ชายวัยฉกรรจ์ที่ผ่านเรื่องราคะมาพอควรเช่นเขารู้ดีว่ามันคือน้ำกำหนัดเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ หาใช่ฉี่อย่างที่นางเข้าใจไม่ และกลิ่นหอมหวนคาวสาวมันปลุกราคะให้เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ตาคมตวัดขึ้นไปมองดวงตาหวานที่จ้องเป๋งมาที่เขาอย่างไร้เดียงสา แต่ในใจกลับค้านคัด นี่นางไร้เดียงสาจริงหรือว่าแกล้งเข้ามาล้วงความลับกันแน่ กิริยาของนางจะว่าเด็กไม่รู้เดียงสาก็ใช่ แต่จะพิจารณาอีกอย่างเหมือนกับว่านางรู้วิธีที่จะปลุกปั่นให้ชายเกิดอารมณ์ราคะ
“ พี่รองลองจับดูสิเจ้าคะ ” นางเอ่ยขัดจังหวะความคิดแล้วเอื้อมมือไปจับมือของเขามาคลำ ๆ ดูที่น้ำเมือกลื่นที่ว่านั้นบนเนินเนื้อตน เท่านั้นมันก็ทำให้สติที่กำลังพยายามควบคุมแตกกระเจิง
เขาไล้นิ้วโป้งไปถ้วนทั่วให้น้ำนั้นเปียกเปื้อนจนมันวาวทั่วเนินเนื้อสาว กลิ่นคาวของมันช่างเรียกร้องให้เพศผู้อยากสมสู่เจียนใจขาด
“ พี่คิดว่ามันอาจจะเป็นพิษร้ายอะไรสักอย่างที่อยู่ในตัวเจ้า ” เขาอธิบายเสียงพร่า นางเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ จริงหรือเจ้าคะ ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ต้องให้คนไปตามท่านลุงหมอมารักษาข้านะ ข้ายังไม่อยากตาย ” เขาส่ายศีรษะช้า ๆ
“ ไม่ พี่จะไม่ปล่อยให้เจ้าตายหรอก แล้วก็ไม่ต้องตามท่านลุงหมออีกด้วย ”
“ ทำไมเล่าเจ้าคะ ”
“ เพราะพี่จะลองรักษาให้เจ้าด้วยตัวเอง ”
“ พี่รองรักษาเป็นด้วยหรือเจ้าคะ ”
“ เป็นสิ พี่เป็นทหาร ออกรบบ่อย ๆ ก็ต้องเรียนรู้วิธีสกัดพิษ วิธีรักษาพิษ และวิธีดูดพิษ ” นางเอียงคอ
“ แล้วท่านพี่จะรักษาให้น้องอย่างไรหรือเจ้าคะ ”
รอยยิ้มมุมปากเกิดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาก่อนเขาจะให้คำตอบ
“ พี่จะดูดและเลียพิษออกให้เจ้า น้องรัก ”
สิ้นคำตอบ ใบหน้าหล่อเหลาฉกวูบลงไปบนเนินเนื้อที่ผู้เป็นน้องสาวแหวกกลีบออกให้ แล้วแลบลิ้นละเลงเลียไปทั่วทั้งเนินเนื้อและเกสรกระสันอันน้อย นางครางพลางกระตุกกายเยือก ๆ
“ อ๊ะ ท่านพี่เจ้าคะ ”
“ แหกไว้ แหกกลีบเจ้าออก พี่จะได้ดูดพิษได้ถนัด ”
เขาสั่งเสียงงึมงำ นางจึงยิ่งดึงนิ้วแหวกกลีบเนื้อของตัวเองออกให้ยิ่งกว้าง เขายิ่งทั้งเลียทั้งดูดติ่งเนื้อสีชมพูได้ถนัดนี่ยิ่งขึ้น มากไปกว้างนั้นเขายังลากลิ้นลงไปจุ่มจ้วงที่รูคับแคบสีแดงสดอันเป็นตาน้ำฉ่ำเยิ้ม ก่อนที่จะก้มลงทั้งอ้าอมดูดเลียเครื่องเพศนางอย่างตะกรุมตะกราม
“ อูย ท่านพี่เจ้าขา ทำไมมันเสียวจัง พิษกำลังออกใช่ไหมเจ้าคะ ” นางถาม แต่ไม่มีคำตอบใดจากคนเป็นพี่ชายนอกจากเสียงจ๊วบจ๊าบ ลิ้นสากของพี่รองลากเลียปาดป่ายไปทั่วสองกลีบอูม ก่อนดูดดุบที่เม็ดกลางกลีบแรง ๆ สลับกับเกร็งลิ้นพลิกพลิ้วใส่ระรัว
“ พี่รองเจ้าขา ใจน้องจะขาดแล้วเจ้าค่ะ พิษมันแรงเหลือเกิน ” นางแหงนเงยใบหน้างามขึ้นครางครวญ สอดนิ้วเรียวเข้าไปในเรือนผมของผู้เป็นพี่ก่อนขยุ้มแน่น เด้งอัดเนินโหนกเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายด้วยความกระสันซ่าน
“ พิษกำลังจะไหลออกมาอย่างไรเล่า ” เขาเงยหน้าขึ้นมาบอกก่อนซุกลงไปดูดต่อพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปในรูน้อยอันคับแคบของนางแล้วชักเข้าออกไปด้วย
“ โอว นั่นท่านพี่ล้วงเข้าไปเอาพิษออกหรือเจ้าคะ ”
แม้จะเสียวซ่านจนตัวสั่นสะท้าน แต่นางก็ก้มลงไปดูอย่างสนใจใคร่รู้
“ ใช่แล้วน้องรัก ” ผู้พี่พึมพำตอบชิดกลีบเนื้ออวบ ก่อนนิ้วจะทิ่มแทงทะลวงล้วงพิษด้วยจังหวะเร่งเร้าถี่ยิบ ปากก็ดูดติ่งเนื้อไปพร้อมกัน น้ำใคร่ในกายนางไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนใบหน้าเขาเต็มไปหมด
นางจิกเล็บลงบนบ่าเขาแน่น บดเบียดเนินสวาทเข้าใส่ใบหน้าพี่รองจนหนวดเคราเหนือริมฝีปากเขาครูดถูโดนเนื้ออ่อน ในหัวนางขาวโพลนไปหมด รู้สึกเหมือนในช่องท้องบิดเป็นเกลียว ไม่นานนางก็หวีดร้องออกมาอย่างสุขสม ปล่อยน้ำพิษในกายให้ไหลสู่ปากพี่ชายที่ดูดเลียกลืนกินจนหมดทุกหยาดหยด
นางทรุดกายอย่างอ่อนแรงลงบนตักพี่รองอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากถาม
“ พี่รองเจ้าคะ ท่านดูดพิษในตัวข้า แล้วท่านจะไม่ถูกพิษเสียเองหรือเจ้าคะ ”
“ พี่ร่างกายแข็งแรงอีกทั้งดื่มสมุนไพรต้านพิษเป็นประจำ ไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก เป็นอย่างไรเล่า ดีขึ้นบ้างหรือไม่ ” เขาถามเสียงพร่า แม้นว่าจะแช่อยู่ในน้ำแต่เรือนกายเขากลับร้อนรุ่มเสียเหลือเกิน ด้วยกลีบเนื้อสองพูของนางทาบทับอยู่ตรงแท่งทวนของเขาพอดิบพอดี สองทรวงอวบงามเบียดแนบอยู่กับแผ่นอกแกร่งจนเขาข่มอารมณ์เอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
“ ดีขึ้นเจ้าค่ะ พี่รองเก่งจังเลย นอกจากเป็นทหารรบเก่งแล้ว ยังแก้พิษเก่งอีกด้วย ”
“ เจ้าไม่รู้อะไร มีความลับสุดยอดที่พี่เก่งกว่านั้นอีก ”
“ เอ๋ อะไรหรือเจ้าคะ ” นางเอียงคอถามพลางทำตาโต
“ พี่... มีเข็มส่วนตัวที่สามารถฝังรักษาให้เจ้าได้ ”
“ โอว จริงหรือเจ้าคะ ”
“ จริงสิ ”
“ ไหนหรือเจ้าคะ น้องอยากเห็น ”
รองแม่ทัพขยับตัวดึงผ้าอันเป็นปราการกั้นกายออกพาดไว้กับขอบถังไม้ เผยแท่งทวนยาวใหญ่ตั้งโด่อยู่กลางหว่างขาประจักษ์แก่สายตาของนางผู้เป็นน้อง
“ นี่หรือเจ้าคะ เข็มส่วนตัวของพี่รอง ”
“ ใช่แล้ว ลองจับดูสิ ” เขาว่าแล้วออกอุบายหลอกล่อนางอย่างเจ้าเล่ห์