ตอนที่7
“โลกนี้สุดวิเศษเลยนะ ปาฏิหาริย์... ดูกลุ่มดาวนั้นสิพยายามจะส่องแสงแข่งพระจันทร์ แล้วก็ข้างล่างนั่นหมู่บ้านของฉัน นั่นบ้านของยายอ่อนคนเผาถ่าน แกมีลูกชายคนหนึ่ง ฉันเคยเห็นหน้าเขาตั้งแต่ฉันยังเด็ก แล้วไม่ได้เห็นอีกเลย แต่เขามีเสียงที่ฟังเพราะ และเขาก็ดีต่อฉันเสมอ”
เขาเลียมือหล่อนพยายามให้เลิกคิดถึงลูกชายยายอ่อนคนเผาถ่าน
จอมรู้จักเด็กหนุ่มคนนั้น ตัวสูงเก้งก้างผมดกหนาเส้นหยาบ นัยน์ตาออกจะโปน เวลาพูดหรือส่งเสียงจะมองเห็นลูกกระเดือกแหลมเปี๊ยบวิ่งขึ้นลง
จอมแปลกใจตัวเองที่นึกหึงหวงขึ้นมา เพียงเพราะหล่อนปรารภคล้ายจะชอบเด็กหนุ่มลูกคนเผาถ่าน ก็เลยออกจะพึงใจเมื่อหล่อนเปลี่ยนเรื่อง
“พ่อบอกว่าบนนี้มีสระน้ำ เราไปดูกันเถอะ”
หล่อนลุก เขาก็ยืนตาม จอมรู้ว่าสระน้ำนั้นอยู่ที่ไหนเมื่อหล่อนกำแผงคอของเสือดำไว้มั่นมือ เขาก็พาหล่อนขึ้นเนินเขา
“แน่ใจหรือปาฏิหาริย์ว่าอยู่ทางนี้?”
หล่อนพูดกับเขาสบายๆ เป็นธรรมชาติคล้ายว่าหล่อนหวังจะให้เขาตอบ ซึ่งเขาตอบด้วยเสียงคำรามเบาๆ ในคอ
ขึ้นถึงยอดเนินหล่อนก็ได้เห็นสระน้ำ เป็นประกายดุจสระหยก ความใสแจ๋วทำให้เกิดเงาสะท้อนของแสงเดือนและดาว
“ปาฏิหาริย์! เจ้าดูสิ เคยเห็นอะไรสวยอย่างนี้มาก่อนหรือเปล่า?”
เสือดำแหงนมอง เห็นความอัศจรรย์ใจแห่งสีหน้าและประกายตาสดใสที่มองออกมาจากกน่าสวยหวานแอร่ม ก็นึกตอบในใจว่าไม่เคยเห็นมาก่อน... ไม่ใช่สระน้ำ แต่เป็นความงามบริสุทธิ์ที่เหมือนจะรวบรวมเอาความหอม ความหวานจากสรรพสิ่งที่ก่อเกิดความหวานทุกอย่างในโลกเอาไว้... ผู้หญิงที่ชื่อ น้ำผึ้ง
จอมยืนนิ่งหน้าเตาผิง แต่ใจเขาไม่ได้สงบไปด้วย ตาคมที่มีอำนาจสะกดได้แม้อสรพิษมองเปลวไฟสีส้มอมแดงที่กำลังลุกเรือง
ไฟนี้เขาสั่งได้ ไฟไม่มีอำนาจเหนือเขา สามารถเดินฝ่าไฟได้โดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดเลย เรียกไฟจากความมืดได้ เขาสั่งลมให้พัดมาได้ว่างๆ เขาก็เรียกสายฟ้าลงมาจากท้องฟ้า
อำนาจของเขาหลากหลายจนน่ากลัว และใครๆ ก็กลัวเขา แต่ทำไม เวลาอยู่กับน้ำผึ้ง เขาถึงรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ ช่วยตัวเองไม่ได้พอๆ ไม่ต่างอะไรกับทารก
จอมนึกถึงค่ำคืนที่เขาพาหล่อนเดินไปด้วยกัน จวบจนใกล้อรุณรุ่งถึงได้พาหล่อนกลับไปส่งบ้าน ให้เข้านอนได้อย่างเรียบร้อย
หล่อนกอดลาเขา แนบแก้มนุ่มๆ กับส่วนลำคอของเขา กระซิบเสียงหวานส่งท้าย
“แล้วมาพาฉันออกไปเที่ยวชมอะไรต่างๆ อีกนะ ปาฏิหาริย์”
เขาไม่ได้ส่งเสียง แม้เพียงเสียงคารามในคอ เพื่อเป็นการตอบรับ เพราะรูสึกว่า ยามที่อยู่ใกล้หล่อนอิทธิฤทธิ์อำนาจของเขามลายสิ้น
น้ำผึ้ง...
ทิ้งหล่อนมาอย่างนี้เขาก็เจ็บปวดลึกอยู่ข้างในเหมือนอวัยวะสำคัญถูกตัดออกและควักทิ้งไป
จอมยกมือขึ้น วางใจให้สงบ และเพียงเขาแบมือออกไป ลูกไฟก้อนเล็กก็ดีดออกมาจากกลางเตาผิงมาอยู่บนฝ่ามือของเขา
“ข้า...จอม นาเคนทร์ แห่งปราสาทหินแลง” เขาประกาศเสียงกังวาน สะท้อนกลับเหมือนเสียงฟ้าร้องจากกำแพงที่ล้อมรอบเขาอยู่
“ข้าคือเจ้าแห่งลม ฝน ไฟ และราชาแห่งกระแสน้ำ น้ำผึ้งอยู่ที่ไหนจงนำมาให้ข้าเห็น”
ไม่ต้องพริบตา ภาพสาวเสียงการเวกก็ปรากฏขึ้นในม่านตาของเขา
น้ำผึ้งนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หยาบในครัวเล็กในบ้านของหล่อน ร้องเพลงไปพลางขณะปอกมันฝรั่งและหย่อนลงในหม้อน้ำ เขามองและฟังเหมือนจิตจะถูกสะกดด้วยเสียงของหล่อน ด้วยความงามแห่งดวงหน้าของหล่อน และด้วยส่วนโค้งชดช้อยภายใต้เสื้อผ้าหยาบที่หล่อนสวม
เขานึกอยากเห็นหล่อนสวมชุดที่เป็นผ้าแพรและต่วนเนื้อดี ประดับมณีอันเลอค่า มีสร้อยไข่มุกสีชมพูสอดสานไปกับเปียผมเดี่ยวอันใหญ่ยาวถึงกลางหลัง
“แม่จ๋า”
เสียงกังวานใส เรียกมารดา
“แม่คิดว่าเสือดำตัวนั้นจะกลับมาอีกไหมจ๊ะ”
“แม่ไม่รู้หรอกจ้ะ น้ำผึ้ง” นางเอื้องตอบ ไม่ว่าน้ำเสียงหรือสีหน้าแววตาของหล่อนยามพูดกับบุตรสาวผู้อาภัพจะอ่อนโยนเสมอ
“แต่เราอาจจะวานให้ส่างบุญไปตามล่ามันได้” นางหมายถึงพรานหนุ่มฝีมือดีในหมู่บ้าน
สีหน้าน้ำผึ้งปรากฏความหวังขึ้นแวบหนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นสลดพอกับน้ำเสียงที่ตามมาหลังเสียงถอนใจ
“ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกจ้ะแม่ จับเขามาขังกรงเขาอาจตายได้เพราะตรอมใจ แล้วกว่าจะจับได้ส่างบุญอาจหนักมือทำให้เขาตายเสียก่อนจะจับได้ตัวเป็นๆ”
“เราก็ให้ส่างบุญพยายามจับเป็นสิจ๊ะ พอได้ตัวมาแล้วก็ฝึกมันจนเชื่องจะได้อยู่รวมกับมนุษย์ได้”
น้ำผึ้งส่ายหน้า แววตาหมองบอกถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาด
“อย่าเลยจ้ะแม่ น้ำผึ้งว่าว่าทารุณเกินไปที่เราจะหาประโยชน์ด้วยการจับสิ่งมีชีวิตมีกักขังให้หมดอิสรภาพ”
จอมทนดู ทนฟังต่อไปไม่ได้ก็คว่ำมือลง
เขายังไม่เข้าใจความอ่อนหวานน่ารักของผู้หญิงคนนี้ หล่อนเลือกที่จะตาบอดเหมือนเดิม เพราะไม่อยากจับสัตว์ป่ามาขังไว้ โดยสัตว์นั้นไม่เต็มใจ สีหน้าของหล่อนบอกถึงความหวัง แต่กลับห้ามคนที่รักหล่อนกระทำเพื่อให้หล่อนได้มาซึ่งความสมหวัง
จอมรวบรวมพลังอำนาจที่เขามีอยู่ทั้งหมด ขับไล่น้ำผึ้งออกไปจากความคิด ตั้งใจว่าจะไม่คิดถึงผู้หญิงคนนี้อีก ช่วงร้อยปีหลังมานี้เขาอยู่คนเดียวก็มีความสุขสบายพอควร อยู่ได้อย่างสงบ มีเวลาฝึกเล่นเวทมนตร์คาถาต่างๆ ไม่คิดจะให้ผู้หญิงคนเดียวมาทำลายชีวิตอันสันโดษและสงบเงียบของเขา เพราะฉะนั้นมีอยู่ทางเดียว เขาจะต้องเนรเทศแม่สาวเสียงการเวกออกไปจากใจให้หมดจด