บทนำ
10 ปีก่อนหน้า
คฤหาสน์หลังใหญ่ผู้คนขับผ่านไปผ่านมาก็ต้องเหลียวมองเพราะความอลังการและความสวยงามที่เจ้าของบ้านตั้งใจทำมันออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จำทำได้ วันนี้ลูกสาวคนสวยของเจ้าของบ้านพาเพื่อนๆตัวน้อยมาเที่ยว พวกเธอต่างตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก
"ลูกพีชบ้านของลูกพีชใหญ่จังเลย ว้าวมีสระว่ายน้ำด้วย"
"แน่นอนสิรู้ไหมคุณพ่อเราออกแบบเองบางส่วนด้วยนะโดยเฉพาะห้องนอนของเรา"
"น่าอิจฉาลูกพีชจังเลย" เพื่อนตัวน้อยพูดอย่างเพ้อฝันอยากมีบ้านหลังใหญ่อย่างนี้บ้าง
"ไม่ต้องอิฉจาหรอกนะจ๊ะเพราะพวกเธอมาเล่นที่บ้านของเราได้ตลอดเลยนะ"
"จริงเหรอลูกพีชใจดีจังเลย อยากเล่นน้ำแล้ว"
"คิกๆ ถ้าเตรียมชุดมาแล้วเราก็ลุยกันได้เลย" สามสาวเตรียมตัวไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
ณ ปัจจุบัน
คุณหนูลูกพีชผู้ซึ่งใช้ชีวิตดุจเจ้าหญิงตัวน้อยๆมาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อคุณพ่อของเธอตั้งใจจะประกาศขายคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่แบเบาะ นั่นก็แสดงให้เห็นชัดๆว่าชีวิตแสนสุขสบายของเธอกำลังจะหมดลงแล้ว เธอจะทำอย่างไรดีนะที่จะหยุดยั้งคุณพ่อของเธอเอาไว้ให้ได้ คฤหาสน์หลังนี้ตั้งแต่เธอจำความได้เธอก็อยู่ที่นี่มาตลอด แน่นอนว่ามันมีความทรงจำในช่วงวัยต่างๆของเธอและครอบครัว หากคฤหาสน์หลังนี้ตกไปเป็นของคนอื่นความทรงจำเหล่านั้นก็คงจะลบเลือนหายไป
"เราต้องขายคฤหาสน์หลังนี้ให้ได้เร็วที่สุด" คำบัญชาที่เหมือนฟ้าผ่ากลางใจ เธอไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลยทำไมนะทำไมโชคชะตาถึงมาเล่นตลกกับครอบครัวของเธอ
"ไม่ ไม่นะคะคุณพ่อ" เธอพยายามขอร้องท่านให้เปลี่ยนแปลงความคิดเสียใหม่
"พ่อไม่มีทางเลือกจริงๆลูก" พ่อของหญิงสาวมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด แม้จะรู้สึกผิดหวังเสียใจแต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีเลย
"คุณแม่ขาลูกพีชไม่ยอมนะคะ เรื่องอะไรที่เราต้องขายบ้านด้วยละคะ พีชรักของพีชนะ พีชอยู่ของพีชมาตั้งหลายปีหรือคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้คิดเหมือนกันกับพีชคะ"
"คุณคะ เราคงต้องบอกลูกตรงๆแล้วล่ะค่ะ" แม่ของหญิงสาวหันไปมองผู้เป็นสามี ในที่สุดเขาก็คิดเหมือนกันกับเธอแล้ว
"ผมว่าก็คงถึงเวลาแล้วจริงๆ ลูกพีชลูก พ่อมีเรื่องจะบอก บ้านเรากำลังจะล้มละลายเราต้องขายบ้านเพื่อที่จะใช้หนี้ให้เจ้าหนี้นะลูก"
"ทำไมคะ ทำไมเราถึงจะล้มละลายละคะ คุณพ่อก็บริหารงานที่บริษัทมาได้ดีตลอดไม่ใช่หรอคะ" เธอยังคงสงสัยและไม่เข้าใจจริงๆ
"เรื่องนั้นมันก็ถูกลูก แต่พ่อโดนโกงน่ะสิ มันเลยทำให้เราควบคุมสถานการณ์ต่างๆไม่ได้เลยในตอนนี้ พ่อไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนกับเราด้วย" เขาเป็นประธานบริษัทแน่นอนว่าเขาต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ทุกคนไม่เดือดร้อน
"แล้วมันไม่มีวิธีแก้อย่างอื่นเลยหรอคะ ขอผ่อนผันเขาออกไปหน่อยได้หรือเปล่าคะ"
"มันก็มีวิธีอยู่ลูกแต่พ่อว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับลูกเลย"
"วิธีอะไรคะ ถ้าลูกพีชช่วยได้ลูกพีชจะทำให้ดีที่สุดเลยค่ะตราบใดที่ลูกพีชสามารถรักษาบ้านของเราเอาไว้ได้ลูกพีชยอมทำหมดเลย" แววตาของหญิงมุ่งมั่น
"คือว่า...."
"คือว่าอะไรคะคุณพ่อ"
"ลูกต้องแต่งงานกับคุณนที"
"อะไรนะคะ ทำไมต้องแต่งงานด้วยละคะ" เธอไม่อยากจะเชื่อเลย
"พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฝ่ายนั้นเสนอมาแบบนี้น่ะลูก"
"เขาใช่คนที่โกงเงินพ่อไปหรือป่าวคะ" เธอรู้สึกไม่พอใจนิดๆ
"ไม่ใช่หรอกลูก"
"แล้วคุณพ่อรู้จักเขาได้ยังไงคะ"
"พ่อไม่รู้จักคุณนทีโดยตรงหรอกลูก รู้จักแต่คุณชลธารพ่อของคุณนทีเขาน่ะ เราเคยทำธุรกิจร่วมกันอยู่"
"บ้าจริงๆเลย หน้าก็ยังไม่เคยจะพบเห็นกันแล้วจะให้แต่งงานกันได้ยังไง มีช่องทางอื่นๆอีกไหมคะคุณพ่อคุณแม่" เธอคิดว่ามันเป็นวิธีที่ไม่เข้าท่าเสียเลย แต่งงานเนี่ยนะเขาคิดได้ยังไงเนี่ย
"ไม่มีแล้วลูก พ่อกับแม่พยายามทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ พวกเราเลยตัดสินใจจะขายบ้านไงลูกพ่อไม่อยากให้ลูกต้องสูญเสียความเป็นอิสระไป"
"เฮ้อ นี่ลูกคงต้องแต่งงานสถานเดียวใช่ไหมคะถึงจะรักษาบ้านของเราได้"
"ใช่แล้วละลูก มีแค่ทางเดียวเท่านั้น"
"ขอเวลาให้ลูกพีชหน่อยนะคะ ลูกพีชจะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ลำบากใจแน่นอนค่ะ"
"จ้ะลูก"
หญิงสาวจึงขอเวลากลับไปคิดทบทวนสักหน่อยแล้วจะรีบให้คำตอบกับท่านทั้งสองโดยเร็วที่สุด สามวันผ่านไปเธอก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะตกลงยอมรับข้อเสนอที่ทางนทีเสนอมาให้ เพราะมันเป็นทางเดียวที่ได้ผลเร็วที่สุด แม้เธอจะสูญเสียอิสรภาพไปแต่ก็ยังสามารถรักษาบ้านของตัวเองไว้ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เดือดร้อนที่จะต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เมื่อเธอบอกคำตอบกับพ่อและแม่เรียบร้อยแล้ว พ่อของเธอก็ต่อสายไปหาคุณชลธารทันทีว่าลูกสาวของพวกเขายอมรับข้อเสนอของทางโน้นแล้ว คุณชลธารจึงจัดการโอนเงิน 20 ล้านบาทเข้าบัญชีของคุณพลับบิดาของลูกพีชทันที เสียงข้อความเข้าแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้าบัญชีแล้วเป็นจำนวนมากถึง 20 ล้านบาท คุณพลับจึงรีบดำเนินการนำเงินทั้งหมดที่ได้มาไปทยอยใช้หนี้จนหมด ในตอนนี้บ้านของหญิงสาวจึงเปรียบเสมือนเป็นไทยแล้ว หมดหนี้หมดสินแต่พันธะของลูกสาวเข้ามาแทน
"ผมต้องขอบคุณชลธารมากๆเลยนะครับ"
"ถือว่าช่วยเหลือกันเถอะครับ ผมเองก็เอ็นดูหนูลูกพีชมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมดีใจนะครับที่เราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ผมอยากให้หนูลูกพีชมาเป็นสะใภ้ของครอบครัว"
"ครับ ผมขอบคุณคุณจริงๆ แล้วจะให้ยัยพีชย้ายไปอยู่กับคุณนทีเมื่อไรล่ะครับ"
"ยิ่งเร็วยิ่งดีครับ ผมอยากให้ทั้งสองคนปรับตัวเข้าหากันได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี"
"แล้วคุณนทีตอนนี้อยู่ที่ไหนละครับ"
"อยู่ที่ไร่ครับ"
"ไร่?" ไร่ของชลธารจะลำบากมากแค่ไหนนะ
"ครับ หนูลูกพีชคงจะต้องกลายเป็นนายหญิงคนใหม่ของไร่ครับ"
"ครับๆเดี๋ยวผมจะบอกให้ลูกพีชเตรียมตัวไว้เลย งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ"
"สวัสดีครับ" หลังจากวางสายพ่อของหญิงสาวก็บอกให้ลูกสาวเตรียมตัวเตรียมใจที่จะย้ายไปอยู่กับชายหนุ่มที่บ้านในต่างจังหวัด เขาเองก็หวังว่าเธอจะสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้โดยเร็ว แม้จะรู้สึกสงสารแต่เขาเองที่เป็นบิดากลับทำอะไรไม่ได้ คิดแล้วมันเศร้าใจ เขาได้แต่ภาวนาว่าให้คุณนทีคนนั้นดีกับลูกสาวของเขามากๆ
มาลุ้นกันนะคะว่าเมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากันเหตุการณ์วุ่นๆจะเกิดขึ้นมากมายแค่ไหน
เมื่อทำการตกลงกันเรียบร้อยแล้วระหว่างผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย หญิงสาวก็ออกเดินทางมายังไร่ธาราลัยของชายหนุ่มทันทีโดยอาศัยรถประจำทางเพราะเธอไม่มีรถยนต์ส่วนตัวแล้ว แถมเธอก็ต้องต่อรถเข้าไปอีกทีเพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลทำให้รถทั่วไปจะเข้าออกไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต เธอจึงต้องนั่งรอรถจากภายในไร่ออกมารับถึงจะเข้าไปได้ แต่แล้วก็มีคุณป้าท่านหนึ่งเดินผ่านมาพอดีจึงแวะทักทายหญิงสาว
"อ้าวอีหนูเอ้ย มาหาใครละเนี่ย"
"มาหาคุณนทีค่ะ คุณป้ารู้จักเขาไหมคะ"
"มีธุระอะไรรึ ไปรู้จักกับคนน่ากลัวอย่างนี้ได้ยังไงกัน"
"คุณนทีเขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอคะคุณป้า" เมื่อเจอคุณป้าคนนั้นถามมาแบบนี้เะอชักรู้สึกร้อนๆหนาวๆเสียแล้วสิ
"ก็แน่ละสิ คนละแวกนี้เขากลัวกันทั้งนั้น มีอำนาจล้นฟ้าเลยแหละหนู ไม่ใจดีเท่าคุณชลธารผู้เป็นพ่อหรอกนะหนู ระวังไว้ด้วย"
"คุณป้าเคยคุยกับคุณนทีด้วยหรอคะ"
"ไม่เคยหรอก ป้าก็ฟังเขาเล่าๆกันมาอีกทีนึงน่ะ"
"อ่อ หนูเริ่มจะกลัวเขาอย่างที่คุณป้าว่าแล้วละค่ะเนี่ย"
"ปริ้นๆ" เสียงแตรจากรถกระบะเก่าๆคันหนึ่งที่ขับออกมาทำให้เธอต้องหยุดการสนทนากับคุณป้าท่านนี้ทันที
"ป้าไปก่อนนะ กลัวจะเดือดร้อนแล้ว"
"ป้าคะ ป้า" ป้ารีบเดินห่างออกไป เธอพยายามเรียกเท่าไรป้าแกก็ไม่หันกลับมาเลย แปลกจริงๆ
"สวัสดีครับคุณคือคุณลูกพีชใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะ คุณคือ"
"ผมสายชลครับ เป็นผู้จัดการไร่ของที่นี่ครับ"
"อ่อ สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อลูกพีชนะคะ คุณคงจะรู้จักฉันแล้วถึงออกมารับกัน แล้วเจ้านายของคุณทำไมถึงไม่ว่างมารับฉันเองละคะ"
"พอดีนายติดธุระเรื่องติดต่อการค้ากับลูกค้าต่างชาติครับผมเลยมารับคุณลูกพีชแทน"
"อ่อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะใครจะมารับก้ได้ลูกพีชสบายๆอยู่แล้วค่ะ ว่าแต่ไปกันเถอะค่ะฉันร้อนจะแย่แล้ว" แดดแรงขนาดนี้เะอแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"ครับๆ คุณอย่าไปฟังป้าแกมากนะครับ"
"หมายถึงใครกันคะ"
"ก็ป้าที่นั่งคุยกับคุณเมื่อสักครู่อย่างไรละครับ แกสติไม่ค่อยจะดีน่ะครับ"
"จริงหรอคะ แต่เท่าที่ฉันดูแกก็ปกติดีนะคะ ไม่เหมือนคนสติไม่ดีเลย "
"ขนาดหมอแกยังหลอกได้เลยครับ"
"จริงหรอคะ" เธอแทบไม่เชื่อหูว่าคนสติไม่ดีอะไรจะถึงขั้นหลอกคุณหมอได้
"ครับ ลูกหลานแกพาไปรักษาอาการทางจิตมาหลายรอบแล้ว"
"ท่าเป็นอย่างที่คุณว่าป้าแกก็น่าสงสารจังเลยนะคะ"
"คงเป็นเวรเป็นกรรมแล้วแหละครับ" ผู้จัดการไร่มาเธอนั่งรัดเลาะมาตามทางใช้เวลาสักพักก็มาถึงที่บ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านที่ไม่ได้เล็กไม่ได้ใหญ่กำลังพอเหมาะ
"ถึงแล้วครับ นี่บ้านของคุณนทีครับ ถัดไปอีกสองร้อยเมตรจะเป็นบ้านใหญ่ของคุณชลธารครับ"
"อ่อ ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ"
"ครับ ผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนครับ"
สายชลพาหญิงสาวมาพักที่บ้านของเจ้านายหนุ่มตามคำสั่ง ลูกพีชเข้ามาภายในตัวบ้านแล้วก็ยังไม่พบตัวของเจ้าของบ้านเสียที บ้านของชายหนุ่มดูโปร่งโล่งสบาย แถมอากาศยังสามารถถ่ายเทได้อย่างดีเยี่ยม อารมณ์เหมือนได้มาพักตากอากาศอย่างไงอย่างงั้นเลยทีเดียว เธอเดินสำรวจไปรอบๆบ้านของชายหนุ่ม
"จ๊ะเอ๋"
"อุ้ย ตกใจหมดเลย"
"สวัสดีจ้า ฉันชื่อลิ้นจี่เป็นคนดูแลที่บ้านหลังนี้จ้า" สาวใช้รีบแนะนำตัวกับนายหญิงคนใหม่
"สวัสดีจ้ะ ลิ้นจี่คงรู้จักฉันแล้วใช่ไหม"
ใช่จ้า นายสั่งให้ฉันมาดูแลความเรียบร้อยให้คุณลูกพีชค่ะ
แล้วไหนนายของลิ้นจี่ละจ๊ะ" เธอพยายามมองหาแต่เขาก็ไม่ได้ออกมาต้อนรับเธอ
"นายยังไม่กลับจ้า กว่าจะกลับก็คงค่ำๆเลยจ้า"
"งานเขาหนักขนาดนั้นเลยหรอ" เะอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่แท้ที่ไม่มาต้อนรับเพราะเขากำลังติดงานอยู่นี่เอง
"หนักเอาการอยู่จ้า คุณนทีเป็นคนเก่งถึงจะหนักแค่ไหนก้เอาอยู่แน่นอนจ้า"
"ฉันถามอะไรหน่อยสิ"
"ว่ามาเลยจ้าคุณลูกพีช"
"นายของลิ้นจี่เป็นคนดุมากไหมอ่ะ คือว่า..ฉันยังไม่เคยเจอเขามาก่อนเลย"
"ก็ดุเอาการอยู่นะจ๊ะถ้าใครทำอะไรให้คุณเขาไม่พอใจ"
"เอาแต่ใจเป็นบ้าเลย" หญิงสาวพรึมพำออกมาเบาๆคนอะไรคนอื่นคงขัดใจไม่ได้เลยสินะ
"นายมีเหตุผลนะจ๊ะ ที่นายต้องดุก็เพราะว่ามีคนทำผิดกฎ"
"ที่นี่มีกฏด้วยหรอ"
"ใช่จ้ะ"
"กฎที่นี่มีเยอะขนาดนั้นเลยหรอ"
"เรื่องนี้รอให้คุณลูกพีชคุยกับนายเองจะดีกว่านะจ๊ะ" ลิ้นจี่ไม่กล้าพูดอะไรมากหรอกเธอคิดว่ารอผู้เป็นนายมาจัดแจงอธิบายจะเหมาะสมเสียกว่า
"โอเคๆ ลิ้นจี่ไปทำงานเถอะฉันดูแลตัวเองได้สบายมาก"
"แน่ใจนะจ๊ะ"
"แน่ใจสิ ไปเถอะจ้ะ"
"ค่ะ"
เธอเดินไปยังห้องพักที่ลิ้นจี่บอกว่าจัดไว้ให้สำหรับตนโดยเฉพาะ ภายในห้องมีห้องน้ำส่วนตัวถือว่ามันดีมาก แต่ที่น่าตกใจคือ ที่นี่คือกลางป่ากลางเขาอาการเย็นมากๆในเวลากลางคืนแต่ที่นี่ดันไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นเสียนี่ แย่จริงๆเลย แล้วเธอจะอาบน้ำได้ยังไงกันนะ คิดแล้วก็กลุ้มใจจริงๆ น้ำมันจะต้องเย็นจับใจแน่ๆ ชีวิตสุดแสนจะสุขสบายของฉันโปรดกลับมาหาฉันอีกสักครั้งจะได้ไหมเนี่ย เธอได้แต่ภาวนาและตัดพ้อต่อโชคชะตาของตนเองในเวลาเดียวกัน เธอควรจะรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมืด เมื่อหญิงสาวคิดได้ดังนั้นจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะถ้าหากรอให้มืดค่ำแล้วคงจะหนาวมากแน่ๆ อาบน้ำเสร็จเะอก็มานอนเล่นพลิกตัวไปมาบนเตียงกว้าง แต่เธอรอแล้วรอเล่าคนต้นเรื่องก็ยังไม่กลับมาที่บ้านเสียที เธออยากจะรู้แล้วว่าคุณนทีอะไรนั่นที่ทุกคนต่างร่ำลือจะหน้าตาเป็นอย่างไรกันนะ
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว ภายในไร่ของที่นี่ดูเงียบสงัดเพราะผู้คนเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ ที่นี่ไม่มีกิจกรรมแสงสีเสียงอะไรเหมือนอย่างในเมืองใหญ่เช่นบ้านของเธอ กิจกรรมสังคมต่างๆมากมายจนเธอก็นึกเบื่อรำคาญใจอยู่เหมือนกัน จะว่าไปการมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับการได้สงบจิตสงบใจไปในตัว เธอได้มีเวลากับตัวเองมากขึ้น เธอคงต้องยอมรับความจริงว่าต่อจากนี้ชีวิตคงต้องอาศัยอยู่ที่ไร่แห่งนี้ตลอดไป ระหว่างที่เธอกำลังนอนทอดอารมณ์คิดอะไรอยู่เพลินๆอยู่บนเตียงกว่าก็มีเสียงดังกุกกักขึ้นที่ด้านนอก เธอรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเธอ เธอเลยไม่รู้ว่ามีใครเข้าออกที่นี่ได้บ้างหรือว่าที่ได้ยินเสียงนั่นจะเป็นโจรนะ มีโจรบุกเข้ามาในวันที่เะอเพิ่งย้ายเข้ามาเนี่ยชั่งไม่เข้าท่าเสียเลย คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบหาอะไรที่ใช้ป้องกันตัวได้และนั่นก็คือแจกันไม้สักขนาดพอดีมือ เธอค่อยๆแง้มประตูออกไปทีละนิดและสอดส่องดูภายนอก ก็ปรากฎว่ามีใครก็ไม่รู้กำลังรื้อค้นของที่โต๊ะหน้าห้องตรงทางเดิน เธอไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปทำร้ายโจรผู้นั้นก่อนที่มันจะทำร้ายเธอ โดยการฟาดแจกันใส่โจรเต็มๆ
"นี่แหนะ ไอ้โจรบ้ากล้าบุกมาขโมยของคนอื่นเขาได้ยังไงกัน ตายซะเถอะ"
"ปั๊กๆๆ" เธอตีไม่ยั้งมือเลย
"โอ๊ยยย โอ๊ย เธอเป็นใครเนี่ย" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดปลุกทุกคนในบ้านให้ตื่นขึ้น ลิ้นจี่รีบวิ่งขึ้นมาดูที่ต้นตอของเสียงก็พบว่าคุณลูกพีชคนสวยของตนกำลังทำร้ายใครคนนึงอยู่แบบรัวๆเลย
"ตายแล้วๆ คุณลูกพีชใจเย็นๆก่อนนะคะ"
"ใจเย็นได้ยังไงกันนี่มันโจรขึ้นบ้านเลยนะ ใจเย็นไม่ได้หรอกนี่ก็ไม่รู้ว่าหยิบจับอะไรไปได้แล้วบ้าง"
"ขอโทษแทนคุณลูกพีชด้วยนะคะ"
"ไปขอโทษมันทำไมมันมาขโมยของบ้านเรานะ ลิ้นจี้นี่ก็แปลกคน"
"เธอว่าบ้านใครนะ"
"บ้านฉันไง ฉันอยู่ที่นี่ก็แสดงว่าเป็นบ้านของฉัน"
"ฉันก็อยู่ที่นี่งั้นแสดงว่าบ้านนี้ก็บ้านของฉันเหมือนกัน"
"นี่ อย่ามากวนประสาทกันนะ เรียกตำรวจเร็วๆ"
"อะเอ่อคุณลูกพีชใจเย็นๆนะคะ คือว่า... คนที่คุณลูกพีชทำร้ายคือคุณนทีค่ะ" ลิ้นจี่กระซิบบอกความจริงกับหญิงสาวเพราะเห็นสถานการณ์เริ่มจะบานปลายขึ้นเรื่อยๆ
"ห่ะ อะไรนะ ไอ้หน้าโจรคนนี่นะหรอ คือคุณนที ฉันไม่เชื่อหรอก"
"ทำไมห่ะ หน้าโจรแล้วจะทำไม" ชายหนุ่มถามกลับเสียงเข้ม
"ก็ไม่ทำไม" เธอรีบขยับตัวถอยห่างจากเขา
"หน้าโจรก็เป็นว่าที่ผัวในอนาคตของคุณก็แล้วกัน"
"กรี๊ดดด อย่ามาพูดจาหยาบคายกับฉันนะ" ฮืออ ในใจเธอกลัวเขามากๆเลย
"หยาบคายตรงไหน ก็พูดเรื่องจริงทั้งนั้น"
หญิงสาวได้แต่รู้สึกปรี๊ดแตกอยู่ในใจ นี่นะหรอคนที่เธอกำลังจะต้องแต่งงานด้วย เธอจะอยู่กับเขาได้ยังไงนะ จะอยู่กันรอดหรือป่าวก็ไม่รู้ ดูสภาพของชายหนุ่มสิ ผมยาวรุงรัง เนื้อตัวก็ไม่สะอาดสะอ้าน เธอรับไม่ได้ ฮือออ เธอจะทำยังไงต่อไปดีนะ บ้านก็ต้องรีกษาแต่ก็ไม่อยากทรมานตัวเองและหัวใจแบบนี้