“น้องพิมพร้อมจะคุยกับพี่แพทหรือยังคะ” แพททริกสันเอ่ยหลังจากที่เดินมาถึงลานน้ำพุ
“พี่แพทจะคุยเรื่องอะไรเหรอคะ?” พิมพลอยถามกลับด้วยหัวใจสั่นๆ
“ก็คุยเรื่องที่พี่บอกไว้เมื่อสองปีก่อนไงคะ ยังจำได้ไหม?”
“เอ่อ พี่แพทคะ น้องพิมคิดว่าเรา...เอ่อ...เราต่าง...”
“ทำไมคะ? หรือน้องพิมคิดว่าพี่แก่เกินไป!” แพททริกสันถามอย่างหงุดหงิด ‘ถ้าลองตอบเขาว่า เราต่างกันเรื่องอายุละก็ หึ! พ่อจะลากขึ้นห้องไปฟัดให้ฟ้าเหลืองเลยคอยดู!’
“น้องพิมหมายความว่า เราต่างก็แทบจะไม่เคยรู้จักกันเลย และอาจจะเร็วเกินไปที่เราเอ่อ...จะคบกันน่ะค่ะ” หญิงสาวรีบตอบเพราะอีกฝ่ายกำลังตีความหมายไปไกล ‘บ้าจริง! นี่เขาไม่รู้ตัวเหรอ ว่าตัวเองหล่อและดูดีขนาดไหน’
“งั้นลองถามพี่แพทมาสักข้อสิคะ เกี่ยวกับเรื่องของน้องพิม” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอย่างหลงใหล
“สีโปรดของน้องพิมคือสีอะไรคะ?” พิมพลอยชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยถาม
“น้องพิมชอบสีฟ้า ชอบดอกกุหลาบสีขาว ชอบทานอาหารทะเลกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัด ชอบเพลง A thousand years ของ Christina Perri ใช่ไหมคะ?” แพททริกสันบอกยิ้มๆ ‘ง่ายๆ แบบนี้เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลยให้ตายสิ! เขารู้แม้กระทั่งประจำเดือนของเธอจะมาวันไหนด้วยซ้ำ’
“พี่แพทรู้ได้ยังไงคะ?” พิมพลอยถามอย่างมึนงง
“พี่รู้เยอะกว่านี้อีกค่ะ จะทดสอบอีกสักข้อไหมคะ!” เขาบอกพร้อมกับฉีกยิ้มหวานส่งให้
“มะ..ไม่แล้วละค่ะ” เธอตอบอย่างอายๆ
“แล้วน้องพิมรู้ไหมคะ ว่าพี่แพทชอบอะไรบ้าง?”
“นะ..น้องพิมไม่รู้ค่ะ...” พิมพลอยตอบเสียงเบาหวิว แถมรู้สึกชาที่หน้านิดๆ ‘ให้ตายสิ! เธอไม่รู้ว่าเขาชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไรมาก่อนเลย’
“พี่แพทชอบสีขาวกับสีเทา ชอบดอกมะลิ ชอบทานสเต๊กฟิเลมิยอง มีเดียมแรร์ ชอบสลัดแซลมอนกับน้ำสลัดแบบบาซามิก (Balsamic น้ำสลัดที่ทำจากน้ำส้มสายชูองุ่น) แล้วก็ชอบฟังเพลง All of me ของ John Legend อ้อ! แล้วก็มีอีกอย่างที่พี่ชอบมากที่สุด...”
“อะไรคะ...ที่พี่แพทชอบมากที่สุด” พิมพลอยรอฟังอย่างตั้งใจ
“ก็น้องพิมไงคะ หึๆ!” แพททริกสันตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างชอบใจที่เห็นสาวเจ้าหน้าแดงขึ้นกว่าเดิม
“เอ่อ...พี่แพทไม่คิดว่ามันเร็วเกินไปเหรอคะที่เราจะคบกัน”
“พี่ให้เวลาน้องพิมมาสองปีแล้วจำได้ไหม?” แพททริกสันกลอกตาอย่างเซ็งๆ ‘พระเจ้า! นี่เขารอมานานจนจะตกมันอยู่แล้วนะ ใจคอเธอจะให้เขารอไปจนอายุห้าสิบก่อนหรือไงวะ!’
“แต่ตอนนั้นพี่แพทเมานี่คะ แถมสองปีที่ผ่านมานี้ก็ทำเหมือนหลบหน้า หลบตาอยู่ตลอด น้องพิมก็เลยคิดว่าพี่แพทอาจจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น” พิมพลอยพยายามแย้งกับการกระทำของเขาที่ผ่านมา
“พี่ไม่ได้เมา แต่พี่โมโหที่น้องพิมเอาแต่ยิ้มให้ใครต่อใครไปทั่ว พี่ไม่ชอบเลยที่น้องพิมทำแบบนั้น อ้อ! อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้หายไปไหน ก็แค่โดน คุณแม่ท่านสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้จนกว่าน้องพิมจะเรียนจบ น้องพิมไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหน กับการที่ไม่ได้เจอคนที่เราอยากจะเจอน่ะ”
“ทำไมคุณแม่ถึงต้องสั่งห้ามพี่แพทล่ะคะ?” พิมพลอยถามอย่างสงสัย
“คงกลัวว่าพี่จะทำให้น้องพิมเรียนไม่จบ เพราะท่านดันมาได้ยินเรื่องในห้องคืนนั้นเข้า ท่านเลยให้พี่พิสูจน์ตัวเองน่ะค่ะ” แพททริกสันอธิบาย
“น้องพิมคิดว่าพี่แพทกำลังคบหาดูใจกับคุณลูเซียน่าซะอีกค่ะ”
พิมพลอยเอ่ยเสียงเบา เพราะตอนที่ทราบข่าวว่าลูเซียน่าให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่ง ว่ากำลังคบหาอยู่กับแพททริกสัน เธอทั้งช็อกและเสียใจ คิดว่านี่คือสาเหตุที่เขาหลบหน้าเธอมาตลอดสองปี
เขาทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน ไม่มีความหมายอย่างที่เคยแสดงออกเหมือนในคืนนั้น เขาทำให้เธอเคยคิดจะขอคุณมะลิฉัตรกลับไปอยู่ไทย เพราะอยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา
“ไม่ใช่ซะหน่อยน้องพิม พี่จะคบหากับซีน่าได้ไง? พี่คิดกับซีน่า แค่น้องสาวเท่านั้น!” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ
“แต่เธอให้ข่าวแบบนั้นนี่คะ” พิมพลอยแย้ง เพราะลูเซียน่าให้สัมภาษณ์แบบนั้นจริงๆ จนคนเขารู้กันไปทั่วแล้วว่าทั้งสองเป็นคนรักกัน
“เรื่องนี้พี่แพทเคลียร์ได้ค่ะ น้องพิมไม่ต้องห่วง!” แพททริกสันยืนยัน
“แต่...”
“ตกลงน้องพิมคิดยังไงกับพี่คะ สองปีที่ผ่านมานี้คิดถึงกันบ้างไหมหรือว่ามีใครในใจแล้วหรือเปล่า?” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้วพี่แพทล่ะคะ คิดยังไงกับน้องพิม” พิมพลอยถามกลับอย่างอายๆ
‘ให้ตายสิ! นี่เขายังไม่ชัดเจนตรงไหนวะ!’ คนที่ถูกย้อนศรถึงกับกลอกตา! แพททริกสันเดินเข้าไปใกล้จนรับรู้ถึงอาการสั่นของสาวเจ้าได้อย่างชัดเจน เขายกยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบาง แทนคำตอบที่บอกว่าตัวเขารู้สึกยังไง
หญิงสาวตัวสั่นขึ้นมาทันใด ไม่อาจปฏิเสธจูบที่อ่อนหวานนี้ได้ จนกระทั่งคนเจ้าเล่ห์ค่อยๆ ถอนจูบที่เนิ่นนานออก!
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรกับความรู้สึกที่น่าหงุดหงิดนี้ พอไม่เจอก็เฝ้ารอคอย...ที่จะได้เจอ และพี่หงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นน้องพิมยิ้มให้คนอื่น ทั้งๆ พี่อยู่ตรงหน้า พี่ไม่สามารถสลัดภาพและเสียงของน้องพิมออกจากหัวได้เลยสักครั้ง ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของน้องพิมทำให้พี่มีความสุขยิ่งกว่าอะไร แต่พอเห็นน้องพิมร้องไห้ ซึ่งพี่สาบานว่าจะไม่ทำให้น้องพิมร้องไห้อีก เพราะมันเหมือนมีอะไรมากรีดที่หัวใจของพี่ สองปีมานี้...พี่ไม่ได้ห่างน้องพิมไปไหนเลย พี่ให้คนคอยตามดูอยู่ตลอดครับ” แพททริกสันหยุดมองคนที่นิ่งเงียบมานาน หลังจากที่เขาถอนจูบ! ก่อนจะดันตัวของเธอให้ออกห่าง เพื่อที่จะได้มองใบหน้าจิ้มลิ้มได้ถนัดๆ
“โอ้พระเจ้า! น้องพิม พี่แพทเพิ่งสาบานว่าจะไม่ทำให้น้องพิมร้องไห้ แล้วดูสิ! น้องพิมร้องไห้อีกแล้ว” ชายหนุ่มตกใจ รีบล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาให้สาวเจ้าทันใด
“น้องพิมรักพี่แพทค่ะ” พิมพลอยเอ่ยทั้งน้ำตาอย่างดีใจที่รู้ว่าอีกฝ่ายก็รักเธอเช่นกัน!
ชายหนุ่มยืนนิ่ง! กับคำว่ารักที่ได้ยินจากปากของสาวตรงหน้าก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู “มะ...เมื่อกี้น้องพิมว่าอะไรนะคะ? พี่แพทขอฟังชัดๆ อีกครั้งได้ไหม!”
“น้องพิมรักพี่แพทมานานแล้วค่ะ” เธอย้ำ! พร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมที่แก้มอีกฝ่ายเบาๆ
“พี่แพทก็รักน้องพิมมานานแล้วเหมือนกันค่ะ” แพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริ ‘เขามีความสุขเหลือเกินกับทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ สองปีที่ผ่านมามันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ’
“พี่แพทคะ น้องพิมว่าเรากลับเข้าไปในงานดีกว่าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยชวนอย่างอายๆ เพราะเริ่มจะทำตัวไม่ถูก เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องมองเธอไม่วางตา
“ทำไมคะ น้องพิมไม่อยากอยู่กับพี่แล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ คือเราออกมานานแล้ว น้องพิมกลัวว่าคุณแม่จะเป็นห่วงค่ะ นะคะพี่แพทสุดหล่อ” พิมพลอยให้เหตุผลก่อนจะออดอ้อนอีกฝ่าย
คำว่า ‘นะคะพี่แพทสุดหล่อ’ ทำให้คนถูกชมยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีทันใด ‘ให้ตายสิ! ทีเมื่อก่อนมีสาวๆ มาออดอ้อนทีไร เขาจะหงุดหงิดและรำคาญ บางทีก็ตะคอกใส่จนพวกเธอรีบวิ่งหนีกลับกันแทบไม่ทัน แต่พอเป็นสาวตรงหน้า อะไรๆ ก็กลายเป็นตรงกันข้ามไปหมด
“พี่หล่อจริงๆ เหรอคะน้องพิม” ชายหนุ่มถามย้ำ
“ค่ะ ถึงจะอายุมากกว่าน้องพิมตั้งสิบสองปี แต่ก็ยัง...ดูดีสุดๆ ค่ะ”
“พี่แก่เกินไปหรือคะ?” แพททริกสันเริ่มจะหน้าตึงขึ้นมานิดๆ จากตอนแรกที่ยิ้มจนแก้มแทบปริ แต่ตอนนี้กลับหุบยิ้มแทบไม่ทัน ‘ตกลงชมหรือว่าหลอกด่ากันแน่วะ’
“ไม่แก่หรอกค่ะ ก็แค่...ห่างกันหนึ่งรอบเท่านั้นเองค่ะ” พิมพลอยแกล้งแหย่ต่ออย่างนึกสนุกที่ได้เห็นสีหน้าเป็นกังวลของอีกฝ่าย
“พิมพลอย! นี่หลอกด่าพี่ใช่ไหมเนี่ย!” แพททริกสันถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“คิกๆๆ” พิมพลอยหัวเราะชอบใจที่เห็นชายหนุ่มขุ่นเคือง‘ให้ตายสิ! นี่เขาไม่รู้หรือว่าตัวเองหล่อขนาดไหนน่ะ!’
“แกล้งพี่เหรอ? แบบนี้ต้องโดนลงโทษ!” แพททริกสันเอ่ยเสร็จก็ย่อตัวลง แล้วยกหญิงสาวขึ้นพาดบ่า พร้อมกับตีลงที่บั้นท้ายงอนสวยของเธอถึงสองครั้งติดๆ กัน อย่างรู้สึกคันไม้คันมือ
“กรี๊ด!! พี่แพท น้องพิมเจ็บนะ น้องพิมแค่แหย่เล่นเฉยๆ เองค่ะ พี่แพทไม่ได้แก่สักหน่อย!” พิมพลอยร้องเสียงหลงทันทีที่ถูกฝ่ามือของอีกฝ่ายฟาดลงที่บั้นท้ายของเธอ
“น้องพิมก็รู้ว่าพี่คิดมาก คราวหน้าห้ามพูดแบบนี้อีกนะ! ไม่งั้นพี่จะพาไปพิสูจน์ความหนุ่มความแน่นสักสามวันสามคืนเลยคอยดู” คนที่อดอยากปากแห้งมานานขู่ด้วยสายตาขุ่นเคือง
“โอ๊ย! น้องพิมไม่กล้าแล้วละค่ะ” พิมพลอยรีบบอกหลังจากที่อีกฝ่ายยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
แพททริกสันยังคงเงียบ เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่ายังไม่หายโกรธ
“น้องพิมขอโทษนะคะพี่แพท เรากลับเข้างานกันดีกว่า น้องพิมหิวแล้วค่ะ ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้ทานอะไรเลย นะคะ!” เธอเอ่ยพลางดึงมือของชายหนุ่มให้เดินตามเข้างาน
“โอเคจ้ะ ไม่ต้องรีบเดินขนาดนั้นก็ได้” แพททริกสันยอมออกเดินตามอย่างว่าง่าย จริงๆ เขาเองก็มัวแต่ยุ่งกับงานตั้งแต่เที่ยงแล้ว ยังไม่ได้ทานเหมือนกัน แต่ที่แปลกคือนี่ก็จะสามทุ่มแล้วเขายังไม่รู้สึกหิวเลย
ทั้งสองเดินจับมือกันกลับเข้างาน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาอย่างสนใจใคร่รู้ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลังดังมาแต่ไกล
“พี่แพททริกคะ!”
ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่เดินแกมวิ่งเข้ามาหา ‘พระเจ้า! ให้มันได้อย่างนี้สิพับผ่า ลูเซียน่าชอบเข้ามายุ่มย่ามกับเขาบ่อยๆ ทำตัววุ่นวายอย่างกับเป็นคนรัก ล่าสุดมือขวาคนสนิทเพิ่งรายงานว่าหล่อนไปให้สัมภาษณ์ ว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับเขา จนมารดาของเขาทราบข่าวเข้า ถึงกับต่อสายตรงมาเคลียร์ขณะที่เขากำลังประชุมอยู่ เขาหัวเสียและหงุดหงิดกับคำขู่สารพัดของมารดา จนสั่งยกเลิกประชุมทั้งวัน พอจะจัดการกับตัวปัญหา ลูเซียน่าก็บินหนีไปเที่ยวต่างประเทศซะอย่างงั้น! เขาเลยไม่ได้เคลียร์กับเธอสักที หึ! วันนี้แหละฤกษ์ดีเลยละ เขาไม่อยากให้พิมพลอยลังเลหรือกังวลอะไรอีก แค่เรื่องอายุก็มากพอละ คงถึงเวลาที่จะต้องชัดเจนในทุกๆ อย่างซะที!’
“พี่แพททริกคะ ซีน่ามองหาพี่อยู่ตั้งนาน...แล้วนี่ใครคะ?” ลูเซียน่าเอ่ยถามเพราะจำสาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย เธอรีบเดินเข้าไปกอดแขนแพททริกสันอีกข้างไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ พร้อมกับใช้สายตาประเมินค่าของสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจดเท้าอย่างเหยียดๆ
‘นี่ถ้าไม่ใช่งานวันเกิดคุณมะลิฉัตร เธอจะกระชากแขนนังนี่มาตบซักที กล้าดียังไงมาจับมือกับพี่แพททริก ไม่รู้หรือยังไงว่าเขาเป็นของเธอ!’
“สวัสดีซีน่า นี่น้องพิม พิมพลอย อัครเหมษ์ เธอคือคู่หมั้นและว่าที่ภรรยาของพี่ น้องพิมจ๊ะนี่ลูเซียน่า รีเวอร์ยองค่ะ ลูกสาวของคุณอาลูเซียส เพื่อนสนิทของคุณพ่อน่ะค่ะ จำได้ไหมคะ!” แพททริกสันแนะนำเสร็จ ก็แกะมือของอีกฝ่ายออกอย่างพยายามรักษามารยาท
คนที่ถูกแนะนำถึงกับอึ้งและเขินอาย ‘พระเจ้า! เธอเพิ่งจะคบกับเขาได้ไม่ถึงสิบนาที ตอนนี้กลายเป็นคู่หมั้น แล้วยังเลยไปถึงว่าที่ภรรยาอีกด้วย ว้าว! มีอะไรให้อึ้งกว่านี้อีกไหมเนี่ย’ พิมพลอยส่งยิ้มบางๆ ไปให้สาวตรงหน้า
ลูเซียน่าแทบจะกรี๊ดออกมา หลังจากที่ได้ยินชายหนุ่มแนะนำอีกฝ่าย ‘ไม่จริง! เป็นไปไม่ได้! นี่ล้อกันเล่นใช่ไหม ก็เขาไม่ควงใครมาสองปีกว่าแล้วนี่ แถมผู้หญิงที่สนิทกับเขาที่สุดในช่วงสองปีมานี้ก็มีแต่เธอเท่านั้น’
“นี่พี่แพททริกล้อเล่นใช่ไหมคะ!! ยัยเด็กนี่ถึงยี่สิบหรือยังก็ไม่รู้ พี่บ้าไปแล้วหรือไง ถ้าจะมองหาใครสักคนที่เหมาะสมและคู่ควรกับพี่ คนคนนั้นก็ควรจะเป็นซีน่าสิคะ ไม่ใช่ยัยเด็กหน้าจืดนี่” ลูเซียน่าระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด จากตอนแรกที่ว่าจะใจเย็น แต่ตอนนี้เธอไม่ไหวจะเย็นแล้ว
‘ทำไมทุกอย่างถึงต้องเป็นแบบนี้ แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ? เพิ่งให้สัมภาษณ์ไปด้วย แบบนี้มันฉีกหน้ากันชัดๆ
แขกในงานเริ่มหันมามองตามๆ กันมากขึ้น เพราะเสียงอันแหลมสูงของลูเซียน่าที่ดังเมื่อครู่ รวมไปถึงสองหนุ่มเจคอปและ ออร์แลนโด้ ที่พากันรีบเดินเข้ามาสมทบ เพราะกลัวว่าถ้าแพททริกสันอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจจะกลายร่างเป็นอีกคนขึ้นมา และนั่นคงไม่ดีต่อหลายๆ ฝ่ายเป็นแน่
“โว้ๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะซีน่า อย่างแรกที่ควรจะรู้ก็คือ...คนอย่างพี่ไม่เคยล้อเล่นกับใคร อย่างที่สอง! อย่าเรียกคนรักของพี่ว่ายัยเด็กนี่อีกพี่ไม่ชอบ เพราะน้องพิมอายุ 23 แล้ว ไม่ใช่เด็กอย่างแน่นอน และข้อสุดท้าย ถ้าพี่จะเลือกใครสักคนมาเป็นภรรยา คนๆ นั้น จะต้องเป็นคนที่พี่รักเท่านั้น” แพททริกสันตอกกลับเสียงดังพอที่จะทำให้ใครหลายๆ คนที่อยู่ใกล้ได้ยิน ไปด้วย
“กรี๊ดดดด” ลูเซียน่ากรีดร้องขึ้นอย่างรับไม่ได้ กับคำพูดที่ตรงแบบไม่อ้อมโลกของชายหนุ่ม ทำให้แขกในงานหันมากันมากขึ้นกว่าเดิม
แพททริกสันรีบดึงพิมพลอยเข้ามากอดเอาไว้! เพราะกลัวว่าลูเซียน่าจะโมโหแล้วเผลอทำอะไรสาวเจ้าเข้า!
‘ให้ตายสิ! เขาว่าที่ผับเขาเสียงดังแล้วนะ เจอเสียงของยัยซีน่ากรี๊ดวันนี้ เขาคงต้องคิดใหม่แล้วสิ’ เจ้าพ่อคอนสตรักชั่นส่ายหัวนิดๆ อย่างเอือมระอา
หนุ่มเจคอปที่เพิ่งมาถึงก็รีบยกมือขึ้นปิดหู เพราะเสียงอันแหลมสูงจนแสบแก้วหูของสาวตรงหน้าที่รู้จักมานาน ทำเอาขนในกายของเขาลุกชูชันไปทั้งตัว
‘โอ้...ขอบคุณพระเจ้า! โชคดีที่พี่ชายของเขาไม่สนยัยนี่ ไม่งั้นตระกูลเขาคงได้หูหนวกกันทั้งบ้านแน่ๆ’ หนุ่มเจ้าของฉายารอยยิ้มกระชากใจคิด ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กับพี่ชายคนรองแล้วเอ่ยด้วยท่าทางสยดสยอง
“นี่เฮีย! ถ้าคู่นอนของผมแหกปากร้องเสียงแหลมเหมือนยัยนี่ผมคงเผลอบีบคอหล่อนตายก่อนได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ”
“แต่ฉันว่าเสียงของหล่อนคงจะทำให้ไอ้หนูของฉันสลบคากางเกงใน ก่อนจะได้ออกมาเห็นหน้าหล่อนด้วยซ้ำ!” ออร์แลนโด้บอกด้วยท่าทางนิ่งๆ
นักข่าวต่างรีบกรูกันเข้ามากดชัตเตอร์เก็บภาพที่ไม่น่าอภิรมย์ของลูเซียน่าบุตรสาวของนักธุรกิจใหญ่ลูเซียส! ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาตั้งแต่ที่หญิงสาวไปให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับการคบหาดูใจกับแพททริกสัน
ด้านเลโอนาดท์กับมะลิฉัตรเดินมาหาหนุ่มๆ ด้วยใบหน้าตึงๆ กับเสียงกรี๊ดแปดหลอดของสาวตรงหน้า
‘ไม่นึกเลยว่าลูเซียน่าจะทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ ทั้งการศึกษาและชาติตระกูลไม่ได้ขัดเกลากิริยามารยาทของหล่อนเลยสักนิดเดียวดีที่แพททริกสันตาถึง ไม่งั้นคงได้ตกนรกแน่ๆ ถ้าเลือกแม่คนนี้มาร่วมสกุลด้วย’
มะลิฉัตรคิดในใจอย่างขุ่นเคือง กับการกระทำของลูกสาวของเพื่อนรักสามี ที่ดูเหมือนจะถูกตามใจซะจนทำตัวไม่เหมาะไม่งามต่อหน้าคนเยอะแยะ
“ฉันเหลือจะทนกับแม่คนนี้จริงๆ เลยเลโอนาดท์ และฉันทนทำเป็นเฉยอีกต่อไปไม่ได้แล้ว!” มะลิฉัตรเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหาบุตรชายคนโตกับ บุตรสาวบุญธรรม
เลโอนาดท์ถึงกับสะดุ้งเฮือก เมื่อถูกภรรยาสุดที่รักเรียกชื่อจริงด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าใครขวางตายแน่ๆ งานนี้คนที่รักและเคารพเมียอย่างเขามีหรือจะกล้าขัดใจ
ประมุขใหญ่แห่งโรคาซานเดอร์รีบเดินไปหาบุตรชายทั้งสองเพื่อถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และทันทีที่หันไปมองยังบุตรสาวของเพื่อนรักที่ยืนอยู่ไม่ไกล
‘โอ้พระเจ้า! ดูไม่ได้เลยให้ตายสิ!!’ เลโอนาดท์ก็ถึงกับตกใจ! รีบล้วงมือถือขึ้นมา แล้วกดโทร. หาเพื่อนรักให้รีบมาจัดการกับบุตรสาวก่อนที่จะอับอายใครๆ ไปเยอะกว่านี้
“แพท! ถึงเวลาที่ต้องเคลียร์ข่าวแล้ว! ไปจ้ะน้องพิม!” มะลิฉัตรเอ่ยกับทั้งสองหลังจากที่เข้าไปถึง
“ปะ..ไปไหนคะคุณแม่” พิมพลอยเอ่ยถามอย่างมึนงง แต่ทว่าแพททริกสันนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีทันใด
“ไปเปิดตัวสิจ๊ะลูก” มะลิฉัตรบอกเสร็จก็ดึงมือบุตรชายกับบุตรสาว บุญธรรมให้ตามขึ้นไปบนเวที
นักร้องสาว บีเชี่ยน หยุดร้องเพลงไปตั้งแต่เห็นสถานการณ์ข้างล่างเวทีเมื่อครู่ ที่แขกในงานต่างพากันให้ความสนใจ และเธอเองก็ไม่อยากจะพลาดช็อตเด็ดของงานด้วยเช่นกัน
บีเชี่ยนเคยไปร้องเพลงที่งานวันเกิดคนดังคนหนึ่ง ทันทีที่นักร้องสาวเสียงทองได้เห็นชายหนุ่มที่ได้ฉายาหล่อลืมชื่อ! เดินเข้ามาข้างในงานหญิงสาวถึงกับตะลึงในความหล่อเหลาคมคายของแพททริกสันราวกับถูกมนตร์สะกด จนเผลออุทานออกไมค์ไป ในขณะที่ยังร้องเพลงอยู่‘โอ้ พระเจ้า’ ทำให้แขกทั้งงานหันมามองเป็นตาเดียว
และที่ร้ายกว่านั้น...หลังจากที่ร้องเพลงเสร็จ พอนักร้องสาวเดินลงเวทีมาได้เพียงสองก้าว ก็ถูกลูเซียน่า รีเวอร์ยอง เอาแชมเปญสาดใส่หน้าทำให้อับอายคนไปทั้งงาน
ความแค้นครั้งนั้นยังจำได้ดี หึ! แล้วในที่สุดเธอก็ได้เห็นอีกฝ่ายหน้าแหกกลางงาน! พรุ่งนี้คงเป็นข่าวใหญ่ และเธอก็ไม่พลาดที่จะขยายข่าวช็อกวงการนี้อย่างแน่นอน
บีเชี่ยนเผลอยิ้มออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เมื่อถูกมาดามแจสมินเอ่ยขอไมค์ นักร้องสาวจึงรีบส่งไมค์ให้กับเจ้าของงานทันที
“สวัสดีค่ะ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เนื่องจากครบรอบวันเกิดปีนี้พิเศษกว่าทุกๆ ปี ดิฉันมีความยินดีที่จะเรียนให้ทราบว่าแพททริกสัน บุตรชายคนโต กับพิมพลอย อัครเหมษ์ บุตรสาวบุญธรรมของเรา จะหมั้นและแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้า ขอเชิญทุกๆ ท่านร่วมเป็นสักขีพยานในงานมงคลที่จะมีขึ้นกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
สิ้นคำกล่าวสั้นๆ ของมาดามแจสมิน ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน ในขณะที่ลูเซียน่ากำลังจะ แหกปากส่งเสียงกรี๊ด แต่ก็ถูกฮาร์ดี้ มือขวาคนสนิทของลูเซียสเอามือปิดปาก แล้วถูกอุ้มออกจากงานไปที่รถ ที่มีลูเซียสนั่งรออยู่ก่อน ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่หันไปมองกันอย่างสนใจ
แพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริกับคำประกาศของมารดา ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยก็มาถึงซะที ต้องขอบคุณมารดาของเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ แม้เขาจะแอบท้วงในใจว่าสามเดือนมันนานเกินไปก็ตาม
พิมพลอยยืนตัวแข็งทื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีกกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! วันนี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งวัน แถมเป็น เซอร์ไพรส์ต่อๆ กัน จนเธอแทบไม่มีเวลาจะหายใจเลย’
เจคอปกับออร์แลนโด้ผิวปากแซว พร้อมกับยกนิ้วให้มารดาที่ชัดเจนและเด็ดขาด มิน่า! บิดาของพวกเขาถึงได้ไม่กล้าหือ!
มะลิฉัตรส่งไมค์ต่อให้แพททริกสัน ที่ยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มสักที เธอสะกิดเตือนบุตรสาวบุญธรรมที่เหมือนวิญญาณจะออกจากร่างไปชั่วขณะ โถๆ แม่คุณ คงจะช็อกละสิ
“สวัสดีครับทุกๆ ท่าน ที่ผ่านมาผมไม่ได้ออกมาบอกใคร หรือประกาศว่าดูใจอยู่กับน้องพิม เพราะเธอกำลังเรียนอยู่ครับ เลยทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิดไปต่างๆ นานา ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ผมยุ่งอยู่กับธุรกิจต่างๆ จนแทบไม่มีเวลาว่าง ก็ขอถือโอกาสนี้...เคลียร์ให้ทราบโดยทั่วกันครับว่าผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจผมมาหลายปี และเป็นคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วยคือพิมพลอย อัครเหมษ์ คนนี้ครับ”แพททริกสันกล่าวจบก็มีเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือจากแขกในงานดังขึ้น
พิมพลอยถึงกับน้ำตาคลอกับความชัดเจนและจริงใจของเขา มันทำให้เธอหัวใจพองคับอกไปหมด เธอรู้สึกเหมือนกับว่า...ตัวเองคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ที่ได้รักกับคนที่เธอแอบหลงรักมานาน
มะลิฉัตรยิ้มกว้างให้กับแขกในงานก่อนขอตัวลงจากเวที ด้านแพททริกสันก็เดินไปหานักร้องสาว ที่ยืนตัวแข็งตาค้างเพราะกำลังโดนมนตร์สะกดของเทพบุตรสุดหล่อเข้าอีกครั้ง
“ร้องเพลง A thousand years ได้ไหม?”
“ดะ... ได้ค่ะได้” นักร้องสาวบอกเสียงสั่น
“ดีเลย งั้นช่วยร้องเพลงนี้ให้หน่อยครับ” แพททริกสันบอกเสร็จก็เดินลงเวทีตามสองสาวไป
บีเชี่ยนยืนนิ่งอยู่กับที่ เหมือนคนโดนสาปให้กลายเป็นหิน ไม่ยอมกลับมาทำหน้าที่ร้องนำต่อ จนเพื่อนในวงต้องวิ่งเข้ามาสะกิด นักร้องสาวจึงได้สติ จากนั้น... เสียงดนตรีเพลง A thousand years ก็เริ่มบรรเลงขึ้น
แพททริกสันขอพิมพลอยเต้นรำ หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งมือให้ชายหนุ่มด้วยหัวใจที่เต้นแรง
หญิงสาวที่น่าทะนุถนอม อยู่ในอ้อมแขนของบุรุษที่สมบูรณ์แบบ ทั้งคู่เต้นรำด้วยท่วงท่าอ่อนโยน สง่างาม ท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างชื่นชมแกมอิจฉาของสาวๆ ที่หันมามองกันเป็นระยะๆ
Reveryong Villa…
ลูเซียสกลับก่อนโดยไม่ได้กล่าวลาเจ้าของงาน เพราะทั้งโกรธและอายที่บุตรสาวคนเดียวขยันทำเรื่องโง่ๆ ไร้สมอง จนทำให้ตนต้องขายหน้าอยู่ตลอดเวลา ‘หึ! พรุ่งนี้คงจะมีเรื่องให้เมาท์กันสนุกปากในวงสังคมกันอีกนานแต่ก็นั่นแหละ จะไปโทษใครได้! ก็ลูกสาวของเขามันเกินคำบรรยายจริงๆ’
“กรี๊ดดดด ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้า! ปล่อยยยย” คนที่ถูกอุ้มเข้ามาในคฤหาสน์กรีดร้องอย่างเจ็บใจ!
“พอได้แล้วซีน่า วันนี้แกทำเกินไปนะ! ฉันละเอือมระอากับการกระทำของแกจริงๆ แกรู้ไหมว่าพรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะลงข่าวเรื่องงานวันนี้ว่ายังไงฮะ! มีสมองก็หัดใช้ซะมั่งสิ ไม่ใช่ดีแต่แต่งตัวสวยไปวันๆ!” ลูเซียสหันไปตะคอกใส่บุตรสาวที่ทั้งร้องไห้และส่งเสียงโวยวายไม่หยุดหย่อน!
“ก็ซีน่ารักพี่แพททริกนี่คะ คุณพ่อไม่เห็นเหรอ นังนั่นมันมีอะไรดีมันมีอะไรที่ซีน่าไม่มี ซีน่าเหนือกว่ามันทุกๆ อย่าง ฮือๆๆ ซีน่าเจ็บไปหมดเลย ทำไมไม่ใช่ซีน่าล่ะ ทำไมพี่แพททริกทำแบบนี้ ฮือๆๆ... ทำไม!” หญิงสาวโอดครวญที่ถูกหักหน้ากลางงาน
‘เธอหลงรักเขามากี่ปีแล้ว ทำไมเขาถึงไม่รักเธอบ้างเลยล่ะ นังนั่นมันเป็นใคร มันก็แค่เด็กที่คุณมะลิฉัตรเก็บมาเลี้ยง แล้วเธอล่ะเป็นใคร? เธอเป็นถึงลูกสาวของเพื่อนรักของบิดาเขา! ทั้งฐานะ ทั้งเงินทอง เธอคือผู้หญิงที่เหมาะสมจะยืนอยู่ข้างๆ เขา ไม่ใช่นังเด็กกาฝากคนนั้น!’
“แกก็รู้มาตลอดเวลาว่าแพททริกเขาไม่ได้รักแก แต่แกเองต่างหากที่หลอกตัวเอง แถมยังไปให้สัมภาษณ์บ้าๆ นั่นอีก เชื่อเถอะซีน่า ตอนนี้ยังไม่สาย ตัดใจซะ! จะได้ไม่เจ็บไปกว่านี้!” ลูเซียสเอ่ยเตือนบุตรสาว ที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับความจริงใดๆ ไม่ว่าจะบอกกี่ครั้ง เตือนกี่ครั้ง ก็ยังรั้นจะตามตอแยอีกฝ่าย จนตนต้องพูดตรงๆ แรงๆ ออกไปเผื่อบุตรสาวจะได้สติขึ้นมาบ้าง
“ไม่!! ซีน่าจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด พี่แพททริกจะต้องเป็นของซีน่าคนเดียวเท่านั้น!!” ลูเซียน่าตะโกนตอบเสียงดัง ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปห้องนอนของตัวเอง
ลูเซียสกุมหน้าอกตัวเองแล้วค่อยๆ นั่งลงกับพื้น เพราะรู้สึกเจ็บแปลบๆ ตรงหน้าอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!
“ท่านครับ! เป็นอะไรหรือเปล่า ท่านลุกไหวไหมครับ”
“ฮาร์ดี้!” ลูเซียสเอ่ยเรียกมือขวาของตน
“ครับท่าน!” ฮาร์ดี้เข้ามาช่วยพยุงผู้เป็นนายให้ลุกขึ้น
“ขอบใจมากฮาร์ดี้ ช่วยพาฉันไปนั่งที่ระเบียงด้านนอกได้ไหมฉันอยากสูดอากาศข้างนอก”
“ครับท่าน” ฮาร์ดี้รีบตามที่ผู้เป็นนายต้องการ
ด้านลูเซียน่าที่เข้าไปในห้องนอนก็ร้องไห้ ตัดพ้อต่อว่าคนที่ตนหลงรักมานาน แต่อีกฝ่ายกลับไปรักผู้หญิงอีกคน เธอมั่นใจมาตลอดว่าจะต้องได้เป็นเจ้าสาวของเขา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็พังลงต่อหน้าต่อตา...เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าชีวิตจะต้องมีวันนี้ วันที่แพททริกสันกำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่เธอ!
“ถ้าไม่มีแกสักคน! พี่แพททริกจะต้องขอฉันแต่งงาน ฉันจะต้องเป็นเจ้าสาวที่ใครๆ ต่างก็อิจฉา ฮือๆๆๆ ฉันเกลียดแกอีพิม ฮือๆๆ ฉันเกลียดแก!”