“หน้าตาสดชื่นดีนี่หว่า” “แล้วมึงจะให้กูอมทุกข์เหมือนไอ้ภูรึไง เมียไปทำงานทำหน้าเหมือนเมียหนี” เตวิชญ์แกว่งปากมอม ๆ ของตัวเองกระทบเพื่อนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะง้างไม้กอล์ฟฟาดลูกบนพินให้ลอยไปกระทบกับจอมอนิเตอร์ พลางหันมายักคิ้วกวนประสาทใส่ภูดิษ “เมียมึงสิหนี” “โหปากไอ้คุณชายภูดิษนี่...” “ทำเป็นพูดดี วันแต่งงานทำเหมือนจะเป็นจะตาย สงสัยได้แดกน้องเขาแล้วถึงได้หน้าชื่นตาฉ่ำแบบนี้” คนพูดน้อยเอ่ยยาวเหยียด มองเพื่อนตัวดีที่กระตุกยิ้มไม่สะทกสะท้านกับคำพูดเหล่านั้น “งานวันแต่งเขาเรียกว่าอารยะขัดขืนแบบมีนัย” “ห้ะ!” อคินขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกมึงก็รู้ชีวิตอย่างพวกเรามันหนีการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักได้ที่ไหน พวกมึงทำได้แต่ไม่ใช่ว่ากูจะทำได้นี่” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเฉื่อยชาราวกับปลงในชีวิต หากแต่เป็นกลไกเฉไฉกลบเกลื่อนเรื่องที่ภูดิษพูดของเขาก็เท่านั้น “เพราะอย่างนั้นจะแต่งกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ” แ