ไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเด็กหนุ่มคนนั้นหรอก แค่เห็นหน้าธีโอแล้วจู่ๆ เกิดหมั่นไส้ขึ้นมาเลยต้องขอเสนอหน้าสักหน่อย
การถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวส่งผลให้ธีโอหงายท้องตึงลงไปบนพื้น ความจุกแน่นทำให้เขาไอโขลกเป็นการใหญ่ เพื่อนๆ ที่วิ่งตามมาทั้งสองคนชะงักกึก เกือบจะโวยวายอยู่แล้วถ้าไม่ทันสังเกตก่อนว่าคนที่ส่งลูกพี่ของพวกเขาลงไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นเป็นจอมวายร้ายประจำสถาบัน พอเห็นชัดว่าเป็นเจเรมีก็พากันถอยกรูด เรื่องอะไรจะเอาตัวเองไปรับหมัด รับฝ่าเท้าเล่นๆ กันล่ะแม้ว่าจะมีกันอยู่ถึงสองคนก็เถอะ
“อะ...อะไรวะ แค่ก...”
กว่าจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก็นอนกองอยู่อย่างนั้นหลายนาที เจเรมีแสยะยิ้มขึ้น ทักทายด้วยน้ำเสียงยียวน
“ไม่คิดเลยนะว่าพวกแกก็จะโดดเรียนด้วยเหมือนกัน” ทักทายอย่างนั้นเพราะจำได้ว่าวันนี้ไม่เห็นพวกของธีโอในคลาส
น้ำเสียงคุ้นเคยเรียกให้ชายหนุ่มผมแดงที่ตัวใหญ่ไล่เลี่ยกับอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น ใบหน้าตกกระย่นยู่เหลือบมอง พอเห็นว่าเป็นคู่แค้นก็ตะโกนลั่น
“ทำบ้าอะไรของแก!”
“ฉันต้องถามแกต่างหากว่าทำบ้าอะไรอยู่ อยู่ในช่วงติดสัดหรือไง” เจเรมีเอียงคอ ยิ้มเย้ยถาม หางตาเหลือบมองยังเด็กหนุ่มคนที่ถูกไล่ล่ามาเล็กน้อยซึ่งตอนนี้นอนกองอยู่ที่พื้นไม่ต่างกันกับธีโอเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
ธีโอรับรู้แต่มันใช่เรื่องอะไรของคนตรงหน้าไหมล่ะ เขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขา ไอ้โอเมก้าสวะที่เสนอหน้าไปเดินลอยชายด้านนอกที่ที่มันควรอยู่ต่างหากที่ผิด เขาก็แค่ไล่ให้มันกลับไปอยู่ในที่ของมันเท่านั้น!
หากแต่ไม่ได้พูด ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาเสียเวลาอธิบาย นอกจากแค่นเสียงถาม
“แล้วแกมายุ่งอะไร”
“ก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่เห็นแกวิ่งไล่โอเมก้าเป็นบ้าเป็นหลังก็อดสงสัยไม่ได้ ถ้าติดสัดก็บอกนะ ฉันมียาต้านฟีโรโมนโอเมก้าเหลืออยู่”
มันอยู่ในกระเป๋ากางเกงของอัลเบิร์ต อัลเบิร์ตเกือบจะล้วงยาเม็ดนั้นออกมาให้ธีโอจริงๆ อยู่แล้ว ทว่าต้องชะงักเมื่อธีโอแผดเสียงขึ้นมาก่อน
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน แกอย่ามาแส่!”
คราวนี้เจเรมีแสร้งทำหน้าตกใจที่ถูกพูดใส่อย่างนั้น พลันแสยะยิ้ม
“พูดอย่างนี้แสดงว่ามาหาความบันเทิง แล้วนี่แกซื้อหรือเช่าล่ะ”
ธีโอไม่ตอบ เขาไม่ได้มาทั้งซื้อและเช่า อย่างที่บอกว่าเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นเดินเตร่อยู่ อยากจะเล่นสนุกขึ้นมาก็เลยเข้าไปแกล้ง แต่ไม่ยักคิดว่าเด็กนั่นจะวิ่งหนีตายอะไรขนาดนี้ สงสัยอาจจะแกล้งรุนแรงไปหน่อย
แต่เจเรมีก็ไม่สนหรอกว่าธีโอจะตอบว่าอย่างไร เขาหันไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งสั่นเทาอยู่บนพื้น พลันออกปากถาม
“ไอ้เวรนั่นมันซื้อหรือเช่านายมา”
โอเมก้าคนนั้นเหลือบมองคนถามด้วยแววตาหวาดกลัว ท่อนแขนเรียวโอบกอดตัวเองไว้แน่น ส่งเสียงพร่า
“มะ...ไม่ได้ซื้อหรือเช่าครับ”
“งั้นก็แสดงว่ามันพยายามจะข่มขืนนายงั้นสิ”
เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ และเขาก็ไม่ได้คิดจริงจังขนาดนั้นด้วย รู้อยู่ว่าธีโอกับเพื่อนแค่กลั่นแกล้งตามประสาพวกขี้แพ้ หากแต่พูดอย่างนั้นเพื่อความสนุกของตนเองเท่านั้น ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะทำให้ธีโอเบิกตาโพลงอย่างตกใจ
“ฉันไม่ได้...”
รีบแก้ตัวแต่พูดยังไม่ทันจบเจเรมีก็จุ๊ปาก แทรกขึ้นมาเสียแล้ว
“แกนี่ทุเรศนะ เป็นถึงลูกชายสภาชิกสภาระดับสูงแต่ทำตัวต่ำทรามอย่างนี้ ซื้อก็ไม่ได้ซื้อ เช่าก็ไม่ได้เช่า มาไล่ข่มขืนซะอย่างนั้น ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป พ่อแกคงจะเอาหัวมุดดินหนีอายไม่ต่างอะไรจากนกกระจอกเทศแน่”
ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้! เจเรมีน่ะรู้ดียิ่งกว่าอะไรว่าธีโอเกรงกลัวผู้เป็นบิดาแค่ไหน ยิ่งบิดาเป็นพวกเสียอะไรเสียได้ แต่ไม่มีวันยอมเสียหน้าเป็นอันขาดด้วยแล้ว ถ้ามีข่าวแบบนี้หลุดออกไปเข้าหูล่ะก็ มีหวังเขาโดนเละแน่
“เจเรมี! แก!”
ธีโอตะโกนลั่น โกรธสุดกำลัง พยายามจะดันตัวลุกขึ้นมาหากแต่จุกเกินกว่าจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นได้ เพื่อนของเขาที่มองอยู่รีบปรี่เข้ามาหาหมายจะช่วย ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อเจเรมีไวกว่า แค่เห็นอีกฝ่ายจะตั้งหลัก ก็ปรี่เข้าไปยกขาถีบเข้าที่หน้าอกให้อีกรอบแล้ว
ธีโอหงายหลังล้มลงไปนอนกองบนพื้น มือรีบยันตัวเองไม่ให้นอนราบไปมากกว่านี้ หากแต่ก็ต้องร้องออกมาดังอั้กเมื่อเจเรมีวางเท้าลงไปบนแผ่นอกของเขา พื้นรองเท้าบูทแข็งๆ บดขยี้หน้าอกเล็กน้อย แรงกดที่ผ่านเนื้อผ้าทำให้ชายหนุ่มหายใจแทบไม่ออก ขณะที่เจเรมีโน้มตัวลงมาเอาแขนเท้าบนหัวเข่าของขาข้างนั้น
“เรียกทำไมรึคุณแฮร์ริสัน” ยกยิ้มขึ้นแล้วแสร้งเรียกชื่อตระกูลถามอย่างยียวน
“เอาเท้าของแกออกไป...” ธีโอใช้ความพยายามเป็นอย่างมากทีเดียวที่จะแค่นเสียงออกมา
เจเรมีหัวเราะออกมาดังหึ ทำหน้าเยาะเย้ย “เจ็บงั้นสิ” จากนั้นก็บดแรงจากฝ่าเท้าลงไปอีก
“อะ...เอาออกไป” ธีโอใช้ทั้งสองมือมาจับที่หน้าแข้งของอีกฝ่าย พยายามยกออกแต่ความจุกเสียดทำให้เขาไม่มีแรงเอาเสียเลย
ทั้งที่ตัวก็สูงใหญ่ไล่เลี่ยกัน แต่เวรเอ๊ย! ไอ้หมอนี่แข็งแรงเป็นบ้า!
ก็อย่างว่า เจเรมีได้คะแนนสูงสุดในวิชาศิลปะการต่อสู้ของชั้นปี เป็นวิชาที่เขาถนัดและชื่นชอบที่สุดด้วย จะมาแพ้ให้กับพวกพฤติกรรมต่ำทรามที่มีดีแค่เป็นลูกชายของนายพลแต่ฝีมือไม่เอาไหนได้อย่างไร
ยิ่งเห็นท่าทางจนมุมของอีกฝ่ายที่เอาแต่ปากดีก่อนหน้า เจเรมีก็ได้ใจใหญ่
“ถ้าอยากให้ฉันยกเท้าออกก็หันไปจัดการกับคนของนายก่อนซี่” พยักเพยิดปลายคางไปด้านข้างประกอบการพูด
เจเรมีไม่ได้พูดถึงเพื่อนทั้งสองคนของธีโอแน่นอน ทว่าเป็นร่างบางแคระแกร็นของเด็กหนุ่มผิวแทนที่นั่งสั่นอยู่ตรงนั้นต่างหาก
ธีโอเหลือบมองแล้วก็กัดฟันแน่น “เกี่ยวอะไรกับไอ้โอเมก้าโสโครกนั่น”
“เกี่ยวสิ แกเป็นคนทำให้หมอนั่นตกใจ แถมยังทำให้เจ็บตัวอีก รู้ไม่ใช่เหรอว่าควรทำยังไง”
ธีโอรู้อยู่แล้วว่าเจเรมีต้องการให้เขาเอ่ยคำว่าขอโทษ แต่มันเรื่องอะไรที่ชายหนุ่มจะต้องพูดอย่างนั้นกับโอเมก้าชั้นต่ำกัน! ชั้นต่ำอย่างเดียวไม่พอ ยังมีสถานะเป็นได้แค่ของเล่นบำเรอกาม มันเรื่องอะไรที่เขาจะลดตัวลงไปด้วย
หากแต่การไม่ยอมพูดก็ทำให้เจเรมีเม้มปาก ถอนหายใจออกมาคล้ายกับว่าเบื่อหน่าย
“แกนี่มันหัวดื้อจริงๆ น้า ก็แค่พูดว่า ‘คุณครับ ผมขอประทานอภัยอย่างสุดซึ้งที่จู่ๆ ไอ้หนูของผมมันก็ซุกซนอยากจะเข้าไปในตัวคุณขึ้นมา’ มันยากตรงไหนกัน” แล้วก็ยกขาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกซ้ำลงไปที่จุดเดิม
ธีโอส่งเสียงดังอั่ก ความเจ็บปวดแล่นพล่านไปทั่วจนใบหน้าของเขาเหยเก ป่านนี้อกเขาคงช้ำในไปหมดแล้ว
“ปะ...ปล่อย” แค่นเสียงออกมาอีกครั้ง รู้สึกว่าเหมือนจะเริ่มหายใจไม่ออก
“ถ้ามันยาวไปก็สั้นๆ ก็ได้ พูดขอโทษมันไม่ยากหรอกมั้ง เอ้า พูดสิ”
เจเรมีไม่ได้ฟังเสียงผะแผ่วนั่นเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ทำหน้าระอา บดขยี้ปลายรองเท้าพลางปากก็ข่มขู่ไปเรื่อย
ปีศาจ! หมอนี่มันปีศาจ!
เสียงในหัวของธีโอดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาอยากหลุดรอดออกไปจากเงื้อมมือของจอมวายร้ายนี่แต่ก็ไม่อยากจะเสียหน้าไปพูดขอโทษโอเมก้าอย่างนั้น ทำให้เจเรมีทวีความรุนแรงในการประทุษร้ายอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก
การกระทำของเจเรมีนับว่าอุกอาจเลยทีเดียว แม้แต่เพื่อนสนิทที่เห็นเขาทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยครั้งยังใจสั่น โอเมก้าที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเองก็กลัวว่าการกระทำของเจเรมีจะส่งผลเสียมาถึงตนจึงรวบรวมความกล้า เปล่งเสียงออกไป
“ยะ...หยุดเถอะครับ ผมไม่เป็นไร ปล่อย...ปล่อยเขาไปเถอะ เป็นความผิดของผมเอง” พูดแล้วก็ก้มหน้าก้มตา ตัวหมอบลงกับพื้น แสดงท่าทางยอมแพ้อย่างชัดเจน
เจเรมีหันไปมองแล้วร้องดัง ‘หา!?’ คล้ายกับกำลังคิดว่าทำไมถึงได้ยอมจำนนง่ายดายขนาดนั้น ทว่ายังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร อัลเบิร์ตที่มองดูอยู่นานก็อดไม่ได้ ว่าออกมาบ้าง
“พอเถอะเจมี เดี๋ยวมันจะบานปลายใหญ่นะ”
ที่ไม่ห้ามตั้งแต่ตอนแรกเพราะตัวเองก็เขม่นกับธีโออยู่เหมือนกัน เพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้เลยยืมมือเจเรมีจัดการ ส่วนตัวอัลเบิร์ตเองก็ยืนชมความสนุกนั้นอย่างเพลิดเพลินไป
“แล้วไง” เจเรมีเอียงคอมามองอัลเบิร์ตทำหน้าเครียด
“คนที่เดือดร้อนจะไม่ใช่นายน่ะสิ”
กะว่าจะไม่สนใจอยู่แล้ว แต่พออัลเบิร์ตว่ามาอย่างนี้พร้อมกับเหลือบมองไปยังร่างสั่นเทาบนพื้น เจเรมีก็พ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง หงุดหงิดเล็กน้อยที่การเล่นสนุกของเขาต้องจบลงก่อนถึงเวลาอันสมควร
“สำนึกในบุญคุณของหมอนั่นเอาไว้ให้ดีล่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะหมอนั่น ฉันจะเหยียบแกให้จมดิน” เจเรมียอมยกขาขึ้นจากอกของธีโอได้ แต่ก็ไม่วายกระทืบส่งท้ายเต็มแรงไปอีกที