Jennie Talk
ฉันถอนหายใจยาวก่อนจะก้าวเดินเข้าไปในตัวตึก ก่อนที่สายตาจะปะทะเข้ากับร่างสูงของคนที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดี
...เขาคือเปอร์
เป็นน้องในสายรหัสของฉัน
เป็นรุ่นน้องที่ฉันสนิทด้วยมากที่สุด
แล้วตอนนี้เขากำลังถูกจับข้อหาทำร้ายร่างกายและทะเลาะวิวาท บนผิวขาวเนียนละเอียดเต็มไปด้วยบาดแผล มุมปากมีรอยช้ำ บนลำคอมีรอยคล้ายถูกของมีคมบาดและมีเลือดแห้งกรังติดอยู่ตรงนั้น
"เปอร์"
ฉันเอ่ยเรียกเขาก่อนจะเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ เปอร์เพียงปรายตามามองก่อนจะเลิกคิ้วเป็นการทักทายฉัน
"มาเร็วว่ะ"
เป็นเรื่องปกติที่เขามักจะไม่พูดจาสุภาพกับฉัน พูดให้ถูกคือบนโลกใบนี้เปอร์ไม่เคยสุภาพกับใครทั้งนั้นไม่ว่าจะแก่รุ่นพ่อหรือรุ่นแม่แค่ไหนก็ตาม
...เขามันก็แค่คนขวางโลกคนนึง
ถึงจะดูนิสัยไม่ดีแต่เนื้อแท้ไม่ได้เป็นแบบนั้น
ฉันรู้จักเขามานานหลายปี ฉันรับรองได้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้าย
และฉันก็พอรู้ว่าเขากับฮอร์สมีปัญหากันหนักพอสมควรถึงขั้นเจอหน้ากันไม่ได้ พอเจอกันทีไรต่างฝ่ายต่างก็เจ็บตัวจนสาหัสกันทุกครั้ง
...พวกเขาไม่ถูกกันแต่ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
"คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ?"
เปอร์ถอนหายใจก่อนจะหันมองคู่กรณีที่ถูกล็อคอยู้ไม่ไกล ฝ่ายนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยควบคุมอยู่เพราะยังดูเหมือนระงับอารมณ์ไม่ได้ต่างจากเปอร์ที่นั่งนิ่ง ไม่มีท่าทางทุกข์ร้อนอะไรใดๆทั้งสิ้น
...นี่แหละเขา
นิ่ง สงบ พูดน้อยแต่ก็ต่อยหนัก
...ดูจากสภาพหน้าคู่กรณีก็พอรู้
"มันกวนตีน หมั่นไส้ ซัดแม่ง"
ฉันถอนหายใจยาวก่อนจะนั่งลงข้างๆเขา
"โตแล้วนะ หัดควบคุมอารมณ์ซะมั่ง"
"ยาก"
เขาว่างั้นก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบไม่สนใจใครแถมยังมีอารมณ์มาพ่นควันใส่หน้าฉัน
...ไอ้เด็กบ้า!
เปอร์เป็นน้องในสายรหัสฉันแต่ความจริงเรารู้จักกันมานานแล้ว รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยที่ฉันยังเรียนมัธยม อันที่จริงความสัมพันธ์เราสองคนในตอนนั้นค่อนข้างซับซ้อน ฉันแอบชอบเขาที่เป็นรุ่นน้องหนึ่งปี แรกๆเขาก็ทำท่าเหมือนว่าชอบฉัน แต่จู่ๆก็หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้ โรงเรียนก็ไม่มา บ้านอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
...สุดท้ายได้มาเจออีกทีก็ที่มหาลัยนี่แหละ
แต่การเจอกันครั้งนี้ทำให้ฉันสังเกตเห็นว่าเขาดูแปลกๆไปเหมือนคนที่มีอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา ถึงจะสงสัยหรืออยากถามออกไปมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่กล้าพอที่จะก้าวก่ายเรื่องของเขา
"ถ้ามีเรื่องอีกคราวหน้าฉันจะไม่มาแล้ว"
ฉันบ่นระหว่างที่กำลังขับรถไปส่งคนข้างๆที่คอนโดหรูใจกลางเมืองซึ่งครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของโครงการ
"คราวที่แล้วเธอก็พูดแบบนี้"
ก็ใช่ ต่อให้ฉันพูดว่าจะไม่ช่วยเหลือเขาอีกแล้ว สุดท้ายฉันก็ใจอ่อนทุกที
...ถ้าเป็นเรื่องเปอร์ฉันไม่เคยเมินเฉยได้สักครั้ง
ฉันยังหวั่นไหวกับเขา
แต่มันไม่ใช่ความรัก
"แต่คราวนี้ฉันพูดจริง"
เขาทำท่าเหมือนไม่สนใจจะฟังฉันและเอาแต่เหม่อมองออกไปนอกกระจก รถฉันจอดลงหน้าตึกหรูสูงเกือบๆหกสิบชั้น เปอร์ถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูก้าวลงไปและเดินอ้อมมาเคาะกระจกข้างๆฉัน
"อะไร?"
ฉันเปิดประตูพร้อมกับเอ่ยถามคนที่ยืนเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
"ลงมา"
"หื้ม?"
"หิว"
เขาว่างั้นก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น ฉันส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงมาจากรถ เปอร์เดินนำเข้าไปด้านในตัวตึกก่อนที่เขาจะพาฉันขึ้นมาบนชั้นห้าสิบ โถงทางเดินยาวเงียบสงบแต่ใจฉันกลับไม่ได้สงบตามไปด้วยคล้ายกับว่ามีอะไรบางอย่างทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ
...แต่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร
"ห้องนายอยู่ตรงไหน?"
"ข้างหน้า"
ห้องริมสุดทางเดินคือห้องของคนที่กำลังเดินนำอยู่ด้านหน้า ฉันมองแผ่นหลังกว้างใต้เสื้อนักศึกษาก่อนจะหลุบตาลงเมื่อเผลอคิดอะไรแปลกๆออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"จริงๆถ้านายหิวสั่งอาหารเอาก็ได้นี่"
"ขี้เกียจ"
แล้วไม่คิดว่าฉันขี้เกียจบ้างรึไง! แต่จะบ่นออกไปก็เท่านั้นจึงได้แต่บ่นอยู่คนเดียวในใจเพราะถึงพูดออกไปยังไงเปอร์ก็ทำเป็นหูทวนลมอยู่ดี
...พูดกับเขาก็เหมือนพูดคนเดียว
ชินแล้วแต่บางครั้งก็อดหงุดหงิดไม่ได้
ฉันยืนรอเปอร์ที่กำลังใช้คีย์การ์ดเพื่อเปิดประตู ระหว่างนั้นเสียงห้องข้างๆก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงโครมครามคล้ายกับมีคนโยนของ หลังจากเสียงนั้นผ่านไปได้ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงคนทะเลาะด่าทอกันดังขึ้นเพียงแต่ว่ามันดังแว่วๆจนแทบจับใจความไม่ได้
"มองอะไร?"
"ห้องตรงข้าม เขาเป็นใครหรอ?"
เปอร์ลากสายตามองไปที่บานประตูห้องตรงข้ามก่อนจะใช้แขนคล้องคอฉันลากเข้ามาในห้องและปิดประตูลง
"ไม่ใช่เรื่องน่าสนใจ"
แต่สำหรับฉันมันน่าสนใจและน่าสงสัยมาก บนชั้นนี้มีห้องอยู่แค่สี่ห้องเท่านั้น และแน่นอนว่าคนอย่างเปอร์ถ้าไม่ใช่คนใกล้ตัวเขาไม่มีทางยอมอยู่ร่วมด้วยแน่ๆ ฉันจึงสันนิษฐานว่าอีกสามห้องบนนี้น่าจะเป็นญาติของเขา
"นายไม่สนใจแต่ฉันสน"
"ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ปกติฉันไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นแต่กับบางสถานการณ์มันก็อดที่จะให้ความสงสัยใคร่รู้ไม่ได้
"นายพูดเหมือนฉันเป็นพวกมนุษย์ป้าที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านงั้นแหละ"
เปอร์ไหวไหล่ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว ฉันได้ยินเสียงกุกกักอยู่ในนั้นจึงเดินตามไปดูว่าเขาทำอะไร เส้นสปาเก็ตตี้ ขวดซอสมะเขือเทศและหมูสับ ถูกนำออกมาวางบนเคาน์เตอร์ครัว ฉันยืนอยู่ตรงตู้เย็นมองคนที่กำลังหยิบนู่นจับนี่อย่างคล่องแคล่ว
"นายจะให้ฉันทำอาหารให้กินไม่ใช่หรอ?"
"ป่าว"
"อ้าว แล้วที่บอกว่าหิวเมื่อกี้..."
"ฉันบอกว่าหิวแต่ไม่ได้บอกว่าจะให้เธอทำ"
ฉันร้องอ้าวในใจและได้แต่ยืนทำหน้างงเหมือนคนโง่ เมื่อกี้ฉันเข้าใจผิดไปเต็มๆว่าเปอร์ต้องการให้ฉันขึ้นมาเพื่อทำอาหารให้กิน
...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาพูดไม่เคลียร์หรือว่าฉันโง่กันแน่
============
มาแล้ววววววววววววววว ?
ช่วงนี้ยุ่งมากเลยไม่ได้มาอัพบ่อยๆแต่หลังจากวันนี้จะมาอัพแบบรัวๆเลยเจ้าค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