เช้าวันต่อมา
“ยัยโรส!”
“อือ…” ฉันขานรับเสียงของเพื่อนสนิท ตั้งแต่เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเลย แล้วก็ไม่ได้กินอะไรเลยด้วยไม่มีแรงแล้ว
“อะไรวะเนี่ย”
“….”
“ไปๆ ขึ้นรถก่อน” จินพยุงฉันไปขึ้นรถของมัน
ฉันนั่งรออยู่ที่ศาลาข้างทางจนเช้า แต่ก็ยังหารถไม่ได้ฉันเลยโทรให้จินมาขับรถจากกรุงเทพมารับที่นี่
ที่ฉันอยากไปเองก็เพราะว่ามันไกลไม่อยากให้จินเสียเวลางานมารับฉัน แต่สุดท้ายฉันก็ต้องให้มันมารับจริงๆ เพราะว่าหารถไม่ได้
จินคือเพื่อนของฉันสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ด้วยกันเราสองคนจบเมืองนอก แต่จินกลับมาก่อนฉัน
บนรถ
“ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
“ฉันมาหาพ่ออะ”
“พ่อแก? ที่บอกว่าอยู่บ้านพักริมทะเลน่ะเหรอ?”
“อื้ม” ฉันตอบจิน
“แล้วทำไมถึงออกมาล่ะ?”
“ฉันไปเจอใครก็ไม่รู้ไม่ใช่พ่อของฉัน เค้าบอกว่าเค้าซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากพ่อของฉันแล้ว แถมยังให้ลูกน้องมาลากฉันออกจากบ้านอีก ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้นิสัยเสียมากเลย” ฉันบ่นให้จินมันฟัง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดนะฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนนิสัยเสียเท่านี้มาก่อนเลย
“แล้วแกจะเอายังไงต่อไป?”
“ก็คงต้องหาห้องเช่าอยู่ก่อนนั่นแหละ ออกตามหาพ่อไปในตัวด้วยไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน”
“แล้วทำไมพ่อของแกเพิ่งขายบ้านหลังนั้นล่ะ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉันพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งอยู่ในอก
หลายปีก่อนพ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักมาก และตอนนั้นพ่อก็ติดการพนันติดเหล้าด้วย แม่เลยพาฉันหนีออกมาจากบ้านปล่อยให้พ่ออยู่คนเดียว ภาพในวันนั้นฉันยังจำมันได้ดี
แม่ของฉันพาฉันไปอยู่ที่เมืองนอกกับคนรู้จัก และแม่ก็ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนึง แต่พ่อเลี้ยงของฉันก็ดีนะเขาส่งให้ฉันเรียนจนจบตามใจฉันทุกอย่าง ฉันรู้แค่ว่าพ่อเลี้ยงของฉันอยากมีลูกมาก แต่ตัวเองเป็นหมัน จนกระทั่งได้มาเจอฉันกับแม่ เขาก็เลยรักฉันมากรักฉันเหมือนกับลูกคนนึงเลย
จนตอนนี้ฉันบอกกับแม่ว่าฉันจะกลับมาเที่ยวหาเพื่อนที่เมืองไทย แต่ความจริงฉันอยากมาหาพ่อ ฉันรู้ว่าแม่กับพ่อกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว แต่คำว่าพ่อลูกมันก็ตัดไม่ขาดอยู่ดี อย่างน้อยฉันก็อยากเห็นหน้าพ่ออยากรู้ว่าพ่อเป็นอยู่ยังไงสบายดีหรือเปล่า
เวลาต่อมา
~ คอนโด ~
“แกไม่ต้องออกไปหาห้องเช่าอยู่ คอนโดของฉันมีพื้นที่กว้างอยู่ แกพักอยู่กับฉันเนี่ยแหละฉันจะได้สบายใจ”
“อืม ขอบใจแกมากนะ”
“แล้วนี่แกจะกลับไปฝรั่งเศสเมื่อไหร่”
“ยังไม่มีกำหนดเหมือนกัน ฉันอยากตามหาพ่อให้เจอก่อน อยากรู้ว่าพ่อเป็นยังไงบ้างสบายดีหรือเปล่า”
“โอเค แกก็อยู่ในห้องของฉันได้ตามสบายเลยนะ และฉันก็ขอให้แกเจอพ่อเร็วๆ”
“ขอบใจแกมากนะ ว่าแต่วันนี้ฉันทำให้แกเสียงานหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่หรอก ฉันลาพักร้อนได้สักพักแล้วล่ะ”
“ฉันก็นึกแต่ว่าแกทำงานก็เลยไม่ได้โทรมารบกวนแก ไม่อยากทำให้แกเสียงาน ยิ่งรู้ว่าเจ้านายของแกดุอย่างกับหมา ฉันยิ่งไม่อยากทำให้แกโดนดุ”
“เถอะน่า คุณภากรเค้าก็ดุเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นฉันขอนอนก่อนนะ เมื่อคืนไม่นอนทั้งคืนเลย”
“โอเคๆ ห้องของแกอยู่ทางนั้นนะ”
“จ้ะ”
เวลาผ่านไป
ก็นั่นแหละฉันไม่ได้นอนหลับทั้งคืนพอได้พักผ่อนฉันเลยนอนยาว ฉันไม่รู้ว่าฉันหลับไปนานแค่ไหนรู้แต่ว่าตื่นมาอีกทีก็มืดแล้วน่าจะหลับไปทั้งวันเลย
“อือจิน…” ฉันลากสังขารเดินออกมาจากห้องนอน จินมันกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ ฉันนึกว่าแกจะตื่นพรุ่งนี้เช้าซะอีก”
“กี่โมงแล้วอ่า”
“จะสามทุ่มแล้ว”
“อือ…เดี๋ยวฉันลงไปหาอะไรกินข้างล่างก่อนนะ”
“ตามใจ”
ก็งัวเงียนั่นแหละแต่ก็หิวเหมือนกัน กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องใช่ไหมล่ะ
ฉันหยิบเสื้อแขนยาวมาใส่คลุมไว้ เพราะฉันใส่แค่เสื้อสายเดี่ยวนอน จากนั้นก็คว้ากระเป๋าสตางค์เดินลงไปหาของกินด้านล่าง
ฉันรู้ว่าจินมันไม่ค่อยทำอาหารกินเองหรอก ส่วนใหญ่ก็จะซื้อเป็นอาหารสำเร็จรูปมาเลย
ด้านล่างขนาดดึกแล้วก็ยังมีคนเดินพลุกพล่านอยู่ มีร้านขายของกินเยอะแยะเต็มไปหมดเลย ก็ไม่แปลกหรอกที่คืนทั้งคืนแถวนี้จะมีคนไม่หลับไม่นอน เมืองกรุงนี่นา ถ้าเป็นบ้านนอกก็คงจะปิดไฟเงียบสนิทกันหมดแล้ว
“รับอะไรดีจ๊ะแม่หนู”
“เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กถุงนึงจ้ะ”
“รอเดี๋ยวนึงนะแม่หนู”
ฉันเดินซื้อของกินเยอะพอสมควร เพราะจะซื้อไปฝากจินมันด้วย รายนี้ก็ทำแต่งานไม่ค่อยสนใจเรื่องสุขภาพของตัวเองเลย
ผ่านไปสักพัก
ติ๊ด~
“ดึกแล้วแกซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย”
“ก็ซื้อของกินมาไง ซื้อมาฝากแกด้วยนั่นแหละ มากินด้วยกันก่อนสิแล้วค่อยไปนอน”
“แกก็รู้ว่าฉันไม่กิน”
“ก็ฉันจะบังคับให้แกกินไงจิน แกรู้ไหมว่าแกโหมงานหนักมากเกินไป ข้าวปลาไม่ยอมกินจนผอมเนี่ย เจ้านายของแกอีกคนนะอย่าให้ฉันเจอนะฉันจะด่าให้ ใช้งานลูกน้องจนไม่ได้กินข้าวกินปลา จิตใจทำด้วยอะไรเนี่ย”
“บ้าบอแก คุณภากรเค้าไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แกอย่าเข้าใจผิด”
“ไม่รู้แหละ มากินกับฉันก่อนเลย”
“เออๆ”
ฉันนั่งจินนั่งลงกินอาหารที่ฉันซื้อมาด้วยกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีว่าฉันจะทำยังไงต่อเรื่องตามหาพ่อ มันต้องมีทางสิมันต้องมีคนรู้สิว่าพ่อไปอยู่ที่ไหน
อย่างน้อยถ้าฉันไปแจ้งตำรวจแล้วบอกชื่อนามสกุลแค่นี้ตำรวจก็น่าจะช่วยได้แล้ว
“แล้วแกไปทำงานเมื่อไหร่เนี่ยจิน?”
“พรุ่งนี้ก็ทำงานแล้ว”
“เร็วจัง”
“ฉันลาพักร้อนมาครึ่งเดือนแล้วนะโรส ถ้าฉันลาต่อมีหวังเจ้านายได้หลายฉันออกจากบริษัทแน่”
“อืม แกไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเก็บของพวกนี้เอง”
“โอเค”
ฉันนั่งกินไปอย่างใจเย็นเพราะนอนมาทั้งวันแล้ว ฉันเลยไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ เลยกะว่าจะหาอะไรดูเพลินๆ แก้เซ็งแก้เบื่อ
นึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็รู้สึกประหม่าไม่หายเนาะ ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงมีอาวุธปืนอยู่ในตัวกันด้วยก็ไม่รู้ แถมแต่ละคนก็น่ากลัวทั้งนั้น ถ้าฉันไม่รู้ตัวไม่หนีออกมาก่อนก็ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้างเหมือนกัน
อาจจะถูกลากเข้าป่าแล้วฆ่าข่มขืนก็ได้