หลังอาหารเที่ยงนักเล่านิทานวัยชราก็เข้ามาตั้งหลักในห้องโถงของโรงเตี๊ยม เวทีด้านในยกพื้นขึ้นประมาณหนึ่งศอก มีโต๊ะตัวเตี้ยสำหรับให้ลูกค้านั่งตามพื้นอยู่รายรอบ ท่านอ๋องเก้าภาคภูมิใจนักที่ตนจองโต๊ะบนชั้นลอยได้สำเร็จ
“บ่ายนี้พวกเราได้นั่งชั้นบนเสียดาย เป็นเพราะน้องหญิงเหมาชุดที่ร้านเสื้อในโรงเตี๊ยมไปหลายตัวแท้ๆ พวกเราจึงได้นั่งในที่พิเศษเช่นนี้” เมื่อหันไปเห็นพระชายาของตนทำหน้าบึ้งท่านอ๋องจึงแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน “เชิญพี่สามเดินนำหน้าขอรับ”
คุณชายสามเลิกคิ้วน้อยๆ แล้วจับจูงข้อมือของจอมยุทธ์หงนำหน้าไป “เราไปกันเถอะน้องหง ปล่อยให้เจ้าเก้าหาวิธีทำให้ภรรยายิ้มออกเสียก่อน” ทั้งสองได้ยิน ท่านอ๋องเก้ากระซิบกระซาบตกลงจะให้องค์หญิงหานซู่ลี่ซื้อชุดเพิ่ม
“ท่านพี่สัญญาแล้วก็ห้ามว่าหม่อมฉันภายหลังด้วย”
“ได้ๆ ข้าไม่ล้อเจ้าแล้ว” พระสวามีรีบโอบไหล่พระชายาแล้วดันให้เดินขึ้นมาชั้นบน “วันนี้นักเล่านิทานจะเล่าเรื่องเซียนพันหน้าต่อมิใช่หรือ? ข้าล่ะสงสัยมานานนัก อยากรู้ว่าเซียนพันหน้าผู้นี้แท้จริงเป็นผู้ใดกันแน่?” มิใช่เพียงเซียนพันหน้าทว่ารวมถึงสตรีที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามนี่ด้วย
“อืม...จริงสิ ข้าเคยอ่านในตำราของมารใหญ่มี่อี้ ในนั้นมิได้กล่าวโดยละเอียดนัก บางทีนักเล่านิทานของยุทธภพอาจจะรู้สิ่งที่ลึกกว่านั้น”
“พี่สามสนใจเรื่องนี้ด้วยหรือ?”
“สนใจสิ ข้าคลับคล้ายว่าจะเคยเจอนักแปลงโฉมลอบเข้าวังด้วย”
เมื่อเขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น หงซือซือกับหานซู่ลี่ลอบสบตากัน “เหตุใดพี่สามจึงคิดว่าตนเองได้พบกับนักแปลงโฉมล่ะ เจ้าคะ?” พระชายาหานทำใจดีสู้เสือ
“เพราะข้ารู้สึกว่าสบตากับคนผู้นั้นแล้วแปลกกว่าผู้อื่น มันเป็นความรู้สึกคุ้นเคย เมื่อเห็นอีกครั้งก็คล้ายกับติดอยู่ในใจ”
“นั่นเป็นเพราะท่านอาจจะเจอคนที่คล้ายๆ กับเขาหลายคนหรือเปล่า? วะ เอ๊ย! คฤหาสน์ของท่านคนมากมายนักอาจจะมีลักษณะคล้ายกันก็ได้” หานซู่ลี่รีบกลบเกลื่อนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทว่าคุณชายสามกลับไม่คล้อยตาม
“น้องสะใภ้ ข้าก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดจึงคิดว่าคนที่ข้าเจอผู้นั้นจึงดูไม่เหมือนคนที่ข้าเคยเจอ? อาจจะเป็นเพราะบุคลิกลักษณะเปลี่ยนไปจากคนเคย ขี้ขลาดกลับเป็นคนกล้าหาญขึ้นมาฉับพลันมันดูแปลกเกินไป แม้รูปร่างหน้าจะเหมือนกัน แต่ก็คงเหมือนนักเล่านิทานได้กล่าวไว้เมื่อวานว่าคนที่ใกล้ชิดจะเป็นผู้สังเกตเห็นความผิดปกติได้ง่าย”
หงซือซือใจกระตุก เจ้ามังกรขาวตัวนี้จับผิดนางได้จริงๆ แม้เขาจะไม่รู้ชัดเจนนักทว่าคนเช่นนี้ต้องพยายามหลีกเลี่ยง “พี่สามยังไม่มีข้อพิสูจน์นี่ขอรับว่าคนผู้นั้นเป็นนักแปลงโฉม ท่านก็แค่อาศัยความรู้สึก บางทีท่านยังไม่เคยเจอนักแปลงโฉมจริงๆ กระมัง?”
“อืม...ข้าแค่อาศัยความรู้สึกจริงๆ อย่างเจ้าว่า” เขาหันมาสบตาจอมยุทธ์หนุ่มน้อย “อย่างเช่นข้าได้เจอเจ้าก็รู้สึกคล้ายกับเคยพบกันมาก่อนแล้ว รู้สึกคุ้นเคยจนบอกไม่ถูก”
หงซือซือหลบตาวูบเสหันไปมองหานซู่ลี่ “ใบหน้าข้าอาจจะคล้ายคนที่ท่านรู้จักมาก่อนก็เป็นได้ เมื่อเห็นแล้วท่านจึงรู้สึกคุ้นเคย” หากจะว่าไปใบหน้านี้นางแปลงมาให้คล้ายกับองครักษ์ในวังที่นางเคยใช้เสื้อผ้าของเขาลอบเข้าไปในวังหลวง หากฮ่องเต้จะรู้สึกคุ้นหน้าก็ไม่แปลกกระไร
อ๋องเก้าเกรงว่าพี่สามของตนจะทำเอาสตรีทั้งสองกระอักกระอ่วนจึงปรบมือเรียกความสนใจ จังหวะดีที่เสี่ยวเอ้อนำเอากาน้ำชาและจานขนมมาส่ง “เอาเถิดๆ จิบน้ำชารสเลิศกับขนมที่ข้าสั่งกันก่อนก็แล้ว”
นักเล่านิทานชราก็เริ่มเคาะโต๊ะสองสามครั้งก่อนที่กลองด้านหลังจะรัวเรียกความสนใจ “สวัสดียามบ่ายท่านจอมยุทธ์ทั้งหลาย ต่อจากเมื่อวานนี้หลังจากที่มารใหญ่มี่อี้จับนักแปลงโฉมที่ปลอมเป็นเจ้าเมืองฉางเฉิงได้ มีผู้ข้องใจกันว่าในยุทธภพของเรานั้นผู้ใดคือนักแปลงโฉมอันดับหนึ่ง.....แม้เราจะรู้จักนามของเซียนพันหน้าทว่ากลับมิมีผู้ที่รู้จักใบหน้าจริงของเขาเลยสักคน ในเมื่อเขามีพันหน้าให้เลือกใช้ใบหน้าของเขาในยามพบปะกับผู้อื่นจึงมิเคยเป็นใบหน้าจริงเลยสักครั้งเพื่อมิให้ผู้ใดติดตามเขาพบได้ ยกเว้นเขาจะเป็นผู้เปิดเผยนามตนเองให้ได้รู้ ทว่านอกจากฉายาแล้วชื่อจริงของเขาก็ไม่มีผู้ยืนยันได้ หากท่านได้อ่านหนังสือของมารใหญ่มี่อี้ในบทที่ว่าด้วยแปลงพันโฉมจะเล่าประวัติของเซียนพันหน้าเอาไว้ว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในราชวงศ์หมิง....”
“หือ!” คุณชายสามกับอ๋องเก้าหันมาสบตากัน
“หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อครั้งนั้น” คุณชายสามเผลอเอ่ยออกมาเบาๆ จอมยุทธ์หงได้ยินคำพูดพึมพำนั้นจากปากเขาพอดี จังหวะนั้นกลองรัวขึ้นจึงไม่มีผู้ใดได้ยินสิ่งที่เขาพูดนอกจากนาง
“เพราะถูกบีบคั้นให้ออกจากราชวัง เขากลายเป็นคนพเนจรจนไปรู้จักกับ ผู้เฒ่าหมื่นกระบี่ด้วยความเมตตาของท่านผู้เฒ่าเขาจึงได้อยู่ร่ำเรียนวิชาตีกระบี่ที่แข็งแกร่งทนทานและยังได้วิชากระบี่ติดตัว ด้วยความหวาดกลัวราชสำนักจะตามหาตนพบจึงหนีไปซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหอคณิกาแห่งหนึ่งในแคว้นเหลียน ครานั้นเถ้าแก่เนี้ยหอคณิกาที่เก่งกาจในการแปลงโฉมได้พบเห็นเขาก็ถูกชะตาจึงรับไว้เป็นศิษย์ ฉายาของอาจารย์เซียนพันหน้าคือ นางมารพันโฉม ซึ่งหลบซ่อนตัวหนีการติดตามของตำหนักมาร นางมารพันโฉมผู้นี้ได้ถ่ายทอดวิชาให้เซียนพันหน้าจนหมดสิ้น จากนั้นหากก็หายตัวไป....” ชายชราหยุดพักจิบน้ำชาปล่อยให้กลองรัวเร่งเร้าความสนใจ “แม้เซียนพันหน้าจะมีทั้งวิชาการกระบี่และแปลงโฉม ทว่ากลับไม่นิยมการประลองยุทธ์นักมักจะเปลี่ยนใบหน้าไปเรื่อยๆ เดินทางอยู่ระหว่างห้าแคว้นจนกระทั่งได้พบรักกับ จอมยุทธ์หญิงผู้หนึ่ง...”
“พวกเขามีบุตรหรือไม่?” เสียงตะโกนจากโต๊ะด้านหน้าที่อดรนทนไม่ไหว
“ใจเย็นๆ ท่านผู้ฟัง ขอข้าชิมขนมดาวกระจายอันขึ้นชื่อของโรงเตี๊ยมจอมยุทธ์สักคำก่อน” นักเล่านิทานหยิบขนมก้อนแบนรูปดาวขึ้นมากัดคำหนึ่ง หลับตาเคี้ยวอย่างดื่มด่ำในรสชาติ “อา...อร่อยจริง” นับเป็นการแนะนำแอบแฝงที่ได้ผล เพียงเห็นนักเล่านิทานกินขนมด้วยท่าทีเช่นนั้นแต่ละโต๊ะก็ร้องสั่งขนมทันที
“พวกเขามีบุตรชายและบุตรสาวด้วยกัน แน่นอนว่าบุตรของพวกเขาก็ล้วนเก่งวิชาแปลงโฉม ฉายาเซียนพันหน้านี้จึงเรียกแทนพวกเขาทั้งครอบครัว บัดนี้คนทั้งสี่มีสายรายงานว่าเดินทางไปมาระหว่างห้าแคว้นนี่อยู่เรื่อยๆ ทว่าพวกเขากลับมิได้ใช้ใบหน้าเดิม ต่อให้มีผู้นำเอาภาพวาดในคราพบเจอพวกเขามาเพื่อเปรียบเทียบยืนยัน พวกท่านก็จะไม่อาจรู้ได้ว่าคนผู้นี้มีตัวตนจริงหรือไม่? เขาอาจจะแปลงโฉมเป็นข้า เป็นท่าน หรือเป็นคนในครอบครัวของท่านก็ได้....” เล่าถึงตรงนี้เสียงฮือฮาของคนแต่ละโต๊ะก็ดังขึ้นอีกคำรบหนึ่ง
“เช่นนั้น เราก็อาจจะได้พบเจอพวกเขาล่ะสินะ” เสียงชายจากโต๊ะมุมห้อง
“ขึ้นอยู่กับว่าท่านได้เจอแล้วจะรู้หรือไม่ว่าเป็นเซียนพันหน้าเพราะฝีมือพวกเขาเหนือกว่านักแปลงโฉมที่ถูกจับได้ในแคว้นเว่ยมากนัก บัดนี้นักแปลงโฉมที่แคว้นเว่ยก็โดนประหารไปแล้ว คงเหลือแต่เพียงครอบครัวเซียนพันหน้าเท่านั้นที่ยึดครองอันดับหนึ่งในยุทธภพเอาไว้ได้ หรือหากโชคดีพวกท่านอาจจะได้พบนางมารพันโฉมผู้เป็นอาจารย์ยายซึ่งกล่าวกันว่านางยังคงอาศัยอยู่ในแคว้นเหลียน”
“นางไม่รับศิษย์เพิ่มบ้างหรือ? ข้าอยากเรียนวิชาบ้าง” จอมยุทธ์หญิงใจกล้าตะโกนถาม ทำให้ทุกคนฮือฮาอยากจะไปเรียนวิชาแปลงโฉมบ้าง
“มีข่าวลือหนึ่งที่ยังไม่มีผู้ยืนยัน นางมารพันโฉมในภายหลังได้รับศิษย์สตรี ผู้หนึ่งเอาไว้ แม้ฝีมือของนางจะไม่เก่งเท่าศิษย์พี่ แต่นางผู้นี้มักจะเดินทางมายังแคว้น หมิงบ่อยครั้ง ให้พวกท่านลองสังเกตคนรอบข้างดู ท่านอาจจะเจอนักแปลงโฉมอยู่ใกล้ตัวก็เป็นได้ และวันนี้ข้าก็ได้ข่าวว่านางมาที่นี่!”
************************