ผมนั่งเรียนอย่างตั้งใจ เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวและโอกาสเดียวในชีวิตที่จะถีบตัวเองขึ้นจากโคลนตมได้
ผมเลือกเรียนเกษตรการเพาะปลูกครับ อยากเรียนพืชวิทยาเหมือนกันแต่สาขานั้นใช้เงินเยอะมาก เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะที่จะศึกษาพืชพรรณทั้งดั้งเดิมและพืชอสูร ค่าอุปกรณ์สักชิ้น ขนาดผมขายบ้านมาซื้อยังไม่พอเลย
ในอนาคตผมคิดไว้แล้วนะ ว่าถ้าหากไม่สามารถเข้าทำงานได้ก็คงปลูกผักขายเนี่ยแหละ แต่ถ้าได้งานในศูนย์วิจัยก็คงดี ผมจะได้เจออสูรนักปราชน์ พวกที่เจริญด้านจิตใจผมอยากเจอพวกเขา และที่นั่นคงเหมาะกับผม
ที่มหาลัยแห่งนี้ดีอย่าง เพราะผมสามารถเข้าเรียนวิชาต่างๆ ที่สนใจได้เท่าที่ผมต้องการ
ไม่มีการลงทะเบียนเรียน มีแค่ไปเรียนตามคลาสที่เปิดสอนตามเวลาตามชั้นระดับประสบการณ์ และถ้าเก่งพอจะเรียนของชั้นปีที่สูงขึ้นก็สามารถยื่นเข้าสอบวัดผลได้เลยทันที โดยเราจะเสียตังค์กันตอนนี้ล่ะ ราคาเข้าสอบที่แพงแสนแพง จึงตั้งมั่นใจระดับหนึ่งเลยนะเขาถึงจะเก็บแต้มสอบกัน
สาขาที่ผมเรียนมีวิชาให้เรียนไม่มาก แค่เคมี ชีวะ วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐาน และพืชศึกษากับการเพาะปลูก บางวันเรียนแค่วิชาเดียว เวลาว่างผมจึงมีมากจนเอาตัวเองไปเข้าเรียนวิชาอื่นๆ ที่ชอบได้ ยกเว้นก็แต่พวกวิชาที่ต้องมีอุปกรณ์เท่านั้นที่ผมไม่กล้าเข้าไปนั่งดู
ผมชอบวิชาประวัติศาสตร์ที่สุด ไม่มีอยู่ในสายการเรียน แต่ถ้ามีโอกาส ผมจะเข้าฟังทุกครั้ง และผมเคยลองลงสอบดูด้วยเพราะมันไม่แพงมาก คะแนนออกมาดีทีเดียว
ผมชอบอดีต รู้สึกเหมือนเป็นที่ของผม ที่ที่คนอย่างผมคือความปกติ
ยิ่งได้รู้ว่ามันสวยงามเพียงใดผมยิ่งรู้สึกเสียดายและเจ็บปวด
วันนี้รอเรียนวิชาต่อสู้พื้นฐานในตอนเย็น ผมว่างมากเลยมานั่งกร่อยอยู่ในคลาสเรียนวิชากายภาพ
"นี่นาย" น้ำเสียงเป็นมิตรที่สุดเท่าที่นาราเคยได้ยินเรียกจากที่นั่งข้างๆ
"ครับ" นาราตอบรับหน้าตื่นพร้อมหันไปทางต้นเสียง รู้สึกกลัวทุกครั้งที่ต้องคุยกับคนแปลกหน้า
ชายหนุ่มหน้ากวนที่มานั่งข้างเขาเมื่อไหร่ไม่รู้ส่งยิ้มให้
"ฉันเห็นนายอยู่ในร่างมนุษย์ตลอด ไม่มีหลุดเลยแฮะ แถมยังทำท่าทางชิวๆ อีก นายคงเก่งมากสินะถึงไม่เผยความเป็นอสูรให้เห็นเลยแม้แต่น้อย"เขาว่าพรางเปิดผมหน้าม้าออกเผยให้เห็นรอยเขาทู้ๆที่ข้างไรผม
"ปะ เปล่า เรามีร่างเดียวน่ะ”นาราบอกอย่างประหม่า
"อือ ฉันรู้แล้วล่ะ แกล้งถามไปงั้นแหละ ฉันชื่อเซนชิน" เขายื่นมือมาทักทาย นารากล้าๆ กลัวๆ เพราะคิดว่าอาจจะโดนเขาแกล้งจับโยนก็ได้ แต่ก็ยื่นมือออกไปจับจนได้
"นายล่ะ? "เซนชินถามกลับ
"นาราครับ"
"ชื่อเพราะดี เหมือนพวกอสูรน้ำ"
"ครับ แม่เป็นอสูรน้ำ"นาราบอก
"แล้วนายทำอะไรได้"เซนชินถามพร้อมมองวิเคราะห์
"คุณเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพหรือครับ” นาราถามกลับแทนการตอบคำถามเขา คงจะดีถ้าคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักแค่ชื่อจะไม่ต้องรู้ว่าเขาไม่มีพลังอะไร
พวกที่เรียนแขนงนี้ล้วนชื่นชอบความซับซ้อนทางร่างกาย ที่เรียนให้ตายก็ไม่มีวันรู้ถึงแก่นแท้ของมัน
ถึงอสูรจะมีเหล่าใหญ่ๆ อยู่5จำพวกคือ ดิน น้ำ ต้นไม้ ไฟ วิหค และที่แยกย่อยลงไปอีกมาก แต่ด้วยความหลากหลายที่ผสมกันจนมั่ว ทำให้อสูรแทบทุกตัวมีความเป็นตัวเองทั้งสิ้น จนไม่อาจคาดเดาความสามารถได้จากรูปลักษณ์ภายนอก
ยีนจากบรรพบุรุษอันไกลโพ้นอาจจะโผล่อะไรในตัวเราก็ได้ และผมก็หวังอยู่ลึกๆ ว่า ตัวเองอาจจะมีอะไรดีสักอย่าง
เผลอแป๊บเดียวนายเพื่อนใหม่ก็นั่งจ้อข้างผมไม่หยุด เอาจริงๆผม ไม่ได้ฟังเลยว่าเขาพูดอะไรไปแล้วบ้าง นารารู้สึกผิดที่เผลอเหม่อ
"นายสวยมากเลยนะ ตอนแรกนึกว่าพวกเก่งกาจซะอีก ทำฉันไม่กล้าเข้าใกล้"เซนชินว่า
"งั้นหรอ"อย่างฉันเนี่ยนะ
"ใช่น่ะสิ นิ่งๆ เงียบๆ แล้วนี่ไม่กลัวบ้างหรอ อยู่ท้ามกลางพวกคนเกเรน่ะ"
"แล้วนายเกเรมั้ย? "นาราถามกลับ
"ไม่ ฉันนิสัยดี"เซนชินว่าพรางฉีกยิ้มกว้าง
ว้าว เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้
"งั้น สนใจจะเป็นเพื่อนฉันไหม"
"แน่นอน" เซนชินบอกพร้อมฉีกยิ้ม