ว่าที่คู่หมั้นพี่ชายที่อยู่บนเตียง
แสงแดดในยามเช้าสะท้อนกับคลื่นทะเลสีฟ้า สว่างเป็นประกายระยิบระยับ ส่องผ่านม่านสีขาวของห้องวิวทะเลเข้ามากระทบกับเรือนร่างเปลือยเปล่าบนเตียง
ห้องพักชั้นหนึ่งติดริมทะเลประกอบด้วยกระจกสองด้าน โอบล้อมด้วยผืนน้ำสีฟ้ายาวสุดลูกหูลูกตา
ที่นี่คือบ้านพักตากอากาศติดทะเลของตระกูลเทียรศัตวนนท์ หลังจากงานเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่ทางภาคตะวันออก บ้านหลังนี้จึงถูกจัดเตรียมไว้สำหรับคนในตระกูลและแขกกิตติมศักดิ์เท่านั้น
บนเตียงขนาดคิงไซซ์สีขาวสะอาดตา ปรากฏเรือนร่างผอมบางหากแต่อวบอัดไปทุกสัดส่วน ถูกกอดกระหวัดอยู่ข้างกายชายหนุ่มผิวสีแทน เมื่อเสียงคลื่นและแสงแดดรบกวนการนอน เขายิ่งตวัดเอวบางเข้าชิดยิ่งขึ้น อุณหภูมิร่างกายของร่างเล็กราวกับไอน้ำอุ่น ๆ ที่พัดพากลิ่นอะโรมาหอมกรุ่นจากเนื้อกายสาว ช่วยให้ชายหนุ่มผ่อนคลายพอ ๆ กับกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว
“อืมมม”
เตวิชญ์ยกฝ่ามือที่นาบบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า ลูบไล้ตั้งแต่กระดูกสันหลัง พลางกระชากร่างเล็กเข้ามาชิดหน้าท้องแกร่ง ความวาบหวามปานระลอกคลื่นปรารถนาล้นปรี่ จนน้ำลายในคอเหนียวข้นกลืนได้ยากลำบาก เขาเลื่อนปลายนิ้วมาที่เอวคอดกิ่ว ไล่ลงไปที่ขาทั้งสองข้างที่ร้อนผ่าวจนยากจะหยุดได้
ความง่วงซึมและฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เปลือกตาของเขาหนักกว่าปกติ
ปลายจมูกไล้ไปตามเส้นผมสีดำขลับ ส่งจูบอบอุ่นประทับที่ต้นคอคนในอ้อมกอดทั้งที่ยังหลับตา กลิ่นน้ำหอมประจำกายของหญิงสาวยังคุกรุ่นอยู่บนเรือนผม
เกือบจะสัมผัสหากแต่ร่างบางหยุดปลายนิ้วซุกซนเอาไว้ได้
“อื้อออ” เสียงหวานครางแผ่วเบาตอบรับ เมื่อเริ่มรู้สึกตัวจากการโดนรบกวน เธอยกมือห้ามเรียวนิ้วซุกซน ซึ่งกำลังสอดเข้าที่ต้นขาด้านในจากทางด้านหลังทันควัน
หญิงสาวบิดตัวเร่านึกขำไม่น้อยว่าตนเองกำลังติดอยู่ในวังวนความฝัน เนื้ออกอวบขาวผ่องถูกบีบเคล้นพานให้หายใจได้ยากลำบาก จนต้องเอื้อนเอ่ยห้ามปราม “ยะ...อย่าค่ะ”
“ผมไม่อยากหยุดเลย...”
เขาสูดกลิ่นหญิงสาวที่ยังอยู่ในภวังค์หวานอีกครั้ง ปลายจมูกกดลงบนแก้มนวล เลื่อนลงที่ซอกคอกรุ่น สอดท่อนขาเข้าระหว่างเรียวขาเล็ก ใช้เข่าและกล้ามเนื้อแกร่งแหวกทางเข้าไปสัมผัสพื้นที่อ่อนไหว สัมผัสกับน้ำหวามที่กำลังล้นทะลักเพราะแรงสัมผัสของเขา
“อื้อออเดี๋ยวก่อนค่ะ”
“ทำไม” ทำนองแหบพร่าเอ่ยถามกลับทันควัน
เมื่อกึ่งกลางกายแข็งขืนจนเจ็บปวด ร่างสูงครวญครางราวกับสัตว์ติดกับดักของนายพราน
ขยับถูไถหน้าท้องอ่อนนุ่ม
ขณะที่มือยังบีบเคล้นเรือนร่างตรงหน้าเอาเป็นเอาตาย ฝากรอยนิ้วมือไว้บนผิวบอบบาง ดับอารมณ์วาบหวามที่ปะทุขึ้นและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่าย ๆ
“อึก...”
ร่างบางสั่นระริกตะเกียกตะกายอย่างเชื่องช้า
“จะหยุดได้ยังไง ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าผมคลั่งณินมากแค่ไหนหืมม”
“พี่ณิน...? อื้ออ” แพขนตาขยับเมื่อน้ำเสียงที่ได้ยินเริ่มชัดเจนเกินกว่าจะเป็นความฝัน และเจ้าของชื่อนั้นไม่ใช่เธอ
ชื่อที่เรียกออกมาไม่ใช่ณิชาหากแต่เป็นญาณิน
หญิงสาวรีบลืมตาอย่างยากลำบาก เธอปิดเรียวขานุ่มพยายามผลักเข่าที่พยายามจะรุกล้ำสัมผัสดอกไม้หวาน ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อเสี้ยวหน้าแรกที่แทรกผ่านแพขนตากลายเป็นคนคุ้นเคยที่ไม่ควรมาอยู่บนเตียงกับเธอ
คนรักของญาณินพี่สาวของเธอ!
เตวิชญ์!
“คุณเต้!!!”
“ณิชา!”
ดวงตาเรียวยาวเบิกโพลงราวแทบเสียสติ ก้มมองใบหน้าที่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมยุ่งเหยิง หากแต่มีเสี้ยวความสดใสปะปนอยู่บนใบหน้าที่ตกใจ รอยจูบที่เขาฝังบนต้นคอเมื่อครู่ยังแดงก่ำเป็นหลักฐานการกระทำ
เตวิชญ์หมดคำจะเอื้อนเอ่ย
เขาเหวี่ยงตัวเองออกจากร่างหอมหวาน ที่ยังติดกลิ่นเจือจางที่ปลายจมูกราวกับต้องของร้อน แล้วผลักเธอจนกระเด็นไปอีกฝั่ง
น้ำเสียงที่แผ่วเบาไร้การตวาดเอ่ยชื่อณิชาออกมา
ดวงตาว่างเปล่าจ้องเรือนร่างเปลือยเปล่าที่ซุกตัวเข้าในผ้าห่มด้วยความตกใจ มันคล้ายว่าสมองเขาถูกแช่แข็ง ผิดกับหัวใจที่กำลังเต้นระรัว
“ทำไมคุณ...ถึงมาอยู่ในห้องผม”
“ณิ...ไม่รู้ค่ะ” คำปฏิเสธดังเพียงเสี้ยววิ เสียงสะอื้นไห้ก็ดังขึ้น หญิงสาวกุมผ้าห่มแน่นอยู่ที่ปลายอีกด้าน มองใบหน้าเย็นชาที่มีร่องรอยของความเกรี้ยวกราดทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ
เธอเห็นดวงตาเขาแดงก่ำ มันยิ่งทำให้หญิงสาวกลัวจับใจ
เมื่อคืนนี้เป็นงานเปิดตัวโชว์รูมใหม่ของบริษัททีทีไลท์ติ้ง
การที่เธอมาพักในบ้านตากอากาศของเขาไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคนในตันติวาบ้านของเธอ ถือเป็นหนึ่งในแขกที่สนิทชิดเชื้อกับเทียรศัตวนนท์ เนื่องจากทำธุรกิจร่วมกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างญาณินและเตวิชญ์ก็รู้กันทั้งสองบ้าน ถึงแม้ไม่ได้เรียกว่าแฟน แต่ลึกซึ้งเกินกว่าจะเป็นแค่เพื่อนหรือคนสนิท
แต่ความผิดพลาดคือการที่น้องสาวอย่างเธอ อยู่บนเตียงว่าที่พี่เขยอย่างเขา!
“เธอกล้าดียังไงณิชา!!!”
สรรพนามให้เกียรติเปลี่ยนไปทันที
“ณิไม่รู้ค่ะว่าทำไม...ณิถึงมาอยู่บนเตียงคุณเต้” น้ำเสียงสะอื้นไห้ไม่ได้ทำให้เตวิชญ์รู้สึกสงสารเลยสักนิด กลับกันเขารู้สึกว่ามันเสียดแทงเขาจนตัวชา ชายหนุ่มเงยหน้าพลางเสยผมขึ้น ริมฝีปากขบเข้าหากันก่อนจะหลุดเสียงเฮอะออกมา
“เธอไม่รู้เหรอ”
“เมื่อคืน...ณิ...”
งานเลี้ยง
ไวน์
และ...
เธอคิดไม่ออกเลย ใบหน้าหวานขมวดคิ้วทั้งน้ำตาก่อนจะนิ่วหน้า ร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อผู้ชายแสนดีที่พี่สาวพร่ำเพ้อ คว้ามือเธอแล้วกระชากเข้าหาตัว
“เธอไม่รู้หรือเธอจงใจกันแน่”
“ไม่ใช่นะคะ ณิเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมานอนบนเตียงคุณเต้ แล้วยัง...” เธอคิดถึงสัมผัสวาบหวามที่ได้รับก็จมูกแดงก่ำ ไล่ไปจนถึงพวงแก้มใส ฟันเล็กขบลงบนกลีบปากตัวสั่นเทา “ณิไม่รู้จริง ๆ ค่ะ”
“สันดานพวกลูกเมียน้อย มันส่งต่อทางสายเลือดรึไง”
“คุณเต้!”
ณิชาไม่คิดว่าตนเองจะได้ยินคำพูดพวกนี้หลุดออกจากปากเขา เตวิชญ์ในวัยสามสิบสามทั้งสุขุมและสุภาพ ต่อหน้าพี่สาวเธอเขามักประดับรอยยิ้มอ่อนโยน แต่อาการโคลงหัว แค่นยิ้มสมเพช แล้วมองเหยียดมาที่เธอหลังเอ่ยประโยคใจร้ายพวกนั้นออกมา มันทำให้คนที่กำลังร้องไห้เงียบ ๆ สะอึกออกมาทั้งที่ตัวสั่นเทา
ริมฝีปากเล็กอ้าออกราวกับต้องการจะแก้ตัว หากแต่พูดไม่ออก
“คุณเต้หมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันแค่ถามว่าพวกลูกเมียน้อย สันดานอยากจะแย่งของคนอื่นมันส่งต่อทางสายเลือดรึเปล่า เธอถึงหน้าด้านแส่มาเสนอหน้าบนเตียงฉันแทนพี่สาวตัวเองณิชา!!!”
“ณิบอกแล้วไงคะว่าณิไม่รู้ว่าทำไมถึง...”
“เธอจะให้ฉันเชื่อเหรอ ตอแหล! แม่กับลูกคงสวะไม่ต่างกันหรอก”
เผียะ!
เธอกุมผ้าห่มปกปิดตัวเองไว้ ก่อนจะถลาตบเขาฉาดใหญ่ ฝ่ามือเล็กตวัดเข้าใบหน้าเตวิชญ์อย่างรวดเร็ว ริมฝีปากสั่นระริกเพราะแรงขบฟัน ก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
เล็บยาวที่ถูกตกแต่งไว้อย่างดี ถากข้างแก้มชายหนุ่มจนเลือดซิบ ทำเอาเตวิชญ์สบถคำหยาบออกมาด้วยความโมโห
“แม่งเอ๊ย!” แค่แตะเลือดประปรายก็ติดปลายนิ้วเขาออกมาด้วย
“คุณจะดูถูกณิก็ได้ แต่อย่ามาดูถูกแม่ณิ”
“ศักดิ์ศรีของคนที่เธออยากจะรักษา มันหมดไปตั้งแต่แม่เธอคิดจะเป็นเมียน้อยพ่อของญาณิน จนมีคนอย่างเธอออกมาแล้วณิชา”
แม่เธอเป็นเมียน้อยก็จริง แต่เธอไม่ได้คิดจะแย่งเขามาจากพี่สาวสักนิด เสี้ยวความคิดก็ไม่เคย ความรักพี่น้องแน่นแฟ้นจนเกินกว่าจะคิดเรื่องชั่ว ๆ แบบนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงมีสภาพแบบนี้บนเตียงของเขา
“ณิไม่รู้จริง ๆ ค่ะว่าทำไม ฮึก...”
หมับ!
“อึก อื้อออ”
เตวิชญ์แสยะยิ้มร้ายกาจพุ่งเข้าคว้าสันกรามหญิงสาว พลางขยี้มันด้วยปลายนิ้ว
“แม่เธอแย่งพ่อของณิน ส่วนเธอก็อยากจะแย่งฉันจากพี่สาวเธอ หน้าซื่อ ๆ ของเธอเก็บไว้ล่อลวงไอ้พวกตัวผู้หน้าโง่อย่างไอ้ตุลย์เถอะ สวะก็ควรอยู่กับสวะสิ ไม่ใช่บนเตียงฉัน!!!”
เผียะ!
“ณิชา!!!”
ยัยเด็กนี่ตบเขาเป็นรอบที่สองแล้ว ความแสบวิ่งปลาบบนใบหน้าคมเข้ม เตวิชญ์นิ่วหน้าหันมองเธอด้วยท่าทีเยือกเย็น
“ต่อให้พี่ตุลย์เป็นลูกเมียน้อย แต่ดีกว่าลูกเมียหลวงอย่างคุณเป็นล้านเท่า!”
“เฮอะ! อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นเธอกับมันแล้ว ทำไมไม่เสนอหน้าไปขึ้นเตียงกับมันล่ะ มาอยู่ทำไมที่นี่!”