"เพราะเธอ! เธอคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องแต่งงาน" เสียงโวยวายของหนุ่มสาวที่เพิ่งจะแต่งงานกันได้หมาดๆทะเลาะกันดังลั่นบ้าน ต่างคนต่างเถียงอย่างไม่มีใครยอมใคร
"ฉันก็ไม่ได้อยากมาอยู่แบบนี้หรอก แต่คุณท่านได้ขอเอาไว้ฉันไม่อยากขัดความประสงค์ของท่าน" หญิงสาวตอกกลับอย่างเหลืออด
"เป็นเพราะว่าเธอหวังสูงอยากได้เงินทองของปู่ของฉันล่ะสิ ถึงยอมทำได้ขนาดนี้!"
"คุณศิวา คุณลองย้อนมองดูตัวเองดีๆนะฉันก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณหรอก คุณมันผู้ชายเฮงซวยผู้หญิงคนไหนได้ไปเป็นผัวคงจะซวยไปตลอดชาติ!"
"เกษรา!!" ชายหนุ่มตวาดใส่หน้าหญิงสาวอย่างดุดัน กำลังจะง้างมือตบทว่าตัวเองก็ยั้งใจไว้ได้ทันก่อน เลยยังไม่ทันได้ลงไม้ลงมือกับเธอ
"คุณนี่มัน...เป็นผู้ชายที่เฮงซวยที่สุด!"
"งั้นก็รู้เอาไว้ตรงนี้ซะเลยว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ อย่าสำคัญตัวเองว่าฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอ!"
"...."
"เอาสิ! จะถ่อสังขารไปฟ้องปู่ฉันก็ได้นะแต่คงจะอยู่คนละโลกแล้ว เธอจะตายตามไปก็ได้นะ"
"ไอ้คุณศิวา! คุณมันหยาบคายกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ"
"ตราบใดที่เธอยังอยู่ที่นี่เธอก็จะไม่มีความสุขอยู่แบบนี้แหละ ฉันจะทำให้เธอทนไม่ได้และขนเสื้อผ้าออกไปเอง โดยที่ฉันไม่ได้ไล่เลย"
"...." เกษราเงียบลง เธอได้ให้สัญญากับเจ้าสัวมนัสว่าจะทำให้ศิวาเลิกทำนิสัยเจ้าชู้และหันกลับมาสนใจงานอย่างจริงๆจังๆ และความหวังของเจ้าสัวมนัสก็อยากให้ทั้งสองได้ลงเอยกันเพราะเขาคิดว่าเกษราต้องกำราบศิวาได้แน่ๆ
"เงียบ ฮึ! ไม่กล้าออกไปเพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินกินเหรอ ไม่ต้องห่วงถ้าเธอจะออกไปฉันจะให้เงินเธอไปตั้งตัวสักก้อนนึงแล้วเธอก็หายออกไปจากชีวิตฉันได้เลย"
"ฉันไม่มีวันไปไหนทั้งนั้น!" เกษราพูดอย่างจริงจัง
"หน้าด้าน!!"
"ถ้าคนอย่างฉันมันหน้าด้านคนอย่างคุณมันก็โคตรน่าตัวเมียเลย"
"เกษรา!!"
"เอาสิ ถ้าคุณพูดจาไม่ดีใส่ฉันอีกครั้งนึง ฉันจะสั่งตัดบัตรเครดิตของคุณทุกใบไม่ให้คุณมีเงินใช้เลย อย่าลืมสิคะว่าการเงินของคุณทุกทางฉันเป็นคนควบคุมทั้งหมด"
"เกษรา....โถ่เว้ย!"
"...."
"เธอจะไม่มีวันได้อยู่บ้านนี้อย่างมีความสุขแน่นอน ฉันรับประกัน" พูดจบศิวาก็เดินขึ้นห้องไปทันทีโดยไม่หันกลับมาสนใจเกษราเลยสักนิดเดียว
.........
เกษรา Talk
ให้ตายสินี่ฉันจะต้องทนอยู่กับคนแบบนี้จริงๆ เหรอ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ปากดีเป็นที่หนึ่ง ปากจัดมากเลยด้วย นี่ถ้าฉันไม่เข้มแข็งพอที่จะรับมือกับคนอย่างเขาได้ฉันต้องเจอกับอะไรบ้างเนี่ย ทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวและหน้าตัวเมียได้ขนาดนี้นะ เท่าที่ฉันฟังคุณท่านเล่ามาคุณท่านบอกว่าคุณศิวาเป็นคนดีมากๆแต่ที่ฉันเจอมันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเลย ถ้าเป็นคนอื่นคงจะทนอยู่ไม่ได้ไปแล้วแต่ที่ฉันยังอยู่ก็เพราะคำว่าบุญคุณของผู้มีพระคุณต่างหาก
"ตายแล้วคุณเกด! ทำไมเนื้อตัวถึงเป็นแบบนั้นคะ" ป้าแย้มหรือนมแย้มคือคนที่เลี้ยงคุณศิวามาตั้งแต่เด็กๆเขาตามมาคอยดูแลฉันกับคนสิว่าที่นี่ด้วยและมีแม่บ้านอีก 2-3 คนที่ฉันจ้างมาให้คอยดูแลบ้าน เพราะฉันก็ต้องทำงานที่บริษัทเหมือนกัน
"มีเรื่องนิดหน่อยค่ะ" ฉันตอบ
"คุณศิวาอีกแล้วใช่ไหมคะ"
"นมแย้มก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีนะคะ"
"เฮ้อ....ทำไมคุณศิวาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้นะ ปกติคุณศิวาไม่ใช่คนแบบนี้เลยนะคะ"
"นมแย้มก็พูดแบบนี้มาตลอดนะคะ แต่สิ่งที่เกดพบมันไม่ได้เป็นอย่างที่นมแย้มพูดเลย" ฉันไม่ได้จะพูดกระแนะกระแหนอะไรนมแย้มหรอกนะ แต่ที่ฉันพูดมันเป็นสิ่งที่ฉันกำลังเจอซึ่งมันสวนทางกันกับสิ่งที่เจ้าสัวและนมแย้มบอกเลย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ทั้งดื้อและหัวรั้นสุดๆ
"คุณเกดขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะนะคะ"
"ค่ะนมแย้ม"
ฉันตอบรับก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่แทบจะเรียกว่าอยู่ในชีวิตประจำวันไปแล้วล่ะ ตื่นเช้ามาถ้าได้เจอหน้ากันฉันกับคุณศิวาก็จะมีปากเสียงกันตลอด
#เวลาต่อมา
"เกิดอะไรขึ้นเกด? ทะเลาะกับเขามาอีกแล้วเหรอ"
"ค่ะ พี่ก็น่าจะรู้ว่าเกดมีเรื่องกับเขาอยู่แค่คนเดียว" ฉันตอบ ตั้งแต่เล็กจนโตฉันยังไม่เคยไปอยู่ที่ไหนแล้วสร้างศัตรูได้รุนแรงเท่านี้มาก่อนเลย
ไม่สิฉันไม่ได้เป็นคนสร้างศัตรู เขาต่างหากที่ตั้งตนสร้างศัตรูกับฉันเอง ส่วนฉันก็แค่อยู่เฉยๆ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่อยากทะเลาะไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาแต่มันก็อดไม่ได้ เพราะฉันก็เป็นคนนิสัยอย่างนี้อยู่แล้ว
"ไอ้หมอนี่มัน...อยากต่อยปากมันสักทีว่ะ ทำไมมันถึงได้ปากดีเหลือเกินนะ ปากดีกับผู้หญิงซะด้วย"
"ช่างเขาเถอะพี่ วันไหนที่เขาเหนื่อยเดี๋ยวเขาก็หยุดเองนั่นแหละ ส่วนเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว"
"...." ฉันรู้ว่าพี่กันพี่ชายของฉันไม่ค่อยพอใจหรอก ที่จะต้องมาอยู่บ้านกินข้าวหม้อเดียวกันกับคุณศิวา ผู้ชายที่ปากจัดเอามากๆ
พี่กันเคยบอกว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยต่อว่าหรือพูดจาไม่ดีใส่ฉันสักครั้งนึงเลย คุณศิวาเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน
แต่ก็ไม่ใช่แค่คุณศิวะหรอกนะ ฉันเองก็เพิ่งจะปากจัดตอกกลับใครแรงๆ แบบนี้ครั้งแรกเหมือนกัน
ก็จะให้ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อเขาแรงมาฉันก็ต้องแรงกลับฉันไม่ใช่คนอ่อนแอเจ้าน้ำตาขนาดนั้น ด่าก็ด่ากลับ ทำอะไรกับฉันมาฉันก็ทำแบบนั้นกลับแหละ คิดว่าฉันจะเป็นนางเอกที่แสนดีไม่ต่อว่าไม่ทำอะไรเลยปล่อยให้พระเอกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอ
เฮอะ! คิดผิดแล้วล่ะ..
แต่ความอดทนของคนเรามันก็มีขีดจำกัดนะ ฉันไม่ยอมเขาและมีปากมีเสียงกันตลอดก็จริง แต่ถ้าวันไหนที่ฉันเหนื่อยฉันพอแล้วขึ้นมา ฉันก็ถอยเหมือนกันนะ คนถอยไม่ได้แปลว่าต้องแพ้เสมอไป แต่ที่ถอยเพราะไม่อยากให้ปัญหามันต้องลุกลามไปมากกว่านี้
บางทีการเดินออกมาเฉยๆ มันคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้ฉันต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่คนอย่างฉันจะทำได้