เล่มนี้มีนิยายสองเรื่องคือ พ่อเพื่อน และ เพื่อนพ่อผมขอนะครับ
(พ่อเพื่อน)
รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ผมจ้างมาจากสถานีรถไฟ เพื่อให้มาส่งยังบ้านไม้กลางส่วนลิ้นจี่ของอำเภออัมพวาอันเป็นจุดหมายปลายทาง ชะลอจอดที่หน้าประตูบ้าน
“เท่าไรครับลุง”
ผมลงรถแล้วถามคนขับมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นชายสูงวัย รูปร่างสัดทัน ผิวเข้มคล้ำอย่างคนไม่กลัวแดด แกถอดหมวกกันน็อคสีดำออกจากศีรษะแล้วหันมาตอบคำถามของผม
“สามสิบครับ”
ลุงแกตอบด้วยสำเนียงซื่อๆ แต่ผมก็ชอบรอยยิ้มที่จุดขึ้นตรงริมฝีปากมีแพหนวดสีดำปรกเอาไว้ เพราะรับรู้ได้ถึงความจริงใจ ตรงไปตรงมา ปราศจากเล่ห์เหลี่ยมอย่างคนเมืองกรุงที่ผมพบเจอบ่อยๆ
“นี่ครับ... ”
ผมยื่นเงินให้ ลุงแกรับเอามาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ดูท่าทางลุงคนนี้เป็นคนคุยเก่ง เพราะว่าก่อนจะขับรถจากไป แกก็ยังชวนผมคุย
“เป็นญาติเจ้าของบ้านหรือไงไอ้หนุ่ม?”
“เปล่าครับ... เอ่อ... ผมเป็นเพื่อนของลูกชายเค้าครับ”
ผมตอบพลางคว้าเป้สัมภาระขึ้นมาสะพาย
“อ๋อ... เพื่อนไอ้อาร์ตนี่เอง”
แกกล่าวพลางสวมหมวกกันน็อคแล้วก็เร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์ออกไปจากหน้าบ้าน ทิ้งผมให้ยืนทอดสายตามองเข้าไปในบ้านไม้หลังใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินดินปกคลุมไว้ด้วยผืนหญ้าสีเขียวขจีและสวนลิ้นจี่โอบล้อมตัวเรือนทั้งซ้ายและขวา
ช่างน่าแปลกที่บ้านทั้งหลังแลดูเงียบเชียบ และในขณะที่ผมกำลังจะตะโกนถามว่ามีใครอยู่บ้างไหม ปากที่อ้าก็มีอันต้องชะงักค้าง... สายตาจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างสูงใหญ่ของหนุ่มใหญ่วัยกลางคนผู้มีใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลา กำลังก้มๆ เงยๆ ขุดดินอยู่ริมรั้ว
“เอ็งมาหาใคร... ”
เสียงทุ้มกังวาน ฉุดผมออกมาจากภวังค์ตะลึงมองในความหล่อเหลา เขาถือเสียมเดินออกมาจากกอตะไคร้ที่กำลังก้มหน้าพรวนดินอย่างขะมักเขม้น
“ผม... เอ่อ... ผมมาหาไอ้อาร์ตครับ”
เสียงตอบของผมตะกุกตะกัก สายตายังไม่ละจากกล้ามอกนูนแน่นไปด้วยมัดเนื้อ เส้นขนสีดำแผ่กระจายทั่วอก ลายสักน้ำมันรูปเสือโคร่งสีดำทำให้ชายผู้นี้ดูน่าเกรงขาม เส้นขนบางส่วนจากแผงอกเลื้อยผ่าแนวซิกแพ็คลงมาถึงสะดือเป็นวงรีสุดเซ็กซี่ ท่วงท่าก้าวเดินช่างองอาจมาดแมน ยิ่งมองผมยิ่งใจเต้น หนุ่มใหญ่คนนี้ช่างมีความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้ว
โอ้ว... อย่าว่ามโนไปเอง... เมื้อกี้ตอนสายลมพัดมาวูบหนึ่ง ผมเห็นกางเกงขาก๊วยบางๆ แนบเน้นกึ่งกลางกาย ทำให้เห็นแก่นกายนูนเด่นเป็นรูปเป็นลำ ทำเอาใบหน้าผมเกิดอาการร้อนวูบวาบ... ให้ตายเถอะโรบิ้น ให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต... นั่นมันบ้องข้าวหลามชัดๆ
“ไอ้อาร์ตไม่อยู่”
หนุ่มใหญ่ตอบ
“อ้าว... ไม่อยู่หรือครับ”
ผมย่นหน้าผาก แววตาผิดหวัง ก็ไหนไอ้อาร์ตมัน
บอกว่าช่วงนี้อยู่บ้านตลอดนี่นา พอผมตัดสินใจมาหาด้วยหวังเซอร์ไพรส์ แต่มันกลับไม่อยู่ ผมนึกด่าในใจว่าไอ้นี่แม่งโกหก
“อาร์ตไปไหนครับ”
ผมถาม
“เมื่อวานไอ้อาร์ตเพิ่งไปเยี่ยมยายที่ต่างจังหวัด”
หนุ่มใหญ่เจ้าของบ้านตอบ
“โธ่... คลาดกันนิดเดียว... ไม่น่าเลย”
ผมทำหน้าผิดหวังอีกครั้ง ยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลรินเป็นสายลงมาข้างขมับ
“จะมาทำไมไม่นัดกันก่อน”
เจ้าของบ้านถามพลางกระแทกเสียมในมือปักดินเอาไว้ใต้ต้นมะม่วง คงนึกสงสัยว่าผมกับไอ้อาร์ตเป็นเพื่อนประสาอะไร จะมาจะไปทำไมไม่นัดหมายกันให้ดี
“ที่ไม่ได้นัดเอาไว้เพราะผมอยากเซอร์ไพรส์ไอ้อาร์ตครับ... ผมอยากทำให้มันประหลาดใจ”
ผมบอกไปตามตรง เพราะว่าที่ตัดสินใจเดินทางมาโดยไม่บอกกล่าว ก็เพราะว่าผมตั้งใจจะทำให้เพื่อนรักแปลกใจ
“ลุงเป็นพ่อของอาร์ตใช่ไหมครับ”
ความสงสัยทำให้ผมต้องถาม เพราะว่าหนุ่มใหญ่คนนี้รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแตกต่างจากเพื่อนของผมโดยสิ้นเชิง ก็ไอ้อาร์ตผิวขาว รูปร่างผอมบาง แต่ลุงคนนี้หน้าตาคมคร้ามออกไปทางลูกครึ่งฝรั่ง ผิวสีแทน ตัวล่ำกำยำไปด้วยมัดกล้าม ความสูงที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้น่าจะเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตรอย่างแน่นอน
“ใช่... ลุงเป็นพ่อเลี้ยงของอาร์ต”
เจ้าของบ้านตอบ ตอนนี้ผมก็เลยถึงบางอ้อ... ที่แท้หนุ่มใหญ่คนนี้คือเป็นพ่อเลี้ยงนี่เอง ถึงว่าสิ... ทำไมรูปร่างหน้าตาแตกต่างจากไอ้อาร์ตเพื่อนผมโดยสิ้นเชิง
“เสียดายจัง... ผมคิดว่าวันนี้อาร์ตอยู่บ้าน ถ้าเป็นแบบนี้ผมคงต้องขอตัวกลับ”
น้ำเสียงของผมบอกความเสียดาย เหลือบมองเมฆฝนกลุ่มใหญ่ทาบเงาทะมึนลงมาเบื้องล่างตรงที่ผมกับหนุ่มใหญ่เจ้าของบ้านกำลังยืนคุยกัน
ลมฝนพัดใบไม้แห้งร่วงพรูลงมาจากต้น ไอดินกลิ่นฝนที่กำลังตกอยู่ในอีกพื้นที่ไม่ไกล ลอยมากระทบจมูกของผมจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นไอของพายุฝน
“ฝนกำลังจะตก... ท่าทางเหมือนจะมีพายุ เอางี้... ถ้าเอ็งยังไม่รีบกลับก็พักค้างคืนที่นี่ก็ได้... เพราะว่าวันมะรืนไอ้อาร์ตก็กลับมาแล้ว”
เจ้าของบ้านเอ่ยชวน และไม่รู้ว่าอะไรดลจิตดลใจให้ผมพยักหน้ารับโดยไม่ต้องคิด
ซึ่งอันที่จริงผมรู้... ว่าอะไรที่ทำให้ผมไม่ปฏิเสธที่จะค้างคืนรอไอ้อาร์ตที่บ้านหลังนี้... ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามของลุงคนนี้... และร่างกายที่บึกบึนกำยำไปด้วยมัดกล้าม
ผมบอกอย่างไม่อายว่าชอบรอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ มันเป็นรอยยิ้มชนิดที่ว่าสามารถสะกดผมได้เลยทีเดียว
ยิ่งตอนที่สายตาของเราประสานกัน... ผมรู้สึกคล้ายกับว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่แม้จะมองไม่เห็น แต่ผมก็รับรู้ได้รุนแรงถึงพลังความร้อนเร่าและความปรารถนาเร้นลับบางอย่าง... ที่ส่งผ่านมาทางสายตาของลุงคนนี้
“งั้นตกลงค้างคืนที่นี่นะ... เอ่อ... ลุงชื่อเสือ”
เจ้าของบ้านกล่าวพลางเดินนำหน้าผมเข้ามาในบ้าน
“ครับ... ”
ผมรีบตอบ พยายามเก็บอาการตื่นเต้นในน้ำเสียง รีบเดินตามร่างสูงใหญ่เข้ามาในบ้านก่อนที่เมฆฝนหนักอึ้งจะกลั่นเม็ดลงมาเป็นน้ำ ซึ่งก็จริงอย่างที่ผมคาดคะเน