เยว่กวางใช้วิชาตัวเบานำทางเซวียลู่เหลียงมาเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจวน ก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายกลับไปเพราะไม่อยากให้คนที่บ้านตนมาเจอ หัวหน้าองครักษ์เองก็เข้าใจกลัวอีกฝ่ายจะเสียหายเช่นกันจึงขอตัวกลับไปยังวังหลวงเพื่อจัดการรีดข้อมูลจากเหล่ามือสังหารเพื่อเอาไปรายงานองค์เหนือหัวในวันรุ่งขึ้น
‘เฮ้อ ทำไมวันนี้ช่างยาวนานจริงๆ เลย’ เยว่กวางคิดอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้เธอแทบจะใช้พลังชีวิตจนหมด แถมยังได้แผลกลับมาอีกต่างหาก ร่างบางระหงหลบหลีกเหล่าองค์รักษ์อย่างชำนาญ เพราะจำจุดประจำการของทุกคนได้ จนกระทั่งมาถึงเรือนของตน
“ทะ ท่านพ่อ”
เงาดำทะมึนยืนเด่นหราอยู่ที่หน้าห้องของเธอ ร่างกายกำยำสมส่วนสวมชุดผ้าไหมสีดำปักลายพยัคฆ์นั่นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกเสียจากบิดาของเธอเอง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาให้เห็นใบหน้าคมเข้มถมึงทึงจ้องมายังบุตรสาวที่น่ารักของตน ซึ่งบัดนี้ใบหน้างามซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด สายตาคมดุจเหยี่ยวกวาดมองทั่วร่างบอบบางจนพบร่องรอยที่แขนซ้าย จึงเดินตรงเข้ามาจับแขนข้างนั้นเพื่อดูแผล
“ท่านพ่อเจ้าคะ คือลูก…” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาราวกับสายลม เนื่องด้วยความกลัวที่เข้าเกาะกุมจิตใจว่าอีกฝ่ายจะโกรธเกลียดตนขึ้นมา แต่ก็ต้องตกใจเมื่อผู้เป็นบิดาดึงตนเข้าไปในอ้อมกอด
“ไปอาบน้ำ แล้วนอนพักเสีย เรื่องอื่นพ่อจะรอฟังเจ้าอธิบายในวันพรุ่งนี้” ซ่งหนิงเฉิงกอดปลอบบุตรสาวที่ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยน้ำตา ฝ่ามือหยาบกร้านลูบผมนุ่มเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธ อาจจะมีโมโหบ้างแต่เมื่อเห็นสีหน้าอ่อนล้านั่นก็ทำให้ตัดใจว่าลูกไม่ลง เยว่กวางเห็นบิดายังคงอ่อนโยนกับตนก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนที่จะเดินเข้าเรือนไป ท่านแม่ทัพใหญ่จึงเรียกองครักษ์เงาออกมาแล้วส่งไปสืบเรื่องราวในทันที จากนั้นจึงหันหลังแล้วเดินกลับเรือนของตน
ทันทีที่อาบน้ำแล้วล้มตัวลงบนที่นอนเยว่กวางก็สลบไสลยันเที่ยงของอีกวัน เนื่องด้วยซ่งหนิงเฉิงแจ้งทุกคนไว้แล้วจึงไม่มีใครมาปลุกและปล่อยให้คุณหนูนอนพัก จนถึงมื้อเที่ยงมารดาอย่างหลินซูฉีก็มาดูบุตรสาวที่เรือนด้วยกลัวว่าลูกจะป่วย แต่เมื่อดูแล้วบุตรีดูไม่เป็นอันใดจึงปลุกให้ลุกขึ้นมารับสำรับเที่ยงด้วยกัน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งตอนเย็น….
ห้องหนังสือจวนแม่ทัพใหญ่
หลังจากรับสำรับเย็นเสร็จซ่งหนิงเฉิงก็ให้ภรรยาและบุตรสาวเข้ามายังห้องหนังสือ เพื่อฟังเรื่องราวเมื่อคืนจากปากของเยว่กวางโดยตรง ซึ่งเธอเองก็เล่าทุกอย่างโดยไม่ปิดบังตั้งแต่แอบออกจากจวนจนกระทั่งพบองค์หญิงฟางจิงโดนลอบสังหารและองครักษ์มาช่วยทัน ท่านแม่ทัพใหญ่ได้ฟังก็ใบหน้ามืดครึ้ม ก่อนจะลุกไปยังโต๊ะหนังสือเขียนเรื่องราวโดยสรุปใจความว่าตระกูลซ่งอาจจะมีเรื่องให้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ ให้ลูกทั้งสามของตนเคลื่อนไหวให้ระวังยิ่งขึ้น จากนั้นสั่งเหล่าองครักษ์เงาให้ไปรับโทษที่ปล่อยให้คุณหนูตกอยู่ในอันตราย
“ลูกขอโทษนะเจ้าคะ เป็นความผิดของลูกเองเจ้าค่ะท่านพ่อ ได้โปรดอย่าลงโทษพวกเขาเลยนะเจ้าคะ” เยว่กวางสำนึกผิดยิ่งนักที่การกระทำของเธอทำให้หลายคนต้องเดือดร้อน
“ความผิดของเจ้าก็ส่วนของเจ้า แต่พวกเขาย่อมผิดเช่นกันที่ปล่อยให้คนเข้าออกจวนได้เช่นนี้ ทั้งยังปล่อยให้เจ้านายตกอยู่ในอันตรายอีก” ซ่งหนิงเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย จนใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา
“ต่อจากนี้เจ้าควรคิดก่อนจะทำสิ่งใดเสมอ เพราะทุกการกระทำของเจ้าสามารถส่งผลต่อคนรอบตัวของเจ้าได้ เจ้าหาได้ตัวคนเดียวไม่นะเยว่เยว่ เจ้ายังมีพ่อ มีแม่ มีพี่ๆ ของเจ้า และยังมีคนในตระกูลซ่งอีก ถ้าหากเจ้าเป็นอันใดขึ้นมาจะทำเช่นไร” หลินซูฉีดึงบุตรสาวเข้ามากอดด้วยความเป็นห่วง หากมิใช่ว่าเยว่เยว่ฝึกวรยุทธแล้วล่ะก็ หรือถ้าหากองครักษ์ขององค์หญิงมาไม่ทันล่ะ มิใช่ว่าเธอต้องเสียลูกไปอีกครั้งหรอกหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งกอดเจ้าตัวเล็กแน่นขึ้น
“ฮึก ท่านพ่อ ท่านแม่ ฮือ ละ ลูกขอโทษเจ้าค่ะ ฮึก ต่อไปลูกจะไม่ทำเช่นนี้ ฮือ อีกแล้ว” เสียงหวานเจือสะอื้นอย่างลุแก่โทษ เพราะเธอเคยชินกับการพึ่งพาตนเองและไม่เคยต้องคิดถึงการกระทำของเธอว่าจะส่งผลกับคนรอบตัวยังไง สิ่งเดียวที่เธอคิดในชีวิตก่อนคือการกระทำของเธอจะส่งเป้าหมายไปสู่ความตายยังไงมากกว่า
“เอาล่ะๆ ในเมื่อเจ้าสำนึกแล้ว พ่อจะลงโทษเจ้าโดยการกักบริเวณให้อยู่แต่ในจวน 10 วัน พร้อมทั้งต้องเรียนปักผ้ากับแม่ของเจ้าตลอด 10 วันด้วย” ท่านแม่ทัพใหญ่กอดปลอบทั้งสองคนไปพร้อมกัน และสั่งลงโทษเจ้าตัวแสบ เยว่กวางที่ได้ยินบทลงโทษของตนก็เงยหน้ามายิ้มแหยให้กับบิดา อันใดคือบทลงโทษนั้นดูโหดร้ายสำหรับเธอจริงๆ
ถ้าคิดว่าจบเรื่องแล้วล่ะก็…เธอคิดผิดยิ่ง เพราะหลังจากที่พี่ชายทั้งสามคนของเธอทราบเรื่อง ไม่รู้ว่าไปนัดกันมาหรือไม่เพราะทุกคนต่างกลับจวนมาในวันเดียวกัน ทำให้เธอต้องฟังทั้งสามดุ ว่า ปลอบ ตัดพ้อ ทั้งหมดทั้งมวลผ่านไปเป็นชั่วยาม (2 ชั่วโมง) ก็เหมือนจะยังไม่เป็นที่พอใจ กว่าเธอจะอ้อนให้ทุกคนหยุดได้เล่นเอาพลังชีวิตเธอเกือบหมด แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่เธอในตอนนี้ยังไม่รู้ นั่นคือ ชีวิตของเธอต่อจากนี้จะยุ่งเหยิงและวุ่นวายยิ่งกว่านี้เสียอีก
.......................................................................................