อย่าทำเหมือนรู้จักกัน

1279 Words
ใบหน้าหล่อเหลาตึงขึ้นเล็กน้อย เริ่มนับจำนวนแก้วที่มัลลิกาดื่มเข้าไป ใบหน้าตึงขึ้นตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่เธอดื่ม ทุกครั้งที่เธอยก เขามักจะส่งสายตาดุๆไปให้ จนแทบไม่ได้สนใจผู้หญิงที่ลุกมานั่งอยู่ข้างๆเลย “คุณพนาทำธุรกิจอะไรบ้างเหรอคะ” แพรพรรณถามอย่างอยากรู้ ผู้ชายตรงหน้าคงเงินหนามาก ถึงได้กล้าลงทุนทำละครเรื่องนี้เองทั้งหมด ค่าตัวนักแสดงแต่ละคนก็มากแล้ว ไหนจะค่านั่นนี่อีก เธอไม่รู้หรอกว่ามันต้องจ่ายเท่าไหร่ รู้แค่ว่าค่าตัวแต่ละคนมากแค่ไหนเท่านั้น คำนวณในใจคร่าวๆ ก็หลายสิบล้าน เขาต้องเงินหนามากแน่ๆ และนั่นทำให้เธอทุ่มความสนใจมาที่เขา แทนผู้ชายที่มีท่าทีสนใจผู้หญิงหัวชมพู ไก่เห็นตีนงู! เธอกับอัครเดช กำลังเป็นแบบนั้น ไอ้ดารานั่นที่เธอเคยมีสัมพันธ์ชั่วครั้งคราว แสดงออกว่าชอบผู้หญิงที่ชื่อเดียร์ คงเพราะเห็นนาฬิกาที่ยัยนั่นใส่แหละมั้ง เลยเปลี่ยนเป้าหมายจากน้องสาวไปเป็นพี่สาวแทน “จะไม่ตอบหน่อยเหรอคะ” แพรพรรณถามย้ำอีกครั้ง ไม่ชอบใจนิดๆที่ถูกเมิน มองตามสายตาคู่คมไป เมื่อเห็นว่ามันหยุดที่ใครก็เหยียดรอยยิ้มหยัน ใส่ชุดแบบนั้นมา ใครสนใจก็ไม่แปลกหรอก ผู้หญิงชั้นต่ำ เอารูปร่างมาล่อลวงผู้ชาย “หลายอย่างครับ” ตอบไปตามความจริง แม้คำตอบนั้นจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้คนข้างๆ เขาไม่อยากตอบคำถามเธอด้วยซ้ำ นี่ก็ตอบให้แล้ว ไม่พอใจอะไรไม่ทราบ เขาไม่อยากแจกแจงให้ใครฟังหรอกว่าตัวเองทำธุรกิจอะไร ยิ่งคนที่ไม่ได้ทำให้เขามีความสนใจ ยิ่งไม่จำเป็น “เช่นอะไรบ้างเหรอคะ แพรไม่เคยเห็นคุณในงานต่างๆเลย แพรพลาดอะไรไปหรือเปล่าคะ” “ผมไม่ชอบงานสังคมครับ และอาจจะไม่ได้ร่ำรวยมากพอให้คนสนใจ ธุรกิจก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจมั้งครับ” ตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่คนมองรู้สึกตัว เขากำลังพูดและแสดงออกให้เธอรับรู้ ว่าเขารู้ ที่เธอสนใจเขานั้นมันเพราะอะไร ไม่ได้ตำหนิเธอหรอกที่ชอบเขาเพราะฐานะทางการเงิน เขาไม่ชอบเธอเพราะอย่างนั้น เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาตำหนิเขาเหมือนกัน “แพรไม่ได้สนใจคุณเพราะธุรกิจพวกนั้นหรอกนะคะ” “ครับ ผมก็ยังไม่ได้พูดอะไร ขอตัวสักครู่นะครับ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกับที่เห็นมัลลิกาเดินไป สอดส่องสายตามองหาอยู่ไม่นานก็เจอ สีผมสีชมพูโดดเด่นขนาดนั้น มันทำให้เขาหาเจอเธอง่ายดี “เมาเหรอครับ” “ตามออกมาทำไมคะ” เมื่อก่อนเธอกับเขาก็ไม่ได้พูดกันสุภาพขนาดนี้หรอก แต่ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกัน เธอจะพูดกับเขาแบบไม่มีหางเสียงไม่ได้ เขาเองก็คงต้องรักษามารยาทกับเธอเช่นกัน “ไม่ได้ตาม ผมออกมาสูบบุหรี่” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ผิวสีขาวตัดกับสีของเสื้อผ้า ขับให้ใบหน้าดูโดดเด่น ยิ่งมีของประดับตกแต่งร่างกายอย่างนาฬิกาข้อมือแบรนด์ดัง ยิ่งทำให้เขาดูดีมีระดับมากขึ้น มัลลิกาเบือนหน้าหนีจากคนตรงหน้า แม้รูปลักษณ์ภายนอกเขาจะเปลี่ยนไปมาก แต่ไอ้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่ชอบยิ้มให้เวลาต้องการยั่วอารมณ์เธอนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ออกมาสูบบุหรี่อะไร เธอไม่เห็นว่าริมฝีปากของเขาจะดำคล้ำเหมือนคนชอบสูบบุหรี่เลยสักนิด และที่สำคัญคือเขาเคยบอกว่าไม่ชอบมันสุดๆ “ไม่ยักรู้ว่าชอบมันขึ้นมาแล้ว” “ก็ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าดูดเท่ามันแล้ว” ใบหน้าสวยหันขวับมามอง ส่งค้อนประหลับประเหลือกไปให้คนพูดจากำกวม พนามองกิริยานั้นก่อนจะยิ้ม เธอยังเป็นผู้หญิงที่คิดลึกเหมือนเดิมเลย “เอาไหม?” “เอาอะไร!” “บุหรี่ไง คุณชอบนี่” มัลลิกาส่ายหน้าพรืด เธอชอบกลิ่นหอมของบุหรี่ตัวหนึ่ง ไม่ได้ชอบบุหรี่ยี่ห้อไหนก็ได้ และที่สำคัญคือเธอไม่สูบ เขาน่าจะรู้ดีกว่าใคร เรื่องง่ายๆ ไม่น่าลืม “ฉัน…. ไม่ชอบแล้วเถอะ” ปฏิเสธหลังจากรู้สึกตัว บางทีอาจจะมีแค่เธอที่จดจำเรื่องของเขาได้อยู่ ที่คนพูดกันว่ารักแรกมันหอมหวานและยากที่จะลืม มันคงเป็นเรื่องจริง เธอไม่คิดว่าตัวเองจะจำเรื่องทั้งหมดได้ จนกระทั่งวันนี้ที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบหกปี เธอยังจำเรื่องราวเกี่ยวกับเขาได้ “จะเข้าไปหรือยัง” พนาถามหลังจากพ่นควันออกจากปาก มัลลิกามองก่อนจะถอนหายใจ เขาคงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ขนาดสิ่งที่ไม่ชอบยังชอบได้ ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วสินะ “ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่คะ คุณอยากเข้าก็เข้าไปสิ ฉันยังอยากสูดอากาศต่อ” พนาหน้าตึงขึ้น มองผู้ชายสองคนที่อยู่ด้านหลัง ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่ผู้หญิงข้างกาย ไม่รู้ตัวเลยสินะ ว่าดึงความสนใจผู้ชายคนไหนไปบ้าง ไม่รู้เลยเหรอว่าผู้ชายพวกนั้นมองตัวเองแล้วทำหน้าตาแบบไหน ไม่ระวังตัวยังไง ก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด หมับ! “อ๊ะ มาจับทำไม!” มัลลิกาอุทานอย่างตกใจ ขืนกายหนีจากวงแขนที่โอบรอบสะโพก แต่ยิ่งหนียิ่งโดนรัด สัมผัสบางเบาที่แตะอยู่ใกล้สะโพก ทำให้เงยหน้ามองคนกระทำด้วยความไม่พอใจ “อยู่นิ่งๆน่า ไอ้พวกนั้นมันมองบั้นท้ายคุณอยู่” “แล้วมันจำเป็นต้องเอาตัวคุณมาบังไหม ถอยไปนะ ฉันร้อน” ไม่รู้ร้อนเพราะร่างกายของเขา หรือเพราะแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปกันแน่ แต่เธอร้อนจริงๆอะ ร้อนจนตอนนี้ความร้อนนั้น มันลามมาถึงหน้าเธอแล้ว “ร้อนจริงแฮะ หน้าแดงเชียว” พลั่ก! “ชอบใช้กำลังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ” ดวงตาคู่คมดุขึ้นเล็กน้อย เมื่อโดนมือเรียวสวยผลักใบหน้าออกห่าง ปรายตามองปรามให้เธอหยุดความคิดที่จะใช้กำลังอีก แต่เหมือนเธอจะไม่ยอมฟัง และพยายามจะผลักเขาออกห่างท่าเดียว พรึ่บ! “อ๊ะ!” “อย่าดื้อได้ไหม รำคาญ!” ดันคนตัวเล็กกว่าเข้ากับกำแพง ก้มหน้าลงใกล้ มองใบหน้าสวยที่เชิดขึ้นมองด้วยสายตาดุดัน ริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย เมื่อเห็นความอวบอิ่มในระยะกระชั้นชิด อยากกดริมฝีปากลง ปิดริมฝีปากอวบอิ่มที่เผยอขึ้นอย่างยั่วยวนชะมัด! แต่ไม่มีสิทธ์ทำแบบนั้น ขืนทำลงไปมีหวังโดนหมัดของเธอแน่ “ฉันก็รำคาญคุณเหมือนกัน อย่ามาทำเหมือนรู้จักได้ไหม เราเคยรู้จักกันด้วยเหรอ” พูดจบก็กัดริมฝีปากล่างลงจนเจ็บ เขาทำเป็นไม่รู้จักเธอก่อนนะ ควรวางตัวแบบเดิมสิ อย่าเข้ามาใกล้เธออีก อย่ามาทำให้เธอรู้สึกอะไรอีก เพราะระหว่างเขากับเธอมันจบลงไปแล้ว จบลงตั้งแต่เมื่อหกปีก่อนแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD