สองปีต่อมา...(ปัจจุบัน) Rocasander Villa
คฤหาสน์โรคาซานเดอร์ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 400 เอเคอร์(ราวหนึ่งพันไร่) ตัวคฤหาสน์ออกแบบโดยผสมผสานความหรูหรากับความคลาสสิกเอาไว้ได้อย่างลงตัว งานเลี้ยงถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างอลังการ ท่ามกลางแขกทั้งในแวดวงสังคมชั้นสูงและแวดวงธุรกิจไม่เว้นแม้กระทั่ง ดารา คนดัง นางแบบ ที่พากันมาร่วมงานเพราะอยากจะเจอหนุ่มๆ ในตระกูลโรคาซานเดอร์ทั้งสามคน
วันนี้มะลิฉัตรจัดการเนรมิตพิมพลอยที่อายุ 23 ปี และสวยสะพรั่งจนเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่วในวงสังคม แม้กระทั่งบุตรชายคนโตอย่าง...แพททริกสันที่ช่วงหลังๆ มานี้แทบจะเก็บอาการไม่อยู่
ขณะที่มะลิฉัตรกำลังยืนดูช่างแต่งหน้าให้หญิงสาวอยู่นั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังอยู่สองสามครั้ง ทำให้ทุกคนหันไปที่ประตูตามๆ กัน
ก๊อกๆๆ
“เข้ามาได้!” มะลิฉัตรเอ่ยขึ้น จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
“มาดามคะ คุณท่านให้มาเชิญค่ะ” สาวใช้รีบแจ้งคำสั่งของนายใหญ่แห่งโรคาซานเดอร์ทันที
“คุณแม่ไม่ต้องรอน้องพิมหรอกค่ะ” พิมพลอยรีบบอกอย่างเกรงใจ เพราะวันนี้เธอไปส่งงานชิ้นสุดท้ายที่มหาวิทยาลัย และประชุมกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่น สรุปเรื่องสถานที่เลี้ยงฉลองเรียนจบ เลยทำเธอให้กลับมาเตรียมตัวร่วมงานร่วมเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของคุณมะลิฉัตรช้า
“เอางั้นเหรอจ๊ะน้องพิม งั้นแม่ลงไปก่อนนะลูก รีบๆ ตามมาล่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยกับบุตรสาวบุญธรรมยิ้มๆ
“ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวน้องพิมจะรีบตามลงไปค่ะ” พิมพลอยหันมาตอบ ในขณะที่ช่างแต่งหน้ากำลังปัดบลัชออนให้
“จ้ะ” มะลิฉัตรพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะเดินออกไป
Rocasander corporation Group London…
แพททริกสันในวัย 35 ปี ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ไม่คลาย หยิบกล่องกำมะหยี่หรูขึ้นมาเปิดออกดูนาฬิกายี่ห้อ Hublot Big Bang (อูโบลท์ บิ๊ก แบง) ที่ตัวเรือนของนาฬิกาประกอบด้วยเพชรน้ำงามถึง 1,280 ชิ้น และแต่ละชิ้นมีขนาดถึง 3 กะรัต เจียระไนโดยช่างที่มีประสบการณ์มากกว่า 40 ปี สนนราคาอยู่ที่ 3 ล้าน 5 แสนปอนด์ หรือประมาณ 150 ล้านบาท ที่จะนำไปเป็นของขวัญให้กับมารดา...
ขณะที่แพททริกสันเดินออกมาจากห้องทำงานของบริษัท เตรียมตัวจะไปร่วมงานเลี้ยงที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์ จิมมี่เจมส์ก็เข้ามารายงานว่า เพิ่งได้รับคำท้าแข่งรถจากเจคอป ที่ตอนนี้ซิ่งรถมารออยู่ที่หน้าบริษัท โดยมีเดิมพันคือใครแพ้เสียรถ ชายหนุ่มยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ตรงมายังที่จอดรถด้านหน้า ก็เห็นน้องชายยืนกอดอกพิง Koenigsegg Agera อยู่ด้วยมาดกวนๆ ตามสไตล์ของอีกฝ่าย
“ไงป๋า!” เจคอปเอ่ยทักทายพี่ชายสุดที่รักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไงเจค! อยากได้บูกัตติหรือว่าอยากเสียอาเกร่าล่ะ”แพททริกสันถามน้องชายจอมก่อกวนอย่างอารมณ์ดี
“โว้ๆ ป๋าไม่ได้แข่งไม่ได้ซิ่งมากี่ปีแล้วล่ะ จับแต่ปากกาเซ็นนั่นเซ็นนี่ตลอด ผมก็เลยอยากจะรู้ว่ายังพอจะมีไฟอยู่หรือเปล่าน่ะ!” เจคอปแซวพี่ชาย
“งั้นเดี๋ยวนายจะได้รู้ ว่าฉันยังมีไฟอยู่ไหม!” แพททริกสันตอบกลับพร้อมยกยิ้มมุมปากนิดๆ ที่น้องชายถ่อมาให้เชือดถึงที่
จิมมี่เจมส์กับมาร์ค มือขวาของเจคอปแอบยิ้มให้กัน เพราะนานๆ จะได้เห็นเจ้านายโชว์ฝีมือซิ่งรถสักที
สิบนาทีต่อมา...
Bugatti Veyron (บูกัตติ เวย์รอน) สีดำเงาป้ายทะเบียนR1111 ของแพททริกสันกับKoenigsegg Agera (โคนิกเซกก์ อาเกร่า) สีแดงสด ป้ายทะเบียน R3333 ของเจคอป ผลัดกันขึ้นนำไปมาตลอดเส้นทางสู่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์ โดยมีขบวนบอดี้การ์ดขับตามอยู่ข้างหลัง เสียงเครื่องยนต์ราคาแพงหูดับดังกระหึ่มมาแต่ไกล ดึงสายตาของคนที่มาร่วมงาน ให้หันมามองกันอย่างสนใจ เมื่อรถซูเปอร์คาร์ทั้งสองคันกำลังขับแข่งกันเข้ามาในงานเลี้ยงวันเกิดแห่งนี้!
บูกัตติสีดำเงาแล่นเข้ามาจอดที่บ่อน้ำพุด้านหน้าคฤหาสน์ก่อนอาเกร่าสีแดงสดเพียง 10 วินาทีอย่างฉิวเฉียด!
แพททริกสันเปิดประตูรถออกมาถึงกับผิวปากอย่างอารมณ์ดีที่เอาชนะน้องชายตัวแสบได้ ‘สะใจเป็นบ้า เขาจะเอาอาเกร่าของมันไปจอดเก็บไว้ที่ไหนดี!’
เจคอปเปิดประตูรถออกมาอย่างหัวเสีย ‘ไม่น่าเลย คิดว่าจะชนะอยู่แล้วเชียว!’
“เจค อย่าลืมเอากุญแจรถของนายให้เจเจล่ะ!” แพททริกสันรีบเอ่ยทันทีที่เห็นสีหน้าบูดบึ้งของน้องชาย
“ครับบบบ คุณแพททริกสัน ได้ตามสั่งเลยครับบบ” เจคอปลากเสียงใส่พี่ชายอย่างหมั่นไส้
‘ให้ตายเถอะ! เขาเกลียดรอยยิ้มที่ยกแค่มุมปากของพี่ชายสุดๆ’ คนที่แพ้หันไปส่งสายตาละห้อยให้รถคู่ใจ ก่อนจะส่งกุญแจรถให้มือขวาของพี่ชายอย่างเซ็งๆ
จิมมี่เจมส์ที่รับกุญแจมาเผลอยิ้มกว้างอย่างลืมตัว เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของเจคอป ซึ่งผิดไปจากตอนที่ท้าแข่งรถเมื่อสิบห้านาทีก่อนลิบลับ
เลโอนาดท์และมะลิฉัตรรีบเดินมาหาลูกชายทั้งสอง หลังจากที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์มาแต่ไกล และสาวๆ ที่อยู่ในงานก็เริ่มขยับออกมาดูสองหนุ่ม ตระกูลโรคาซานเดอร์ตามๆ กัน ราวกับว่ากำลังมารอรับเจ้าชายเสด็จยังไงยังงั้น
“ไง! ไอ้เสือสบายดีนะ” เลโอนาดท์ทักทายบุตรชาย
“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่ แพทสบายดีครับ” แพททริกสันยิ้มกว้างให้บิดาและมารดาอย่างอารมณ์ดี
“แต่ผมไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ” เจคอปเอ่ยด้วยใบหน้าที่มึนตึงนิดๆ
“หึ!” แพททริกสันกลอกตาอย่างเซ็งๆ รู้ว่าน้องชายกำลังจะเล่นบทดราม่า
“คือ... พอดีว่าขากลับผมไม่มีรถน่ะครับพ่อ รถผมเสีย! เลยฝากป๋าไปซ่อม พ่อจะใจดีให้ผมยืมรถไปใช้ก่อนสักคันได้ไหมครับ” เจคอปหันไป ออดอ้อนผู้เป็นบิดา
“ได้อยู่แล้วเจค ก็รถของลูกเสียนี่! ไม่ได้แข่งแพ้แล้วโดนยึดรถซะหน่อยจริงไหม? ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์ประชดคนช่างอ้อนอย่างอดไม่ได้
“ฮ่าๆๆ” แพททริกสันหัวเราะชอบใจที่ผู้เป็นบิดารู้ทันน้องชาย
เจคอปกลอกตาอย่างเพลียๆ ในขณะที่ทุกคนต่างหัวเราะเยาะเขากันอย่างขบขัน แต่ก็ไม่ทำให้เขายอมละความพยายามง่ายๆ
“ว่าแต่ คันไหนก็ได้ใช่ไหมครับพ่อ”
“ใช่! คันไหนก็ได้ยกเว้น Ford Mustang Hennessey คันเดียวลูก ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆๆ” แพททริกสันยกกำปั้นขึ้นชนกับผู้เป็นบิดาอย่างถูกใจที่ดักทางคนเจ้าเล่ห์ได้อีกครั้ง
“โธ่! พ่ออะ ผมเล็งคันนั้นก่อนเลยนะ” เจคอปโอดครวญขึ้นทันทีที่ทุกคนรู้ทันตนไปหมดซะทุกอย่าง
มะลิฉัตรหัวเราะใส่คนที่หน้าบูดอย่างชอบใจ ก่อนจะถามไถ่เรื่องงานที่บริษัทกับโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น แพททริกสันบอกรายละเอียดคร่าวๆ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อหาใครบางคน ที่ตั้งแต่เข้ามาในงานยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ
“แพท มองหาใครเหรอลูก?” มะลิฉัตรแกล้งถาม
“เอ่อ...ผมยังไม่เห็นน้องพิมเลยครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ
“อ๋อ! น้องพิมยังอยู่ข้างบนน่ะลูก สงสัยใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง” มะลิฉัตรบอกพลางหันไปยิ้มให้สามี
“งั้นแพทขึ้นไปตามน้องเองครับ” แพททริกสันรีบอาสา
“รีบๆ ขึ้นไปเลยนะครับคุณแพททริกสัน ก่อนที่น้ำลายจะฟูมปาก ฮ่าๆๆ” คนที่แพ้พนันอดแขวะไม่ได้ หลังจากเสียอาเกร่าไปก็ดูเหมือนอะไรๆ จะดูขัดหูขัดตาไปหมด ‘หึ! ที่แท้โคแก่ก็อยากกินหญ้าอ่อน’
“ทำไมน้ำลายถึงต้องฟูมปากของฉันฮะเจค!” แพททริกสันหันมาถามด้วยสีหน้านิ่งๆ ทั้งที่รู้ว่าน้องชายหมายถึงอะไร
“นั่นสิ! ทำไมล่ะเจค” มะลิฉัตรถามต่อด้วยความสงสัย
“แม่เคยเห็นไหมครับเวลาที่โคแก่ๆ มันอยากจะเคี้ยวหญ้าอ่อนๆ น่ะ น้ำลายมันจะฟูมปากยังไงล่ะครับ ฮ่าๆๆ” เจคอปบอกเสร็จก็หัวเราะอย่างชอบใจที่ได้เอาคืน หลังจากที่ถูกหัวเราะเยาะมานาน
‘หึ! เขาไม่โกรธให้มันเห็นหรอก ทั้งๆ ที่เขาโคตรจะซีเรียสเรื่องนี้สุดๆ เขารู้ว่าน้องชายหงุดหงิดที่เสียรถ แต่ขอโทษ...วันนี้เขามีเรื่องที่สำคัญกว่ารออยู่’
“เจค! นี่นายเป็นวันนั้นของเดือนหรือเปล่าฮะ! ฉันแค่ 35 ไม่ใช่ 75 ซะหน่อย ที่สำคัญฉันยังหนุ่มยังแน่นและยังมีไฟ แล้วฉันก็คิดว่านายน่าจะรู้ดีนะ เพราะนายเพิ่งจะเสียอาเกร่าให้ฉัน อย่างนี้ใช่ไหมครับแม่ ที่คนไทยเขาเรียกว่าแพ้แล้วพาลน่ะครับ” แพททริกสันร่ายยาว
เลโอนาดท์และมะลิฉัตรพากันหัวเราะบุตรชายคนเล็ก ที่ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมด!
“โอเคๆ ผมคงจะเป็นวันนั้นของเดือนอย่างที่ป๋าบอกน่ะแหละ เชิญเลยครับคุณแพททริกสัน เมื่อกี้บอกว่ารีบอยู่ไม่ใช่เหรอ” เจคอปรีบบอก พร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อบอกว่ายอมแพ้
แพททริกสันยกยิ้มตรงมุมปากนิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ เพื่อหาใครบางคนที่อยู่ในห้วงความคิดของเขาตลอดหลายปี
ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินตรงเข้าไปยังห้องแต่งตัว ด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก...สองปีที่ยาวนานราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ กำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว!
ขณะที่มะลิฉัตรเอ่ยชวนสามีและบุตรชายคนสุดท้องเข้าไปในงาน ก็พอดีกับที่เสียงเครื่องยนต์ของ Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) สีเเดงสวยเฉียบ ป้ายทะเบียน R8888 ดังกระหึ่มแล่นตรงเข้ามายังคฤหาสน์ และไม่ถึงสองนาทีก็เข้ามาจอดตรงลานน้ำพุด้านหน้า ใกล้ๆ กับที่ทุกคนกำลังยืนอยู่ แน่นอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากออร์แลนโด้ บุตรชายคนรองของตระกูล! ชายหนุ่มที่ได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งแห่งปี
“สวัสดีครับพ่อ แม่! สบายดีนะครับ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับสวมกอดมารดา ก่อนจะเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาต่อ
ทั้งสองกอดตอบและเอ่ยทักทายบุตรชายคนรองที่หายหน้าไปร่วมสี่เดือน
“สบายดีจ้ะ ว่าแต่ลูกผอมลงไปหรือเปล่าอลัน?” มะลิฉัตรมองบุตรชายไปมาอย่างสำรวจ
“ก็นิดหน่อยครับ ช่วงนี้ยุ่งมากครับแม่” ออร์แลนโด้ตอบยิ้มๆ
“ดูแลตัวเองด้วยนะ แม่เป็นห่วงรู้ไหม?” มะลิฉัตรยิ้มก่อนจะชวนบุตรชายและสามีเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ท่ามกลางสายตาของสาวๆ ที่หันมองตามสองหนุ่มหล่อกันเป็นแถว
แพททริกสันเดินมาถึงหน้าห้องแต่งตัวของหญิงสาว ที่ตอนนี้เขายอมรับอย่างไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป ว่าอยากเจอเธอมากขนาดไหน
ก๊อกๆๆ ซูซี่ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสอง รีบเดินไปเปิดประตูให้คนมาเยือน พลางคิดในใจว่าน่าจะเป็นสาวใช้ขึ้นมาตามหญิงสาว
“คร่าาาา รอแป๊บหนึ่งนะคะ” ซูซี่ลากเสียงอย่างเพลียๆ ก่อนจะหมุนลูกบิดเปิดประตูให้คนด้านนอก แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงราวกับโดนมนตร์สะกดที่สั่งให้กะเทยยืนนิ่งอยู่กับที่ หลังจากได้เห็นความหล่อเหลาคมคายของแพททริกสันชัดๆ เต็มสองตา ‘แม่เจ้า... ใครก็ได้ช่วยตบหน้าอีซูซี่ทีเถอะ! นี่มันเทพบุตรชัดๆ’
แพททริกสันเดินเบี่ยงตัวหลบสาวประเภทสองที่ยืนแข็งเป็นหินไปอย่างไม่สนใจ ทันทีที่เข้ามาในห้องก็เห็นพิมพลอยยืนก้มมองเช็กความเรียบร้อยของชุดที่ใส่อยู่ตรงกระจกบานใหญ่ ‘พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อ เขาดูรูปเธอทุกวัน แต่พอมาเห็นตัวจริงแบบนี้ เขาชักจะอดใจไม่ไหวแล้วสิ เธอสวยและมีเสน่ห์ เย้ายวนกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยเจอ ที่เคยสัมผัสมา’
พิมพลอยมัวแต่สำรวจความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย ก่อนจะออกไปยังงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของคุณมะลิฉัตรที่ด้านนอก พอเงยหน้าขึ้นมองที่กระจกก็ตกใจที่เห็นแพททริกสันยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังของเธอ
“สวัสดีค่ะน้องพิม!” แพททริกสันเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง
“พะ...พี่แพท” พิมพลอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ในขณะที่หัวใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ค่ะ! พี่เอง ออกไปได้แล้ว” ชายหนุ่มตอบแล้วหันไปเอ่ยปากไล่สาวประเภทสองที่ยืนเซ่ออยู่ตรงประตูห้อง
“ฮะ!... เอ่อ ค่ะๆ ซูซี่ขอตัวก่อนนะคะคุณพิม” ซูซี่ที่เพิ่งได้สติหลังจากที่ยืนแข็งเป็นหินไปนานรีบขอตัว แล้วเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางมึนๆ งงๆ
“สะ...สวัสดีค่ะพี่แพท...เอ่อ คือว่า...คือว่าน้องพิมกำลังจะเข้าไปในงานพอดีค่ะ” พิมพลอยหันมามองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเธออย่างตื่นเต้น!
“น้องพิมกลัวพี่เหรอคะคนดี ดูซิ! สั่นใหญ่เลย หึๆ” แพททริกสันเอ่ยถามและขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“เอ่อ...” หญิงสาวอายหน้าแดงก่ำเมื่ออยู่ห่างจากอีกฝ่ายไม่ถึงคืบ
“คุณแม่ให้พี่ขึ้นมาตามน้องพิมน่ะค่ะ อ้อ! แล้วพี่ก็มีของจะให้เราด้วย” ชายหนุ่มบอกก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อสูท หยิบสร้อยที่มีจี้เป็นคำว่า P&P โดยฝังเพชรเอาไว้ตรงส่วนหัวโค้งของตัวพีทั้งสองตัว ซึ่งสั่งทำเป็นพิเศษสำหรับเธอ
หญิงสาวหน้าแดงปลั่ง ยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่ออีกฝ่ายสวมสร้อยให้ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากยังต้นคอระหงอย่างแผ่วเบา
“อ๊ะ!” พิมพลอยสะดุ้งตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำแบบนี้กับเธอ
แพททริกสันยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ อย่างชอบใจกับท่าทางเขินอายของสาวเจ้า ก่อนจะค่อยๆ เชยคางของเธอขึ้นแล้วกดจูบเบาๆ ลงยังริมฝีปากบางอวบอิ่ม ที่เขาถวิลหามาตลอด ‘เขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอ!’
หญิงสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับจูบแสนหวาน พยายามดึงสติที่ล่องลอยให้กลับมา ‘พระเจ้า! เขาทำแบบนี้อีกแล้ว!’
สองปีก่อน...
เขาจูบเธอครั้งแรกตอนงานวันเกิดของเขา หลังจากที่เขาท้าดวลเหล้ากับคาเรนเทีย สุดท้ายทุกคนต่างก็เมาจนบอดี้การ์ดต้องช่วยกันหามกลับห้อง แพททริกสันเห็นจะหนักกว่าคนอื่น คุณมะลิฉัตรเลยขอให้เธอขึ้นไปช่วยดูอีกฝ่าย ขณะที่ท่านต้องไปดู เจคอปที่เมาไม่แพ้กันในห้องถัดไป
‘พี่แพทคะ! พี่แพท! น้องพิมเข้าไปได้ไหมคะ' พิมพลอยร้องเรียกคนข้างในห้อง แต่ก็เงียบ! ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เธอจึงล้วงกุญแจที่มาดามให้มาและกำลังจะไขประตูเข้าไป แต่อยู่ๆ คนด้านในก็เปิดประตูออกมา แล้วดึงเธอเข้าไปในห้อง และตรึงแขนทั้งสองของเธอเอาไว้กับประตูห้อง เขาจู่โจมรวดเร็วไม่ให้เธอได้มีโอกาสตั้งตัวใดๆ
จูบที่รุนแรงและดุดันราวกับต้องการจะลงโทษเธอให้ขาดใจตายในตอนแรก เริ่มเปลี่ยนมาเป็นอ่อนโยนนุ่มนวลและเนิ่นนาน จนทำให้เธอหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวไปหมด
จนกระทั่งมือหนาของเขาเริ่มลูบไล้บั้นท้ายของเธอไปมา เธอจึงได้สติ และทุบที่หน้าอกของเขาให้หยุดการกระทำทุกอย่าง
เขาครางในลำคอราวกับกำลังหงุดหงิดที่ถูกขัดใจ แต่ก็ยอมถอนจูบออกให้แต่โดยดี เธอรู้สึกถึงลิ้นอุ่นๆ แล้วก็กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ร้อนแรงและความหวานปานจะขาดใจ
เธอสั่นไปหมด แข้งขาแทบจะไม่มีแรงยืน ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงต่อไป
‘อย่าใส่ชุดนี้อีกนะน้องพิม พี่หวงรู้ไหม! ถ้าพี่เห็นอีกครั้งนะเป็นเรื่องแน่ แล้วก็ห้ามมอง ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนไหนอีก เข้าใจใช่ไหมพิมพลอย!!’ เขาต่อว่าเสียงดัง จนเธอทำตัวไม่ถูก เพราะชุดที่ใส่นั้น คุณมะลิฉัตรเป็นคนเลือกมาให้เธอเอง
วันนี้เธอดีใจยิ่งกว่าอะไรที่จะได้เจอเขา...คนที่เธอแอบหลงรักมานาน แต่พอเธอเข้าไปในงานวันเกิดเขา เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังโกรธใครสักคนอยู่ สายตาขวางๆ ที่มองมามันทำให้เธอรู้สึกอึดอัด
และตอนนี้...เธอรู้แล้วว่าเพราะอะไร เป็นเธอสินะ ที่ทำให้เขาโกรธ พลันน้ำตาแห่งความเสียใจน้อยใจก็ไหลบ่าออกมาอย่างเก็บไม่อยู่
“พิมพลอย! พี่ถามว่าเข้าใจไหม!” แพททริกสันเผลอตะคอกอย่างลืมตัว ‘เขาโมโหที่เห็นสายตาของเพื่อนๆ จ้องมองเธอราวกับจะกลืนกิน มันทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ส่วนพิมพลอยน่ะเหรอ? หึ! ใครยิ้มให้เธอก็ยิ้มตอบทุกคนนั่นแหละ และนั่นมันทำให้เขาแทบจะยกโต๊ะขึ้นทุ่มลงกลางงานวันเกิดของตัวเองเสียให้ได้’
พิมพลอยเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบอะไร ทำให้คนที่รอฟังคำตอบอยู่ทนไม่ไหว ใช้มือประคองใบหน้าจิ้มลิ้มให้เงยขึ้นมองตน
แต่แล้วคนที่กำลังโกรธก็ต้องชะงักนิ่ง! เมื่อเห็นใบหน้าเปื้อนหยดน้ำตาของสาวเจ้าที่มองเขาอย่างตัดพ้อต่อว่า ทำเอาคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์โมโหถึงกับใจอ่อนขึ้นมาแทบจะทันทีทันใด
“น้องพิมไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้พี่แพทโกรธและไม่พอใจน้องพิมขอโทษนะคะ” พิมพลอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ชู่ว์ๆ คนดีไม่ร้องนะคะ พี่ขอโทษค่ะ พี่ผิดเองที่หวง น้องพิมมากไปหน่อยเลยพาลโมโห’ แพททริกสันบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามากอด แล้วจูบซับน้ำตาที่แก้มนวลทั้งสองข้างให้อย่างอ่อนโยน
คนที่กำลังร้องไห้อยู่ถึงกับอึ้ง หลังจากได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายนี่เขาหวงเธอเหรอ หรือว่าเมื่อกี้เธอจะหูฝาดไป
“เมื่อกี้พี่แพทบอกว่า...ว่าเอ่อ...พี่แพทหวงน้องพิมหรือคะ?” พิมพลอยเอ่ยถามออกไปราวกับคนละเมอ
“ไม่ใช่ค่ะ...ไม่ใช่แค่หวง แต่ทั้งหึงและหวงต่างหากคนดี” แพททริกสันย้ำความรู้สึก พร้อมกับก้มลงจูบที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มคู่นั้นอีกครั้งอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล จนบางอย่างในกายของเขาเริ่มจะแข็งขึงขึ้นมา ชายหนุ่มจึงต้องรีบถอนจูบออกอย่างหักห้ามใจตัวเอง
“พี่จะรอให้น้องพิมเรียนจบก่อน แล้วเราจะคุยเรื่องสำคัญกันอีกที ตอนนี้น้องพิมกลับไปนอนได้แล้วค่ะ ก่อนที่พี่จะเปลี่ยนใจ ไม่หยุดอยู่แค่จูบอย่างเดียว” เขาบอกเสร็จก็จำใจเปิดประตูให้สาวเจ้าอย่างแสนเสียดาย
“นอนหลับฝันดีค่ะ เจ้าหญิงของพี่”
“นอนหลับฝันดีค่ะพี่แพท” เธอเอ่ยเสร็จก็รีบหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเองอย่างมึนงง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อครู่นั้นใช่เรื่องจริงหรือเปล่า ทำให้คนที่เพิ่งเคยจูบเป็นครั้งแรกข่มตาแทบไม่หลับ นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง เอาแต่นึกถึงจูบและคำพูดที่ดูเหมือนจะแสดงความรัก ความหึงหวงในตัวเธอเกินกว่าพี่น้องของอีกฝ่าย!
จากวันที่เขาจูบเธอเมื่อสองปีก่อน...เขาก็หลบหน้าเธอมาตลอดแล้ววันนี้ก็โผล่หน้ามาในงาน พร้อมกับจูบเธออีกครั้ง แล้วยังให้สร้อยพร้อมจี้ที่มีอักษร P&P มา มันคืออะไร? เขากำลังจะทำอะไร?
เธอมองคนตรงหน้าอย่างค้นหา ก่อนที่ประโยคหนึ่งของอีกฝ่ายจะลอยเข้ามาในความคิดของเธอ 'พี่จะรอให้น้องพิมเรียนจบ เเล้วเราจะคุยเรื่องสำคัญกันอีกที’ พระเจ้า! นี่คงไม่ได้หมายความว่า..
“น้องพิมเรียนจบแล้วใช่ไหมคะ?” แพททริกสันเอ่ยเข้าเรื่อง
ก๊อกๆ ๆ
สาวใช้เคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะรายงานสิ่งที่นายหญิงของโรคาซานเดอร์สั่งมา ผ่านบานประตูที่กดล็อกด้านในเอาไว้
“คุณแพททริกสัน คุณพิมพลอยคะ มาดามให้มาเชิญไปที่งานค่ะ”
“รู้แล้ว เดี๋ยวจะตามไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ
“ค่ะ” สาวใช้เอ่ยรับก่อนจะเดินกลับไป
“เราคงต้องลงไปร่วมงานข้างล่างแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นแม่คงจะขึ้นมาตามเองแน่ๆ เลยค่ะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันอีกทีนะคะน้องพิม” แพททริกสันเอ่ยอย่างจำใจ
“ค่ะ” พิมพลอยพยักหน้าเบาๆ อย่างมึนงง ใบหน้ายังร้อนผ่าวไม่หาย
ขณะที่ทั้งสองเดินเข้ามาในงาน สายตานับร้อยๆ คู่ต่างก็พากันจับจ้อง จนพิมพลอยรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เคยเดินคู่กับอีกฝ่ายในงานที่มีคนมาร่วมงานเยอะแยะมากมายขนาดนี้มาก่อน
“อ้าว! มากันแล้วเหรอ แหม! ไหนบอกว่าจะไปตามน้อง หายไปนานเลยนะ!” มะลิฉัตรเอ่ยเมื่อเห็นบุตรชายเดินยิ้มกว้างเข้ามา
“ก็มานี่แล้วไงครับ หึๆ!” แพททริกสันหัวเราะชอบใจกับอาการของมารดาที่หวงสาวเจ้าเป็นพิเศษ!
พิมพลอยอายจนหน้าแดงก่ำกับคำว่า หายไปนาน จึงรีบหันไปทักทายสองหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แก้เขิน “สวัสดีค่ะพี่อลัน พี่เจค”
ออร์แลนโด้ที่กำลังคุยกับเจคอปหันมามองตามเสียงที่คุ้นเคย ก่อนจะเผลอมองสำรวจความสวยของน้องสาวบุญธรรม ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่เจอ “สวัสดีค่ะสาวน้อย”
“สวัสดีจ้ะน้องพิม...อุ๊บ!” เจคอปที่กำลังจะยกแก้วขึ้นดื่มต่อถึงกับสำลักเเชมเปญออกมาทันทีทันใด เมื่อสายตาสะดุดเข้ากับจี้เพชรที่คอของน้องสาวบุญธรรม
ออร์แลนโด้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหลังให้น้องชายจอมรั่วอย่างเสียไม่ได้
“เจค! เป็นอะไรหรือเปล่าลูก!” มะลิฉัตรเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
แพททริกสันส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ‘เฮ้อ...ทำเป็นตกใจไปได้ มีอะไรให้ตกใจเยอะกว่านี้อีก รอดูแล้วกัน!’
“ไม่เป็นไรครับ พอดีสำลักนิดหน่อย” เจคอปตอบมารดาเสร็จก็หันไปกระซิบกับพี่ชายคนรอง
“รุกหนักเลยพี่ชายเรา ดูที่คอน้องพิมสิเฮีย!” ออร์แลนโด้หันไปมองแล้วถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้ กับความหน้าด้านของพี่ชายที่ดูจะโจ่งแจ้งเกินไปสักนิด
“จี้ที่คอของน้องพิมสวยดีค่ะ ใครกันนะที่ให้สร้อยพร้อมจี้กับน้องสาวของพี่น่ะ” ชายหนุ่มแกล้งเอ่ยถาม
“หึ!” เจคอปรีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง!
“พี่แพทให้เมื่อครู่ค่ะ” พิมพลอยกัดฟันตอบอย่างอายๆ
“ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ” สองหนุ่มหลุดหัวเราะออกมาอย่างทนไม่ไหวกับคำตอบซื่อๆ ของน้องสาวบุญธรรม
“ทำไม! ฉันจะให้อะไรน้องพิม แล้วมันหนักส่วนไหนของพวกนาย!” แพททริกสันชักเริ่มเดือดขึ้นมาที่ถูกน้องชายแหย่
“หนุ่มๆ จ๊ะ!” มะลิฉัตรเอ่ยปรามสามหนุ่มเบาๆ
“มีอะไรกันไอ้เสือ?” เลโอนาดท์ที่กำลังทักทายกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์อยู่ใกล้ๆ เอ่ยขอตัวกับอีกฝ่าย ก่อนจะรีบเดินมาสมทบ เพราะเห็นบุตรชายทั้งสามอยู่กันพร้อมหน้า
“ก็ไม่มีไรครับพ่อ แค่ชมว่าจี้ของน้องพิมสวยน่ะครับ” เจคอปแหย่ต่อ เพราะนานๆ จะได้เห็นผู้เป็นพี่ชายเขินที เขารู้ว่าอีกฝ่ายแอบเฝ้ามองพิมพลอยมาหลายปีแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะทำอะไรแจ่มแจ้งขนาดนี้ ก็อย่างว่า...โคแก่ดันหลงใหลหญ้าอ่อน!
“จริงด้วยสิ สวยจังน้องพิม ว่าแต่ P&P นี่...” เลโอนาดท์ทำท่าครุ่นคิด สองหนุ่มเจคอปกับออร์แลนโด้จึงรีบแท็กทีมกันตอบอย่างไม่รอช้า
“ก็แพทกับพิมไงครับพ่อ ฮ่าๆๆๆ” สองหนุ่มบอกพลางหัวเราะชอบใจ พิมพลอยอายหน้าแดงจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองใคร
‘พระเจ้า! เธออยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ที่สุด’
มะลิฉัตรรีบเข้าไปกอดบุตรสาวบุญธรรม แล้วลูบหลังให้เบาๆ อย่างเอ็นดู พลางนึกไปถึงเรื่องเมื่อครั้งนั้น!
เมื่อสองปีก่อน...
รุ่งเช้าวันต่อมา หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดของแพททริกสัน มะลิฉัตรให้คนไปตามบุตรชายคนโตเข้ามาพบ เพราะเมื่อคืนหลังจากที่ให้พิมพลอยเข้าไปดูอีกฝ่ายได้ไม่นาน เธอก็ตามไปดูบุตรชายที่ห้อง
เธอได้ยินที่ทั้งสองคุยกันทั้งหมด ได้ยินแพททริกสันพูดจาหึงหวงสาวเจ้าดังเล็ดลอดออกมานอกห้อง! เธอกับสามีจึงสั่งห้ามไม่ให้บุตรชายคนโตเข้าใกล้พิมพลอยจนกว่าอีกฝ่ายจะเรียนจบ
เพราะข่าวครั้งนั้นของบุตรชายทำเอาฉาวไปทั้งวงการ แถมยังขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ในลอนดอนไปหลายวัน!
คาสโนว่าตระกูลดัง แพททริกสัน โรคาซานเดอร์ คั่วสาวพร้อมกันถึงสองคน ตอนเย็นเป็นนางแบบดังที่กำลังมาแรง รอบดึกเป็นท็อปโมเดลของปี แถมเรียกชื่อพวกเธอสลับกัน เป็นเหตุให้สองนางแบบตบกันกลางงานเดินแบบเครื่องเพชรของ Diamond of Angel ที่ชายหนุ่มไปร่วมงาน ข่าววงในแว่วว่า...สองสาวเขม่นกันเรื่องแพททริกสัน เลยทำให้นางแบบคนดังเอาเท้าไปสะกิดขาของคู่กรณี จนอีกฝ่ายเซตกขอบเวทีลงไป
ทำเอาท็อปโมเดลคนดังโมโหจนฟิวส์ขาด! กลับขึ้นมาบนเวทีแล้วกระชากผมของอีกฝ่ายลงมาตบ สองสาวซัดกันนัวอยู่นานจนการ์ดต้องเข้ามาจับแยก สร้างความตื่นตะลึงให้กับแขกในงานไปทั่ว
พอเช้าวันต่อมา...คาสโนวาคนดังก็ได้ฉายา ‘หล่อลืมชื่อ’ จากสื่อหลายๆ สำนักที่พากันตั้งให้เพียงข้ามคืน และในช่วงค่ำของวันนั้นที่งานประมูลภาพวาด พ่อเทพบุตรหล่อลืมชื่อก็ควงนางเอกดังอีกคนไปร่วมงานด้วยท่าทีสบายๆ งานนี้ถ้าไม่หล่อและรวยมาก ทำไม่ได้แน่นอนครับท่าน
เจมส์ ลอยท์...รายงาน
และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เธอสั่งห้ามไม่ให้บุตรชายเข้าใกล้พิมพลอยอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าแพททริกสันพิสูจน์ตัวเองภายในสองปี โดยไม่มีข่าวเสียเหมือนที่ผ่านมา เธอจะยอมให้บุตรชายคบกับพิมพลอย โดยที่เธอจะไม่ขัดขวาง แถมจะยังเปิดไฟเขียวสนับสนุนให้บุตรชายอย่างเต็มที่! เพราะเธอและสามีต่างก็อยากจะได้หญิงสาวเป็นลูกสะใภ้เอง มากกว่าจะอยากให้ อีกฝ่ายออกเรือนไปเป็นสะใภ้ของตระกูลอื่น
“ทำไม ฉันชอบน้องพิมแล้วพวกนายมีปัญหาอะไร!!”แพททริกสันหันไปต่อว่าน้องชายทั้งสองอย่างหงุดหงิด ‘ให้ตายเถอะ! ไอ้น้องเวรนี่มันจะกวนประสาทเขาไปถึงไหนวะ!’
“ให้มันได้อย่างนี้สิ! ชื่นใจจริงๆ ตอนนี้น้องพิมเรียนจบแล้ว แพทก็พิสูจน์ตัวเองแล้ว พ่อกับแม่ไฟเขียวจัดเต็มได้เลย!” เลโอนาดท์ยกมือขึ้นตบไหล่บุตรชายคนโตเบาๆ อย่างถูกใจ
“ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่” แพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริอย่างดีใจ
เจคอปและออร์แลนโด้หันมามองอย่างอึ้งๆ กับพฤติกรรมของพี่ชายคนโตที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
“งั้นแพทขอพาน้องพิมไปเดินเล่นข้างนอกนะครับ” แพททริกสัน ขออนุญาตมารดา เพราะถ้าขืนยืนอยู่ตรงนี้ต่อ คงไม่ได้คุยเรื่องที่อยากจะคุยกับสาวเจ้าเป็นแน่
“รู้ใช่ไหมแพท ว่าแม่รักน้องขนาดไหน” มะลิฉัตรกำชับ พร้อมกับส่งมือของพิมพลอยให้กับบุตรชายคนโต
“ทราบครับแม่ รับรองว่าจะดูแลอย่างดีไม่ต้องห่วงครับ!” แพททริกสันยิ้มก่อนจะพาสาวเจ้าเดินออกไปสูดอากาศนอกงานเลี้ยง