ตอนที่ 10

1685 Words
10 กันติชาถึงกับสะดุ้งเฮือก เจ็บก้นกบยังไม่ทันจะจางหาย ใบหน้าที่นิ่วเหยเก ดวงตากลมโตยิบหยี พร้อมเสียงสูดปากและโอดโอยหยุดชะงัก เมื่อมีเสียงแข็งกร้าวและดุแข็งดังมาจากไหนก็ไม่รู้ ที่ได้ยินแล้วก็ให้นึกถึงคนบางคนที่ก่ออารมณ์ต่างๆ ให้อย่างไม่มีวันหยุดนิ่ง “อู๊ย...มันเรื่องอะไรกันนักหนานะ ทำไมวันนี้ถึงได้มีแต่เรื่องบ้าๆ ห่วยๆ จังเลยวุ้ย” ริมฝีปากอวบอิ่มขยับบ่นพึมพำทั้งที่ดวงตากลมโตยังขยุกขยิกจะลืมก็ไม่ใช่จะปิดก็ไม่เชิง เลิกขึ้นช้าๆ จากที่ตวัดมองคนที่ทำให้เธอล้มก้นจ้ำเบ้าอย่างไม่พอใจ ต้องไพล่ไปหาต้นเสียงที่ชวนให้หวาดหวั่น แสงจากหลอดไฟนีออนที่ส่องสว่างทำให้เธอเห็นเงาที่ทาบลงมาบนพื้น ลมหายใจสาวน้อยถึงกับติดขัด เมื่อเห็นหน้าคนถามถนัดๆ ตา ‘โอ๊ย...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ใครก็ได้ช่วยลูกช้างที’ “พอดีฉันหิวน่ะ เลยคิดจะมาขออะไรแม่ครัวแกกินสักหน่อย” นภดลตัดบทพูดขึ้นก่อน ไม่แคร์แม้จะได้เห็นสายตาไม่พอใจจากเพื่อนกึ่งเจ้านายส่งมาก็ตาม อีกทั้งยื่นมือใหญ่ไปหวังจะช่วยคนร่างเล็กกว่าให้ลุกจากพื้น แต่ก็ไม่ทันราชันย์ที่เดินเข้ามาแทรกอย่างรวดเร็ว ดึงเอาร่างแม่ครัวหุ่นอวบอัดน่าปรารถนาขึ้นไปกกกอดหน้าตาเฉย ใบหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มเหนือมุมปากเล็กน้อยอย่างรู้เท่าทันคนเป็นเพื่อน แขนแกร่งสอดรัดร่างโปร่งเข้ามาหาจนแนบชิด แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผย สายตาผู้ชายด้วยกันมองกันออก นภดลให้ความสนใจกันติชาอย่างออกนอกหน้า ถึงได้พยายามตะล่อมถามเรื่องราวของหญิงสาวจากเขาและคนในบ้าน รวมถึงคอยสอดส่ายสายตามองอยู่อย่างไม่คลาดคลา “แล้วได้หรือยังล่ะของกิน” ราชันย์ถามเรียบๆ ทั้งที่ความจริงเขามาทันเห็นนภดลกำลังจะทำอะไรกับแม่ครัวแสนหวานที่เขาจับจ้องเป็นเจ้าของตั้งแต่แรกเห็น ที่มันทำให้ความรู้สึกหวงแหนพุ่งขึ้นสู่สมองและหัวใจทันควัน อย่างไม่ทันจะรู้ตัวด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าตอนที่เห็นลมร้อนแทบจะพวยพุ่งออกจากหูด้วยซ้ำ เกือบถลาไปฝากรอยหมัดไว้บนวงหน้าหล่อหวานละมุนของเพื่อนแล้วด้วย แต่เมื่อกันติชาถลาลื่นล้มก็ให้เป็นห่วงแทน จนต้องรีบนำตัวเองสอดเข้ามาขวางลำเสียก่อน “คุณ...หนูเจ็บนะ” กันติชาร้องบอกราชันย์เสียงเบา วงหน้าสวยเบะออกด้วยความเจ็บ เมื่อแขนแข็งแกร่งกลายตัวเป็นคีมเหล็กรัดเสียจนเอวเธอแทบจะหักขาดเป็นสองท่อน อีกทั้งการได้อยู่กับราชันย์ก็ยังดีกว่าชายหนุ่มอีกคนที่เป็นคนอารมณ์ไม่คงที่ เหมือนกับผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน เลือดจะไปลมจะมา หาทิศทางไม่เจอ ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อย ปลายมือจิกลงไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งแรงๆ เพื่อให้เขารู้ตัวว่าทำให้เธอเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าแรงเท่ามดตะนอยจะสร้างความเจ็บปวดและรู้สึกตัวให้อีกฝ่ายไม่ได้เลย เพราะยิ่งปฏิเสธและขยับกายหนีห่างเท่าไหร่ แขนกำยำก็ยิ่งรัดแน่นขนัดมากขึ้น จนเรือนกายโปร่งบางแนบชิดไปกับเรือนกายอันทรงพลังและแข็งแกร่งของอีกฝ่ายทั่วทั้งสรรพางค์ “ยังเลย ว่าแต่แกเถอะมาทำอะไรดึกดื่นป่านนี้ นึกว่าจะอยู่กับสาวๆ ที่คลอเคลียออดอ้อนเหมือนแมวพวกนั้นเสียอีก ของชอบไม่ใช่หรือไง” นภดลถามพร้อมแขวะกัดไปเล็กน้อย ตามอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นด้วยความอิจฉา ที่จำต้องข่มกลั้นสะกดเอาไว้ในทรวง ทุกคนต่างให้การยกย่องเชิดชูราชันย์ แม้ชายหนุ่มจะแสดงท่าทางไม่แคร์ใคร พูดจาหมาไม่รับประทานก็ตามที แต่ทุกคนก็ยังต้องพึ่งพาเพื่อนคนนี้ ไม่เว้นแม่แต่เขาเองที่ต้องพึ่งพาทั้งเรื่องงานที่ทำอยู่และเรื่องเงินที่อีกฝ่ายยอมควักออกจากกระเป๋าอย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะมากมายเพียงไหนก็ไม่มีบ่นเลยสักคำ ที่ไม่เคยพอสักครั้ง ที่ความอยากเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ “เปล่า แค่มาหาอะไรดื่มแก้กระหายเท่านั้นเอง พอดีเห็นแกเข้า มันก็อดสงสัยไม่ได้ เข้ามาทำอะไรในครัวดึกๆ ดื่นๆ ก็เท่านั้นเอง” ราชันย์ตอบพร้อมไหล่กว้างที่เลิกขึ้น ก่อนปล่อยร่างโปร่งบางที่ยืนขยุกขยิกดิ้นไปมา กับความพยายามพาตัวเองให้ห่างไกลจากเขา เมื่อทำไม่ได้ดังใจก็หาทางประทุษร้ายสร้างความรำคาญจากมดตัวเล็กๆ จิกกัดอยู่ตลอดเวลา กันติชาเป่าพ่นลมหายใจแรงๆ ออกจากปอดเมื่อได้รับการปล่อยตัว และรีบกระเถิบร่างหนีแต่ก็ไม่พ้น มือแกร่งยังยื่นมาสอดรัดจับแขนเอาไว้ นิ้วใหญ่และอุ่นร้อนไล้วนบริเวณหลังมือ ทำเอาขนกายสาวลุกชัน ริมฝีปากแห้งผากอย่างกะทันหัน จนต้องรีบส่งปลายลิ้นออกมาไล้เลีย อีกทั้งกระไอร้อนไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด พุ่งสู่พวงแก้มอิ่มเต็มจนเธอคิดว่ามันคงจะแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกไปเรียบร้อยแล้ว “เอ่อ...คุณ...หนู...” อยากจะเอ่ยบอกให้ชายหนุ่มหยุดทำแบบนั้นเสียที แต่กลับต้องชะงัก เมื่อถูกสายตาคมดุที่ตวัดมองมาอย่างห้ามปรามให้อยู่นิ่งเฉย ถ้าอยู่กันตามลำพังคงจะตอบโต้กลับไปบ้างแล้ว แต่นี่ยังมีสายตากึ่งดูถูกเหยียดหยามปนหวานเศร้าอีกคู่หนึ่งที่คอยจับตามองอยู่ เลยทำให้เกิดความรู้สึกอยากที่จะเอาชนะ และเลือกปล่อยเลยตามเลย แต่ก็ยังมีอาการสะบัดสะบิ้งเป็นครั้งคราว คิ้วโก่งได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยครามครัน ทำไมผู้ชายคนตรงหน้าถึงได้ทำท่าทางเหมือนกับเกลียดเธอนัก แต่บางคราก็เหมือนกับว่าต้องการเสียเหลือเกิน แต่ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ใด เธอก็ไม่อยากเข้าใกล้อยู่ดีนั่นแหละ คนบ้าๆ แบบนี้อยู่ด้วยเดี๋ยวจะบ้าตาม “แกออกไปคอยข้างนอกดีกว่าดล เดี๋ยวฉันคุยธุระกับแม่ครัวก่อน แล้วจะตามไปพร้อมอาหารของนาย” แม้พูดกับนภดล แต่ราชันย์กลับปรายสายตามามองกันติชาอย่างหงุดหงิดและไม่ชอบใจ บวกกับความรู้สึกอีกอย่างที่ครอบคลุมร่างกายตั้งแต่แรกเจอสาวน้อยตรงหน้า ดวงตาคมกริบไล่มองไปตามเรือนกายโปร่งบางแต่อวบอิ่มและกลมกลึงไปทุกสัดส่วน รวมถึงหอมหวานเพียงไหน มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ดี ด้วยความไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะจำได้ว่าสั่งห้ามไม่ให้นุ่งกางเกงขาสั้นมาทำงานนี้ แล้วยายตัวดีนี่ดันขัดคำสั่งเขาเอาเสียได้ เลยทำให้ไอ้พวกเพื่อนหนุ่มๆ ที่แฟนเผลอตวัดสายตามองอย่างโลมเลียและหื่นกระหายเอาเสียบ่อยครั้ง เห็นแล้วมันทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากจะตั๊นหน้าทุกๆ คนให้ล้มนอนหงายทั้งยืน นภดลตวัดค้อนส่งให้คนเป็นทั้งเพื่อนและนายอย่างไม่พอใจสุดๆ ที่ถูกกีดกันออกไปอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็จำต้องยอมฟังคำสั่ง เพราะคำสั่งของเจ้านาย...เจ้านายเฮงซวย แต่ก่อนไปก็ไม่วายหันไปทิ้งสายตาไม่พอใจให้กับอีกหนึ่งสาว ที่ตอนนี้ยืนหน้าตาแดงก่ำเหมือนกุ้งถูกต้มสุกด้วย “ได้ นายรีบๆ เอาไปให้หน่อยแล้วกัน ฉันหิวจนจะกินยายแม่ครัวนี่ได้หมดตัวแล้ว” แม้กระทั่งจะไปแล้วนภดลยังไม่วายหย่อนระเบิดลูกโตไว้ให้กันติชา “ทำไมถึงไม่เชื่อฟังกัน” หลังหนุ่มผู้มาขออาหารทานแก้หิวยังเห็นอยู่ไวๆ กันติชาก็ต้องสะดุ้งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้แล้วในคืนนี้ เพราะน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะราบเรียบจนเกินไปของเจ้าของบ้านร่างใหญ่ ที่เธอรู้ดีว่าภายในคงไม่เงียบดั่งเสียงที่เอ่ยออกมา ดูได้จากดวงตาคู่ที่คมวับวาวเหมือนจะเปล่งแสงสีแดงเรืองรองออกมา “คะ?” กันติชาตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ อะไรหว่า? อยู่ดีๆ ก็ถามขึ้น แล้วเราจะไปเข้าใจความหมายของคำถามนี่ไหมล่ะ? หัวคิ้วโค้งมนได้รูปค่อยๆ ขมวดเข้าหากันจนเป็นปมขนาดเล็ก ในดวงตาก็เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “ฉันบอกให้เธอซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่และดีๆ มาใส่ในงานใช่ไหม แล้วทำไมยังใส่ชุดเสื้อผ้าเก่าๆ และขาดวิ่นราวกับผ้าขี้ริ้วนี่อยู่อีก” ราชันย์เอ่ยถามเสียงเข้ม พร้อมจ้องสาวน้อยตรงหน้าแววตาคมดุราวกับมีดโกนขณะตอบคนที่กำลังอึ้ง ถึงแม้งานนี้จะมีคนเพียงแค่สิบคน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนมีชื่อเสียง อีกทั้งบางคนยังคิดจะร่วมทุนทำธุรกิจกับเขาด้วย ที่เหลือก็เพื่อนสนิทที่เขาไม่ชอบให้ทุกคนไขว้เขว มือใหญ่ยื่นไปจับแขนเรียวยาวดึงเข้าหาตัว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามที่จะถอยกายหนี “ว่าไง ทำไมถึงไม่เชื่อฟัง” ชายหนุ่มออกแรงบีบแขนเรียวเมื่อไม่ได้รับคำตอบ จนอีกฝ่ายหน้าเบ้ มีน้ำตาหยดออกมาจากเบ้าตาเล็กน้อย มือที่ว่างเลยพยายามแกะมือใหญ่ออกไปจากแขนสลับกับทุบตี เพื่อให้ราชันย์รู้สึกตัวว่าทำคนอื่นเจ็บแค่ไหน แต่ยิ่งพยายามก็เหมือนกับเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะแรงบีบที่หนักมือมากขึ้น แถมยังมีการขู่สำทับมาอีก “อยู่เฉยๆ อย่าเรื่องมาก แค่ตอบคำถามมา เข้าใจไหม” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD