หลายวันต่อมา
โรสสิรินก็ออกตามหาพ่อของเธออยู่เหมือนเดิมทุกวัน โดยที่มีนักสืบที่เพื่อนสนิทหามาให้คอยช่วยสืบหาอีกทาง แต่ก็ไม่มีวี่แววเลยเพราะภาพล่าสุดที่เธอมี เป็นภาพตอนที่สมัยพ่อเธอยังหนุ่มๆ อยู่ ตอนนี้ผ่านมาหลาย 10 ปีแล้ว หน้าตาและรูปร่างก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลาซึ่งมันยากต่อการค้นหามาก
และเธอก็ไม่ได้รู้จักใครที่รู้จักกับพ่อของเธอเลย
“เหนื่อยจัง” ร่างเล็กบ่นพึมพำก่อนจะเดินเข้าไปนั่งพักตรงม้าหินอ่อน ซึ่งด้านหลังเป็นบริษัทใหญ่ที่เพื่อนสนิทของเธอทำงานอยู่
บรืน~
รถสปอร์ตหรูแล่นเข้ามาจอดใกล้ๆ ตรงม้าหินอ่อนที่เธอนั่งอยู่ โรสสิรินเหลียวไปมองโดยอัตโนมัติ คนที่จะมีรถแบบนี้ได้ต้องรวยน่าดูเลยสินะ เพราะเท่าที่เธอรู้มารถรุ่นนี้ไม่ได้ซื้อได้ในไทย แต่ต้องนำเข้ามาจากเยอรมัน
เจ้าของรถเปิดประตูลงมา ทำเอาโรสสิรินถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว
เพราะเจ้าของรถคือผู้ชายที่หาว่าเธอบ้า และเธอก็ได้จัดการไปเมื่อไม่กี่วันผ่านมา ไม่อยากจะเชื่อว่าแผลจะหายเร็วได้ขนาดนี้
“อีตาบ้านี่หว่า” เธอพูดพึมพำพร้อมกับจ้องมองที่ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเรียบหรูนั้น
และเขาก็หันหน้ามาเจอกับเธอพอดี
“ยัยบ้านี่หว่า”
“นายว่าใครบ้าห๊ะ!?” โรสสิรินดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ โดยไม่มีท่าทีว่าจะกลัวอะไรเลย
“แล้วนี่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“มันเรื่องของฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายสักหน่อย ตรงนี้นายเป็นเจ้าของเหรอ?”
“ใช่ นี่เป็นบริษัทของฉัน และพื้นที่เธอเหยียบอยู่ก็เป็นพื้นที่ในบริษัทของฉันเหมือนกัน”
“….” โรสสิรินขมวดคิ้วย่น ถ้าอย่างนั้นเจ้านายที่แสนจะเนี๊ยบก็เป็นผู้ชายคนนี้น่ะสิ
จินเพื่อนสนิทของเธอเคยบอกเอาไว้ว่าเจ้านายของเธอไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัดยังไม่กลับมา แล้วผู้ชายที่เธอเล่นงานไปเมื่อหลายวันก่อนล่ะเป็นใคร ทำไมถึงได้หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ
“นะ นายเพิ่งกลับมาเหรอ?”
“อืม แต่เธอกลับมาได้ยังไง ฉันให้ลูกน้องออกมาตามแต่ไม่มีใครเจอเธอแล้ว” หลังจากนั้นเขาก็ให้ลูกน้องออกมาตามหาเธอเพราะกลัวว่าเธอจะได้รับอันตราย แต่ก็ไม่มีลูกน้องคนไหนหาเธอเจออีกเลย
“เรื่องของฉัน”
“ถามดีๆ แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่”
“ก็เรื่องของฉันอีกอยู่ดี”
“ฉันถามดีๆ นะ ก็ตอบดีๆ ขอโทษที่วันนั้นหาว่าเธอบ้า”
“ชิ!”
“แล้วนั่นหางานทำอยู่เหรอถือใบปลิวอะไร?”
“ฉัน…ฉัน…ช่างมันเถอะไม่เกี่ยวอะไรกับนายหรอก” โรสสิรินเก็บใบปลิวที่ใช้ติดประกาศตามหาพ่อของเธอยัดใส่กระเป๋าสะพาย เพราะไม่รู้จะอธิบายให้ผู้ชายคนนี้ฟังยังไงดี
“จะเข้าไปด้านในกับฉันไหมล่ะ”
“ไม่อะ ฉันจะกลับห้องแล้ว”
“อ๋อ”
พูดจบโรสสิรินก็หันหลังเดินออกไปทันที ปล่อยให้ภากรยืนงงอยู่กับการกระทำของเธอ
พ่อของเขาเคยบอกกับเขาเอาไว้ว่ามีผู้ชายคนนึงขายบ้านหลังนี้ให้กับพ่อของเขาแล้วก็หายไปเลย พอเขาเอากลับมาคิดดูผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นลูกสาวของผู้ชายที่ขายบ้านไป แต่เธอน่าจะไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้ถูกขายต่อไปแล้ว เขาก็เลยให้ลูกน้องออกไปตามหาเพราะกลัวว่าเธอจะเกิดอันตราย แถวนั้นโจรขโมยมันเยอะ แต่ก็ไม่มีใครเจอเธอเลย
จนกระทั่งได้มาเจอเธอที่นี่
“คุณภากรครับ ถึงเวลาประชุมแล้วครับ”
“อ่า โอเค” เขามัวแต่มองโรสสิรินเดินออกไป จนลืมไปเลยว่าวันนี้ตัวเองมีประชุมใหญ่กับผู้บริหารคนอื่นๆ
เวลาต่อมา
หลังจากที่ประชุมเสร็จภากรก็มานั่งทำงานที่ห้องทำงานของตัวเองตามปกติ แต่วันนี้เขาใจลอยมากในหัวมีแต่หน้าของโรสสิริน ผู้หญิงที่เขาเพิ่งจะได้เจอแค่สองครั้ง ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอนั้นชื่ออะไรเป็นใครมาจากไหน แต่เธอกลับมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขามาก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“กาแฟค่ะบอส”
“ขอบคุณครับ”
“บอสอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ?”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวคุณไปเรียกการ์ดที่อยู่ข้างนอกให้เข้ามาหาผมทีนะ”
“ได้ค่ะบอส” เลขาสาวเดินออกไปจากห้องได้ไม่นาน การ์ดสองคนก็เปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง
“คุณภากรมีอะไรให้พวกเราสองคนรับใช้เหรอครับ”
“จำคนที่มาที่บ้านของฉันเมื่อหลายวันก่อนได้ไหม”
“ผู้หญิงที่ไปที่บ้านพักริมทะเลน่ะเหรอครับ?”
“อืม…”
“จำได้ครับมีอะไรหรือเปล่า”
“เธอทำอะไรอยู่ตอนนี้ ก่อนที่จะเข้ามาในบริษัทฉันเห็นเธอนั่งอยู่ที่หน้าบริษัทด้วย”
“อ๋อ ผมเห็นเธอไล่เอาใบปลิวไปติดประกาศตามหาพ่อของเธอครับ”
“ตามหาพ่อ?”
“ครับ เห็นคนที่นี่บอกว่าทำแบบนี้มาได้สักพักแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจอะไร”
“….” ที่เธอไปที่นั่นก็เพื่อที่จะตามหาพ่อของเธอหรอกเหรอ ภากรนั่งคิดในใจ
“เห็นว่าเป็นเพื่อนกับคุณจินตนาด้วยนะครับ”
“เป็นเพื่อนกับจินตนา”
“ครับ”
“ไปเรียกจินตนามาพบฉันหน่อย”
“ได้ครับคุณภากร” ไม่ต้องมีใครได้ทำงานเลย เพราะภากรสนใจเรื่องของโรสสิรินมากกว่า
ผ่านไปสักพัก
แกร้ก~
“มีอะไรหรือเปล่าคะบอส”
“นั่งลงก่อนสิ”
“ค่ะ”
“ผู้หญิงคนที่ติดประกาศตามหาพ่อเป็นเพื่อนของเธอเหรอ?”
“ใช่ค่ะเป็นเพื่อนสนิท บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ฉันอยากคุยกับเพื่อนของเธอ”
“???”
“เรื่องบ้านริมทะเลที่พ่อของเพื่อนเธอขายต่อให้กับพ่อของฉัน บางทีเรื่องนี้พ่อของฉันอาจจะช่วยได้ ว่าพ่อของเพื่อนเธอไปอยู่ที่ไหน”
“แต่โรสมัน…”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“โรสมันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ค่ะ มันกลัวว่าแม่มันจะจับได้แล้วก็เรียกให้มันกลับฝรั่งเศส มันอยากตามหาพ่อให้เจอก่อน”
“เพื่อนของเธอก็ติดประกาศแบบนั้นแล้ว ทำไมถึงต้องกลัวด้วยล่ะ ยังไงก็ต้องมีคนรู้อยู่แล้ว”
“มีคนรู้ก็จริงค่ะ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าโรสมันเป็นคนที่ติดประกาศนั้น”
“เอาเป็นว่าให้เพื่อนของเธอมาพบฉันก็แล้วกันนะ แล้วฉันจะช่วยเรื่องนี้เอง”
“เอ่อ เรื่องนี้จินต้องคุยกับโรสก่อนนะคะ จินตัดสินใจแทนเพื่อนไม่ได้”
“ตามใจ ถ้าตกลงเมื่อไหร่ก็ติดต่อมาหาฉันที่เบอร์เดิมนั่นแหละ”
“ค่ะบอส”
“ออกไปทำงานต่อเถอะ ฉันไม่มีอะไรคุยแล้วล่ะ”
“ค่ะ”