ร้าย เจอ ร้าย(กว่า)

1477 Words
“ป้าจันทร์ ดึกป่านนี้มาทำอะไรที่นี่ครับ หรือมารอผม?...” “คุณคาล เอ่อ พอดีป้ามารอหลานป้าน่ะค่ะ” คาลวินที่พึ่งกลับมาถึงบ้านเห็นป้าจันทร์ฉายยืนอยู่หน้าประตูรั้วเลยลดกระจกลงถามออกมา “ดึกป่านนี้ยังไม่กลับเข้าบ้านอีกเหรอครับ?” เขาถามขึ้นอย่างเริ่มไม่พอใจ เป็นสาวแท้ๆกลับบ้านดึกไม่พอแถมยังให้คนแก่มายืนเป็นห่วงอยู่อย่างนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน จากนั้นคาลวินก็ขับรถเข้าบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดอย่างไม่เข้าใจตัวเอง เขามองดูนาฬิกาที่กำลังจะเที่ยงคืนในอีกไม่กี่นาทีแต่พริมายังไม่กลับบ้าน เธอเป็นคนยังไงกัน ตอนอ่านหนังสือไม่เหมือนกับสาวชอบเที่ยวกลางคืนเลยจริงๆ “หรือว่า...” และพอคิดเรื่องหนังสือ คาลวินก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขารีบเดินเข้าบ้านและตรงไปชั้นบน ก่อนจะเปิดประตูห้องหนังสือ เขาเดินเข้าไปในนั้นด้วยหัวใจเต้นตึกตักเมื่อเห็นอุปกรณ์ทำความสะอาดวางอยู่ในนั้น ก่อนจะเจอร่างเล็กนอนราบอยู่บนพื้นห้อง “เฮ้อ อ่านจนหลับเลยเหรอ...” เขามองพริมาที่หลับทั้งๆที่หนังสือยังเปิดอยู่ “แล้วจะทำยังไง...หลับแบบนี้...” คาลวินถึงกับคิดหนัก เมื่อป้าจันทร์ฉายก็ยังรออยู่หน้าบ้าน ส่วนหลานสาวก็หลับสนิทขนาดนี้ ถ้าไม่ไปบอกก็คงรอจนเช้า คาลวินตัดสินใจเดินลงไปด้านล่าง “ป้าจันทร์ครับ เอ่อ ไปนอนเถอะเดี๋ยวผมเฝ้าให้เอง ถ้ากลับมาแล้วจะดุให้ด้วยไม่ต้องห่วงนะครับ” “คุณคาล เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ยัยพริมชอบเที่ยวกลางคืนบ่อยๆแต่เดี๋ยวน่าจะกลับแล้ว” หือ? ชอบเที่ยวกลางคืนด้วยเหรอ? “พอดีผมไม่ง่วงและจะทำงานต่ออีก ป้าจันทร์ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารอีก ไปสิครับ” “เอ่อ...ก็ได้ค่ะ...” ถึงจะไม่อยากไป แต่ด้วยเป็นคำสั่งของเจ้านาย ป้าจันทร์ฉายเลยเดินกลับไปที่พักของเธอ ส่วนคาลวินก็เดินกลับเข้าบ้าน เมื่อตัวปัญหาไม่ได้ออกไปไหนเหมือนอย่างที่ป้าจันทร์ฉายคิด “ฮ้าวววว อื้อออ ทำไมเมื่อยไปหมดอย่างนี้นะ...อื้อออ เฮ้ย!!!” เช้าวันต่อมา พริมาที่พึ่งตื่นกำลังนอนบิดตัวไปมาเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยไปหมดทั้งร่างกาย ก่อนจะลืมตาขึ้นมาเจอชั้นหนังสือ เธอแทบลืมความปวดเมื่อยแล้วรีบลุกขึ้น “พริม! ทำไมพึ่งกลับบ้านห๊ะ!” พอวิ่งลงจากบ้าน และมันต้องผ่านห้องอาหารเพื่อไปที่ห้องพักของเธอ พริมาถึงกับสะดุ้งเมื่อลืมคิดไปเสียสนิทว่ามันเป็นเวลาอาหารเช้าของคาลวิน และป้าจันทร์ฉายถึงกับตกใจที่พริมาพึ่งโผล่มา “เอ่อ...พริม...” “เด็กคนนี้! เหลวไหลใหญ่แล้ว กลับไปรอที่ห้องเลยไป เดี๋ยวต้องถูกลงโทษสักหน่อยแล้ว” ป้าจันทร์ฉายรีบบอก ก่อนพริมาจะเสไปมองคาลวินที่นั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งๆที่ในใจกำลังหัวเราะ เมื่อเขาอยากรู้ว่าเธอจะทำหน้ายังไง และตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว “ป้าขอโทษนะคะ พอดีอดไม่ได้จริงๆ” ป้าจันทร์ฉายรีบเอ่ยขอโทษคาลวินที่ทำเสียมารยาทต่อหน้าเขา แต่คาลวินกลับไม่ได้ทำท่าทางไม่พอใจหรือตำหนิอะไรเลยสักนิด เมื่อเขารู้สึกสนุกมากว่า สนุกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกสนุกมาก่อนเลยสักครั้ง “วันจันทร์หน้าผมต้องเริ่มทำงาน เดี๋ยวให้คนมาเอาชุดผมไปจัดการให้หน่อย อ้อ ถ้าหลานป้าจันทร์ว่างให้เธอจัดการก็ได้นะครับ คงทำเป็นอยู่ใช่ไหม” “คะ? ป้าว่าป้า...” “ให้เธอนั่นแหละ ป้าจันทร์จะได้เอาเวลาไปทำอาหารอร่อยๆให้ผมทาน” และป้าจันทร์ฉายก็ต้องยิ้มฝืนๆออกมา เพราะถึงแม้พริมาจะเก่งทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่เธอไม่เก่งเลยก็คืองานบ้าน แค่ทำความสะอาดยังแทบไม่สะอาดเลย นี่ต้องรีดผ้า จะได้ไหม้หมดน่ะสิไม่ว่า “ห๊ะ? เอ่อ ให้รีดผ้า...แล้วปกติส่งออกไปรีดข้างนอก...ไม่ใช่เหรอจ๊ะป้า” “ก็นั่นสิ หรือว่าคุณคาลอยากประหยัด” “อะไรกัน รวยล้นฟ้าขนาดนั้น” “นั่นสิ...” สองป้าหลานได้แต่มองหน้ากันอย่างนึกแปลกใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อเป็นคำสั่งของคาลวิน พริมาเดินขึ้นไปชั้นบนพร้อมสอดส่ายสายตามองหาคาลวิน ก่อนเธอจะมาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของเขา ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เข้ามา” พอเขาอนุญาต พริมาก็เปิดประตูเข้าไป และกองผ้าที่อยู่บนพื้นก็ทำเอาเธออ้าปากค้าง “ทั้งหมดนี่ รีดให้หมด” “คะ? เอ่อ...” พริมามองเขาสลับกับกองผ้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเดินไปหยิบผ้าใส่ตะกร้าทีละชิ้นอย่างอ่อนแรง “รีดในนี้แหละ” “ห๊ะ? เอ่อ ค่ะ...” เอาแล้วไง...อีตานี่ต้องแกล้งอะไรเราแน่เลย ทำยังไงดีพริม...ตายแน่ๆ พริมาได้แต่คิดในใจ เมื่อตอนนี้เธอแทบหยิบจับอะไรไม่ถูกแล้ว “ลงไปเอาเตารีดกับฐานรีดมาสิ มีเวลาอีก 4 วันต้องทำให้เสร็จ” “คะ? เอ่อ แค่ 4 วัน...” “อืม” จากนั้นเธอก็ทำตามที่เขาบอก พริมาไปยกฐานรีดผ้าอันเล็กมาจากห้องเก็บของพร้อมกับเตารีด โดยมีคาลวินนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาพร้อมกับแอบมองดูเธอไปด้วย “พริมว่า พริมเอาไปรีดที่ห้อง...” “รีดที่แหละ เร็วเข้า เสียเวลามาเยอะแล้ว” และพริมมี่ก็ต้องจำใจลากเก้าอี้ในห้องเขามานั่งเพื่อรีดผ้าอันกองเท่าภูเขา เธอค่อยๆดึงมันออกแล้ววางไปบนฐาน จากนั้นก็เริ่มรีดทั้งๆที่ยังไม่เปิดเตารีด “หึหึ...” และคนที่แอบมองก็เผลอหัวเราะออกมาจนพริมาต้องหันไปมองเขา อะไรกัน เขาหัวเราะเยาะเราเหรอ? “ถ้าไม่เปิดเตารีด ชาตินี้ทั้งชาติเธอคงรีดผ้ากองนั้นไม่เสร็จหรอก” อ๊ายยยย ตายแล้วยัยพริมมมมม ทำอะไรลงไปเนี่ยยยย พริมาถึงกับกรีดร้องขึ้นมาในใจ เมื่อดันแสดงความโง่ให้เขาได้เห็นจนถูกหัวเราะเยาะอย่างนี้ ส่วนคาลวิน เขารู้สึกสนุกจนเผลอยิ้มไม่หุบ ยิ่งเห็นหน้าตาอันเหรอหราของเธอเขายิ่งสนุกเข้าไปอีก จากนั้นการรีดผ้าก็เริ่มขึ้น พริมาฉีดน้ำใส่ผาจนเปียกชุ่ม ทำเอาคนมองถึงกับขมวดคิ้ว “ถ้าจะเปียกขนาดนั้น เอาไปซักใหม่ดีกว่าไหม?” “จะทำเองไหมคะ?” “อ่าว...อืมๆ ทำไป” และพริมาก็หันไปทำหน้าไม่พอใจใส่เจ้านายผู้ชอบจับผิด จนคาลวินต้องแกล้งหันไปสนใจหนังสือในมือทั้งๆที่อ่านมันไม่รู้เรื่องเลยสักนิดก็ตามที ฉ่าาาา เสียงเตารีดร้อนๆถูกวางลงบนเสื้อผ้าราคาแพง ก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นไหม้เมื่อเตารีดมันร้อนเกินกว่าผ้าจะทนได้ “โอ้ววววว ซวยแล้ว...” พริมาถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเสื้อของเขาไหม้และขาดทันทีที่เตารีดแนบลงไป “เหม็นอะไร...เสื้อ...เสื้อไหม้เหรอ!” “แฮะๆๆ ค่ะ ไหม้...” พริมายกเสื้อขึ้นแล้วหันไปให้คาลวินดู และพอเขาได้เห็นถึงกับอ้าปากค้าง เพราะมันเป็นตัวโปรดที่คุณย่าของเขาซื้อให้เสียด้วย “เธอ!...” “ก็พริมรีดผ้าไม่เป็น...คุณคาลเองที่อยู่ดีๆก็มาบอกให้รีดให้...” “ความผิดของฉันใช่ไหม?” “ค่ะ...” “ยัยเด็กนี่...จริงๆเลย พอๆๆๆ วางลงๆก่อนที่จะไหม้หมด” “ค่ะ...” พริมาค่อยๆวางมันลงพร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะ เมื่อเธอจงใจกดให้มันไหม้เพื่อที่จะไม่ได้ทำอีก “ไปบอกป้าจันทร์ให้โทรเรียกบริษัทซักรีดมาเอาผ้าพวกนี้ไปรีด เร็วเลยไป” “ค่าาาา” และพริมาก็เดินยิ้มออกไปอย่างสาสมใจ เธอไม่ได้เป็นคนใช้ของเขาสักหน่อย เงินก็ไม่ได้ยังจะมาจิกหัวใช้ตามใจชอบ มันก็ต้องเจออย่างนี้แหละ ส่วนคาลวิน เขามองตามร่างเล็กอย่างเริ่มคิดวิธีเอาชนะเธอ เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพริมาเต็มสองตา เธอจงใจทำมันไหม้อย่างแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD