“คุณ ทำไมทำแบบนี้”
แม้จะโล่งใจที่รอดจากการถูกส่งไปขายตัวยังชายแดน แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่คนซึ่งบอกว่าเกลียดเธอและไม่มีวันจะให้อภัยกลับยอมเสียเงินมากมายเพื่อไถ่ตัวเธอ
“แบบไหน ใช้หนี้ให้เธอน่ะเหรอ”
คิ้วเข้มเลิกสูง ดวงตาคมมองจ้องสบตากับเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ได้มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“ค่ะ ไม่เห็นต้องมาเสียเงินเพราะฉัน”
“อ้อ แสดงว่าอยากไปขายตัวที่ชายแดน”
เขาแค่นหัวเราะหยัน จนตรอกจนเกือบจะกลายไปเป็นผู้หญิงขายตัว ชาตินี้ก็ไม่มีโอกาสได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวัน ยังทำหยิ่งไม่เข้าท่า คิดว่าเขาอยากจะช่วยเธอตายละ ที่ทำก็แค่ทนสมเพชลูกตาไม่ได้เท่านั้น
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ”
รู้ว่าไม่ควรอวดดีกับเขาซึ่งตอนนี้กลายมาเป็นผู้มีพระคุณเสียแล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้ แม้จะยังรักเขาจนสุดหัวใจเพียงใด ในตอนนี้ที่ยังพอจะไปจากเขาไหว เธอก็อยากจะไปให้ไกลจากเขาที่สุด เพราะยิ่งเห็นหน้า ความเจ็บปวดในวันวานมันก็คอยจะตามหลอกหลอนเธอไม่เลิก
“ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วเธอมีทางเลือกอื่นหรือไง ถ้าไม่เอาเงินของฉันไปใช้หนี้”
“แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณจะมาเสียเงินมากมายให้ฉันทำไม”
เขาขยับนั่งพิงสะโพกลงบนขอบโต๊ะ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่วงท่าสุดเท่ กวาดตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ใครบอกว่าฉันจะเสียเงินนั่นให้เธอฟรี ๆ ของฟรีไม่มีในโลกหรอกนะน้ำมนต์ ตอนนี้เธอแค่ย้ายจากลูกหนี้เสี่ยธนู มาเป็นลูกหนี้ของฉันแทน”
“ลูกหนี้คุณ”
“ใช่ แต่อย่าคิดว่าฉันจะพิศวาสเอาเธอมาร่วมเตียงนะ บอกตามตรง ขยะแขยง”
มุมปากหยักยกยิ้มหยัน แววตาที่เขาใช้มองเธอนั่นอีก มันเหยียดจนเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงไร้ค่าน่ารังเกียจที่สุดในสายตาของเขา
“ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉันมากแค่ไหน”
“อืม รู้ตัวก็ดี ที่ฉันบอกว่าไม่ได้ช่วยเธอฟรี ๆ เพราะฉันมีงานให้ทำ”
“งานอะไรคะ”
ในเมื่อเขาขยะแขยงเธอออกปานนั้น งานที่ต้องขายตัวล้างหนี้แบบในละครคงไม่มีวันเกิดขึ้น แต่เขาจะให้เธอทำอะไรล่ะถึงจะสามารถหักล้างหนี้สินมหาศาลนั่นได้
“เป็นทาสฉันไง”
“ทะ ทาส...”
นี่เขาเล่นละครมากไปหรือเปล่า สมัยนี้มันมีทาสเสียที่ไหน หรือว่าเขาตั้งใจจะปั่นประสาทเธอ
“อืม ทาส หรือเรียกแบบสมัยใหม่ก็เบ๊ไง”
“เบ๊หรือคะ”
“ทำไมทำหน้าผิดหวังอย่างนั้นล่ะ หรืออยากล้างหนี้ให้ฉันด้วยร่างกายเน่า ๆ ของเธอ”
“ไม่ใช่”
“ตาเธอมันโกหกฉันไม่ได้หรอกนะ ฉันรู้ทันมารยาของเธอหมดแล้ว เธอคงคิดว่าจะใช้วิธีที่คุ้นเคยสินะ แหงล่ะ ถ้าเสี่ยธนูส่งเธอไปขายตัวที่ชายแดนใช้หนี้ เธออาจจะต้องรับแขกเป็นร้อยเป็นพัน แต่ถ้าเธอเป็นลูกหนี้ฉัน เธอรับแขกแค่คนเดียว สบายกว่ากันเห็น ๆ”
ณกมลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เอ่ยปฏิเสธอย่างรวดเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน
“มะ ไม่นะ ฉันไม่...”
