ธิปรกจ้องมองมาที่รดาด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาจับแขนเนียนไว้แล้วลากให้ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน
“นั่งลง! กินข้าวได้แล้ว” ธิปรกสั่งเสียงเข้มเลื่อนจานข้าวไปตรงหน้าหญิงสาว นัยน์ตาคมกริบจ้องมองใบหน้าหวาน ๆ เขม็ง
“กินก็ได้ พ่อเลี้ยงก็กินด้วยสิค่ะ จ้องหน้ารดาแบบนี้ไม่อิ่มหรอกนะ” รดาต่อว่ายิ้มๆ แล้วตักไข่เจียวเหลืองกรอบใส่บนจานข้าวของพ่อเลี้ยง
ธิปรกนิ่งไปชั่วขณะเพราะไม่เคยมีใครเอาใจตนเองแบบนี้มาก่อน ใบหน้าคมเงยมองหน้าหวานๆ ก่อนจะก้มหน้าตักไข่เจียวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย รดาแอบอมยิ้มแล้วเอ่ยร้องขอไม่จริงจังนัก
“พ่อเลี้ยงตักกับข้าวให้รดาบ้างสิคะ”
“ยุ่งฉิบ!”
ธิปรกเงยหน้าขึ้นถลึงตาใส่พร้อมกับสบถเบาๆ แต่ก็ยอมตักกับข้าวให้หญิงสาวแต่โดยดี
รดายิ้มหวานขอบคุณเมื่อปลาสลิดทอดถูกวางแหมะบนจานข้าวของเธอ จากนั้นหนุ่มสาวทั้งคู่ต่างก็ผลัดกันตักกับข้าวให้อีกฝ่ายจนทานข้าวเสร็จ คนงานในไร่ต่างก็อมยิ้มสะกิดต่อๆ กันให้มองพ่อเลี้ยงหนุ่มกับดาราสาวที่ดูเหมือนคู่รักกำลังคุยกันอย่างหวานแหว๋ว
หลังจากกินข้าวมื้อเย็นเสร็จแล้วแทนที่คนงานในไร่จะแยกย้ายกันกลับบ้านพักเหมือนดังทุกวัน กลับพากันสมัครสมานสามัคคีนั่งดูทีวีในโรงครัวแทน
ธิปรกเองก็เช่นเดียวกันแทนที่จะรีบกลับไปสะสางงานที่ค้างอยู่กลับนั่งรอดูละครที่รดาแสดงเหมือนคนอื่นๆ รดาอมยิ้มแก้มป่องเมื่อละครที่เธอแสดงกำลังจะออกอากาศ เสียงคุยกันดังเซ็งแซ่มีอันเงียบกริบลงทันทีเมื่อละครเริ่มฉายตอนแรก
“พ่อเลี้ยงรับกาแฟสักถ้วยไหมคะ” รดาเอ่ยถามยิ้มๆ มองพ่อเลี้ยงหนุ่มที่จ้องหน้าจอทีวีไม่กะพริบตา
“ฮื้อ!...” ธิปรกรับคำในลำคอสายตาไม่ได้ละจากหน้าจอทีวีที่กำลังดูอยู่ รดาหัวเราะเบาๆ เดินไปที่ห้องครัวแล้วกลับมาพร้อมกับกาแฟหอมกรุ่น
“กาแฟค่ะ”
“เอาไปเก็บ ไม่อยากกินแล้ว” ธิปรกจ้องมองหญิงสาวแล้วเอ่ยตอบห้วนๆ ใบหน้าคมเข้มแดงก่ำยังกับโกรธใครมาสักสิบปี
คิ้วดำขลับโก่งงามดุจคันศรขมวดเข้าหากันอย่างงงๆ ตะกี้ก็ยังดีๆ อยู่เลยทำไมตอนนี้พ่อเลี้ยงทำยังกับว่าจะหักคอเธอจิ้มน้ำพริกให้ได้
ธิปรกจ้องมองรดาเขม็งด้วยความโกรธแล้วหันไปมองทีวีอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นเดินกระแทกเท้าออกไปจากโรงครัว รดาหันไปมองทีวีแล้วก็หัวเราะขำไม่รู้ว่าเพราะละครที่กำลังฉายอยู่หรือเปล่าถึงทำให้พ่อเลี้ยงทำท่าโกรธเธอมากเพียงนี้
บทของตัวละครในเรื่องนี้เธอต้องแสดงเป็นผู้หญิงกลางคืนที่ยั่วยวนพระเอกให้หลงรัก ซึ่งแต่ละฉากต้องประกบคู่กับพระเอกหุ่นล่ำบึกและมีฉากเลิฟซีนค่อนข้างมาก
แต่เวลาแสดงฉากเลิฟซีนก็ใช้มุมกล้องเข้าช่วยหรืออาจจะแค่ยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ริมฝีปากของพระเอกจากนั้นก็ตัดไปเป็นฉากอื่นแทนไม่มีการจูบกันจริงๆ
รดามองทีวีแล้วหันไปมองพ่อเลี้ยงอีกครั้งจากนั้นก็หัวเราะขำก่อนจะส่งยิ้มหวานให้พ่อเลี้ยงหนุ่มที่กำลังหันกลับมามองเธอพอดี
ธิปรกแยกเขี้ยวทำตาเขียวปัดใส่รดาพอมองที่ทีวีเห็นฉากที่รดากำลังเลิฟซีนกับ
พระเอกเขาก็สับคัทเอาท์ไฟลงทันที
“เฮ้ย!...อะไรวะ ทำไมจู่ๆ ไฟก็ดับวะ”
คนงานในไร่ต่างก็พากันตะโกนร้องโวยวายเพราะกำลังดูละครมันส์ๆ ถึงตอนสำคัญเสียด้วยสิ จู่ๆ ไฟก็ดับลงทำให้อดดูตอนสำคัญไปเสียเนี่ย!
“กูสับคัทเอาท์เอง มีอะไรมั้ย” ธิปรกตะโกนตอบลูกน้องในความมืด
“ไอ้สนมึงไปยกคัทเอาท์ขึ้นเร็ว พระเอกกับนางเอกกำลังจะได้กันแล้วเดี๋ยวก็อดดูพอดี” รามสั่งลูกน้องเอ่ยออกมาแบบห่ามๆ ตามประสาชาวบ้าน
“ตีนพ่อเลี้ยงหนักเอาการนะพี่ราม” สนยังอิดออดอยู่ อยากดูก็อยากดู แต่ก็กลัวบาทาหนักๆ ของพ่อเลี้ยงเหมือนกัน
“กูไปเองก็ได้วะ” รามเอ่ยตอบแล้วรีบวิ่งไปสับคัทเอาท์ขึ้น พอไฟมาละครก็จบตอนพอดี
“โธ่เอ๋ย!...โฆษณาแล้ว อดดูตอนกำลังมันส์เลยวะ”
ชาญร้องโอดครวญด้วยความเสียดายจากนั้นก็ลุกขึ้นมาหารดาที่นั่งอมยิ้มด้วยความขบขำ
“คุณรดาครับ ตกลงพระเอกกับนางเอกได้กันมั้ยครับ”
ชาญเหลือบตามองพ่อเลี้ยงนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาวด้วยความอยากรู้ซึ่งก็ได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานทันที รดายิ้มหวานกำลังจะอ้าปากตอบก็ถูกมือหนาอบอุ่นฉุดให้ลุกขึ้นก่อน
“ไม่ต้องตอบ! ไปนอนได้แล้ว” ธิปรกกัดฟันขณะเอ่ยสั่งแล้วฉุดหญิงสาวให้เดินกลับไปที่เรือนกล้วยไม้ด้วยกัน
“อะไรกันคะพ่อเลี้ยง รดายังไม่ได้ตอบคำถามชาญเลย”
รดาแกล้งร้องประท้วงโอดครวญยอมเดินตามพ่อเลี้ยงไปที่เรือนแต่โดยดี
“บอกว่าไม่ต้องตอบไง” ธิปรกกัดฟันกรอดๆ จับร่างบางระหงให้หันมาเผชิญหน้ากัน
รดาหัวเราะคิกก่อนจะเอ่ยอย่างท้าทาย “แต่รดาอยากบอกนี่คะ พ่อเลี้ยงไม่อยากรู้เหมือนคนอื่นๆหรือไง”
“ไม่อยากรู้แต่อยากปฏิบัติมากกว่า”
ธิปรกเอ่ยเสร็จก็กดจุมพิตหนักๆ ที่ริมฝีปากสีสดอวบอิ่มที่อยู่ล่อตาล่อใจ พอได้สัมผัสรสชาตินุ่นนวลหวานล้ำปานน้ำผึ้งก็ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มลืมตัวประทับจุมพิตเร่าร้อนเป็นเวลาเนิ่นนาน รดาถึงกับนิ่งตะลึงตัวชาเมื่อเจอจุมพิตดุดันเอาแต่ใจของอีกฝ่าย
จุมพิตที่ร้อนแรงแผดเผาในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอ่อนหวานจนทำให้ทั้งรดาทั้งพ่อเลี้ยงชักจะเลือนๆ ว่ากำลังทำอะไรอยู่จนกระทั่งได้ยินเสียงโห่แซวของคนงานที่ดังมากระทบประสาทหูจึงทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้สึกตัวผละริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย
“แยกย้ายไปพักผ่อนได้แล้ว ใครตื่นไปทำงานสายจะโดนกูเตะไม่เลี้ยง”
ธิปรกตะโกนด่าลูกน้องกลบเกลื่อนความอายของตนเองจากนั้นก็เดินดุ่มๆ ขึ้นไปบนเรือนโดยไม่ลืมหนีบรดาขึ้นไปด้วย
“พ่อเลี้ยง!”
“ห้ามถาม! ห้ามเถียง! กินยาแล้วเข้านอนซะ!” ธิปรกตวาดเบาๆ แล้วดุนหลังให้หญิงสาวเข้าไปในห้องนอนจากนั้นก็ดึงประตูห้องกระแทกปิดโดยแรง
รดายืนงงอยู่ในห้องนอนครู่หนึ่งก่อนจะตะโกนต่อว่าอีกฝ่ายด้วยความโมโห
“ไอ้พ่อเลี้ยงจิตแปรปรวน จูบรดาเองแท้ๆ แล้วมาโกรธรดาทำไม”
ธิปรกได้ยินแล้วกัดฟันดังกรอดเขาไม่ได้โกรธเธอ แต่โกรธตนเองมากกว่าที่เผลอตัวไปจูบหญิงสาวต่อหน้าคนงานนับร้อยทำให้รดาถูกมองเหมือนเป็นผู้หญิงไร้ค่า...
ร่างสูงใหญ่กำยำเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบกล่องกำมะหยีขึ้นมาเปิดดูของภายใน ถ้าเผลอตัวบ่อยๆ แบบนี้คงต้องเอาแหวนแต่งงานของคุณแม่ไปตีตราจองหญิงสาวไว้ก่อน เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่มีใครมาดูถูกรดาได้...