นรินทร์ Say ::
@สวนหลังบ้าน
แกขยันแกล้งฉันนักใช่ไหม เจอฉันบ้าง ฉันใช้แท็บเล็ตเขียนโค้ดที่จะเข้าไปเพิ่มการทำงานของอูริ เป็นการตอบแทน ที่แจ็กเกตแกล้งฉันนนนน ฉันเรียนมาเพื่อสร้าง เขียนให้อูริทำอะไรดีนะ เล่นดนตรีดีกว่า จะได้ เอาให้ร้องเพลงทั้งวัน หงุดหงิดตายไปเลย!!!!!!! หวงนักหนางั้นเหรอ ต้องเจอฉันนี่ ร้ายมา ร้ายกลับไม่โกงงงงง
แกร๊ก ๆ ~* เสียงขยับไปมาของกิ่งไม้มันทำให้ฉันขนสันหลังลุก ตอนเย็นแบบนี้คงไม่มีอะไร รินแจ็กเกต..แกอะคิดมาก แกร๊กกกกก~* เสียงดังของวัตถุที่กระทบมันทำให้ฉันต้องหันหลังไปมอง ผู้ชายหัวตั้งในชุดสูท เอาโทรศัพท์ทิ้งไปแล้วมาคืน ฉันเลยต้องซ่อนแท็บเล็ตไว้ด้านหลังทันที เพื่อซ่อนไม่ให้เขารู้ว่าฉันทำอะไร
"อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!!!! โทรศัพท์นั่นก็เอาไปเลย ฉันไม่อยากได้มันอีกแล้ว" ฉันพยายามคลำหาปุ่มโฮม แต่ที่ทุกคนรู้กัน พวกโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ มันไม่มีปุ่มโฮมตรงกลาง ถ้าใครที่สร้างเจ้าเครื่องมืออะไรพวกนี้ ฝากส่งสารไปบอกด้วยว่า คนเรายังต้องการปุ่มโฮมอยู่นะ [อันนี้ความรู้สึกของไรต์เอง 555]
"ฉันลองสอนดนตรีอูริ แล้วมันไม่ได้เรื่อง ไม่เชื่อดูนี่ดิ อูริ ไหนไล่โน้ตให้ยัยแคระนี่ฟังหน่อย" เสียงที่เปล่งออกมาส่งผ่านหูฟังบลูทูพลิ้ว มันกลับสั่งการอูริในโทรศัพท์ของฉัน เดี๋ยว!!!! สั่งโทรศัพท์ของฉันได้งั้นเหรอ
[โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด] โน้ตที่เปล่งเสียงออกมาของอูริ มันเป็นคีย์เดียวกันหมดเลย มันอดไม่ได้เลยที่จะทำให้ฉันขำมันออกมา
"ฮ่าๆๆๆ สอนยังไง ใช้ไม่ได้" โน้ตอะไร ออกเสียงเดียวกันทุกตัว แต่พอรู้ตัวว่าโกรธไอ้หัวตั้งนี้อยู่ ฉันก็ต้องเก็บอาการทันที
"ฉันไม่ได้เรื่องเรื่องไหน อูริก็ไม่ได้เรื่องเรื่องนั้น เพราะฉะนั้น เธออยากมาช่วยทำให้อูริสมบูรณ์ไหม" คนที่พูด พูดไป ใช้เท้าเขี่ยพื้นไป
เอาง่าย ๆ เลยนะ ฉันไม่ชอบอีตานี่ แต่ฉันอยากจะศึกษาอูริ เอาจริง ๆ คนที่เขียนโปรแกรม ใครเห็นก็ต้องทึ่งในความสามารถของอูริทั้งนั้น เธอเป็นความน่าตื่นเต้นในชีวิตฉัน แต่ฉันเกลียดคนที่สร้างเธอ แต่จะใส่ข้อมูลแปลก ๆ ให้อูริได้ ก็ต้องเข้าถึงได้ ถ้าฉันตอบรับ ฉันจะได้ User ในการเข้าถึงรึเปล่า
"พูดอะไรหน่อยได้ไหม จะเงียบทำไม อย่างน้อยก็ตอบมา ว่าจะอยู่ที่นี่ต่อ พี่ชายเธอจะได้ไม่มางี่เง่าใช่ฉันอีก" คนหัวตั้งเริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียวจากที่ฉันเงียบ คงจะเพราะโดนพี่ฉันไปด่านะสิ สมน้ำหน้า มี
"ไม่ต้องมาง้อฉันหรอกย่ะ ฉันไม่หายโกรธหรอกนะ คุณทำฉันไว้เจ็บแสบมาก ฉันโคตรจะเกลียดคุณเลย ฉันเกลียดนิสัยคุณ ปากของคุณ หัวของคุณ แต่ฉันสนใจอูริ ฉันจะไม่เป็นลูกน้องคุณ จะไม่ฟังคำสั่งคุณ และทำงานที่นี่ ที่บ้านพี่ชายฉัน" ฉันยื่นคำขาด เพราะถ้าไปบ้านเขา เขาก็แกล้งฉันอีก
"มันไม่ใช่ว่าจะป้อนข้อมูลที่ไหนก็ได้ มันก็ต้องเป็นบ้านฉันเท่านั้น ที่เหลือฉันโอเค" เขาตอบออกมาเสียงแข็งแต่ประโยคสุดท้ายกลับเบาบาง
"ไปขอโทษฟลานด้วย"
"อันนี้มากไป!!!! ทำไมฉันต้องไปขอโทษเพื่อนเธอด้วย แค่นี้ก็มากพอแล้วมั้ง ไอ้เพื่อนเธอมันไม่ได้สำคัญกับฉันสักหน่อย ได้คืบเอาศอกจริง ๆ " แล้วคนที่หัวตั้งก็หงุดหงิดใส่ฉันชุดใหญ่
ไรวะ!!!! พูดดีไม่ทันไร ปากหมาใส่อีกแล้ว ไอ้หมอนี่นี่มันเป็นคนยังไง เหอะ...ให้คนนิสัยไม่ดีสองคนมาคุยกัน มันลำบากจริง ๆ
"ไม่ไปอยู่กับเพื่อนแล้วใช่ไหม"
"ไป!!!! " พี่ชายฉันไม่ให้ไป ฉันจะไปยังไง ฉันแค่อยากจะทำตัวขวางโลกใส่ไอ้งี่เง่านี่บ้าง คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ จีบ ฉันจะได้ห่าง ๆ คุณไว้ แต่ถ้าจะแค่กวนตีน บอกเลยฉันตีกลับไม่โกงหรอกนะ
"จะบ้ารึไง แล้วถ้ามันปล้ำ ตัวแค่ลูกหมามันกดที่เดียวก็จบแล้ว จบดอกเตอร์มาได้ไงวะโคตรซื่อบื้อเลย"
"ฉันหลอก พี่ชายฉันห้าม ฉันเข้าใจ แต่คุณเป็นใครไม่ทราบ เอา User มาด้วย ฉันจะไปคิดภาพอูริคร่าว ๆ ในหัว อารมณ์เย็นกว่านี้เราค่อยมาคุยกัน" ฉันถือแท็บเล็บของตัวเอง แล้วพยายามที่จะเดินหนีจากคนงี่เง่า
"ฉันก็ไม่ได้มีอารมณ์อะไร ทำไมต้องรออารมณ์เย็น" เสียงที่ตะโกนถามฉัน มันทำให้ฉันต้องหันไปมองคนที่สำคัญตัวเองผิด
"ฉันหมายถึงตัวเอง ไม่คิดว่าแค่เอาอูริมาล่อ แล้วฉันจะหายเกลียดคุณใช่ไหม ฉันมีความเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันจะเอาอารมณ์ส่วนตัวเก็บไว้ แล้วทำงานร่วมกับคุณก็ได้" ฉันดึงหน้ายียวนใส่คนงี่เง่า ที่หัวร้อนแม่งได้ทุกโอกาส คนงี่เง่าต้องนั่งคุยกับตัวเอง
ไอ้หัวตั้ง แกทำให้ฉันดูเตี้ย
โทร่า Say ::
ผมคิดอะไรอยู่นะ ผมไม่เคยคิดจะให้ใครมาแตะอูริเลย เพราะเธอเป็นสมบัติของผม ไม่สิ..อูริคือผม ผมสร้างเธอเพื่อให้เป็นผมอีกคน เวลาที่ผมเรียกใช้งานอะไร จะได้ดั่งใจแบบที่ผมทำ แต่เพราะผมไม่อยากได้อารมณ์เหมือนคุยกับตัวเอง อูริเลยเป็นเสียงผู้หญิง
[ท่านโทร่ามีอาการกังวล 60%]
"ใช่...การที่ฉันจะให้ใครเข้ามาในโลกส่วนตัวของฉัน ก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา ฉันควรจะสร้างตัวตนให้เธอไหมอูริ" แต่ผมก็พอใจอูริในแบบนี้นะ
[อูริไม่มีสมองในส่วนของการตัดสินใจค่ะ การตัดสินใจของอูริ คือการตัดสินใจของท่านโทร่าค่ะ]
นั่นสินะ ก็เพราะอูริคือผม ผมคงต้องทำการตกลง ว่ายัยแคระจะเข้ามายุ่งกับนิสัยของอูริไม่ได้ ถ้างั้นคงจะต้องการ User ที่จัดการเข้าถึง ป้อนข้อมูลได้แค่ส่วนของความสามารถ จะมาเข้าถึงส่วนของเมนหลักของอูริไม่ได้
[ท่านโทร่า ตัวจับสัญญาจากโทรศัพท์ของคุณอาร์ ได้ในระยะ 30 เมตรค่ะ]
"ไหนบอกว่าเกลียดไง มาทำไม ทำไมผู้หญิงมันเข้าใจยากแบบนี้ ฉันควรไปรับไหมอูริ หรือจะพูดยังไง เฮ้อออ" ถามเธอแล้วจะได้อะไร อะไรที่ฉันไม่รู้เธอก็ไม่รู้
[ความสามารถในการเข้าสังคมของฉันเป็น 0 ค่ะ คุณอาร์เข้าใกล้มาในระดับ 10 เมตรแล้วค่ะ]
ผมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้ววิ่งไปที่หน้าบ้าน โดยมีอูริขานสัญญาณจากโทรศัพท์ของเธอ เพื่อจะไปเปิดประตูให้เธอแบบบังเอิญที่สุด เมื่ออูริแจ้งพิกัดหน้าประตู ผมก็เปิดประตูออกไปทันที
"บังเอิญจังเลย มาทำไม" ผมถามถึงสาวน้อยตัวเตี้ยที่มาเยือนถึงหน้าบ้าน ในยามหัวค่ำแบบนี้
"เสื้อนอก ตัวที่นายถอดของฉันออกไปอะ ในนั้นมันมีกระเป๋าตังค์ ฉันต้องการคืน" เธอหมายถึงเสื้อแจ็กเกตยีนตัวที่เธอลืมไว้ในรถลีมูซีนสินะ
"รถไอ้เก็นมันเอาไปอะ เธอคงต้องรอ รีบใช้เหรอ"
"ใช่ งั้นไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยขอให้อาฟงมาเอาให้" คนที่ไม่ได้ของ พอหมดธุระก็มีท่าทีที่จะกลับทันที
อะไร!!! มาแค่นี้เหรอ จะล่อลวงเข้าบ้านยังไงดีนะ ถ้าเดินไปบอกว่า อ่ออออ ในบ้านมีขนม ยัยนี่จะโดนหรอกไหม ไม่แน่ ๆ ถ้าเห็นแก่กินตัวคงไม่แคระแบบนี้ ทำอะไรหน่อยโทร่า ยังแคระกำลังจะไปแล้ว
"รินนนนน!!!! " ผมเรียกเธอ แล้วเธอก็หันมา ปัญหาผมเรียกเธอทำไม
"ว่า"
"เตี้ย!!!! "
"ปากว่างมาก ก็ไปหาอะไรอมดูนะ เตี้ยแล้วไปหนักหัวใคร!!!!! " เอ้าาาาา เธอโกรธผมอีกแล้ว จับกดแม่งเลยดีไหมเนี่ย ถ้าการจะจีบหญิงมันจะวุ่นวายขนาดนี้
"ฉันมีอะไรจะโชว์" ผมเลือกโชว์ของเล่นใหม่ ที่ผมเพิ่งจะถอยมา
"ฉันไม่ดูจุ๊ดจู๋ของคุณหรอกนะ เบื่อแล้ว ฉันดูใหญ่ ๆ ที่คุณส่งมาครบจะทุกชาติแล้ว แล้วฉันก็ไม่ใช่พวกชอบโชว์" เธอหันมาด่าผมแล้วก็เดินไปเลย ยัยนี่มันชักจะมากไปแล้ว!!!!!
ผมรำคาญจะต่อล้อต่อเถียง ผมเลยเดินไปลากแขนเธอมันซะเลย พูดมากนักก็ฉุดมันเลยแล้วกัน ผมลากแขนคนขาสั้นไปที่ด้านหลังของบ้าน แน่นอนเธอไม่พอใจ แล้วพยายามจะกัดมือผมอยู่ตลอดเวลา นี่มันคนจริงปะเนี่ย ทำไมกับเพื่อนเธอ เธอถึงไม่แสดงอาการแบบนี้เลย ผมเริ่มสงสัยแล้ว สมองอยู่ไหน ใช้แต่อารมณ์ เออ ผมเองก็ใช้แต่อารมณ์นี่หว่า
"เรียกมาดูของเล่นแค่นี้นะ ฉันรวยฉันก็ซื้อได้ แต่ฉันไม่รวยไง!!!! " เธอหันมาแยกเขี้ยวใส่ผม วุ้ว ผู้หญิงอะไร ดุฉิบหาย แต่...แบบนี้ผมชอบนะ
"จุ๊ ๆ มันเป็นอะไรที่ตอกย้ำ ว่าชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่มีทางจะชนะฉัน" ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อนหยิบเอา โทรศัพท์มือถือขึ้นมา ถ้าไม่นับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ภายในผมเปลี่ยนอะไหล่แทบจะทั้งหมด เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานอูริ ผมยัดโทรศัพท์เข้าที่มือของเธอ ก่อนจะยืนซ้อนหลังของเธอ เพื่อจับมือของเธอบังคับ
"อย่าบอกนะว่าาาาา....." เธอหันมาเงยหน้าขึ้นมามองผมที่สูงกว่าเธอมากนัก ก่อนจะกลับไปสนใจของที่อยู่ในมือ
"ใช่เลย ลองแบบนี้ ฉันใช้หลังการเดียวกับการเฮลิคอปเตอร์แบบบังคับเลย โดยใช้การส่งสัญญาณร่วมกับออโต้ไพลอต ตอนนี้จะยังไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้เธอตื่นเต้นได้ใช่ไหม" ผมก้มลงมาคุยกับคนตัวเล็กที่กำลังตื่นเต้น กับของเล่นของผม นี่คงเป็นครั้งแรก ที่เราคุยกันดี ๆ
ผมใช้ชุดคำสั่งรันการทำงานของเฮลิคอปเตอร์ จากตอนแรกที่เอาเครื่องบินเล็กของเฮียหลงมาเล่น แต่มันมีจุดบอดมากเกินไป ผมเลยต้องเปลี่ยนของเล่นมาเป็นเฮลิคอปเตอร์แทน เพราะไม่ต้องการใช้รันเวย์ในการบินขึ้น และเล็กกว่า ลงได้ทุกที่ ที่มีที่ว่าง
"ทำไมมันถึงหน้าตาเหมือนจอยเกม" เธอเงยหน้าขึ้นมาคุยผม แต่เสียงที่เบาบางทำให้ผมก้มลงใกล้กับปากของเธอ เพื่อจะฟังสิ่งที่เธอพูด
"ก็ฉันถนัดแบบนี้" ผมบังคับเจ้าหนูที่หมุนใบพัด จนทำเอาทั้งบริเวณนั้น มีแต่ลมกระโชก เสียงใบพัดที่ดังทำให้ผมได้อยู่ใกล้กับเธอกว่าที่เป็นอยู่ ผมที่พลิ้วสยายทำให้ผมได้กลิ่นยาสระผมของเธอ มันเป็นกลิ่นเดียวกันหมดทั้งบ้าน มันเป็นกลิ่นที่คุ้นเคย แม้ผมจะไม่คุ้นเคยกับเธอเลยก็ตาม ผมขยับตัวส่งสัญญาณ ไม่ต่างจากจอยเกมที่ผมเล่นกับไอ้เก็นบ่อย ๆ โดยผ่านมือเล็ก ๆ ของเธอ มือนุ่มจังเลย
"นายควรจะจะมีเซนเซอร์ด้วยรู้ไหม บางครั้งที่เราไม่เห็น ในตอนที่เราอยู่ใกล้ มันจะได้ไม่ไปชนกับตึกของที่นี่ที่สูงระฟ้า"
"อื้มม เป็นความคิดที่ดีนะ แต่ฉันเพิ่งได้เจ้าหนูน้อยนี้มาแค่ 2 อาทิตย์เอง" ผมพูดจบก็พยายามจะปล่อยมือเธอ ให้เธอได้ลองเล่นกับมันเอง
"อย่าปล่อยนะ!!!! นาย ฉันกลัวทำมันตก" คำขอของเธอทำให้ผมต้องรีบรวบเข้าที่มือของเธอ ก่อนจะให้เจ้าหนูน้อยนี่บินไปรอบ ๆ บ้าน โดยมีคนตัวเล็กมองไปรอบ ที่สำคัญเธออยู่ในอ้อมแขนของผม รอยยิ้มของเธอมันกำลังบอกผมว่า เธอชอบอะไรแบบนี้ หัวใจเต้นดีจังเลย เธอมองตามไฟกะพริบของเฮลิคอปเตอร์ในความมืด จนมาหยุดตรงหน้าผม
หน้าก็บ้าน ๆ ตัวก็เตี้ย นมก็นิดเดียว แต่พยศเก่งนัก ผมไม่ได้รู้จักเธอมาก่อน ผมรู้แค่ สิ่งที่เธออยากให้ผมรู้ แต่ผมบอกได้เลย เธอคือคนที่ละเอียดอ่อนมาก สิ่งที่ทำให้ผมสนใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นงานของเธอ คือเธอเป็นคนที่ทำงานได้ไม่มีบัก หรือช่องโหว่เลย แสดงว่าเธอเป็นคนทำงานได้ละเอียดมาก
"ความสามารถระดับนายเนี่ย ทำไมมาเก็บตัวอยู่ในบ้าน ใช้เงินพ่อแม่ไปวัน ๆ แบบนี้" เสียงที่เบาบางถามผม แต่ผมคิดว่าเธอกำลังเข้าใจผิด ผมไม่เคยขอเงินเขาเลย ผมก็มีการมีงานทำนะ ผมค่อย ๆ เอาฮอลลง เพื่อจะคุยกับเธอแบบเป็นกิจจะ
"งี่เง่ารึเปล่า ฉันมีงานมีการทำเหมือนกัน"
"แล้วสร้างทั้งหมดนี่ไว้ดูคนเดียว ภูมิใจเหรอ ฉันนะ...ต้องการที่จะทำให้คนจดจำฉันได้ ฉันพยายามทุกอย่าง ตั้งใจเรียน สอบเทียบ ฉันถูกเทียบเชิญไปเรียนโรงเรียนเด็กแบบฉันที่อังกฤษ แต่ฉันต้องสอบประเมินตัวตัวเอง ตอนนั้นฉันแค่ ป.6 เอง ผลการทดสอบของฉันค่อย ๆ เลือกทางให้ฉันไปเรื่อย ๆ ไม่มีใครเคยถามว่าฉันอยากจะทำอะไร มีแต่คนบอกว่าฉันทำอะไรได้" เธอเล่าเรื่องของตัวเองออกมา ก่อนใช้มือสองข้างแหวกแขนของผม ที่ยังเนียนถือโทรศัพท์แม้จะไม่ได้บังคับฮอลแล้ว
"อยากทำอะไร" ผมถามถึงสิ่งที่เธออยากทำ
"เอ๋!!! ไม่รู้สิ มาถามตอนนี้ ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ฉันยังตามหาแพสชั่นในชีวิตอยู่ ตอนแรกฉันคิดว่าฉันทำระบบรักษาความปลอดภัยได้ดี จนมาเจอนายเจาะมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันเลยมั่นใจ ว่าฉันแค่ทำมันได้"
"เธอไม่เคยทำมันได้ดีในสายตาของฉัน แต่ฉันชอบความพยายามจะปิดข้อบกพร่อง ฉันจะพาเธอไปดูอะไรที่บอกว่ามันเป็นระบบรักษาความปลอดภัย" ผมลากแขนเธอเข้าไปในบ้าน แน่นอนครั้งนี้เธอไม่ได้ต่อต้าน ก่อนจะให้เธอรอที่หน้าประตู
"อูริ เปิดระบบรักษาความปลอดภัย"
[อูริ เปิดระบบรักษาความปลอดภัยแล้วค่ะ] คำสั่งเสียงของผม ทำให้อูริรันโปรแกรมที่ผมเขียนเอาไว้ เพียงแค่เธอขยับ ประตูทุกในบ้านก็ปิดทันที แน่นอนไอเดียนี้มาจากเธอ แต่โปรแกรมของเธอมันใช้เวลารัน 4 นาที นานเกินไป มันทำให้คนแบบพวกผมหาเวลาหนีได้
"มันเป็นการทดลอง จากระบบรักษาความปลอดภัยของเธอ ฉันแค่คิดว่าถ้าฉันทำบ้างจะเป็นยังไง ก็อย่างที่เห็น ไม่ใช่เธอไม่เก่ง แต่...ทรัพยากรที่คนธรรมดามีมันจำกัด ช่องว่างของความเป็นไปได้มันเลยกว้างขึ้น เธออยู่กับความเป็นไปไม่ได้มากเกินไป คนเราให้โรงเรียนมาสอนคำว่าเป็นไปไม่ได้มากเกินไป คนที่ไม่ได้จบปริญญา ทำงานไม่ได้เหรอ ก็ไม่ใช่ ฉันเรียนไม่จบ เพราะฉันเบื่อ ฉันเก่งกว่าอาจารย์ที่สอน ฉันจะเรียนไปทำไม ถ้าอาจารย์ไม่สามารถสอนที่ฉันอยากรู้ แล้วให้หลักสูตรเป็นตัวสอนเรา มากกว่าสิ่งที่เราต้องการ" ผมมองหญิงสาวตรงหน้าที่หรี่ตามองผมอย่างไม่พอใจ
"นายรวยอะ จะทำอะไรก็ได้ ฉันเนี่ยเด็กทุน เลือกได้เหรอ"
เบื่อจังเลยนะพวกคนจนเนี่ย ผมก็เกลียดความจน ผมแฮ็กระบบกาสิโนเพื่อหาเงินมาตั้งแต่ 8 ขวบ โดยมีไอ้เก็นไปไหนมาไหนกับผมทุกที่ จนมาเจอตาแก่ของบ้านนี้ ที่ยื่นโอกาสให้ผม คอยดูแลผมไม่ต่างจากลูก ในฐานะเสือขาว แห่งไป๋กรุ๊ป
"ตอนนี้ฉันจะให้พรเธอ 1 ข้อ เธออยากจะทำอะไร" ผมพาเธอเดินเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงห้องทำงาน ไม่ใช่ห้องที่ชั้น 4 แต่เป็นของทำงานของผมจริง ๆ มีเตียง ตู้เย็น กินนอนในนี้พร้อมเลย ที่สำคัญที่นี่มีหน้าจอของคอมที่แทบจะรอบตัวเลย
"ฉันไม่ใช่เด็กนะยะ มาเชื่อเรื่องพร เดี๋ยวนี่มันอะไรเนี่ย"
"ห้องทำงานไง ก็ฉันเป็นคนทำอะไรจริงจัง เวลาทำงาน ทุกอย่างมันก็ต้องอยู่ใกล้มืออะ" ผมรีบไปซ่อนบางอย่างที่ผมขโมยมาจากโทรศัพท์ของเธอ ถ้าเธอเห็นอาจจะปรี๊ดแตก คุยกันดี ๆ ไม่ได้อีก
"เป็นห้องทำงานที่ต่างจากที่ฉันคิดเอาไว้มาก ๆ "
"ตอนแรกคิดว่าจะไปทำงานข้างบน มันเพิ่งจะสร้างเสร็จ แต่ฉันชอบที่เล็ก ๆ ของฉันมากกว่า"
"งั้นเหรอ แล้วแบบนี้ฉันจะทำงานตรงไหน" เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง ที่มันคงจะมีแค่ผมกับไอ้เก็นที่อยู่ห้องนี้ได้
ทำงานที่นี่งั้นเหรอ!!!!!!
"อยากทำตรงไหนล่ะ บนเตียงไหม" ผมชี้ไปที่บนเตียงแสนสุข มีผู้หญิง มีเตียง บ้านที่ไม่มีใคร ทุกอย่างมันเอื้ออำนวยไปหมด
เธอเดินไปที่เตียงของผมแล้ว!!!!!!! หรือว่าเธอจะเป็นพวกไวไฟ
"นี่อะไร" เธอสอดมือเข้าไปใต้เตียง แล้วหยิบชุดชั้นในสีแดงแรงฤทธิ์ขึ้นมา แล้วมองผมด้วยสายตาาาาาาาาาที่แบบว่าาาาาาา
อ่าาาาาาา คุ้นตา แสดงว่าผมเป็นคนถอดเอง ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วทำไมอีหนู ไม่เอากลับไปด้วยล่ะ
"ของไอ้เก็น" ผมโบ้ยเพื่อนทันที
"งั้นเหรอ มันก็เรื่องของนาย ฉันจะไปทำงานข้างบนชั้น 4 อ่อ...วันหลังหัดเก็บให้เป็นที่ มันอุจาดดดดด" เธอหันหลังกลับแทบจะทันที
โธ่หมดกันนนนน!!!! ความดีงามที่สร้างมา!!!
"กลับแล้วเหรออออ" ผมถามคนที่หันหลังกลับ แล้วเดินตรงไปที่ประตูบ้าน
"ดึกมากแล้ว ฉันลืมคิดไปว่า ยังไงนายก็เป็นผู้ชาย อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันมีนัดจะไปทะเล ฉันควรจะไปนอนได้แล้ว"
ผมปล่อยยัยแคระเดินไปถึงประตู เธอลืมอะไรไปรึเปล่า ประตูมันติดระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ จะไปกับฝรั่งนั่นงั้นเหรอ คืนนี้ก็นอนนี่ไปก็แล้วกัน