ตอนที่ 8

1077 Words
ร่างสูงใหญ่ภายใต้เสื้อเชิ้ตผ้าไหมแขนยาวสีขาวกางเกงเดนิมกำลังจะเดินออกจากที่ที่ยืนอยู่นิ่งนานหากพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างตกอยู่บนพื้นใกล้เท้าของเขา อนาคินก้มลงหยิบขึ้นมาดูจึงเห็นว่าเป็นสร้อยคอทองคำขาวเรียบห้อยล็อคเก็ตเล็ก ๆ รูปทรงไข่ ชายหนุ่มเปิดออกดูภายในและเห็นรูปใบหน้าของชายวัยกลางคนอยู่ในนั้น คงเป็นสร้อยคอของผู้หญิงคนนั้น....มุจลินทร์....เขาปิดฝาล็อคเก็ตและกำมันไว้ในมือด้วยสีหน้าที่เหมือนนึกอะไรได้บางย่าง สร้อยเส้นนี้คงเป็นของสำคัญของ น้องสาว  เขาเป็นแน่ รอยยิ้มเหยียดปรายขึ้นที่มุมปากของชายหนุ่มอีกครั้ง    มุจลินทร์พลางเดินพลางวิ่งกลับมาถึงหน้าตึกคณะของตัวเอง หญิงสาวหันกลับไปมองด้านหลังที่มีเพียงภาพนักศึกษาไม่กี่คนยังคงเดินผ่านไปมาบริเวณนั้นผ่านม่านน้ำตาที่ยังคงรื้นออกมาด้วยความเจ็บแค้น ผู้ชายคนนั้นเย่อหยิ่งทะนงตัวไม่พอมารยาทยังเลวร้ายจนเธอมองไม่เห็นความเป็นนักกีฬาที่น่ายกย่องในตัวตนอันป่าเถื่อนและหยาบคาย เธอค่อย ๆ หย่อนกายลงนั่งบนม้าหินอ่อนด้วยความรู้สึกที่ก็ยังสับสนอยู่ภายใน ถึงแม้ความเคียดขึ้งจากการกระทำของอนาคินเมื่อครู่จะเข้าจู่โจมในจิตสำนึกโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ท่ามกลางความโกรธเกลียดกลับรู้สึกได้ถึงความหวามไหวในรสจูบที่ยังคงทิ้งรอยบวมแดงน้อย ๆ บนกลีบปากบาง ลิ้นของผู้ชายคนนั้นทำให้โลกทั้งโลกของสาวน้อยที่ไม่เคยพานพบในรสสัมผัสจากชายใดถึงกับสั่นไหวรุนแรง คนกักขฬะอย่างร้ายกาจนั่นล่ะหรือจะมาเป็นพี่ชายของเธอ มุจลินทร์ส่ายหน้าพลางใช้ปลายนิ้วขยี้ริมฝีปากไปมา                 “ลิน....มานั่งทำอะไรตรงนี้?”                 เสียงทุ้มลึกที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้หญิงสาวรีบเช็ดคราบน้ำที่ดวงตาออกแล้วหันไปมองร่างสูงในชุดนักศึกษาของเพื่อนชายต่างคณะที่เธอคุ้นเคยดี                 “เพชรภูมิ......”                 มุจลินทร์เรียกชื่อเพื่อนชายซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของเจ้าสัวเลิศ เจ้าของที่ดินและโครงการคอนโดมิเนียมหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใบหน้าอันคมคายและนิสัยอ่อนน้อมในท่าทีสุขุมของหนุ่มนักศึกษาเอกวิชาเศรษฐศาสตร์เป็นที่คุ้นชินของหญิงสาวมาหลายปี                 “เย็นมากแล้วยังไม่กลับอีกหรือ เพชรไปส่งที่บ้านมั้ย”                 “ไม่เป็นไรจ้ะ...ลินกลับเองได้”                 เพชรภูมิทรุดตัวลงนั่งข้างหญิงสาว แววตาคู่นั้นดูอ่อนโยนยิ่งนักยามจับจ้องไปยังใบหน้างดงามของ มุจลินทร์                 “เจอหนูนาวันนี้ เห็นบอกว่าแม่ลินจะแต่งงานใหม่”                 “รู้เร็วจริงนะ....ก็เป็นอย่างที่เพชรรู้มานั่นแหละ”                 “เห็นบอกว่าผู้ชายคนนั้นที่จะมาเป็นพ่อลิน คือคุณอนันต์  นักธุรกิจใหญ่ หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง แต่....”                 “แต่อะไรเพชร?”                 “ลูกชายเขารับได้หรือเปล่า....รุ่นพี่อนาคิน”                 ไม่มีคำตอบจากเพื่อนสาวหากแต่ชายหนุ่มจับสังเกตเห็นใบหน้าที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง                 “อนาคิน   บริภัทรภูมินทร์ นักกีฬาว่ายน้ำจอมโอหัง หล่อจัดและก็หยิ่งจัด ลินคงไม่เคยพบเขาล่ะสิ คน ๆ นี้ชอบเก็บตัวไม่สังคมกับใคร พ่อเขากับป๊าน่ะรู้จักกัน เขาชอบมาบ่นให้ป๊าฟังว่าลูกเขาน่ะโลกส่วนตัวสูงมากแค่ไหน ลินได้ทำความรู้จักกับเขารึยังล่ะ”                 เมื่อครู่นี้....ทำความรู้จักด้วยริมฝีปาก.... มุจลินทร์ยังนึกเห็นภาพนั้นอยู่มิวาย แต่ก็เพียงเก็บเรื่องน่าอับอายไว้ในใจเพราะหากเพชรภูมิรู้เขาคงควันออกหูเพราะโกรธแทนเพื่อน โดยเฉพาะเธอที่ก็รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้มิได้มีสายตาไว้มองเออย่างเพื่อนทั่วไป ใช่.....เพชรภูมิชอบเธอและแสดงออกหลายหนว่าเขาหาได้คิดกับเธอเพียง เพื่อน ไม่ ทว่า มุจลินทร์กลับวางเฉยต่อท่าทีนั้นด้วยหญิงสาวยังคงรู้สึกว่าผู้ชายที่ทั้งหน้าตาและชาติตระกูลดีคนนี้ควรอยู่ในที่ของผู้มีความปนรารถนาดี มิใช่ชายในฝันที่ในเบื้องลึกภาพของใครบางคนกำลังก่อร่างขึ้นมารางเลือนซึ่งเธอเองก็กำลังพยายามบอกตัวเองว่า...อาจไม่ใช่                 “ลินจะกลับบ้านล่ะเพชร เดี๋ยวลินต้องไปก่อน”                 “เพชรจะไปส่ง....ลินอย่าดื้อน่า ใกล้ค่ำกลับบ้านคนเดียวไม่ปลอดภัย เดี๋ยวนี้คนโรคจิตมันเยอะ”                 “ลินไม่ใช่เด็กนะเพชร ลินกลับเองได้”                 “ไม่รู้ล่ะ....เพชรจะไปส่ง”                 “เพชร!.......”                 มุจลินทร์ร้องออกมาเมื่อคว้ากระเป๋าสะพายไม่ทันร่างสูงที่รีบหยิบล่วงหน้าไปยังรถของตัวเองก่อนแล้ว หญิงสาวส่ายหน้าเบา ๆ ทั้งก็อดยิ้มไม่ได้ต่อความเจ้าเล่ห์ของเพชรภูมิเลยต้องลุกขึ้นเดินตามไปขึ้นรถที่จอดรออยู่  เมื่อประตูรถปิดลงชายหนุ่มก็รีบนำยานพาหนะคู่ใจออกไปจากที่ตรงนั้นในขณะที่รถอีกคันค่อยคืบตามหลังมาจอดแทนที่รถที่แล่นออกไป ร่างสูงใหญ่ในรถเปิดประทุนสีขาวอมสีเงินเมทัลลิกมองตามท้ายรถที่เคลื่อนออกไปก่อนหน้าด้วยแววตาวาววับ                 “มุจลินทร์.....เธอนี่ก็ไม่เบาเหมือนกันนะ ทำเป็นไม่ประสา ที่แท้......”  อนาคินขบกรามเบา ๆ ก่อนจะขับรถตามออกไป                 เป็นเวลาพลบค่ำพอดีที่เพชรภูมิพา มุจลินทร์มาส่งถึงหน้าบ้านหลังใหญ่สไตล์ยุโรปซึ่งตั้งอยู่ในซอยอันเงียบสงบ แสงไฟสว่างไสวรอบบ้านขับสีเรื่องเรืองของผนังลายหินอ่อนด้านนอกจนดูลานตา หญิงสาวเดินเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ที่ซึ่งณัฐญาณีกำลังนั่งขัดถูเครื่องเพชรหลายชุดวางเรียงรายอร่ามตาอยู่ที่เก้าอี้รับแขกอันหรูหรา                 “อ้าว!......ลิน.....เพิ่งกลับหรือคะลูก มาดูนี่เร็ว ช่วยแม่เลือกหน่อย แม่จะใส่ในงานเลี้ยงที่คุณอนันต์จัดต้อนรับพวกเราอาทิตย์หน้า หนูชอบชุดไหนก็เลือกไปเลยนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD