“ได้ข่าวว่ารอบนี้หนักไม่น้อย”
“หูไวตาไวแบบนี้ สมกับที่ลงทุนมาหาจริงๆ”
“ติดใจฝีมือทำกับแกล้มหรือว่าอยากมาสืบข่าวล่ะ”
“ขอสองอย่างเลยได้ไหม” เขาต่อรองอารมณ์ดี
“ได้ซิ ถ้ามีเวลากินเบียร์รอกับแกล้มนะ”
“จัดมาพร้อมข่าวที่ผมต้องการด้วย”
อลันหัวเราะ และเดินตามพ่อครัวที่ท่าทางเหมือนนักเลงมากกว่าไปด้านหลังครัว มีโต๊ะเล็กๆ ตั้งอยู่กับเก้าอี้สองชุด ราวกับเป็นที่เฉพาะของคนสนิทสนมกันเท่านั้น เขาลากเก้าอี้มานั่ง เพียงครู่เดียวเบียร์ขวดเล็กเย็นเฉียบก็นำมาวาง เขาได้ยินเสียงตะหลิวเคาะกระทะ ไม่กี่นาทีต่อมากลิ่นอาหารหอมกรุ่นก็ลอยมาก่อนจะวางบนโต๊ะพร้อมตะเกียบสองคู่
พ่อครัวหน้าโหดนั่งที่เก้าอี้อีกตัว ตรงหน้ามีกระเพราไข่เยี่ยวม้าที่เป็นได้ทั้งอาหารและกับแกล้ม
ไมเคิลเปิดเบียร์ยกขึ้นดื่มแล้วใช้ตะเกียบคีบชิ้นไข่ส่งเข้าปาก
“ได้ยินว่าตายแล้ว แต่ก็ไม่แปลกใจที่เห็นอยู่ตรงนี้” ไมเคิลพูดหน้าตาเฉย
“นี่จะช่วยหรือจะแช่ง”
“เอาน่า มาถึงนี้ได้ก็ไม่ใช่ผีแล้วกัน” ไมเคิลหัวเราะ “มาซ่อนตัวที่นี่ก็ดีแล้ว อยากรู้อะไรก็ได้รู้ แข้งขาที่นี่ยังมีคนให้ได้ใช้งาน แต่ว่าคนเคยเป็นราชสีห์ มาอยู่แบบหนู จะอยู่ได้หรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง”
“ก็อยู่มาเป็นอาทิตย์แล้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่”
อลันหัวเราะอารมณ์ดี หยิบตะเกียบคีบอาหารในจานส่งเข้าปาก รู้สึกอร่อยกว่ากับข้าวที่ทางรีสอร์ทจัดมาให้ ไม่รู้ว่ายัยคนนั้นจะหนีออกไปแล้วหรือทำอะไรอยู่
“มาถึงนี่คงไม่ได้แค่อยากกินกับแกล้มละมั้ง”
“อยากมาเจอคนแล้วก็อยากได้ของเล่นด้วย”
“ของเล่น?”
“มีอะไรไว้ป้องกันตัวสักหน่อยก็ไม่ใช่เหรอไง”
“ได้ เดี๋ยวพาไปเลือกของเล่น”
“อีกเรื่อง จะเจอพวกเสี่ยสมนึกได้ที่ไหน”
“เสี่ยสมนึกเหรอ? เค้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
“ก็มีส่วน” อลันยักไหล่
“สนามมวยไง เสี่ยสมนึกมันบ้าพนันมวย ลองไปดูซิ แต่ไปคนเดียวมันจะสะดุดตา ยังไงหาผู้หญิงไปด้วยสักคน พวกเมียเช่านะ คงหาได้ไม่ยากนักหรอก”
“เมียเช่า?”
“ทำตัวให้กลมกลืนหน่อย”
“รู้แล้ว”
อลันคุยกับไมเคิลต่ออีกเล็กน้อย ทั้งสองคุยกันเป็นภาษาอังกฤษจึงไม่ได้สนใจว่าจะมีใครเข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกันหรือไม่ ไม่นาน ไมเคิลก็พาไปหลังร้านให้อลันได้เลือก ‘ของเล่น’ ที่ต้องการ เขาก็ได้ปืนพกที่จับถนัดมือแล้วเดินทางกลับ ไม่นึกว่ากลับมาถึงที่พัก หญิงสาวที่เขาซื้อตัวมาจะหลับอยู่บนโซฟา
ก็จริงที่เขาบอกให้เธอพักผ่อนตามสบาย แต่ไม่คิดว่าจะหลับง่ายดายไม่ระวังตัวแบบนี้ เขาเองก็ประหลาดใจที่ตัวเองนึกช่วยผู้หญิงคนนั้น
ดุลยารู้สึกว่ามีคนนั่งมองอยู่ก็ลืมตาขึ้นมอง เธอเกือบจะหวีดร้องเพราะตกใจ ก็แน่ละ เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งนี่
“คุณ เอ่อ อลัน กลับมาแล้วหรือคะ”
“ฮืม” เขาพยักหน้าแล้วยิ้มนิดๆ “เห็นคุณทำแผลให้ผมแล้วท่าทางไม่กลัวเลือด ไปสนามมวยเป็นเพื่อนผมคงจะไม่ขัดข้องอะไรใช่ไหม”
“สนามมวย?” เธอไม่เคยไปสนามมวยหรอก เคยเห็นในรายการโทรทัศน์เท่านั้นแหละ
“ใช่”
“คุณหมายถึงสนามมวยจริงๆ หรือแค่โรงยิมส์คะ” เธอถามย้ำอีกครั้ง
“หือ? ก็สนามมวยที่มีนักมวยต่อยกันบนเวทีไง”
“อ้อ! เข้าใจแล้วค่ะ ไปตอนนี้เลยหรือคะ”
“ใช่ คุณนอนพอหรือยังล่ะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันพร้อมทำงาน”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดูเซ็กซี่ๆ หน่อย ผมจะโทรไปให้ทางผู้จัดการรีสอร์ทหารถมารับ”
“คุณอลันจะอยู่ที่นี่นานไหมคะ”
“ทำไมล่ะ” เขาถามด้วยความแปลกใจ
“ถ้าเราอยู่หลายวัน หารถเช่าไว้ใช้ดีกว่าไหมคะ” เธอเสนอความคิดแล้วลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่เขาสั่ง แล้วตัวเองก็ต้องขมวดคิ้ว
“ไปสนามมวย ทำไมต้องแต่งตังเซ็กซี่ด้วยคะ”
อลันยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมอยากให้คุณทำตัวเป็นเมียเช่า ก็เลยให้แต่งตัวเซ็กซี่ไงล่ะ”
“เมียเช่า!”
“ก็แค่แกล้งทำ แต่ถ้าคุณจะทำจริงๆ ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ” อลันทำเป็นยักคิ้วให้ แต่ดุลยาแยกเขี้ยวใส่
“ฉันไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกค่ะ”
ชายหนุ่มหัวเราะกับท่าทางของเธอ นานๆ เจอผู้หญิงประหลาดๆ ทำให้ชีวิตเขามีรสมีชาติไปอีกแบบ อลันเดินไปโทรศัพท์หาผู้จัดการรีสอร์ ติดต่อเรื่องรถเช่า เห็นทีเขาต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน มีรถไว้เดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกดีเหมือนกัน หวังว่าผู้หญิงที่ไม่กลัวเลือดคนนั้น จะไม่หวีดร้องถ้าต้องเห็นเขาใช้ปืนหรอกนะ
รถเช่าที่อลันต้องการมาจอดอยู่หน้ารีสอร์ทเรียบร้อยแล้ว เขานั่งสบายๆ รอดุลยาออกมาจากห้อง ขณะกำลังจะเดินไปตู้เย็นหยิบเบียร์ขวดเล็กออกมาดื่ม ร่างบางก็ออกมาแล้ว อลันถึงกับขมวดคิ้วแล้วจ้องอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“นี่เรียกเซ็กซี่แล้วเหรอ” เขาถามแล้วเดินวนรอบหญิงสาวที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ ช่วงขายาวเพรียวสวยก็จริง แต่มันยังดูห่างไกลคำว่า ‘เซ็กซี่’ แบบที่เขาหวังนัก
“ก็จะไปรู้ได้ไงว่าคุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าฉันก็ซื้อแต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบบนี้แหละ”
อลันพยักหน้าแบบขอไปที ปกติถ้าเขาให้เงินผู้หญิงไปซื้อเสื้อผ้า เห็นแต่ชุดแบรนด์เนมราคาแพง มีแต่ผู้หญิงคนนี้ที่เลือกเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา เขาเดินวนรอบตัวดุลยาแล้วยื่นมือไปดึงชายเสื้อยืดของเธอขึ้น
“จะทำอะไร!” ดุลยาตีมือของเขาทันที
“ม้วนชายเสื้อขึ้นหน่อย โชว์เอวนิดๆ จะได้เข้าใกล้คำว่าเซ็กซี่”
“บอกดีๆ ก็ได้” เธอปัดมือของเขาออกแล้วขมวดชายเสื้อขึ้นกลายเป็นเสื้อเอวลอย “แค่ไปดูมวย ไม่เห็นต้องทำตัวเซ็กซี่บ้าบออะไรเลย”
“งั้นก็ทำตัวยังไงให้ดูเป็นเมียเช่าก็ได้”
เขายักคิ้วให้แล้วเดินนำมาที่รถเก๋งสีดำที่เช่าไว้ใช้งาน เขาแค่อยากให้มีผู้หญิงไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาเกินไป ดุลยาเดินตามเขาเข้าไปในรถ เธอไม่ค่อยได้ไปไหนนัก นอกจากทำงานและเรียนก็ไม่ได้ไปไหนเป็นพิเศษ
ชายหนุ่มยิ้มอารมณ์ดี หลังจากเคร่งเครียดมานาน ไม่คิดว่าตัวเองจะยิ้มหรือหัวเราะออกมาได้อีก เขาจัดการซื้อตั๋วเลือกที่นั่ง VIP กวาดตามองไม่นานก็เห็นคนที่อยากเจอตัว เขานั่งที่เก้าอี้มองทางดุลยาที่ยืนเก้ๆกังๆ เขาพยักหน้าให้เธอนั่งลง หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ พอจะเริ่มเข้าใจแล้ว นักท่องเที่ยวชอบมาดูชกมวยเหมือนการแสดงอย่างหนึ่ง
อลัน หยางมองเห็นเป้าหมายของเขาแล้ว เสี่ยสมนึกเป็นเจ้ามือพนันมวยที่สนามมวยแห่งนี้ เขาเอียงตัวไปกระซิบถามดุลยาน้ำเสียงเกียจคร้าน
“คุณชอบสีน้ำเงินหรือสีแดง”
“หือ? อะไรนะคะ” เธอถามด้วยความแปลกใจในคำถาม
“น้ำเงินหรือแดง?”
“แดงก็ได้ค่ะ” เธอก็ตอบไปอย่างนั้น แต่เขาลุกขึ้นเดินไปขอพนันมวยคู่บนเวที
อลันลงเดิมพันคู่มวยที่ไม่ใช่คู่เด่นแต่ลงเดิมพันหลักหมื่น แค่นั้นก็ทำให้ลูกน้องต้องวิ่งไปรายงานเสี่ยสมนึกทันที อลันเพียงยิ้มที่มุมปากแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม วางแขนโอบไหล่ของหญิงสาวแสดงท่าทีสนิทสนม
“ชอบดูเหรอ” เขาถามเมื่อเห็นเธอจ้องมองบนเวที
“เปล่าคะ แค่คิดว่าน่าจำไว้ใช้กับคนมือไวอย่างคุณ”
ดุลยาหันมาแย้มยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อลันหัวเราะชอบใจ ผู้หญิงแบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย เขาเองก็ไม่ได้สนใจคู่มวยที่เดิมพันไว้ แต่ราวกับโชคชะตาของตัวเองถึงได้ดีกับเรื่องแบบนี้เสียจริง ขนาดว่าพนันเมาซั่วแต่กลับชนะได้กำไรอีกต่างหาก แถมติดกันถึงสามคู่
“ไปเถอะ” เขาแตะข้อศอกให้เธอลุกขึ้น
“ค่ะ”
ดุลยาทำตามเขาบอกอย่างว่าง่ายไม่ได้ถามอะไรทั้งนั้น เขาจับข้อมือเธอให้เดินออกมาพร้อมกัน แต่พอทั้งสองเดินออกมาถึงลานจอดรถ มีนักเลงสองสามตามมาประกบ หญิงสาวยอมรับว่ากลัว แต่เห็นผู้ชายที่จับข้อมืออยู่นั้นไม่แสดงท่าทีทุกข์ร้อนอะไร กลับทำให้เธอสงบใจลงไปได้