วันต่อมา
หลังจากเข้าจับสายรหัส ปรากฏว่าผมได้พี่รหัสเป็นผู้ชายชื่อพี่ตี๋เล็ก เป็นผู้ชายตัวเล็กๆ บางๆ แถมพี่มันยังมีแฟนเป็นผู้ชายอีก
"สายหมอก วันนี้หกโมงเย็นไปร้านปิ้งย่างหลังมอนะ"
"ครับ"
"ไอ้หมอกๆ แฮกๆ " ไอ้เปอร์วิ่งมาหยุดอยู่หน้าผมก่อนจะยืนหอบ
"มีอะไรวะ วิ่งเหมือนหนีใครมางั้นแหละ"
"เออดิ เจ้ากรรมนายเวรมึงกำลังตามหามึงอยู่"
"ห๊ะ พี่มันแม่งกะจะกัดกูไม่ปล่อยเลยหรือไง" หันไปหยิบกระเป๋ามาสะสายก่อนจะหันไปไปมองร่างสูงที่กำลังเดินมาทางผม
"กูว่ามึงรีบไปถอะ เดี๋ยวกูจะถ่วงเวลาไว้ให้" ผมพยักหน้าก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปโรงจอดรถ
"น้องสายหมอก" เรียกกูทำม้ายยย เสียงที่ดังไล่ตามหลังทำให้ผมรีบก้าวขาเร็วขึ้น คว้าจักรยานได้ก่อนจะปั่นออกจากมอโดยเร็ว ยิ่งกว่าฟาส 8 แล้วครับตอนนี้
รถสปอร์ตที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ VIP ของมหาลัย ดวงตาสีนิลจ้องมองเด็กผู้ชายหน้าตาหวานที่กำลังวิ่งหนีใครสักคนที่กำลังปั่นจักรยานออกจากมอ กระตุกยกยิ้มมุมปากสร้างความงุนงงให้สาวข้างกายไม่น้อย
"มองอะไรเหรอคะ"
"ไม่มีอะไร เธอลงไปได้แล้ว"
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" ร่างบางเดินลงจากรถก่อนที่ผมจะขับรถออกจากมหาลัย
ขับมาได้ไกลพอสมควรก็เห็นเสือน้อยที่ขอเงินผมวันนั้นปั่นจักรยานอยู่ ก่อนจะขับรถขนานข้างไปเรื่อยๆ เพราะผมไม่แซงสักทีทำให้เด็กที่กำลังมีสีหน้าหงุดหงิดหันมามองเป็นระยะๆ พร้อมกับขมวดคิ้ว
"หึ"
แม่งเอ๊ย ผมมองรถสปอร์ตที่ขับขนานข้างด้วยอารมณ์หงุดหงิด หนีไอ้พี่ซีวายไม่พอนี่กูต้องมาเจอคนขับรถกวนบาทาอีกเหรอวะ ผมไม่สนใจปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ เพื่อไปร้านปิ้งย่างหลังมอ แต่ความหงุดหงิดของผมก็ไม่เท่ากับความซวยเมื่อถนนฝั่งทางผมเขากำลังมีการปรับปรุงอยู่ บวกกับความเร็วของจักรยานทำให้เบรคไม่ทัน ไม่ใช่เบรคไม่ทัน เบรครถผมมันไม่ติด
อ๊าคคค!!
โครมมม เต็มๆ ลงหลุมเต็มๆ แถมหลุมยังลึกอีกด้วย รู้สึกแสบๆ ที่ฝ่ามือและเข่าเหตุเกิดจากที่ผมล้มในท่าเอาฝ่ามือลงไปก่อนเพื่อไม่ให้หน้าโดนพื้นถนน
"เหี้ยเถอะเลือดแม่งออกเฉยเลย อ้ะ.."
สะดุ้งตกใจเมื่อมีมือใครคนหนึ่งดึงให้ผมยืนขึ้นแต่เพราะเจ็บเข่าจึงทำให้เกิดการทรงตัวผิดพลาดเล็กน้อย ท่อนแขนแกร่งตวัดกอดเอวเพื่อช่วยพยุงตัวผมไว้
พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเจอผู้ชายคนเดียวกันที่ผมไปขอเงินเมื่อวาน หรือว่าพี่มันมาทวงกระเป๋าเงินคืน เฮ๊ยไม่ได้เอามาจะเจอกระถืบป่าววะ ไหนๆ ก็ได้เจ็บตัวแล้ว ได้อีกสักแผลคงไม่เป็นไรหรอกมั่ง ฮือ ข้าน้อยสมควรตาย
"เอ่อ เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมพี่ พอดีวันนี้ผมไม่ได้เอากระเป๋าเงินพี่มา" เงินตั้งเยอะแถมมีบัตรแบล็คการ์ดอีก ใครจะกล้าพกติดตัววะ วันดีไม่ว่าดีเจอโจรปล้นทำไง ลำพังผมแค่วิ่งหนีหมาหน้าปากซอยยังเกือบเอาตัวไม่รอด ถ้าจะให้วิ่งตามโจรคงยากหน่อยครับ
"เข้าไป"
"ครับ!!! " ผมมองไปที่รถสปอร์ตอย่างแปลกใจและมึนงง
"ถ้าอยากให้เลือดไหลหมดตัวก็ไม่ต้องไป" หรือว่าให้ผมขึ้นรถ ไม่รอช้าผมเดินกะเผลกขึ้นรถทันที พอรถออกตัวผมก็นึกขึ้นมาได้ แล้วแบล็คพิ้งลูกรักผมล่ะ ได้ขึ้นรถหรูแล้วลืมจักรยานเลยนะกู ไอ้หมอกไอ้คนใจง่าย จิตใจมึงทำด้วยอะไร
"พี่จะพาผมไปไหน"
พี่มันไม่ตอบครับแต่จอดรถหน้าร้านยา ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผล มือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดเปิดประตูฝั่งผมก่อนจะยื่นยามาให้ ส่วนผมก็รับมาแบบงงๆ หน้าตาดี ควงสาวไม่ซ้ำหน้า แต่ก็ใจดีนี่หว่า
ผมจัดการทำแผลให้ตัวเองมองคนตัวสูงยืนพิงรถสูบบุหรี่อย่างสบายใจ ชีวิตเขามีเรื่องทุกข์ใจบ้างไหม หน้านิ่งทุกครั้งที่เจอ คนหรือหุ่นยนต์ แต่ดูไปดูมาพี่มันแบดมาก ไม่น่าล่ะผู้หญิงถึงชอบเข้าหา ที่แท้ผู้หญิงก็ชอบผู้ชายเลวๆ นี่เอง แบบว่าฟันแล้วทิ้งประมาณนั้นแหละ
ส่วนผมนะเหรอพยายามทำตัวให้เลวยังไงก็ยังถูกผู้ชายตามจีบอยู่ดี พูดแล้วขนลุก ไอ้พี่ซีวายอีกคนเมื่อไหร่จะเลิกตามตื้อผมก็ไม่รู้ พูดจนน้ำลายจะหมดปากแล้วว่าชอบผู้หญิงก็ยังไม่เลิกความคิดที่ว่าจะเอาผมเป็นเมียอีก
'สัพเพ สัตตา ไปไกลๆ กูได้ยิ่งดี เพี้ยง!! '
"เสือน้อยมึงจะไปไหน กูไปส่ง" ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่กำลังมองมาที่ผม แต่เดี๋ยวนะ พี่มันเรียกผมว่าเสือน้อยเหรอ
"พี่ทิ้งผมไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวผมให้เพื่อนมารับ ขอบคุณสำหรับยานะครับ "
“เอ่อ อีกอย่างผมชื่อสายหมอก ไม่ใช่เสือน้อย” เจ้าของรถที่ผมนั่งหันมามองด้วยสายตานิ่งๆ แต่ก็น่ากลัว เหมือนกำลังสื่อความหมายว่า...
'มึงจะให้ไปส่งดีๆ หรือจะตายอยู่ที่นี่'
"เอ่อ ไปร้านปิ้งย่างหลังมอเลยครับ"
สุดท้ายผมก็ยอมบอก เห็นท่าทางพี่มันแล้วถ้าผมไม่บอกผมอาจจะถูกฆ่าหมกท่อร้านขายยาก็เป็นไปได้ เป็นคนประเภทไหนที่ทำให้คนรอบข้างกลัวได้โดยที่ไม่ต้อทำอะไรเลย ผู้หญิงที่พี่มันควงไม่มีใครกลัวบ้างเลยหรอ ดูดิ เปิดแอร์อย่างกับอยู่ห้องดับจิต
เปิดไว้แช่ร่างตัวเองเหรอพี่ แต่ลืมไปคนอย่างพี่คงไม่ตายง่ายๆ แต่คนที่จะตายก่อนก็คือผมเองครับ เหี้ย โคตรหนาว ผมไม่ใช่หมีขั่วโลกเหนือนะเฟ้ยไม่ต้องเห็นใจกันกลัวร้อนขนาดนั้นก็ได้
"เสื้อกูอยู่เบาะหลัง" และผมก็ยังนิ่ง นิ่งเพราะผมไม่เข้าใจว่าพี่มันกำลังสื่อถึงอะไร เสื้ออยู่เบาะหลังแล้วบอกผมทำไม
“มึงหนาวไม่ใช่เหรอ” อ้อ บอกผมตรงๆ ก็ได้ แหม่ ไม่เห็นต้องทำเป็นเก๊กหล่อเลย
ผมพยักหน้าเชิงเข้าใจก่อนจะหยิบเสื้อมาคลุม กลิ่นน้ำหอมจางๆ ลอยเตะจมูกทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อย ท่าทางกลิ่นนี้คงจะแพงน่าดู นี่แหละน๊าคนรวยใช้แต่ของดีๆ ถึงผมไม่ได้จนแต่ก็ไม่ได้รวย ฐานะปานกลาง พ่อเป็นตำรวจแม่เป็นครู แต่ผมก็ไม่มีปัญญาซื้อน้ำหอมราคาแพงมาใช้หรอกครับ แค่สบู่ตรานกแก้วยังจะไม่ใช้เลย ถูทีหนึ่งกลิ่นนี่ลอยไปถึงยังข้างบ้านเลยครับ ของเขาดีจริงๆ
@ ร้านปิ้งย่างหลังมอ
ผมเดินลงจากรถก่อนจะมุ่งหน้าเข้าร้าน ยกมือไหว้รุ่นพี่พร้อมกับส่งยิ้มให้ แต่ทุกคนกลับจ้องมาที่ผมอย่างสงสัย จากที่เคยหัวเราะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลับกลายเป็นหยุดกริยาต่างๆ ทันที
“มีอะไรเหรอพี่” เพราะทุกคนเงียบจ้องมองมาที่ผมจึงเอ่ยปากถามออกไป
“สะ สวัสดีครับป๋า” พี่ตี๋เล็กพี่รหัสผมพูดขึ้นก่อนจะยกมือไหว้ ผมหันไปมองตาสายตาคู่นั้น ปรากฏว่าพี่ตี๋เล็กไม่ได้มองมาที่ผมแต่มองไปข้างหลัง และข้างหลังผมก็มีร่างสูงๆ ของคนที่มาส่งผมยืนอยู่
เฮ๊ย ผมจำได้ว่าหลังจากลงจากรถคันนั้น พี่มันก็ขับรถออกไปแล้วนะ แล้วมาโผล่อยู่ข้างหลังผมได้ไง
ร่างสูงพยักหน้าตอบก่อนจะกวาดสายตาจ้องมาที่ผมจนผมต้องกลืนน้ำลาย “พรุ่งนี้ไปเอาซากรถเน่าๆ ของมึงที่ห้อง TG4 ด้วย”
“ดะ ได้ ครับ”
ผมยืนมองแผ่นหลังกว้างจากไปจนลับสายตาก่อนจะสะดุ้งเมื่อพี่ตี๋เล็กเดินมาตบไหล่ “น้องสายหมอกรู้จักกับป๋าสมาชิกแบดไทเกอร์ด้วยเหรอ”
“พึ่งรู้จักตอนที่ถูกให้ไปขอเงินวันนั้นแหละพี่ แต่คนอะไรชื่อป๋าวะพี่”
“อ๋อ ป๋าเป็นตำแหน่งที่เขาใช้แทนชื่อนะ เป็นฉายาประจำตำแหน่งราชาวิศวะ”
“เอ้า แล้วพี่เขาชื่ออะไร”
“พี่เขาชื่อเจเค เจ้าพ่อสายเปย์ โคตรรวย แบดบอยสุดๆ และที่สำคัญ โหดมากๆ หวงพื้นที่ส่วนตัวมากๆ” อ่า คนอะไรพิลึกชะมัด ถ้าจะหวงขนาดนั้นไม่อยากจะคิดถึงเมียในอนาคตพี่มันเลย สงสัยต้องอยู่ในขอบเขตตลอดเวลา ฮาๆ
ผ่านมาเกือบ 1 ชั่วโมง ผมที่กำลังมุ่งมั่นตั้งใจกับการกินเนื้อย่างตรงหน้ากลับต้องชะงักเมื่อพี่ซีลุงรหัสของผมพูดขึ้น
“มึงอ่ะอยู่ห่างๆ ป๋าไว้ก็ดีนะถ้าอยากอยู่แบบสงบๆ”
“ใช่ พี่เห็นด้วยกับพี่ซีนะ ป๋าค่อนข้างอันตราย ผู้หญิงก็เยอะ ถึงจะหล่อรวยก็เถอะ ยิ่งพี่เห็นเรารู้จักกับป๋าพี่ยิ่งแปลกใจ” พี่น้ำหวานซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มพูดขึ้น
“พี่คิดมากไปแล้ว วันนี้ผมเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย พอดีพี่เขาเห็นเลยช่วย”
“คนอย่างป๋าเนี่ยนะช่วยมึง” ผมพยักหน้าตอบ
“พี่จะบอกอะไร รู้แล้วรูดซิบปากไว้เลยนะ” ผมเอียงหูไปฟังเมื่อพี่น้ำหวานยื่นหน้ามากระซิบ แต่กลับเบิกตากว้างเมื่อได้ฟังประโยคนั้น ประโยคที่ว่า ป๋าเป็นมาเฟียและเคยฆ่าคน
“จริงดิพี่” ลูกตำรวจแบบผมคิดว่าการฆ่าคนนั้นมีโทษร้ายแรง เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องจริงเขากำลังทำสิ่งผิดกฎหมาย
หลังจากผมได้รู้เรื่องเล่าต่างๆ จากปากรุ่นพี่ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องทันที ซึ่งพี่ตี๋เล็กเป็นคนขับรถมาส่งที่หอ เงยหน้ามองชั้นสูงสุดของตึกก่อนจะถอนหายในเฮือกใหญ่ จะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามันมีลิฟต์
เฮ้อ สายหมอกอยากมีปีก…
วันต่อมา
เสียงพูดคุยพร้อมกับผู้คนมากมายต่างกำลังเดินเข้าโรงแรมเพื่อไปแสดงความยินดีให้แกบ่าวสาว สาวสวยมีทั้งเพื่อนเจ้าสาว หนุ่มหล่อเพื่อนเจ้าบ่าวต่างยืนพูดคุยกับคู่บ่าวสาวด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
ผมเดินมุ่งเข้าไปในกลุ่มผู้คนที่มีเจ้าสาวอย่างเจ๊แมวกับเจ้าบ่าวอย่างพี่คินทร์ยืนอยู่
"ที่รัก ทำไมทิ้งเขาแล้วหนีไปแต่งงานแบบนี้ สายหมอกงอน"
"แสดงเก่ง ฉันรู้นะว่าแกร่วมมือกับพี่คินทร์หลอกฉันไปที่ผับ" เจ๊แมวน้ำพูดขึ้นก่อนที่ผมจะเลิกคิ้ว
"เอ่อ ผมก็อยากให้พวกพี่สองคนปรับความเข้าใจกันแค่นั้นเอ๊ง"
พูดจบผมก็มุ่งหน้าไปที่ของกินทันที ใครจะอยู่ให้เจ๊แมวด่าล่ะ อายสาวตาย ผมเคยถูกเจ๊มันด่าตอนนั้นข้อหาไปว่าอ้ปป้าเกาหลีของเจ๊แมว ตอนนั้นนะหูผมชาไปหมด จากนั้นมาผมก็ไม่กล้าแม้จะแตะต้องผู้ชายในโปสเตอร์เจ๊แมวเลย กลัวหูจะไม่ได้ยินเสียงอีกต่อไป ผมยังอยากมีสุขภาพที่ดีอยู่นะ
" อะแฮ่ม" ผมมองตามสาวสวยก่อนจะส่งยิ้มหล่อๆ ด้วยเสน่ห์ปลายกวักของผม
“น่ารักจัง ถ้าสนใจอยากมีแฟนเป็นเด็กช่าง คุณจะโดนเช็คช่วงล่างอย่างสม่ำเสมอนะครับ”
“ถ้ายังไม่มีแฟน พี่ว่างนะ มีช็อปมีเกียร์แต่ยังไม่มีเมียนะครับ”
สาวสวยตรงหน้ายกยิ้มให้ผมก่อนที่เธอจะทำให้ผมค้างด้วยคำพูด
“ถ้าพี่ชอบประตูหลัง น้องก็ยินดีรับพิจารนานะ” เชี่ยยยย กูเจอเล่นแล้ว
“ฮาๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้น จนทำให้ผมกันไปมอง
ร่างผู้ชายสวมสูทเดินคู่มากับผู้หญิงซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากป๊ากับม๊าของผม
“ลูกชายป๊าจะจีบหญิงทันที ดันเป็นหญิงเทียมซะงั้น ฮาๆ”
“ป๊า ผมไม่ขำนะ”
“คุณไปขำลูกทำไม ดูสิหน้าบึ้งแล้วเนี่ย”
“แล้วอยู่หอในเป็นไงบ้าง สะดวกไหม” ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ให้คุณหญิงนภา
“ยิ่งกว่าสะดวกก็สบายนี่แหละม๊า มีคนยอมยกหอในให้ผมนอนคนเดียว แถมห้องกว้างมาก”
“สบายก็ดีแล้ว ว่างๆ ก็กลับไปนอนบ้านบ้างล่ะ แม่แกบ่นคิดถึง อีกอย่างจะได้ช่วย…”
“หยุดเลยนะป๊า ผมไม่ทำงานแปลกๆ ให้ป๊าหรอกนะ คราวก่อนผมเกือบตาย”
ผมรีบเบรกก่อนที่ป๊าจะพูดงานแปลกๆ ออกมา ใช่ ป๊าเป็นตำรวจเวลาทำงานหรือวางแผนล่อจับคนร้ายซึ่งต้องมีเหยื่อล่อและเหยื่อคนนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากผม
ทำไมต้องเป็นผมนะเหรอ เพราะตำรวจแต่ละคนเสี่ยงต่อการถูกจับได้ โอยมีข้ออ้างว่าเนื่องจากไม่มีใครแสดงละครเก่ง สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย
“แต่คราวนี้ค่าตัวแพงนะ”
“ไม่พูดกับป๊าแล้ว ผมไปดีกว่า ขับรถกลับดีๆ นะครับ”