5

1300 Words
“เปล่าค่ะ นุ่นจะบอกว่าพี่หมากกลับมาแล้ว” “จริงเหรอ ทำไมป้าไม่ได้ยินเสียง” คุณสุดาหันรีหันขวางกลับมามองข้างหลัง “อ้าว ลูกแม่ กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ” “ครับ” “วันนี้ทำงานเหนื่อยหรือเปล่า” “นิดหน่อยครับ” หมากปั้นยิ้ม ยกมือไหว้มารดา “จ้ะ” คุณสุดารับไหว้ก่อนจะเดินอ้อมโซฟาเข้าไปกอดหอมเนื้อตัวลูกชายด้วยความคิดถึงก่อนจะลงความเห็นว่าเหม็น “ตุ่ยๆ เหมือนเด็ก อาบน้ำหน่อยไหมลูก” “ผมเพิ่งกลับจากทำงานนะครับ ไม่ได้ไปเที่ยว แม่มาถึงนานหรือยัง” ถามพลางเหลือบสายตาไปมองสาวคนนั้น พยายามนึกว่าหน้าตาแบบนี้เคยเจอจากที่ไหน คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยเห็นหน้า “นานแล้วจ้ะ ก็ตั้งแต่บ่ายๆ มั้งเนอะน้องนุ่น” “ค่ะคุณป้า เรามาถึงตอนบ่ายสาม” เด็กสาวตอบ “จริงสิ! หมาก มานั่งนี่สิลูกแม่จะแนะนำน้องนุ่นให้รู้จัก” ท่านลากแขนลูกชายมานั่งร่วมโซฟาชุดเดียวกัน ภูมิใจนำเสนอเด็กสาวหน้าตาน่ารักให้ลูกชายรู้จัก “น้องนุ่น ลูกสาวน้านา หมากจำน้านาเพื่อนข้างบ้านของเราที่ชลบุรีได้ไหมลูก” แล้วภาพเด็กสาวเนื้อตัวดำเปื้อนโคลนก็แวบเข้ามาในหัว ไม่ค่อยได้กลับบ้านชลบุรีบ่อยนักตั้งแต่เริ่มทำงาน สมัยเรียนเขาไปเยี่ยมคุณยายบ่อยก็มักจะเจอน้องคนนี้เล่นซนตามท้องทุ่งนาเป็นประจำ ไม่คิดว่าโตขึ้นมาจะหน้าตาดี ผิวพรรณขาวสะพรั่งขนาดนี้ หนุ่มวัยฉกรรจ์สบสายตาสาววัยใส คราวนี้เป็นฝ่ายน้องนุ่นที่หลบสายตาเพราะอาย “จำได้ครับ น้องนุ่นคนนั้น” “จำได้ก็ดีแล้ว ก่อนอื่นน้องนุ่นสวัสดีพี่หมากหรือยังคะ” “สวัสดีค่ะพี่หมาก นุ่นนะคะ” เด็กสาวพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อยช้อนสายตาหวานมามองนายตำรวจหน้าตาดีฐานะดี บ้านป้าสุดาที่ชลบุรีหลังใหญ่กว่าทุกคนในตำบล ไหนจะบ้านของท่านพลเอก เด็กนุ่นถูกสอนให้ชื่นชมคนบ้านนี้มาแต่เด็กเมื่อมีโอกาสได้พบเจอหมากในเวลาเหมาะสมก็อดไม่ได้ที่จะแอบคิดลึกๆ ว่าการอยู่ร่วมกันจะทำให้เขาหวั่นไหว อาจจะอายุห่างกันมากไปหน่อยแต่สำหรับนุ่นมองว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ สายตาคมเชิงจับผิดที่มองมาทำให้หัวไหล่หญิงวัยกลางคนสะดุ้ง แหม จะมีแม่คนไหนบ้างไม่อยากจับคู่ให้ลูกชายตัวเอง ปีนี้ตาหมากจะสามสิบสี่ เปรียบกับคนในหมู่บ้านเขามีลูกสองคนสามคนกันแล้ว แต่ตาหมากกลับไม่มีเลย ตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่าไปเมื่อสามสี่ปีก่อนไม่เคยเห็นพาใครมาให้พ่อกับแม่รู้จักเลยสักคนเดียว เปลี่ยนแนวไปชอบผู้ชายหรือเปล่าก็ไม่รู้ “กินข้าวไหมครับ ผมซื้ออาหารมาเยอะเลย” “เดี๋ยวก่อน เอ่อ…” ท่านรั้งแขนลูกชายไว้ อึกอัก “มีอะไรเหรอครับ ถ้ามีคุณแม่พูดมาได้เลย” “คืออย่างนี้นะลูก แม่มีเรื่องอยากรบกวนหมากหน่อย น้องนุ่นเขาใกล้จะจบ ม.6 แล้ว อยากสมัครเข้าเรียนกรุงเทพแต่ไม่มีญาติสักคนให้พึ่งพาอาศัย” “ครับ” เขาให้ท่านพูดต่อ “แม่เห็นว่าบ้านช่องของหมากใหญ่โตให้น้องมาขออาศัยนอนสักสองสามคืนน่าจะไม่เป็นไร แม่รับประกันกับน้านาไว้แล้วว่าหมากเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ ยังไงก็ดูแลความปลอดภัยของน้องได้ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง” กว่าจะพูดจบประโยคได้คุณสุดา เอ่อๆ อาๆ หลายหนกลัวลูกชายจะจับได้ว่าตนเองกำลังพยายามจับคู่โดยการยัดเยียดเด็กมาให้ถึงบ้าน เด็กนุ่นก้มหน้าลง ไม่กล้าสบสายตาใคร “แล้วน้านาก็ยอมเชื่อเหรอครับ” หมากถามเสียงเข้ม “แม่รับรองซะขนาดนั้นแล้ว น้านาต้องเชื่อสิ” “แต่แม่ครับ ผมเป็นผู้ชายนะจะให้น้องมาอยู่กับผมสองต่อสองได้ยังไง ไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าผมจะไปเช่าโรงแรมให้น้อง” “แม่จะมั่นใจได้ไงว่าน้องจะปลอดภัย แม่รับปากแม่เขาไว้แล้วอย่าให้แม่เป็นคนผิดคำพูดสิ! ถูกด่ากลับมาจะทำยังไง” “ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า นุ่นไปนอนโรงแรมก็ได้ค่ะ นุ่นเกรงใจ” เด็กสาวสอดแทรกเสียงขึ้นมาพลางวางมือลงบนหัวเข่า เขย่าท่านให้เลิกคาดคั้นหรือบีบบังคับชายหนุ่มที่นั่งหน้าขรึมอยู่ตรงหน้า หมากหงุดหงิด ตวาดใส่ “ไม่ใช่ว่าไม่เต็มใจ แต่เธอเป็นผู้หญิงและยังเด็กมาก บ้านหลังนี้ฉันอยู่คนเดียว ถ้าคนแถวบ้านรู้เข้าจะทำยังไง ไม่มามัดมือฉันให้แต่งกับเธอเหรอ” ตวัดสายตาดุดันมองเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังกลัวหัวหดส่ายหน้าไปมา “ให้น้องอยู่ชั้นล่างหมากก็ไม่ต้องลงมาสิ พรุ่งนี้เช้าน้องก็ออกไปข้างนอกหมากก็ไปทำงาน ยังไงก็ไม่ค่อยได้เจอกัน” “คุณแม่จะให้น้องพักกับผมให้ได้เลยใช่ไหมครับ” เขามองท่านด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ เด็กตัวเล็กแค่นี้ท่านยังกล้าจับยัดใส่มือ ส่งมาให้ถึงบ้าน แล้วคุณน้านาคนนั้นไม่เอะใจอะไรบ้างเหรอ หรือถูกใจอยากได้เขาไปเป็นลูกเขยถึงได้ยอมส่งลูกสาวมาให้ถึงมือถึงปาก คนอย่างเขาเป็นสุภาพบุรุษมากพอจะไม่ล่วงเกินใครก็จริง แต่ถ้าท่านทั้งสองจะจงใจรุมจับเขามัดใส่เด็กนุ่นเขาก็ไม่ยอม! “ทำไมหมากถามแม่อย่างนี้” “ผมจำเป็นต้องถาม ทั้งแม่ทั้งน้านา คิดอะไรกันอยู่ ผมไม่เข้าใจแม่กับน้านาเอาซะเลย” ปากคอหมากร้ายกาจเอ่ยกระทบไปถึงมารดาเด็กสาววัยมัธยม “นุ่น... ไปพักโรงแรมได้ค่ะ” เด็กสาวสะอึกที่ถูกพาดพิงไปถึงบุพการี กลัวหมากจะต่อว่า ว่าแม่ไม่สอน จึงละอายใจจนก้มหน้างุด “โอ๋ หนูนุ่น... ไม่งอนพี่เขานะลูก” “ว่ายังไงครับ จะบังคับผมให้ได้เลยใช่ไหม” เมื่อหมากคาดคั้น คุณสุดาก็ปฏิเสธได้ไม่เต็มปาก “หมากพูดไปเรื่อยเลย ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลูกแม่มีเหตุผล บ้านคุณพ่อไกลจากที่นี่มากแล้วมหาลัยที่น้องสมัครไว้ก็อยู่ตรงนี้นี่เอง นั่งรถไปสิบนาทีก็ถึงแล้วแม่ถึงอยากให้น้องมาพึ่งพาหมาก แถวนี้เดินทางสะดวก ห้างก็มี แท็กซี่ก็เยอะ น้องดูแลตัวเองได้” “สาบานนะครับว่าไม่ได้คิดอะไรจริงๆ สิบสี่ปีนะแม่!” ถามทวนอีกหนมารดาถึงปิดปากเงียบ นั่งสงบเรียบร้อยไม่กล้าปฏิเสธว่าไม่จริง คิดไว้แล้ว แม่อยากจับคู่ให้เขากับเด็กไม่ประสีประสาคนนี้ จีนะจี ไม่ยอมอนุญาตให้คบกันสักทีเขาอยากพาไปเจอพ่อแม่จะแย่อยู่แล้ว อยู่ด้วยกันมาตั้งห้าหกเดือนสมควรคบได้แล้ว! “ขอตัวก่อนนะครับ” สารวัตรหนุ่มหัวเสียฟาดงวงฟาดงาทำหน้าตาท่าทางไม่ดีใส่มารดาจนรู้สึกผิด จึงเดินออกไปหิ้วถุงกับข้าวเข้าไปในครัวจัดอาหารใส่จาน สักพักเด็กนุ่นตามเข้ามาช่วยอุ่นไมโครเวฟ ก้มหน้ามองต่ำตลอดเวลา เกือบจะเดินชนโต๊ะชนเก้าอี้ก็หลายหน หมากอารมณ์เย็นลงแล้วจึงลองชวนคุย คิดดูแล้วเด็กไม่น่าจะรู้เรื่อง ถ้าจะมีการจับคู่จริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นแม่กับน้านา “เข้ามากรุงเทพกี่ครั้งแล้ว รู้จักที่ทางดีแค่ไหน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD