ความรักที่เธอเคยได้รับ ตอนนี้เขาได้มอบมันให้คนอื่นไปแล้ว ส่วนเธอก็คงเป็นได้แค่เศษเสี้ยวความทรงจำจางๆ ที่เขาทำทุกอย่างไปทั้งหมดก็เพื่ออยากแก้แค้น มันคงเป็นได้เท่านั้นจริงๆ สำหรับเธอ
ตลอดการเดินทางกลับบรรยากาศในรถเงียบสนิทจนประวีสังเกตได้แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามอะไรเพราะเจ้านายไม่ชอบให้ถาม และเขาเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะกล้าเข้าไปยุ่งเรื่องของเจ้านาย
จะสงสารก็แต่อีกคนที่เอาแต่นั่งมองออกไปนอกรถว่าจะต้องเจอกับอารมณ์ร้ายๆ ของเจ้านายเขาไปถึงหนึ่งปีเต็มเธอจะทนได้แค่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่าดวงตะวันเขาคิดว่าเจ้านายคงไม่กล้าทำอะไรเธอมาก ก็ออกจะเป็นห่วงขนาดนั้น แถมยังพามาซื้อเสื้อผ้าของใช้เยอะแยะไปหมด ใครอยากเชื่อก็เชื่อไปว่าเจ้านายหมดรักเธอแล้วแต่เขาคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อ ฟันธงได้เลยว่าเจ้านายยังรักผู้หญิงคนนี้อยู่
ตลอดการเดินทางที่เงียบสงบดวงตะวันแทบไม่ยอมถอนสายตาจากนอกรถเลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะเธอไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนชีวิตจะเป็นอิสระ อีกนานไหมกว่าคนข้างกายจะยอมปล่อยให้ออกมาข้างนอกเหมือนอย่างตอนนี้ เธอไม่รู้และไม่คิดที่จะถามอะไรเขาให้มากความเพราะไม่อยากต้องเจอกับคำตอบที่มันจะทำให้เธออีก
ความเจ็บปวดที่คงไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน…
เพราะทุกคนต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันเธอคือผู้หญิงใจร้ายที่บอกเลิกผู้ชายที่แสนดีอย่างเขา เป็นคนเลวที่ทำลายความรัก เป็นผู้หญิงใจง่ายที่เอาตัวเองเข้าแลกกับหนี้สิน เป็นทุกอย่างที่ใครต่อใครอยากให้เห็นโดยไม่มีใครรู้เลยว่าเบื้องหลังนั้นเธอเจ็บปวดแค่ไหน
หากวาคิมคิดว่าเขาคือคนที่สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเธอเล่า…เธอได้อะไรจากมัน!
“เย็นนี้ผมไม่กินข้าวเย็น ดวงตะวันก็ด้วย!” วาคิมเอ่ยขึ้นเมื่อเดินนำอีกคนเข้ามาในบ้าน เขาหันไปสั่งป้าเรือนก่อนจะลากอีกคนขึ้นมาชั้นสองด้วยกันทันทีที่พูดจบ จุดหมายคือห้องนอนของเขาเอง
“อ๊ะ! คุณคิม…” คนที่ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างรุนแรงเมื่อมาถึงร้องขึ้นอย่างตกใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ขยับร่างสูงใหญ่ของคนตรงหน้าก็ทำในสิ่งที่ทำให้เธอตกใจนั่นคือถอดเสื้อออกอย่างช้าๆ สายตาที่เขาจ้องมองกันทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ เพราะกลัวจะยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าที่เป็นกลัว เธอกลัวจริงๆ
“จะถอดเสื้อผ้าออกเองหรือว่าให้ฉันเป็นคนถอด…เตือนเอาไว้ก่อนนะถ้าว่าให้ฉันถอด เธอคงไม่มีวาสนาที่จะได้ใส่มันอีก!” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นก่อนจะถอดกางเกงออก ไม่ได้ใส่ใจท่าทีเขินอายของอีกคนเลยสักนิดเพราะว่าไม่ว่ายังไงคืนนี้เธอกับเขาก็ต้องเป็นของกันและกัน ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปอีก ไม่มีวันแน่!
ดวงตะวันรู้สึกตัวเองกำลังจะตาย เธออยากขัดขืนเขา อยากวิ่งพาตัวเองออกไปจากห้องนี้แต่สิ่งที่ทำได้จริงๆ กลับเป็นค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่ออีกคนขยับมาทิ้งตัวนอนลงบนเตียง เขาไม่ได้ออกคำสั่งด้วยเสียง แต่กลับเป็นสายตาคู่ดุคู่นั้นเสียมากกว่าที่กำลังสั่งเธอด้วยการมองว่าให้รีบทำในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่อย่างนั้นความอดทนของเขาจะหมดลง
หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวยืนขึ้นก่อนจะลงมือปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างช้าๆ มือไม้ของเธอสั่นจนถอดผิดถอดถูก กว่าจะทำสำเร็จเวลาก็ล่วงเลยไปนานหลายนาทีทีเดียวแต่อีกคนกลับไม่ได้ต่อว่า เขากำลังจะฆ่าเธอให้ตายด้วยสายตาที่จ้องมองกันมากกว่า
“ถอดออกให้หมด…ฉันอยากจะเห็นทุกอย่างของเธอแบบชัดๆ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเมื่ออีกคนที่บัดนี้เหลือเพียงชุดชั้นในสองชิ้นห่อหุ้มความงดงามทำท่าจะขยับเข้ามาหากันบนเตียง แน่นอนว่าคำสั่งนั้นทำให้คนที่อายอยู่แล้วกลับอายมากขึ้นไปกันใหญ่ เขาทำเหมือนแกล้งกันทั้งๆ ที่ก็น่าจะรู้ว่าแค่ต้องถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเขาเธอก็แย่แล้ว
“คะ…คุณคิมคะ….”
“ถอดออกเดี๋ยวนี้! อย่าลืมสิว่านี่มันเป็นหน้าที่หลักของเธอ เพราะฉะนั้นควรทำให้ชิน คราวหลังจะได้รู้ว่าฉันชอบแบบไหน ท่าไหน!” คนถูกสั่งเม้มริมฝีปากแน่น เกลียดเขาที่ทำเหมือนเธอเจนจัดกับเรื่องอย่างว่าทั้งๆ ที่ความจริงเธอไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ไม่ว่าจะกับเขาหรือใครก็ไม่เคย แล้วจะให้ทำตัวให้ชินคงไม่ได้
แต่ถ้าจะให้เธอขัดใจเขาในเวลาที่เขา กำลังโกรธเธอก็ไม่กล้า
สุดท้ายจึงกลั้นใจค่อยๆ ปลดตะขอเสื้อในก่อนจะปล่อยให้มันร่วงลงสู่ปลายเท้าพร้อมๆ กับหัวใจที่กำลังใกล้จะหยุดเต้นเข้าไปทุกทีๆ ความงดงามจากสองเต้าที่กำลังปรากฏลงตรงหน้าทำให้อีกคนแทบลืมหายใจไปนานหลายนาที ความสวยงามของเรือนร่างดวงตะวันนั้นทำให้เขาพออกพอใจอยู่ไม่น้อย พอใจทุกอย่างที่เป็นเธอ
แต่พอนึกขึ้นมาว่าตลอดห้าปีที่ต้องห่างสายตาไปหล่อนเคยถูกใครต่อใครสัมผัสมาบ้างก็ยิ่งหงุดหงิด อารมณ์หวงเข้าขั้นรุนแรง
“อีกชิ้นดวงตะวัน…” เขากำชับเสียงแข็งพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเรียบเฉยทั้งๆ ที่ภายในใจกำลังร้อนรุ่มอย่างหนักหน่วงต่อภาพนางไม้เปลือยกายตรงหน้า ที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็แสนถูกใจไปหมด
ดวงตะวันอับอายที่สุดในชีวิตเมื่อต้องรูดเอาชั้นในตัวสุดท้ายออกไปจากร่างกายต่อหน้าอีกคนที่จ้องมองเธอไม่ยอมถอนสายตาไปไหน จนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็กระดิกนิ้วเรียกให้เดินเข้าไปหา
“ป้อนนมให้ฉันสิ ฉันชอบดื่มนมสดๆ ก่อนนม…” หญิงสาวไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้นจนกระทั่งมองตามสายตาของเขากำลังจดจ่ออยู่กับหน้าอกเปลือยเปล่าของเธอเข้า แน่นอนว่าเธออายจนเผลอยกมือขึ้นมาปิดมันเอาไว้ และก็เป็นวาคิมที่ปัดมันออกไปอย่างรวดเร็วราวกับเขาไม่ต้องการให้มีอะไรมาปิดบังมัน ชายหนุ่มค่อยๆ เอื้อมมือประคองสองเต้าเอาไว้ แล้วส่งปลายของมันเข้าปาก
“อ๊ะ!”
สัมผัสแปลกใหม่ทำให้ดวงตะวันสะดุ้งสุดตัว ยิ่งก้มมองริมฝีปากของเขาที่กำลังดูดกลืนปลายถันของเธอเข้าปากเธอยิ่งรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนหรือกับใครมาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่หญิงสาวไม่รู้จะอธิบายยังไงจะชอบก็ไม่ใช่ จะรังเกียจก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่…
“หวาน…อร่อย เคยมีใครทำแบบนี้กับเธอไหม” วาคิมถามหลังจากยอมปล่อยปลายถันออกจากอุ้งปาก เมื่ออีกคนส่ายหน้ากลับมาแทนคำตอบ เขาก็ยิ้มอย่างพอใจที่ได้เป็นคนแรกที่ได้สัมผัสมัน
“อย่าให้ใครหน้าไหนซ้ำรอยฉัน…เพราะว่าฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใครจำไว้!” ชายหนุ่มเตือนสติพร้อมก้มลงจูบเรียวปากสวยอีกครั้งอย่างเอาอกเอาใจ รสสัมผัสที่หยาบกระด้างไร้ซึ่งการอ่อนโยนไม่ได้ทำให้ดวงตะวันเจ็บที่ร่างกาย แต่มันเจ็บที่หัวใจเมื่อได้รู้ซึ้งถึงความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่พี่คิมคนเดิมของเธออีกแล้วในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ผู้ชายใจร้ายตรงหน้าเหมือนกับอดีตคนรักที่แสนดีของเธอได้เลย ไม่มีเลยจริงๆ