ตอนที่ 5
“ไอเดีย…นี่นาย!”
พลั่ก!!!
ฉันอ้าปากหวอมองคาลินที่พุ่งเข้ามากระชากไอเดียออกจากฉันแล้วปล่อยหมัดใส่จนไอเดียกระเด็นไปติดกำแพง ไอคิวรีบวิ่งเข้ามาห้าม เขายืนคั่นกลางพยายามดันคาลินให้ออกห่างจากไอเดีย
“ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าทุกคนที่นี่ห้ามใครทำอะไรเกินเลยกับมิลิน! นายกล้าขัดคำสั่งของฉันได้ยังไง!”
“บอสฮะ ใจเย็นๆก่อนนะ ผมว่าไอเดียต้องมีเหตุผลแน่ๆ บอกบอสไปสิไอเดีย นายทำแบบนั้นกับเจ้าหญิงทำไม”
ไอคิวหันกลับไปไอเดียที่ยังเอาแต่ก้มหน้านิ่ง นั่นสิ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาทำไปทำไม เขาขโมยจูบฉันเป็นรอบที่สองแล้วนะ T^T
“…ชอบ”
หลังจากความเงียบเข้าปกคลุมเนิ่นนาน อีตาไอเดียก็ยอมปริปากพูดออกมา แน่นอนว่าเสียงของเขาหล่อมาก ( เกี่ยว -_-? ) แต่เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ ฟังได้ยินแต่ไม่เข้าใจสักนิด
“ฉันชอบยัยนี่”
“หา O[]o”
ฉันเบิกตากว้างยิ่งกว่าไข่ห่าน อีตาไอเดียไขข้อข้องใจทั้งหมดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ฉัน เล่นเอาทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งไร้ซึ่งเสียงหายใจ ขะ…เขาบอกว่าชอบฉัน อีตาโอตาคุผู้ไม่เคยปริปากพูดกับฉันสักคำกำลังบอกว่าชอบฉันต่อหน้าทุกคน!
“คุณชาย โทรเรียกรถพยาบาลทีสิ ฉันคิดว่าไอเดียคงจะทำงานเหนื่อยจนเกินไปก็เลยเพี้ยน”
ฉันหันไปสะกิดคุณชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอเดียต้องได้รับการรักษาแบบเร่งด่วน ก่อนที่เขาจะเพี้ยนหนักมากไปกว่านี้ TT^TT
“ฉันไม่ได้เพี้ยนนะ! การที่ฉันบอกว่าฉันชอบเธอมันเพี้ยนตรงไหนกันฮะ!”
“ก็เพี้ยนตรงที่เราเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่วันไงเล่า >O___ด้านไอคิวกับไอเดีย
ไอคิวพาไอเดียขึ้นมาสงบสติอารมณ์ที่ห้อง หลังจากที่ไอเดียพยายามจะวิ่งตามคาลินที่พามิลินออกไป ไอเดียนั่งหัวเสีย หน้าตาไม่สบอารมณ์อยู่บนเตียง ไอคิวที่ลงไปเอาน้ำผลไม้มาให้เขาดื่มเพื่อที่จะได้ใจเย็นลงเดินเข้ามานั่งข้างๆ
“ใจร้อนไปหรือเปล่าวัยรุ่น นายไม่น่าไปทำแบบนั้นกับเจ้าหญิงเลยนะ ก็รู้ใช่เหรอว่าสำหรับบอสแล้ว…เจ้าหญิงคือคนสำคัญขนาดไหน”
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงห้ามใจตัวเองไม่ได้ มิลินบอกว่าการ์ตูนของฉันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ ทั้งที่พ่อกับแม่แล้วก็คนอื่นๆในตระกูลต่างพากันบอกว่าการ์ตูนที่ฉันชอบมันคือเรื่องไร้สาระ มิลิน…เป็นคนที่สองนอกจากนายที่เข้าใจฉัน”
“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายจะทำรุ่มร่ามกับเจ้าหญิงได้นะ ฉันว่านายควรจะขอโทษบอส”
“เรื่องนั้นฉันคิดอยู่แล้ว แต่ว่า…คิวเองก็คิดเหมือนกันไม่ใช่หรือไง เรื่องของเจ้าหญิงน่ะ”
ไอเดียเงยหน้าสบตากับพี่ชาย ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจและล้มตัวนอนราบลงไปกับเตียงทั้งคู่
“ถึงจะคิดเหมือนกัน แต่ฉันก็ยังมีความอดทนมากกว่าเดียล่ะนะ เจ้าหญิงคือสิ่งต้องห้ามของร้านนี้ พวกเราไม่มีใครที่จะแตะต้องเธอได้ทั้งนั้น เพราะบอสจะต้องจับตาดูพวกเราทุกคนทุกฝีก้าวแน่ๆ”
“พูดถึงเรื่องนี้ ทำไมบอสกับคุณพ่อของมิลินถึงไม่บอกความจริงไปนะ ว่าแท้จริงแล้วทั้งคู่เป็นอะไรกัน”
“มันคงยังไม่ถึงเวลา ฉันเชื่อว่าบอสคงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เฮ้อ! ฉันว่าที่นายต้องคิดคือจะเอายังไงเรื่องของเจ้าหญิงมากกว่า ไม่รู้ว่าตอนนี้สติหลุดไปถึงไหนแล้วที่โดนายสารภาพรักกะทันหันแบบนั้น”
ไอเดียกระเด้งตัวขึ้นมานั่งหน้าเครียดทันทีที่ไอคิวพูดจบ
“นั่นสิ ฉันจะโดนหลบหน้าหรือเปล่าเนี่ย โธ่เว้ยยย! รู้งี้ระงับอารมณ์แบบคิวก็ดีหรอก!”
“ใจเย็นๆนะเดีย ค่อยๆคิด เดี๋ยวฉันช่วย”
สองพี่น้องช่วยกันคิดหาแผนการที่จะทำให้ทุกอย่างกลับไปสู่สภาพเดิม
ก๊อกก๊อกก๊อก
“อ๊ะ! แค่นี้ก่อนนะคะคุณพ่อ ไว้ถ้าร้านเปิดเมื่อไหร่หนูจะโทรไปรายงานความคืบหน้าอีกทีนะคะ”
ฉันกดวางสายจากคุณพ่อแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง ใครมาเคาะประตูห้องฉันตอนสี่ทุ่มกันล่ะเนี่ย วันนี้ไม่ใช่ว่าเหนื่อยกันมาทั้งวันจนอยากจะพักผ่อนหรือยังไง
แอ๊ด…
“นะ…นาย!”
ฉันรีบดันประตูปิด แต่ผู้มาเยือนซึ่งก็คือไอเดียเร็วกว่า เขาดันประตูห้องฉันเข้ามาด้านในแล้วแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ฉันรีบถอดกรูดห่างจากเขา คว้าเอาไม้แขวนเสื้อมาถือไว้ในมือ
เผื่อหมอนี่คิดจะขโมยจูบฉันเป็นรอบที่สามไง TT^TT//
“นายมีอะไรกับฉันยะ >OO[]__O_O<”
ฉันอยากจะร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดเมื่อเสียงของหมั่นโถวจบลง ค่ำคืนนี้ของฉันต้องจบลงด้วยการช่วยทุกคนตามหาถุงยางของอีตาซิกการ์เหรอเนี่ย!
ฉัน! เกลียด! พวก! นาย! ที่! สุด! เลย!