่งเหมือนกันนะ เพราะปกติที่เห็นเวลาอยู่กับเพื่อนๆ พี่โอเว่นไม่ค่อยพูดนะ จะเป็นผู้ฟังเสียส่วนใหญ่
“ เดี๋ยวหนู…เฮ้อ…ขออนุญาตแทนตัวเองว่าหนูนะพี่โอเว่น ” หันไปบอกเขาแบบปลงๆ กับตัวเอง แล้วทีกับคนอื่นอะพูดได้ไม่มีขัด พอกับพี่โอเว่นอะเป็นแบบนี้ทุกที่เลย
“ เอาที่สะดวกเลย ”
“ งั้นหนูไปหาพ่อก่อนนะคะ พี่รอแป๊บนะ ”
“ ครับผม ” งื้อ~ แล้วใจเจ้ากรรมก็ดันแพ้คนพูดเพราะอีก หึ๋ย เกือบทำหน้าเคลิ้ม ไม่งั้นอายแน่ ฉันรีบลงจากรถวิ่งเข้า สน. ทันที
“ ลุงโจ๊กคะ พ่อหนูล่ะคะ ” คนที่นี่รู้จักฉันและสนิทกันประมาณหนึ่ง เพราะฉันก็มาบ่อยๆ อยู่นะ
“ พ่อเบนซ์เหรอ เมื่อกี้เห็นอยู่นะ เดี๋ยวลุงไปถามคนอื่นให้ รอแป๊บนะ ” ลุงโจ๊กพูดจบก็หายไปเพียงครู่เดียวก็ออกมา
“ อ๋อ ไปซื้อข้าวนะ วันนี้พ่อเบนซ์อยู่เวรดึกถึงเช้าเลย ”
“ อ๋อ ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะคะลุง สวัสดีค่ะ ”
“ จ้ะ ไปเถอะ เดี๋ยวลุงบอกพ่อให้ว่าหนูมาหา ”
“ ค่ะ ” แล้วฉันก็วิ่งไปขึ้นรถทันที
“ เดินไม่เป็นเหรอ? ” ฉันกำลังจะคาดสายเบลล์ พี่โอเว่นก็ถามขึ้น
“ ทำไมคะ ” ก็งงไง ทำไมถามแบบนั้น
“ ก็เห็นวิ่งตลอด ”
“ 555+ มันติดเป็นนิสัยไปแล้วค่ะ ”
“ พอโตเป็นผู้ใหญ่จะวิ่งแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ มันดูไม่เหมาะสม ”
“ อ้าว ถ้าเกิดรู้ว่าตรงนั้นมีระเบิดล่ะคะ จะให้เดินอย่างนางงามหรือไง ตายห่ากันพอดี อุ้ย ตาย…ตายพอดี ” พอรู้ว่าตัวเองพูดคำหยาบออกไปต่อหน้าพี่เขา รีบเอามือปิดปากทันที
“ เข้าใจเปรียบเนอะ พี่ก็แค่บอก เวลาปกติก็เดินให้มันดีๆ พี่ว่ามันน่ารักกว่าวิ่งเสียอีกนะ ” ว้ายๆ น่ารักก็มา งื้อ~ อะไรครับเนี้ย!
“ ร้อนเหรอ? ”
“ คะ? ” เอียงคอหันไปมองคนข้างๆ จะร้อนได้ไงแอร์เย็นฉ่ำซะขนาดนี้
“ ก็เห็นหน้าแดง ”
“ หนูเขินพี่นั่นแหละ พูดอะไรก็ไม่รู้~ นี่ดูปากหนูสิ ยิ้มไม่หุบแล้วนะ ” ปกติก็เป็นคนแบบนี้ไม่ชอบเก็บความรู้สึกหรืออาจจะเก็บไม่ได้มากกว่าเลยบอกออกไปตรงๆ
“ 555+ จริงๆ เลยนะเรา ไอ้เรื่องที่ควรพูดกลับไม่พูด แล้วไอ้เรื่องที่ควรจะเก็บไว้ในใจก็พูดออกมาหมด ”
ปากพูดไม่พอ เอื้อมมือหนามาขยี้ผมฉันอีกต่างหาก นี่ถ้าลูบหัวนะ อบอุ่นมาก รักตายเลย >< แฮะๆ แต่ไม่ดีกว่า คนหล่อต้องมีแฟนอยู่แล้ว พี่เขาไม่ใช่คนเปิดเผย น่าจะแอบมีมั้ง!
“ จะไปไหนต่อ ”
“ หนูหิวอะ แวะตลาดนัดให้หน่อยสิพี่ ตลาดนัดวันนี้ที่หน้าอำเภออะ ”
“ ได้ๆ ”
หลังจากนั้นก็เงียบกันไปจนถึงตลาดนัดหน้าอำเภอ
“ นั่นพ่อนี่น่า ” สายตาเหลือบไปเห็นเข้าพอดี ฉันก็รีบปลดสายคาดเบลล์ แต่ดึงเท่าไหร่ก็เอาไม่ออก จนพี่โอเว่นต้องช่วย
แต่พอเงยหน้าขึ้น มองไปยังตำแหน่งที่พ่อยืนซื้อของอยู่เมื่อกี้ ทำให้นิ่งชะงักไปเลย เพราะมีผู้หญิงอีกคนกอดแขนพ่อพร้อมเอาหัวซบไหล่อยู่ ซึ่งฉันรู้ดีว่านั่นไม่ใช่แม่แน่นอน
“ เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ อาจจะเป็นเพื่อนน้าบูมก็ได้ ถามก่อนนะ อย่าวู่ว่ามล่ะ ”
พี่โอเว่นคงมองตามและเห็นใบหน้าฉันเริ่มเปลี่ยนสี พี่เขาเลยฉวยมือฉันไว้ ในตอนที่ฉันกำลังจะเปิดประตูรถลงไป
“ ไม่ใช่มั้ง เพื่อนอะไรกอดแขนซะขนาดนั้น ถ้าหนูกอดแขนพี่แบบนี้บ้างอะ พี่คิดว่าคนอื่นจะคิดว่าเราเป็นแค่เพื่อนพี่ชายกับน้องเพื่อนสนิทไหมอะ ” ไม่พูดปากเปล่า ฉันยังเปลี่ยนเป็นกอดแขนเขาแทน แล้วเอาหัวไปซบไหล่แกร่งไปอีก
ความที่กลัวว่าพี่เขานึกภาพไม่ออกไง กลัวเข้าไม่ถึงอารมณ์ เลยทำให้ดู
เขาที่โดนกระทำแบบนี้ ทำเอานิ่งไปเลย หัวใจก็เต้นโครมคราม มองคนข้างๆ แล้วอมยิ้มในทันทีกับความเอ็นดู คงกลัวเขาจะนึกตามไม่ทันละมั้ง ทำท่าทางประกอบมาให้ด้วย
?___________?
นามปากกาผกายมาส