22:35 น.
ตั้งใจว่าจะสายเพียงแค่ไม่มาก อย่างน้อยๆก็สักสิบห้าถึงยี่สิบนาที แต่นี่มัลลิกามาสายเป็นชั่วโมง แม้จะโทรบอกน้องสาวว่าจะสายแล้วก็เถอะ แต่เธอที่เป็นถึงนักธุรกิจ มันควรสายน้อยกว่าเวลานัดไม่มาก
“แย่แน่!”
รีบร้อนเดินไปที่ประตูทางเข้าร้าน ปากบ่นพึมพำไปด้วย มองเพียงทางเข้าจนไม่ได้สังเกตรอบตัว ในขณะที่มือของเธอกำลังจะเอื้อมไปผลักประตูแบบกระจกใส ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งก็ผลักมันออกไป แล้วแทรกกายเข้าไปก่อนเธอ
หมับ!
ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองคนที่ดึงชายเสื้อตัวเองไว้แน่น เผลอยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นใบหน้าของเธอ ยิ้มกว้างมากขึ้นแม้ใบหน้าสวยหวานจะบึ้งตึงหนัก
“ฉันมาถึงก่อนนะคะ”
ประตูแบบบานเดี่ยวทำให้ยากที่จะก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกันได้ เขาควรให้เกียรติเธอที่เดินมาถึงก่อน ไม่ใช่ตัดหน้าไปแบบนี้ โคตรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ
“ผมนึกว่าอยากขอเบอร์ผมซะอีก”
“ใครจะไปอยากได้เบอร์คุณ”
“เพราะมีแล้วใช่ไหมครับ มายเดียร์”
เจ้าของชื่อหน้าร้อนฉ่า เมื่อคำสุดท้ายนั้น ถูกเปร่งออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่างจากประโยคแรก มือที่กำชายเสื้อรีบปล่อยออกอย่างรวดเร็ว กอดอกมองผู้ชายตรงหน้าด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป
“ถอยค่ะ!”
“ยังชอบใช้อำนาจสั่งคนเหมือนเดิมนะครับ”
“ฉันมาถึงก่อนนะคะ คุณพนา”
“แต่มือผมถึงประตูก่อนนะ”
“ฮึ่ม! งั้นก็รีบเข้าไปสิ”
“ผมก็ทำอย่างนั้นมาตั้งแต่ต้น ถ้าไม่มีคนดึงเสื้อผมไว้ ผมคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก”
พูดจบก็ผลักประตูเข้าไปข้างใน ปล่อยให้คนที่อยู่ข้างหลัง ฟึดฟัดกับท่าทางจองหองอวดดี
มัลลิกามองตามแผ่นหลังนั้นไปจนลับสายตา นานแล้วที่ไม่ได้เจอกับเขา คิดว่าคงได้เจอในสักวัน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่วันนี้
ใบหน้าสวยบูดบึ้งหนักขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่ทำให้เธอมาสายมากกว่าเดิม นั่งคุยอย่างออกรสกับน้องสาวของเธอ รอยยิ้มมุมปากขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนมาใหม่ ขยับลุกจากเก้าอี้ ผายมือเชื้อเชิญให้ผู้หญิงคนสุดท้าย บุคคลที่ทุกคนเฝ้ารอมาตลอด ได้นั่งข้างๆน้องสาวของเธอ
“ขอโทษค่ะที่มาช้า”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ทุกคนค่ะนี่พี่สาวของนิวเยียร์ค่ะ ชื่อพี่เดียร์ มัลลิกา พี่เดียร์ค่ะ นี่คือทีมงานของเรื่อง พ่ายเสน่หา และนี่คุณพนา เป็นคนลงทุนทำละครเรื่องนี้ค่ะ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ ได้ยินชื่อมานาน ตัวจริงสวยนะครับ”
พนาเป็นตัวแทนทุกคนที่นั่งอยู่ เพราะเขาเป็นคนลงทุนทั้งหมดกับละครเรื่องที่ว่า เอื้อมมือไปสัมผัสกับมือนุ่มนิ่มที่ยื่นมาให้ ถือโอกาสจับมือเล็กๆนั้นไว้ ผ่านการทักทายแบบสากล
“ขอบคุณที่ชมค่ะ”
รอยยิ้มในฐานะนักธุรกิจถูกนำมาใช้ เก็บซ่อนความไม่พอใจไว้ให้ลึกที่สุด พยายามดึงมือออกจากมืออุ่นร้อน แต่ยิ่งออกแรงมือยิ่งถูกกำแน่น จนคนที่นั่งอยู่เกือบสิบคน เริ่มมองมาที่เธอกับเขา
ถ้าจะทำเป็นเหมือนไม่เคยรู้จัก ก็ทำให้มันเนียนๆหน่อยสิคะ คุณพนา
“โอ๊ะ! ขอโทษครับ จับเพลินไปหน่อย”
พนาอุทาน ก่อนจะปล่อยมือนั้นให้เป็นอิสระ นั่งลงที่นั่งของตัวเอง แอบมองคนที่นั่งลงข้างน้องสาวเธอเงียบๆ
เขากับเธอ ไม่ได้เจอกันในระยะใกล้ขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ ได้แต่มองอยู่ห่างๆ และกระเสือกกระสนตัวเองขึ้นมาจนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเธอ แต่สายตาคู่นั้นก็ยังเหมือนเดิม ไม่เคยมองมาที่เขาเลย คงลืมเรื่องของเขาไปหมดแล้วสินะ
มัลลิกาได้แต่แย้มยิ้มตอบคำถามคนอื่นๆอยู่ตลอด บ่อยครั้งที่สายตาเธอแอบเหล่มองคนที่นั่งถัดออกไปจากน้องสาวของตัวเอง เขาดูดีขึ้นมาก มากจนเทียบเท่ากับดารานำชายได้เลย ได้ยินว่าเป็นนักลงทุน แต่ไม่คิดว่าจะมาลงทุนด้านนี้
“พี่เดียร์จำพี่พนาได้ไหมคะ”
“หืม ก็คุ้นๆแหละ”
“พี่พนาที่เคยทำงานให้บริษัทเราไงคะ”
“อ๋อเหรอ พี่ดูแลคนเป็นร้อยเป็นพัน จำได้ไม่หมดหรอก คงตกหล่นแหละ”
มัลลิกาตอบคำถามน้องสาวเสียงเบา ไม่อยากให้ใครรู้ว่าช่วงเวลาหนึ่ง เธอเคยเป็นมายเดียร์ของเขา และเขาเคยเป็นทั้งหมดของเธอ
ทุกอย่างมันจบลงแล้ว เธอไม่ได้โทษใคร ต่างคนต่างก็อยากเติบโต เธอไม่โทษเขาหรอกที่อยากไปอยู่ต่างประเทศ เขาคงคิดว่านั่นคือทางเดียวที่เขาจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ยอมรับมาตลอด และลืมช่วงเวลาที่เคยมีร่วมกันไปหมดแล้ว เขาก็คงเหมือนกันแหละมั้ง คงมีใครข้างกายไปแล้ว เพราะเขาเองก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่ ยิ่งฐานะดีขึ้น ยิ่งมีคนอยากเป็นเจ้าของเขามากขึ้น
“ดื่มด้วยกันหน่อยไหมครับ”
มัลลิกาเงยหน้าขึ้นมองดาราหนุ่มที่ได้รับบทดารานำชาย ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าดูมีเสน่ห์ แต่สำหรับเธอมองว่าใบหน้าของเขานั้นซ่อนอะไรบางอย่างไว้ แต่ด้วยมารยาททางสังคมที่ถูกอบรมมาอย่างยาวนาน ทำให้มัลลิกาเลือกที่จะหยิบแก้วเหล้าของตัวเองขึ้น แล้วชนเข้ากับแก้วของเขาเบาๆ
“หมดแก้วเลยนะครับ เหลือแค่นั้นเอง”
มัลลิกากลืนน้ำลายลงคอเบาๆ มองแก้วในมือที่ระดับแอลกอฮอล์ข้างในพร่องไปไม่ถึงเซ็นติเมตรด้วยซ้ำ หมดแก้วเลยงั้นเหรอ นี่คิดจะมอมเหล้ากันสินะ ได้! รู้จักมายเดียร์น้อยไปแล้ว
“ได้ค่ะ!”
“ผมว่าค่อยๆดื่มดีกว่านะครับ รีบร้อนไปเดี๋ยวไม่สนุก”
ดวงตาคู่คมหรี่ปรามดารานำชาย ให้เขาทำตัวให้เหมาะสมกับแขก คนที่แสดงออกชัดเจนว่าสนใจมัลลิกา ได้แต่นั่งลงที่ของตัวเองเงียบๆ ไม่ชอบขี้หน้า รู้ตัวดีทั้งคู่ แต่ด้วยความที่ต้องทำงานรวมกัน เลยยอมรักษามารยาท
“คุณพนาไม่ดื่มเหรอคะ?”
ดาราสาวหน้าหวาน ผู้รับบทนางร้ายของเรื่อง ถามคนที่ตัวเองสนใจพลางยื่นแก้วไปตรงหน้า พนายิ้มตอบยกแก้วขึ้นรับไมตรีที่ส่งมาให้
มัลลิกายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ในขณะที่ของเหลวไหลเข้าปาก เธอเหยียดยิ้มดูถูกผู้ชายที่รับไมตรีของหญิงอื่นอย่างง่ายดาย ผู้ชายรักเดียวใจเดียวคงไม่มีอยู่จริงในโลกนี้ เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน
“พี่เดียร์ เบาสิคะ”
“เอาน่า นานๆที”
มัลลิกายิ้มให้น้องสาวที่มีสีหน้ากังวล เพราะคนที่นี่ไม่ค่อยสนใจตัวตนของเธอ เธอเลยไม่ค่อยรู้สึกอึดอัด วันนี้รู้สึกอยากดื่มด้วย เลยไม่สนใจอะไรนัก พรุ่งนี้วันหยุดอีก เธอมีเวลาให้พักร่างกายทั้งวัน ถ้าเกิดว่าดื่มหนักจนเมา