“อ้อ หรืออยากจะนอนกับผู้ชายเป็นร้อยเป็นพันมากกว่า มันคงแก้อาการคันของเธอได้สินะ”
“ฉันไม่อยากนอนกับใครทั้งนั้น ฉันจะทำงานใช้หนี้”
แม้จะเหลืออดจนต้องตวาดออกไป แต่เขากลับแค่นหัวเราะหยัน ไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจราวกับการปั่นประสาทเธอคือเรื่องสนุกเสียเต็มประดา
“มีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอ ฉันตัดสินใจใหม่แล้วว่านอกจากเธอจะเป็นเบ๊คอยรับใช้ฉันทุกอย่างแล้ว ฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องทำ ไม่มีข้อแม้ สั่งให้ตาย เธอก็ต้องไปตาย ตกลงไหม ณกมล”
มือใหญ่ล็อกคางของเธอทั้งยังบังคับใบหน้าสวยงามที่มันยังคงฝังอยู่ในทุกอณูความทรงจำให้ยื่นเข้ามาหาเขาอีกนิด
“ฉันถามว่าตกลงไหม”
เธอเบิกตากว้าง มองลึกลงไปในดวงตาคู่คมซึ่งฉายแววเกลียดชังหมดเค้าปุณณิธิคนเดิมของเธอ...ไม่มีอีกแล้ว ผู้ชายแสนดีคนนั้น
แต่นั่นจะโทษใครได้ ถ้าไม่ใช่...ตัวเอง
หยาดน้ำใส ๆ ที่เคยเอ่อรื้นขอบตาไหลรินลงมาอาบแก้ม ก่อนตกกระทบต้องมือใหญ่ที่สะบัดมือปล่อยใบหน้าของเธออย่างแรงราวต้องของร้อน
เขาเกลียดน้ำตาและมารยาของผู้หญิงคนนี้ที่สุด
“ไปจัดกระเป๋า ต่อไปนี้เธอต้องไปอยู่คอนโดของฉัน”
ผู้หญิงตัวคนเดียวที่หมดหนทางเลือกยกหลังมือขึ้นปาดหยาดน้ำตาลวก ๆ ถ้าเขาต้องการให้เธอชดใช้ ทั้งหนี้สินและหนี้แค้น เธอก็พร้อม จะให้เธอทำอะไร ขอแค่เขายกโทษให้เธอเพื่อปลดเปลื้องพันธนาการในหัวใจ เธอยอมทำทั้งนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เขาต้องการคือให้เธอไปตายที่ไหนก็ตาม
ณกมลกลับเข้ามายืนอยู่ในห้องชุดสุดหรูอีกครั้งหลังสิบปีผ่านไป กลิ่นของความทรงจำแสนหวานยังลอยอบอวลอยู่ในนั้น เฟอร์นิเจอร์และทุกอย่างในห้องยังคงวางเอาไว้จุดเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือผู้ชายซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ หัวใจของเขาไม่ได้เป็นของเธออีกต่อไปแล้ว
“เอาของเข้าไปเก็บในห้องของเธอ แล้วออกมาคุยกันที่โต๊ะอาหาร ฉันยังไม่ได้กินข้าว เธอเองก็เหมือนกันนี่”
“ค่ะ”
ไม่นาน อาหารที่เขาโทรสั่งก่อนกลับมาถึงห้องก็วางเรียงเต็มโต๊ะ
“มากินข้าวสิ”
เธอรับจานข้าวมาจากเขา เหลือบตามองเขาเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเมื่อสักครู่ เขาแสดงออกว่าเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ แต่ทำไมถึงทำดีกับเธอราวกับเรื่องราวบาดหมางมันหายวับไปแล้ว
“กินไปสิ มองหน้าฉันทำไม รู้หรอกน่าว่าหล่อกว่าเมื่อสิบปีก่อนมาก อย่าหลงรักฉันอีกรอบล่ะ ขอเตือนไว้ก่อนว่าฉันเกลียดเธอมากและไม่ได้พิศวาสเธอสักนิด”
“ฉันรู้ค่ะ แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องช่วยฉัน ทั้ง ๆ ที่เกลียด”
“คงเพราะเกลียดมากมั้ง ให้อภัยไม่ได้จนต้องเอามาทรมานใกล้ตัว เป็นไง เหตุผลฟังขึ้นหรือยัง”
เธอลอบถอนหายใจแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป เพราะวันนี้ทั้งวันแทบไม่มีกะจิตกะใจจะตักอาหารเข้าปากด้วยซ้ำ ก่อนชะงักเมื่ออาหารทุกอย่างบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดเธอทั้งนั้น
หลังจากที่ล้างจานและทำความสะอาดในครัวเสร็จ เขาก็เรียกเธอให้มานั่งด้วยกันที่โซฟาพร้อมมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ตรงหน้า
“อ่านซะสิ สัญญา”
เธอยกกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน ในขณะที่เขาก็สาธยายข้อความในกระดาษแผ่นนั้นให้เธอฟังโดยละเอียด เธอจึงวางมันลงแล้วเงยหน้าฟังเขาพูดแทน
“ตอนนี้เธอเป็นลูกหนี้ของฉัน ยอดหนี้เก้าล้านบาท ฉันไม่คิดดอกเบี้ย หน้าที่ของเธอคือเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของฉัน รับใช้ฉันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดถ้าฉันไม่หยุด รายละเอียดงานเดี๋ยวฉันให้พี่อ้อยส่งให้ ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่อ้อยเอาแล้วกันเพราะฉันก็ไม่รู้ ฉันจะหักหนี้จากเงินเดือนเธอ ช่วงแรกฉันให้ห้าหมื่นก็แล้วกัน ถือว่าทดลองงาน”
ทำอย่างกับว่าถ้าเธอไม่สามารถผ่านการทดลองงานได้ เขาจะไล่เธอออกอย่างนั้นแหละ ในเมื่อเธอเป็นหนี้เขาอยู่ถึงเก้าล้าน จะไม่ให้เธอมีหนทางหาเงินมาใช้หนี้ก็ลองดูสิ
“งั้นคุณหักเงินไว้ใช้หนี้สี่หมื่นห้านะคะ ฉันรับเงินเดือนแค่ห้าพันพอ”
“ห้าพัน เธอจะไปใช้อะไรพอ แค่ออกไปกินข้าวนอกบ้านมื้อเดียวก็หมดแล้ว”
“นั่นมันคุณค่ะไม่ใช่ฉัน ฉันอยู่ได้ด้วยเงินเดือนเดือนละห้าพันมาตลอดเป็นสิบปี ก็ไม่ได้มีเรื่องให้ต้องใช้จ่ายอะไรเยอะนี่คะ ฉันไม่ได้แต่งตัว ไม่ได้ซื้อเครื่องสำอาง ไม่ได้ใช้ของแพง ๆ ไปทำงานกับคุณก็มีข้าวกองถ่ายให้กิน เผลอ ๆ ห้าพันบาทจะเหลือด้วยซ้ำ”
“มิน่าเธอถึงแต่งตัวซอมซ่อนัก อยู่กับฉันจะแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้นะ ขายขี้หน้าคนอื่นเขาตาย”
เขากวาดตามองร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตกระโปรงทรงเอราคาถูกแล้วก็ต้องส่ายหน้า แม้ว่าเธอจะเก่งในเรื่องแฟชั่น ทั้งเรื่องการออกแบบและตัดเย็บ แต่พอเป็นเสื้อผ้าของตัวเองแล้วกลับแทบจะไม่ยอมเจียดเงินไปซื้อของดี ๆ ใส่ คงเพราะต้องนำเงินเดือนแทบทั้งหมดมาจ่ายหนี้ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
“แต่ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยนะคะ ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“มันเสียภาพลักษณ์ฉัน พูดแค่นี้ไม่เข้าใจหรือไง พรุ่งนี้ฉันมีถ่ายละครแค่ครึ่งวัน ตอนบ่ายจะพาไปซื้อเสื้อผ้าแล้วกันนะ”
“ไม่เอาหรอกค่ะคุณปุณณ์ มันเปลืองเงิน ฉันอยากเก็บเงินไว้ใช้หนี้คุณให้หมดเร็ว ๆ”
“หุบปาก เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น ฉันจะจ่ายให้เธอเอง ไม่หักเงิน ถือซะว่าเป็นเงินซื้อหน้าตาของฉัน ไม่งั้นคงขายขี้หน้าชาวบ้านที่มีลูกน้องแต่งตัวซอมซ่อ”
“ก็ได้ค่ะ”