พี่โป้งเลื่อนฝ่ามือจับใบหน้าของมะเฟืองอย่างทนไม่ได้ ปากเธอเผยออ้าออก ริมฝีปากมีสีแดงระเรื่อ ๆ พี่หมอโน้มใบหน้าของตัวเองลงมา ใช้ปลายนิ้วเชยคางของเธอขึ้น
มะเฟืองทำตาโต มองกิริยาของพี่โป้งที่อยู่ตรงหน้า ทั้งสองสบสายตากัน แต่เมื่อเห็นใบหน้าของพี่โป้งไม่มีทีท่าจะหยุดลง ยังโน้มประชิดเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอก็หลับตาปี๋
จุ๊บ... ริมฝีปากของพี่เขาแตะลงมาจริง ๆ ฝ่ามือหนาจงใจลูบไล้ไปที่ท้ายทอยก่อนจะรั้งให้เธอชิดใบหน้าจนริมฝีปากบดเบียดกันสนิทแนบ
มะเฟืองใจเต้นโครมครามดังลั่นในหน้าอก เธอจับขย้ำกางเกงนอนของตัวเองเอาไว้แน่น
เขาผละริมฝีปากออก เธอผวาอ้าปากหายใจเฮือก แต่แค่เสี้ยววินาที เขาประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ปลายลิ้นของหมอหนุ่มสอดลึกแล้วตวัดรัดดูดดุนเบา ๆ
‘พี่โป้งสอดปลายลิ้นเข้ามาทำไม อื้อ…’ เธอครางในใจ แต่ก็เผลอไผลอ่อนโอนตามพี่โป้ง จูบของพี่เขาช่างชำนาญ ความหวานอุ่นวาบเต็มในหัวใจ
มะเฟืองได้ยินเสียงของพี่โป้งครางแบบชอบใจ เขาผลักร่างเล็ก ๆ ด้วยร่างกายที่หนาใหญ่ของเขาให้ลงไปนอนราบกับที่นอน
เมื่อหลังแตะเบาะเธอก็เหมือนกระเด้งตัว ลืมตา ตกใจมากกว่าเดิม พี่โป้งเหมือนจะไม่หยุดแค่นี้ ฝ่ามือใหญ่ครอบครองแสดงตัวเป็นเหมือนเจ้าของลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง เลยไปถึงเนื้อสะโพกอย่างไม่เกรงใจ ร่างเล็ก ๆ นั้นหลังแทบไม่ได้แตะพื้น เพราะรอบแขนใหญ่ ๆ ของพี่หมอ
“พี่โป้งคะ...” เธอเรียกชื่อของเขาทันทีที่ริมฝีปากหลุดเป็นอิสระ
แต่ตอนนี้หมอหนุ่มไม่ได้ฟังเสียงอะไรแล้ว เขาเลื่อนแตะปลายจมูก และริมฝีปากอุ่น ๆ ไปตามใบหน้า ติ่งหู และลำคอของมะเฟือง
ใบหน้าของพี่โป้งเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ หญิงสาวนอนลืมตาโพลง ใช้สายตาที่ปรับแสงได้แล้วมองไปตามศีรษะและร่างกายของพี่โป้ง และทำได้แค่ยึดเนื้อตัวของเขาที่ใกล้ ๆ มือเอาไว้เท่านั้น
“อย่านะคะ” เธอร้องห้ามเมื่อใบหน้าคมไปหยุดหายใจรดที่ร่องอกของตัวเอง
กวินวิทย์ชะงักกึก ตอนนี้ร่างเล็ก ๆ ของมะเฟืองอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอมีอาการสั่นเทา พี่ชายยังรัดเธอแน่น แล้วดึงรั้งร่างบางให้เข้าหา เบียดตัวเองไปกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของหญิงสาว ความเป็นชายของพี่หมอหยัดเหยียดแข็งพองตัวจนแทบระเบิด ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเขาก็สำเร็จโทษตัวเองด้วยนิ้วมือทั้งห้าไปแล้ว และก็ฝันเห็นเธออีก ฝันเปียกในวัยสามสิบกว่า
และวันนี้ เขาก็เหมือนจะหักห้ามใจตัวเองไม่ได้เลย สันดานดิบสันดานผู้ชายมันแสดงออกว่าต้องการกระทำกับร่างกายเล็ก ๆ นี้มากเพียงใด
“พี่โป้งเช็กไข้ของมะเฟืองเสร็จหรือยังคะ”
เธอถามเสียงสั่น รู้ทั้งรู้ว่าพี่เขาไม่ได้เช็กไข้ แต่กำลังจะทำอย่างอื่น
หมอโป้งส่งยิ้มให้เธออย่างเอ็นดู สองตาจ้องมองใบหน้าน้อย ๆ ที่อยู่ในอุ้งมือ เธอหน้าแดงด้วยความอาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นเป็นลูกนกอยู่ใต้ร่างหนาเหมือนเสือป่าอย่างเขา
“เช็กแล้ว แต่รู้ไหม ถ้ามีอาการแบบนี้ หมอต้องฉีดยานะ”
“หื้อ...ฉีดยาอะไร” เธอตกใจกับคำพูดของเขา
“ก็...” เขาส่งสายตาหวานกรุ้มกริ่ม
‘พี่โป้งทำไมมองเราแบบนี้’
“ไม่เอาหรอกค่ะ มีไข้ เดี๋ยวมะเฟืองไปหยิบยาพาราฯ กินเอง และก็ อื้อ...” ริมฝีปากหนาประกบลงมาทันที ตอนนี้ริมฝีปากของพี่โป้งครอบครองปากนิ่มนุ่มของเธอเอาไว้หมดแล้ว หญิงสาวยังนอนสั่นอยู่ภายใต้ร่างหนาของพี่หมอ
‘จะทำอะไรคะพี่โป้ง’ เธอได้แต่ถามเขาอยู่ในใจ ริมฝีปากไม่มีอิสระจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ปลายนิ้วของพี่หมอค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนของเธอออกจนหมด ก่อนจะสอดปลายนิ้วเกี่ยวตะขอเสื้อชั้นในจนหลุด ถึงมะเฟืองจะตัวเล็ก แต่หน้าอกไม่ได้เล็กตามตัวมันดูล้นหลามไปหมด เขาคลุกหน้าลงไปทันทีที่สองถันนั้นเป็นอิสระ
“พี่โป้งคะ อย่าทำค่ะ อย่าทำมะเฟืองเลย”
“ทำไม... ก็มะเฟืองน่ารัก” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตา ก่อนจะก้มหน้าลงไปคลุกใหม่ ลมหายใจร้อน ๆ เป่าลม และปลายจมูกแหลมคมย้ำลงน้ำหนัก เขาสูดลมหายใจเข้า ๆ ออก ๆ จนเธอร้อนรุ่มไปหมด มันวาบหวิวเหมือนหายใจหายคอไม่ค่อยออก
ริมฝีปากของเขายังไม่หยุด ยังอ้าปากอมแล้วดูดกลืนยอดเชอร์รีสีอ่อนเข้าไปอย่างละมุนละไม มะเฟืองขนลุกเกรียวตัวสั่นเหมือนคนจับไข้หนัก
สองมือพยายามยกยันทั้งใบหน้าและลำคอของเขา แต่มันก็ไม่ทานแรงคนหื่นเอาเสียเลย
“พี่โป้งขา อย่าทำมะเฟืองเลย”
“พี่ไม่ไหวแล้วมะเฟือง”
“พี่โป้งคะ ไม่ไหว พี่โป้งก็ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นสิคะ อื้อ...” หญิงสาวยังใช้มือยันลำคอหนาของเขาเอาไว้ แต่ปากของพี่โป้งก็งับขบเม้มแรงเข้าไปอีกนิด
“อ้า... พี่โป้ง... อื้อ...” เธอครางออกมาอย่างเหลือทน ก่อนจะหุบปากสนิท นึกอาย และกลัวใครจะมาเห็นมาได้ยินเข้า
“พี่โป้งจะมีมะเฟืองคนเดียวนะ”
“ไม่ค่ะ อะ...” ขยับปากโต้ตอบกับเขา แต่ก็ต้องเผลอครางครวญออกไป
ปลายลิ้นเรียวตวัดรัว ๆ หยอกเอินกับยอดสีอิ่มอย่างสนุก เขาหายใจกระเส่าแรงขึ้น หน้าขาขาว ๆ ของเธอตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่แข็งมากบดเบียดเสียดสี มะเฟืองได้แต่หลับตาปี๋ นึกภาพมันไม่ออก แล้วต่อจากนี้พี่ชายจะทำอะไรกับเธออีก ปลายนิ้วแข็งแรงจัดการรวบขอบทั้งกางเกงในและกางเกงนอกของหญิงสาวพยายามจะร่นลงไป เธอรีบยื้อยุดจับมันเอาไว้แน่น
“มะเฟือง... อย่าน่า...” เขาร้องห้ามปรามกิริยาขัดเคืองนั้น