7 | ตำแหน่ง และงานแต่งมาเฟีย

1846 Words
ฉันกำกระโปรงแน่น รู้ว่าทุกการกระทำของตัวเองพ่อกับแม่จับตามองอยู่ ท่านคงรู้ว่าฉันกำลังเสียอาการตอนเห็นหน้าพี่องศา แต่ฉันไม่อยากแต่งแล้ว... ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ด้วย เขาเป็นคนที่ฉันโคตรไม่ถูกชะตา เป็นคนที่ทำฉันหัวเสียจนไม่อยากพบอยากเจออีก ผู้ชายตั้งเยอะแยะแต่ได้แจ็คพ็อต แล้วดูสายตาที่เขามองมาสิ มันไม่เหมือนวันที่ฉันไปส่งที่สนามบินเลย ระหว่างที่ฉันคิดวุ่นวายในหัวมืออุ่นๆของแม่เขาก็แตะเบาๆที่ไหล่ฉัน... "รอพิธีสาบานตนเรียบร้อย ก็ได้แต่งแล้วนะหนูแทนขวัญ" คำพูดพวกนั้นวิ่งผ่านหูฉันไปหมด ตอนนี้ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น คิดอย่างเดียวคือคิดหาวิธีหนี ทำยังไงก็ได้อย่าร่วมหอลงโลงกับหมอนั่นเด็ดขาด จนฝ่ายดรากอนเริ่มทำพิธี พ่อและลูกชายยืนหันหน้าเข้าหากัน บอดี้การ์ดทั้งหมดไปนั่งที่เก้าอี้ พ่ออิพี่องศาก็หยิบดาบซามูไรมากรีดที่มือตัวเอง เลือดสีแดงสดหยดลงพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่มีใครสนใจหรือเช็ดมัน และเมื่อดาบถูกส่งไปให้คนที่ยืนฝั่งตรงข้ามเขาก็ทำเช่นนั้น อิพี่องศายกมืออีกข้างขึ้นมา และกรีดลงช้าๆด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่แสดงความเจ็บปวดใดๆ หนำซ้ำยังยิ้มให้ผู้เป็นพ่อราวกับภาคภูมิใจในหยาดเลือดที่ไหลออกมา "ต่อไปนี้ องศา คือหัวหน้าดรากอนอย่างสมบูรณ์" ฉันกลืนน้ำลายดังอึก พิธีที่ดำเนินเรื่อยๆทำให้รู้สึกอึดอัดชอบกล เพราะมันใกล้ถึงงานแต่งของฉันในไม่ช้า อีกเดี๋ยวอีตานั่นก็ขึ้นมานั่งฝั่งตรงข้าม และเราก็ต้องมองหน้ากัน แต่ฉันต้องหันไปมองข้างล่างอีกครั้ง เมื่อลูกน้องหลายร้อยยืนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เขากำลังปฏิญานตน... "ผมองศา ขอให้สัญญาและสาบานต่อหน้าทุกคน ต่อไปนี้จะพาพวกเราก้าวเดินไปข้างหน้า ไม่มีวันถดถอย ไม่มีวันร่วงโรย และจะรักษาเกียรติของดรากอนด้วยชีวิต" ถึงจะไม่ค่อยอิน แต่แอบขนลุกเหมือนกันนะ ถามว่ากลุ่มฉันมีพิธีแบบนี้ไหม ตอบตามตรงว่าไม่รู้ และไม่รู้ว่าพ่อจะวางมือยกอำนาจให้พี่แทนคุณเมื่อไหร่ คงต้องแต่งงานก่อนละมั้ง จนพ่ออิพี่องศายื่นดาบซามูไรไปข้างหน้า และทั้งคู่ก็จับด้ามกอบกุมมือที่เปื้อนเลือดนั้นเป็นหนึ่งเดียว "พิธีจบแล้วหนูแทนขวัญ" เชี่ยแล้วไง.... ฉันอุทานในใจแล้วหันไปมองประตูทางออกทันที ตอนนี้บอดี้การ์ดยืนเฝ้าอยู่สี่คนแถมเป็นคนของฝั่งดรากอนด้วย "หนูขอเข้าห้องน้ำได้ไหมคะ?" แม่ว่าที่สามียกแขนขึ้นดูนาฬิกา "ถึงฤกษ์แล้วด้วยสิ ทนสักสิบนาทีพอไหวมั้ยจ้ะ?" ฉันกำลังจะบอกไม่ไหว แต่เมื่อหันไปสบตากับพ่อก็ต้องเปลี่ยนใจ ตอนนี้ท่านมองฉันด้วยสายตามีความหวัง และฉันก็อ่านออกว่าท่านกำลังให้กำลังใจฉันอยู่ห่างๆ 'ลูกทำได้แทนขวัญ' ประโยคนี้ผุดขึ้นมา ใช่...ฉันต้องทำให้ได้ เพราะถอยไม่ทันแล้ว เขารู้จักฉันแบบไหนต้องเป็นแบบนั้น ฉันคือแทนขวัญคนเฟียสคว้าหมวกกันน็อคทุบรถลัมโบร์กินี ฉันจะไม่อ่อนแอ จะไม่มีวันยอมจนถูกมองว่าเป็นเหยื่อเด็ดขาด เอาให้ตายไปข้าง ไม่แน่เขาอาจจะประสาทเสียเพราะฉันก็ได้ ฉันนั่งฝั่งแม่สามี แน่นอนอิพี่องศาต้องนั่งฝั่งพ่อแม่ฉัน เขาก้าวขึ้นบันไดมาแล้วแต่ก่อนจะนั่งก้มคำนับพ่อแม่ฉันก่อน ซึ่งตอนที่เงยขึ้นมา ตาคมตวัดมองฉันจนเราสบตากัน ไม่กลัว ฉันเบ้ปากใส่แล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง จนมีผู้หญิงหน้าตาดีถือพานแหวนขึ้นมาวางระหว่างเราด้วยรอยยิ้ม ฉันชะงักค้างอยู่กับที่ ตามองเธอคนนั้นสลับกับอิพี่องศาทันที นี่มัน... ผู้หญิงที่ลงจากรถลัมโบร์กินีวันนั้นนี่น่า! แต่ขณะที่ฉันหน้าชาอยู่นั้น เธอก็แตะแขนเบาๆ "กลัวเข้าใจผิดอีก จริงๆแล้วฉันเป็นพี่สาวองศาค่ะ แต่งงานมีลูกสองแล้ว" เอ่อ.... "พี่อันอันไงแทนขวัญ พึ่งกลับจากอเมริกาพร้อมพี่องศาเลยจ้ะ" พี่ก็พี่ ตอนนี้หน้าฉันแตกไม่มีชิ้นดีเลย แถมอิพี่องศาที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็ยิ้มที่มุมปากซ้ำเติมด้วย ใครจะรู้วะ ตอนนั้นมันโมโหหน้ามืดตามัวไปหน่อย "ค่ะ ขอโทษที่เข้าใจผิดค่ะ" ฉันเอ่ยขอโทษแค่พี่อันอัน ส่วนอีกคนฉันเชิดใส่ และเมื่อพี่สาวของเขายิ้มตอบพิธีก็เริ่มอย่างจริงจัง ฉันมองแหวนเพชรเม็ดโตกับแหวนทองคำขาวตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นแรง สมองตอนนี้สั่งการไม่ถูกเลยว่าจะแสดงออกยังไง ฉันพยายามเชิดแล้ว พยายามไม่กลัวแล้ว แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ จนพ่อฝั่งเจ้าบ่าวพูดขึ้น "เริ่มพิธีได้เลย องศา ให้คำมั่นสัญญากับพ่อหนูแทนขวัญสิ" เขามองหน้าฉันด้วยสายตาแข็งทื่อกว่าเดิม "ด้วยเกียรติของดรากอน ผมขอสัญญาว่าจะดูแลแทนขวัญอย่างดี" หึ! ปากให้คำสัญญาแต่สายตาไม่ใช่ ถ้าเขาเป็นมังกร ก็คงเป็นมังกรร้ายที่พร้อมจะพ่นไฟเผาไหม้ฉัน คิดว่าจะข่มฉันได้งั้นเหรอ? ไม่มีทาง "แทนขวัญ สัญญาด้วยเกียรติของไลออนสิลูก" ฉันเบ้ปากอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะจีบปากจีบคอพูดตามใจแม่ "ด้วยเกียรติของไลออน ไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น กลัวทำไม่ได้" ผู้ใหญ่หันมองหน้ากันทันที แต่ดูเหมือนแม่ว่าที่สามีจะเป็นคนง่ายๆ ท่านพยักหน้ายิ้มๆ แล้วผายมือให้ทำพิธีต่อ จนอิพี่องศาหยิบแหวนเพชรขึ้นมา ฉันก็ถูกสายตาของแม่กดดันให้ส่งมือซ้ายไป แต่ที่ชี้ออกมาไม่ใช้นิ้วนางหรอกนะ นิ้วกลางค่ะ 'เพียะ' มาเฟียหนุ่มที่กำลังจะสวมแหวนตีมือฉัน ก่อนจะพูดขึ้นมา "มารยาท" "ฉันจะมีมารยาท กับคนที่ควรมี" "ขอให้ปากดีได้นานๆ" "แน่นอน" จังหวะที่ฉันเชิดหน้าท้าทาย เขาก็ดันแหวนสวมเข้านิ้วนางข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่เป็นสักขีพยานลุกขึ้นปรบมือ แต่เจ้ซีลีนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่างยิ้มแห้ง จนถึงตาฉันแม่ก็กดดันอีกเช่นเคย จึงรีบหยิบแหวนของเขาขึ้นมาแล้วสวมให้ทันที เสร็จ! "แม่คะกลับบ้านเรากัน" ฉันบอกแม่ทันทีเมื่อแหวนอยู่ในนิ้วนางอิพี่องศา แต่แม่ส่ายหน้าช้าๆแล้วยิ้มกลับมา "ไม่ได้ ลูกต้องเข้าหอก่อนนะ" "ไม่เข้าไม่ได้เหรอคะ?" "เข้าแค่เอาฤกษ์ พรุ่งนี้หนูแทนขวัญก็กลับบ้านได้" ดีเลย ฉันจะไม่อยู่กับอิพี่องศาเด็ดขาด ผัวเมียไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน ฉันไม่ได้กลัวนะแค่ไม่ชอบเขา แต่ดูเหมือนว่าแม่สามียังพูดไม่จบ... "กลับบ้านไปเก็บของย้ายมาอยู่ถาวรจ้ะ" เกม... ฉันนั่งนิ่งกับที่ไม่ยิ้มให้ช่างภาพที่เก็บภาพประทับใจแม้แต่น้อย แต่ก่อนจะขึ้นหอต้องลงไปรับคำอวยพรจากญาติๆก่อน ฉันตรงมาที่เจ้ทั้งสองก่อนเลย อยากได้กำลังใจในการเผชิญหน้า และอยู่กับอิพี่องศาสองต่อสอง "แทนขวัญ แกโอเคนะ โคตรพีคอ่ะ" เจ้ซีลีน "ผัวหล่อรวยและยิ่งใหญ่ ก่อนหน้าที่เจอในผับคือพรมลิขิตแน่ๆ" เจ้อลิน พรมลิขิตบ้าอะไร พรมเช็ดเท้าชัดๆ "เจ้เอาไงดี ในผับดันพูดดังด้วย" "พูดเรื่องอะไร?" "เรื่องทดลองไง" เจ้สองคนเบิกตาโต "ก็ให้ไปสิ ไม่ต้องทดลองแล้วแก แต่งแล้วก็ให้สามีไปเลย เขาหล่อมากเลยนะแทนขวัญ แกไม่อยากเห็นร่องซิกแพคเขาบ้างเหรอ?" เจ้อลินพูดพลางปรายตามองไปที่อิพี่องศา "แกไม่เคยกลัวอะไร ทำไมกลัวล่ะ หนักแน่นในตัวเอง สู้ๆ" เจ้ซีลีนตบไหล่ฉันปึกๆ ฉันไม่ได้กลัวตัวเองจะรับมือไม่ไหวนะ สู้ได้ไม่ถอยด้วย แต่ฉันแค่ไม่ชอบเขา! "เจ้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดใช่ไหม?" เจ้ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน ก่อนเจ้อลินจะจับแขนฉันมองตาแล้วพูดอย่างหนักแน่น "ทำให้ดีที่สุดแทนขวัญ โชว์ลีลาให้เขาดูไปเลย ไม่รักไม่ชอบไม่เป็นไร เอาแค่สบายตัวก็ได้ อย่าคิดมากตราบใดที่หอยยังติดตัวแกอยู่" เป็นกำลังใจที่ดีจริงๆ-_-^ "เฮ้อ ก็ได้ๆ ไปนะ" "สู้ๆ!" ฉันพยักหน้าแล้วเดินไปหาพ่อตัวเอง ก่อนที่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะทยอยขึ้นลิฟต์ตามมาชั้นบน แม่อิพี่องศาบอกว่าเรือนหอคือที่นี่ ตึกมีสี่ชั้นแต่ปลอดภัยกำแพงหนา และหรูหรามาก จนเรามาถึงห้องหอ พ่อฉันก็สวมกอดและอวยพรคนแรก "เป็นเด็กดีนะลูก พ่อรักลูกนะ" จากนั้นก็เป็นแม่ "แม่รักลูกมากนะแทนขวัญ อย่าน้อยใจไปเลยนะพี่องศาจะดูแลลูกดีที่สุด" จากนั้นก็เป็นพี่ชายฝาแฝด "รู้จักสงบสติอารมณ์" นี่คำอวยพรเหรอ? ช่างเถอะตัดไปที่น้องชายคนเล็กแทนทิวเลยแล้วกัน ผู้ชายที่พร้อมทะเลาะกับฉันตลอดเวลา "เจ๊ ขอให้มีความสุขในชีวิตคู่นะ ถึงเราจะทะเลาะกันตลอด แย่งเงินค่าขนมมาตั้งแต่เด็ก แต่ผมรักเจ๊นะเว้ย" "หุบปากแทนทิว ฉันจะร้อง" "ผมรักเจ๊จริงๆนะ เจ๊คือนางมารในใจผม" "นางมารพ่อแกสิ" ผู้ใหญ่หันมาทันทีรวมถึงอิพี่องศาที่ส่ายหน้าเบื่อหน่าย ฉันพูดอะไรผิด? ปกติคุยกับน้องแบบนี้อยู่แล้ว "แทนขวัญไม่พูดแบบนั้นนะลูก เรามีครอบครัวแล้วนะ ต่อไปนี้ใจเย็นๆและต้องมีเหตุผลให้มากๆ" แม่บ่นฉันแล้วหนึ่ง "ก็แทนทิวมันกวนประสาทหนูนี่คะ" "น้องแค่ไม่อยากให้ลูกเครียด องศาจ้ะ... ฝากแทนขวัญด้วยนะ แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขในชีวิตคู่ มีหลานให้อุ้มเร็วๆนะ" แม่ว่าพลางดันฉันไปยืนใกล้ๆอิพี่องศา "ไม่ต้องห่วงแทนขวัญครับ ผมจะดูแล...สุดกำลัง" ฉันหันไปมองเขาทันที เพราะคำสุดท้ายเป็นคำที่ลอดออกจากไรฟัน เขากัดฟันเน้นย้ำให้ฉันเข้าใจคำว่าสุดกำลังในความหมายอื่น นอกจากเตรียมรับมือกับนิสัย ฉันต้องเตรียมรับมือกับแรงกระแทกด้วยใช่ไหม... ถอยก็ไม่ได้ สงสัยต้องบวกแล้วล่ะ _____________________________ 👻 คอมเมนท์ = กำลังใจนะเจ้าคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD