6 | การเผชิญหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยน

1859 Words
ฉันนั่งมึนอยู่สักพักกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินใจโทรหาเจ้ซีลีนเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ CALLING | CELINE "เจ้... เย็นนี้ผู้ชายจะมาขอ" (ว่าไงนะ ทำไมเร็วล่ะ แกพึ่งบอกฉันเมื่อคืนเองนะ) "พ่อบอกว่าพ่อเร่งเอง เอาไงดี พอเอาเข้าจริงทำไมรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้" (รู้สึกยังไง) "กลัว" (คนอย่างแกเนี่ยนะกลัว ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะที่แกหนีกลับก่อนอ่ะ เมื่อก่อนเป็นที่ไหน ถึงไหนถึงกันตลอด จูบนั่นมีส่วนรึเปล่า?) เอาอีกแล้วฉันเม้มปากอีกแล้ว "หยุดพูดเรื่องจูบเถอะฉันลืมหมดแล้ว แต่เย็นนี้จะได้เจอเจ้าบ่าวตัวเองแล้วรู้สึกแปลกๆ แม่ฉันพูดเหมือนจะส่งฉันเข้าโรงเรียนดัดสันดาน" (พูดยังไงอีก?) แล้วฉันก็เล่าสิ่งที่แม่พูด และแสดงออกกับฉันให้เจ้ซีลีนฟังทั้งหมด รวมถึงล้อเลียนเสียงแม่ด้วย (โอ๊ยแกคิดมาก แม่แกพูดเพราะลูกทั้งคนจะออกเรือนต่างหากไม่มีอะไรหรอกน่า ถ้าเขาเป็นคนที่พ่อแกเลือก ฉันรับรองว่าสุดปัง และดีแน่นอน) "นอกจากดี และปัง ฉันชอบคนหล่อด้วยนะ" (หล่อกินไม่ได้) "กินได้" ฉันตอบไปทันที (เออๆ ได้ก็ได้ เอางี้...แกอย่าคิดมากดีกว่า พ่อแกไม่มีวันปล่อยแกไปเจอสิ่งแย่ๆแน่นอน ส่วนมากพ่อจะชอบหาลูกเขยที่เหมือนตัวเองให้ลูกสาว) นั่นสินะ... พ่อแม่ที่ไหนจะส่งลูกไปเจอสิ่งไม่ดี และแย่กว่าสิ่งที่เป็นอยู่ ฉันคงคิดมากไปจริงๆ ถ้าได้สามีแบบพ่อก็ดีเลย พ่อเป็นผู้ชายที่รักครอบครัวมาก เหมือนเป็นคนที่มีพลังวิเศษตลอดเวลา ปัญหาอะไรเชิญเข้ามาเลยจ้ะ พ่อฉันรับมือได้หมด ที่สำคัญพ่อฉันหล่อมาก! หลังจากวางสายเจ้ซีลีน ไข่ขาวก็เริ่มงอแงเพราะฉันขังนางไว้นานเกินไป จึงไปคว้าไก่อีกตัวให้นางเคี้ยวเล่น ก่อนที่สักพักใหญ่พนักงานร้านชุด ช่างแต่งหน้า และช่างทำผมจะเข้ามาแปลงโฉมให้ฉัน แต่ชุดเรียบร้อยมากแม่! เป็นเดรสสีชมพูกระโปรงฟูฟ่อง และคอเสื้อสูงมาก ตอนที่พนักงานนำเสื้อออกมาแขวนลมแทบจับ ฉันเท่ได้ เปรี้ยวได้ แต่หวานละมุนละไมแบบนี้มันไม่ใช่ฉันเลย "เปลี่ยนชุดให้ฉันเดี๋ยวนี้" ฉันกอดอกสั่ง "ไม่ได้ครับคุณแทนขวัญ แม่ของคุณกำชับว่าต้องชุดนี้เท่านั้น" ฉันสั่งพนักงาน แต่บอดี้การ์ดส่วนตัวตอบมาแทน "ฉันไม่ชอบใส่ มันหวานไป เอาไปเปลี่ยน!" "ไม่ได้ครับ เรื่องนี้ผมถามท่านมาแล้ว ท่านบอกให้คุณแทนขวัญใส่ชุดนี้ให้ได้ และเครื่องเพชรก็ห้ามเปลี่ยนครับ" ฉันปรายตามองชุดเครื่องเพชรสุดน่ารักของแม่แล้วลอบถอนหายใจ โคตรไม่ใช่ตัวเอง แต่มีสิทธิ์เลือกที่ไหนล่ะ ชีวิตฉันเป็นของพ่อของแม่นี่น่า "เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ" ฉันผายมือแล้วนั่งพิงพนักโซฟาสุดเซ็ง ระหว่างนั้นช่างแต่งหน้าช่างทำผมก็เนรมิตฉันเป็นสาวหวานลูกคุณหนูไปด้วย ตอนเสร็จฉันรู้สึกเลี่ยนตัวเองมากเลย เปลือกตามีกลิตเตอร์สีพีช ใต้ตามีดอลลี่อาย ปากทาลิปกลอสเบาบางสีชมพู กระเป๋าก็เป็นสีชมพูเหมือนกับชุด รองเท้าก็ส้นสูงมีโบว์ ตอนที่ถูกหยิบจับอะไรใส่ตัว ฉันยกมือทาบอกตั้งหลายครั้ง และบอกตัวเองว่าอดทน อดทน พึ่งมีเรื่องกับพ่อมาอย่ามีเรื่องกับแม่เลย... พอตกค่ำบอดี้การ์ดของพ่อฉันก็ขึ้นมาเชิญฉันลงไปข้างล่าง แต่ลงมาก็ต้องตกใจกับความยิ่งใหญ่ของขบวนรถหรูของครอบครัวตัวเอง รถเยอะมาก และที่สำคัญบอดี้การ์ดทุกคนสวมสูทผูกเนคไท ฉันเดินลงไปงงๆ มองไปที่รถโรลส์รอยซ์คันแรก แทนทิวก็เปิดกระจกโบกมือมา "เจ๊ อยากนั่งคันไหนเลือกเลย แต่อย่ามานั่งกับผมนะ เดี๋ยวเจ๊อารมณ์เสียในวันของเจ๊เปล่าๆ" ฉันไม่นั่งกับแกอยู่แล้ว! ฉันเมินรถที่แทนทิวนั่งเดินไปคันที่บอดี้การ์ดเปิดประตูไว้ ซึ่งพ่อนั่งรออยู่แล้ว และท่านก็หันมาถามฉันทันที "พร้อมรึยังลูก?" ฉันพยักหน้า แต่อยู่ๆหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาซะงั้น พ่อเองก็จัดเต็มใส่สูทเนี้ยบมาก นี่มันวันสู่ขอจริงๆหรือวันอะไรกันแน่วะ "พ่อคะ..." "ครับลูก" พ่อฉันขานรับ "วันนี้สู่ขออย่างเดียว หรือว่าเป็นวันอะไร" "วันแต่งงาน" หา!! พอฉันอ้าปากหวอ พ่อก็พูดต่อทันที "เพื่อความปลอดภัยของลูก เราจะไม่จัดงานแต่ง เชิญคนอื่นเข้ามา เพราะมันง่ายต่อการลอบสังหาร" โอ้ไม่นะ พระเจ้า! แสดงว่าต้องเข้าหอวันนี้เลยเหรอ? ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย "หนูว่ามันเร็วไปนะคะ" "ไม่เร็ว พ่อรอมายี่สิบห้าปีแล้ว และเราจะทำกันแบบนี้ สิ่งที่เราเป็นอยู่พ่อไม่เคยคิดว่ามันปลอดภัยสำหรับลูก แต่ถ้าเราผนึกกำลังกับดรากอนเมื่อไหร่ ใครที่มุ่งร้ายคงต้องถอยไปคิดทบทวนดีๆ" ชีวิตของมาเฟียแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา เมื่อก่อนแม่เล่าให้ฟังว่าพ่อเคยค้าอาวุธกับกลุ่มก่อการร้าย และเลิกขาดออกมาด้วยวิธีที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ความลับของพวกนั้นอยู่ในกำมือพ่อฉัน ถ้าอนาคตมีอะไรเกิดขึ้นเราต้องตั้งรับให้ทัน พ่อไม่เคยวางใจในความปลอดภัยของลูก ท่านจึงทำทุกวิถีทางให้กลุ่มของเรายิ่งใหญ่ โดยการขยายอำนาจร่วมกับกลุ่มมาเฟียอื่น แต่ฉันไม่เคยเชื่อเลย ไม่สนใจด้วย ใครจะทำอะไรเราได้ ในเมื่อเรามีอิทธิพลมากมายขนาดนี้ ระหว่างนั้น...รถโรลส์รอยซ์เคลื่อนออกไปที่ไหนไม่รู้ แต่ฉันกับพ่อเงียบตลอดทาง ท่านเองก็หันมองออกไปนอกหน้าต่างบ่อยครั้ง จนในที่สุดขบวนรถของเราก็มาจอดที่ตึกโดดเดี่ยวแถวนอกเมือง มีกำแพงสูงคล้ายกับกองกำลังลับ แต่เมื่อบอดี้การ์ดเปิดประตูให้ฉันลง และพื้นรองเท้าส้นสูงเหยียบพรมแดงเท่านั้น หัวใจฉันก็เต้นระรัวขึ้นมาอีกรอบ บอดี้การ์ดกลุ่มดรากอนออกมายืนเรียงสองฝั่งพรมแดง พวกนั้นก้มคำนับอย่างพร้อมเพรียงก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไป ตอนนี้บอดี้การ์ดเยอะมากเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ แต่จุดสังเกตง่ายๆ ดรากอนจะสักรูปมังกรเล็กๆที่คอ แต่ไลออนของพ่อจะไม่มีใครสัก ครอบครัวฉันที่เหลือเดินตามหลัง ส่วนพ่อโอบเอวฉันเดินนำเข้าไป ข้างในทันสมัยคลุมโทนด้วยสีดำด้านดูลึกลับ ฉันกำมือแน่นรู้สึกประหม่าแปลกๆ แต่ก็พยายามเชิดหน้าขึ้น และเดินหลังตรงไม่ให้ใครสงสัย จนมาถึงห้องห้องหนึ่ง...ข้างหน้ามีบอดี้การ์ดเพียบ คนพวกนั้นก้มคำนับเราอีกครั้ง ก่อนจะดึงประตูเปิดสองฝั่งให้ ใช่ ฉันยืนตัวแข็งทื่อมองเข้าไปข้างใน... ในนั้นมีเวทีคล้ายกับงานแต่งทั่วไป แต่ข้างล่างมีแค่เก้าอี้เรียงเป็นแถวน่าจะหลายร้อยตัวเลยล่ะ จนพ่อดันหลังฉันให้เดินเข้าไปเรื่อยๆ ฉันก็เริ่มเห็นป้ายบนเวทีชัดขึ้น องศา(Dragon) แทนขวัญ(Lion) ตรงกลางไม่ใช่หัวใจ แต่มีทั้งหน้าสิงโตกับมังกรพันกันเป็นหนึ่งเดียว ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ โอเค...แทนขวัญ นี่คือสิ่งที่พ่อแกตั้งใจไว้ พี่องศาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ตอนเด็กๆแกรู้จักเขามาก่อน แล้วเมื่อเราไปถึงเวทีพ่อแม่ของพี่องศาก็ออกมาต้อนรับ ฉันยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมเพราะรู้จักพวกท่านทั้งสองคน แม่ของพี่องศาเป็นไฮโซเจ้าของสายการบิน และเป็นหมอ ส่วนพ่อเป็นมาเฟียรุ่นใหญ่ของประเทศ "หนูแทนขวัญสวยมากเลยวันนี้" "ขอบคุณค่ะ แล้วพี่องศาล่ะคะ" ฉันถามหาเจ้าบ่าวตัวเองจากแม่เขา เพราะอยากเห็นหน้าใจจะขาด "กำลังมาจ้ะ" ฉันยิ้มบางๆตอบ จากนั้นก็ยืนรอให้ผู้ใหญ่คุยกัน ซึ่งญาติฉันก็ทยอยมาเรื่อยๆ ย้ำว่าแค่ญาติเท่านั้น เจ้ซีลีน เจ้อลิน ลุงป้าน้าอาเดินมาทักทาย แล้วแซวชุดที่ฉันใส่ยกใหญ่ 'มันมุ้งมิ้ง' 'มันหวานมาก' หวานบ้าบอคอแตก ฉันอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีแล้ว แต่หนีไปไหนไม่ได้หรอก เพราะในที่สุดก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีของฝั่งดรากอน ฉันถูกพาไปนั่งพับเพียบรอบนเวที โดยที่บอดี้การ์ดประจำที่ และเข้าแถวเป็นทางยาวไปถึงประตูที่ฉันพึ่งเดินเข้ามา ลีลากันจริงๆ ตะคริวกินหมดแล้วนะ! "หนูแทนขวัญรอก่อนนะจ้ะลูก เราต้องมอบตำแหน่งให้พี่องศาก่อน" ฉันเริ่มทุบขาตัวเอง "นานไหมคะ?" "สักพักเลยจ้ะ" "งั้นหนูขออนุญาตนะคะ" ไม่ไหวแล้ว ฉันยกมือไหว้แม่ว่าที่สามีแล้วเปลี่ยนไปนั่งขัดสมาธิ แต่ทุกการกระทำอยู่ในสายตาแม่ฉัน ท่านเบิกตาโตเท่าไข่ห่านเลยจ้า "แทนขวัญๆ ไม่ได้ๆ!" แม่กวักมือรัวๆให้ฉันเปลี่ยนท่านั่ง แต่ขาฉันมันอยู่ใต้กระโปรงไม่ได้โป๊หรือน่าเกลียดซะหน่อย ฉันจึงไม่สนใจ ทำหูทวนลมมองไปที่ประตูแทน จนในที่สุดประตูก็ถูกเปิดออกกว้าง ฉันยกมือบังแสงปอร์ตไลต์เพื่อมองร่างสูงที่เดินเข้ามาชัดๆ บอดี้การ์ดก้มคำนับค้างไว้ตลอดการย่างก้าว และพ่อของพี่องศาก็ยืนรอเขาที่ปลายทาง ข้างๆท่านมีดาบอะไรสักอย่าง คงน่าจะเป็นดาบซามูไร ใจฉันเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ใจจดใจจ่อรอการปรากฏตัวของมาเฟียหนุ่ม แต่เมื่อแสงสปอร์ตไลต์ที่ส่องหน้าฉัน หันพรึบ! ไปส่องพี่องศาเท่านั้น มือสองข้างที่วางบนตักฉันก็กำแน่นทันที หัวใจฉันกระตุกวูบคล้ายตัวเองถูกกระชากลงจากที่สูง ตาเบิกกว้างไม่ละไปจากใบหน้าหล่อเหลานั้น ตาฉันไม่ได้ฝาด หรือนึกถึงหน้าผู้ชายคนนั้นมากไปใช่ไหม... ไม่จริง ไม่จริง! 'เพียะ!' ฉันตบหน้าตัวเอง แล้วมองใหม่อีกครั้ง แต่ตอนนี้ดันเผลอสบตากับเขาเข้าให้ แค่เขาเหยียดยิ้มร้ายทักทาย ฉันก็รู้ถึงมหันตภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และไม่มีวันสิ้นสุด อีตาลัมโบร์กินีบีบนม อีตาลัมโบร์กินีที่จูบฉันจนล้มฟุบไปกับพื้น คือพี่องศา คือว่าที่สามีฉันเหรอเนี่ย!! ________________________________ 👻 คอมเมนท์ = กำลังใจนะเจ้าคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD