บทที่ 13

1396 Words
เย็นวันเดียวกันนั้น.. เซอร์เวย์แทบจะทำงานไม่รู้เรื่อง วันนี้เขาก็เลยไม่รับเคสผ่าตัดด่วน ปล่อยให้หมอคนอื่นรับผิดชอบไป ทำอะไรก็ไม่เป็นอันจะทำชายหนุ่มก็เลยกลับขึ้นมาที่ชั้นบน แกร็ก.. "คุณทำอะไร" "ฉันไม่รู้ว่าคุณหมอจะขึ้นมาเร็วขนาดนี้ ขอโทษค่ะ" หญิงสาวที่อยู่ในผ้าเช็ดตัวเพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ รีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า สายตาคมมองตามไป..ร่างกายของเขาเริ่มร้อนวูบวาบ เมื่อคิดว่าจะลองทำอะไรกับเรือนร่างของเธอดู เท้าแกร่งเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังเอื้อมมือขึ้นไปปลดเสื้อออกจากไม้แขวน "อุ๊ยคุณหมอ" หญิงสาวตกใจ อยู่ดีๆ มือของเขาก็ยื่นมาแกะผ้าเช็ดตัวออก แต่เธอคว้ามันไว้ได้ทัน ใบหน้าคมโน้มลงไปซอกคออีกฝ่ายจากทางด้านหลัง แล้วสูดดม "คุณหมอ คุณจะทำอะไร" "อยู่นิ่งๆ" หญิงสาวที่ไม่เคยถูกชายใดสัมผัสร่างกายแบบใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ตามคำสั่งของเขา ริมฝีปากหนาพรมจูบลงมาจนถึงแผ่นหลัง มือของเขาแนบไว้ที่หน้าอก ในใจหญิงสาวคิดไว้แล้วว่าวันนี้ต้องตกเป็นของเขาแน่ เรื่องนี้มันก็อยู่ในลายลักษณ์อักษรที่เธอได้เซ็นต์ลงไป ที่จริงเขาเขียนขึ้นมาโดยที่ไม่คิดว่าจะแตะต้องตัวเธอหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอนเขาก็เลยมีข้อนี้เผื่อไว้ ซึ่งเธอก็ยอมเซ็นต์..นาทีนั้นไม่ว่าจะให้ทำอะไรเธอทำได้หมดขอแค่เขายอมผ่าตัดให้กับแม่ "ตามมาที่เตียง" ริมฝีปากหนากระซิบพูด โดยที่ยังคงสูดดมกลิ่นกายของเธออยู่ "คุณหมอจะไม่ไปอาบน้ำก่อนเหรอคะ" "ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" หญิงสาวก็เลยต้องได้ทำตามโดยการเดินไปนั่งลงที่เตียง แต่มือของเธอก็ไม่ได้ปล่อยผ้าเช็ดตัวนั้นให้หลุดออกจากหน้าอก มือแกร่งจับร่างบางให้นอนหงายลง และขณะนั้นเขาก็ได้ถอดเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วยเพื่อสร้างอารมณ์ หญิงสาวค่อยๆ หลับตา และปล่อยมือออกจากผ้าเช็ดตัว อยู่มาตั้งหลายวันคิดว่าเขาจะไม่ทำอะไรแล้ว พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ หรือจะเป็นเพราะคุณหมอคนสวยนั่นไปพูดอะไร พวกเขามีปากเสียงกันหรือเปล่า ถึงได้ต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ ผ้าเช็ดตัวที่เหน็บอยู่หน้าอกค่อยๆ ถูกแกะออกโดยฝีมือของอีกฝ่าย จนเผยให้เห็นเรือนร่างระหงที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าเช็ดตัวผืนนั้น หญิงสาวหลับตาอยู่นานพอสมควร เขาก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เธอก็เลยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง "??" มองอีกทีก็เห็นว่าเขาถือผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว นี่อะไรกัน เขาเล่นตลกอะไรกับเธอ ไอยวริญรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ ชายหนุ่มร่างสูงยืนอยู่ใต้ฝักบัวเพื่อคุยกับตัวเองอยู่นานพอสมควร แล้วเขาก็เดินออกมาโดยที่ไม่ได้สวมใส่อะไรปิดบังร่างกายเลย "คุณ?" หญิงสาวที่เผลอมองไปรีบหันหลังให้ คิดว่าเขาจะเปลี่ยนใจแล้ว "อืม" พอเขาเดินเข้ามาใกล้ริมฝีปากหนาก็โน้มลงมาแนบกับริมฝีปากของคนตัวเล็ก "จูบผมหน่อย" วันนี้ยังไงเรื่องอย่างว่าต้องผ่านไปด้วยดี เพราะเขาไม่อยากให้อาการป่วยของเขาไปถึงหูอาจารย์หมอ กลัวว่าเรื่องทุกอย่างจะยุ่งยากมากขึ้น "จูบ?" ในขณะที่พูดริมฝีปากของทั้งสองยังคงแนบชิดกันอยู่ ไอยวริญก็เลยกดริมฝีปากแนบเข้าไปอีก "แบบนี้ไม่ได้เรียกจูบ" ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด ถ้าแบบนี้ไม่เรียกจูบแล้วเขาเรียกอะไรล่ะ ใครจะไปจูบเป็น หญิงสาวทำได้แค่คิดอยู่ในใจ เธอก็เลยค่อยๆ เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย เช้าวันต่อมา.. "เจ็บ" รู้สึกว่าปากตัวเองระบม เพราะเมื่อคืนนี้ทั้งสองจูบกันจนหลับไป เธอก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมเขาถึงไม่ทำอะไรมากกว่าการจูบ แต่ความคิดนั้นต้องได้หยุดลง เมื่อมีคนมาเคาะประตูห้อง หญิงสาวรีบเดินมาเปิดประตู และกำลังจะบอกคนที่มาหาว่าคุณหมอออกไปแล้ว "วันนี้ฉันไม่ได้มาหาคุณหมอ แต่ฉันมาหาคุณค่ะ" "มาหาฉันหรือคะ?" "ฉันอยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับคุณหมอ" อย่างที่รู้กันอยู่สุพัตราเป็นหมอจิตเวช แค่มองดวงตาของอีกฝ่ายสุพัตราก็รู้แล้ว แต่อยากจะรู้ความคิดของผู้หญิงคนนี้ว่าจะสวนทางกับแววตาไหม "ทำไมคุณไม่ถามคุณหมอเองล่ะคะ" "ถามแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าคุณเป็นแฟน" "ก็ตามที่คุณหมอพูดนั่นแหละค่ะ" "เป็นแฟนจริงเหรอคะ" ขณะที่พูดสายตาสุพัตรามองดูริมฝีปากของอีกฝ่ายเพราะมีรอยฟกช้ำเล็กน้อย แถมซอกคอก็ยังมีร่องรอยให้เห็น ไอยวริญรีบหันหน้าหลบสายตา เพราะเธอไม่มีเครื่องสำอางมาปกปิด "ฉันไม่กวนแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ" และนี่มันก็เป็นสัญญาณที่ดี ถ้าเซอร์เวย์ ยอมแตะต้องตัวผู้หญิงคนนี้ นั่นหมายถึงว่าเขาไม่ได้ตายด้าน ก๊อก ก๊อก สุพัตราตรงลงมาหานายแพทย์เซอร์เวย์ที่ห้องตรวจผู้ป่วยชั้นล่าง "ดูคุณจะว่างจังเลยนะ" ชายหนุ่มเหลือบมองเล็กน้อย แล้วก็กลับไปสนใจงานเหมือนเดิม "เป็นไงบ้างคะ รู้สึกร้อนวูบวาบไหม เหมือนผีเสื้อนับร้อยบินอยู่ท้องน้อย" "หึ.. คุณหมอครับคุณเป็นผู้หญิงนะอย่าลืม" "ฉันรู้ค่ะว่าฉันเป็นผู้หญิง แต่ฉันกำลังรักษาผู้ชายที่.." "ไม่ต้องพูดแล้วครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจะรักษาตัวเอง" เซอร์เวย์คิดว่าสุพัตราคงขึ้นไปบนห้องนั้นมาแล้ว และคงเห็นสิ่งที่เขาจงใจทำไว้ให้สุพัตราเห็น ใช่แล้วรอยช้ำพวกนั้นเขาจงใจทำ "แล้วฉันจะคอยติดตามผลแล้วกัน" "ผมไม่ส่งนะ" "รีบไล่กันจังเลยนะคะ" พอแพทย์หญิงสุพัตราออกจากห้องไป โทรศัพท์ของเซอร์เวย์ก็ดังขึ้น >>{"ครับแม่"} {"คืนนี้มาทานข้าวที่บ้านนะลูก"} >>{"ได้ครับ"} ถ้าคนที่โทรมาเป็นพ่อ เขาคงปฏิเสธไปแล้ว แต่นี่เป็นแม่ที่โทรมา เย็นวันเดียวกัน.. "อะไรคะ?" หญิงสาวมองถุงผ้าที่เซอร์เวย์ส่งมาให้ "ไปเปลี่ยนเป็นชุดนี้" "ค่ะ" หญิงสาวรับมันมาแล้วกำลังจะไปเปลี่ยนในห้องน้ำ "เปลี่ยนตรงนี้เลย" "คะ?" "ผมบอกให้เปลี่ยนตรงนี้เลยไง" เสื้อเชิ้ตตัวหลวมที่เธอสวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออก.. "ตามผมมา" พอเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็เดินมาเปิดประตู "คุณจะพาฉันไปพบแม่แล้วใช่ไหมคะ" "ยังไม่ถึงเวลา วันนี้เราจะไปค้างที่บ้านผมกัน" "ไปค้างบ้านคุณหมอเหรอคะ" ถ้าไปค้างบ้านเขาก็ต้องเจอพ่อกับแม่เขาน่ะสิ "จะถามทำไมนักหนา" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินนำหน้าไปก่อน หลายวันแล้วที่เธอไม่ได้ลงมาข้างล่าง ดูทุกอย่างวุ่นวายไปหมด จนรู้สึกแปลกใจตัวเองทำไมเธอถึงชอบแบบที่เขาให้เป็นอยู่ เพราะดูมันเงียบสงบ ไอยวริญนั่งรถมาแบบเงียบๆ จนถึงบ้านของเขา "ลงมาสิ" "ค่ะ" หญิงสาวไม่ได้แปลกใจเลยเขารวยถึงขั้นเป็นเจ้าของโรงพยาบาล บ้านของเขาก็ต้องหลังใหญ่โตเป็นธรรมดา "ป้อ" ขณะที่ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านก็มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดแถมยังเรียกเขาว่าพ่ออีก "ว่าไงครับคนเก่ง ได้ยินข่าวว่าดื้อมากเลยใช่ไหมเรา" เซอร์เวย์อุ้มเด็กคนนั้นขึ้นมา แล้วหอมแก้มแบบเอ็นดู "ป้อ ป้อ " คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือว่า..เขามีลูกแล้วเหรอ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD