ตอนที่ 1 เพื่อนครับ นอนกันดีๆ ได้เปล่า

2438 Words
ตอนที่ 1 เพื่อนครับ นอนกันดีๆ ได้เปล่า ว่ากันว่าช่วงชีวิตวัยเรียน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘เพื่อน’ คำกล่าวนี้มันอาจจะจริงในชีวิตหลายๆ คน และอาจจะไม่จริงในชีวิตของหลายๆ คนเช่นกัน แต่สำหรับคนติดเพื่อนแบบผมแล้ว มันจริงมากๆ จริงที่สุดเลยละครับ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “ใครมาวะโต้ง” “จะมีใครนอกจากผัวมึง” “กวนตีน” ผมหันไปด่าไอ้เมทจอมกวนของผม ผมชื่อ ‘นะ’ ครับ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกเทคโนโลยีการศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ผมเป็นผู้ชายตัวค่อนข้างสูง หน้าตาดี และเรียนเก่งมากๆ อาจจะฟังดูหลงตัวเอง ก็ใช่ครับ ผมมันหลงตัวเอง แต่อย่างว่า ใครมันจะรู้จักเราดีเท่าตัวเราเองใช่ไหมล่ะครับ ชีวิตมหา’ ลัยของผมค่อนข้างจะติดเพื่อนมากๆ ผมมีเพื่อนในกลุ่มสองคน คนหนึ่งชื่อ ‘สโนว์’ ไอ้ตัวแสบและน้องเล็กประจำกลุ่ม อันที่จริงพวกเราก็อายุเท่ากันแหละ แต่ในสายตาพวกผมมันมีความเป็นน้องเพราะขนาดตัวและนิสัยงุ้งงิ้งของมัน ส่วนอีกคนชื่อ ‘พอส’ พอสกับผมคือเพื่อนสนิทที่ใครๆ ก็จะเรียกเราว่าแฝด อาจจะเพราะเราตัวสูงเหมือนกัน เรียนเก่งเหมือนกัน และหน้าตาดีเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับนิดหนึ่งว่าทุกอย่างที่ทุกคนมองว่าเหมือนกัน ไอ้พอสมันมีมากกว่าผมทั้งหมดไม่ว่าจะความสูง สมอง และหน้าตา แต่ใครจะสนล่ะครับ มีคนบอกว่าผมเป็นแฝดกับคนเพอร์เฟกต์อย่างมัน นั่นก็แสดงว่าผมเองก็เพอร์เฟกต์เหมือนกัน มันเนี่ยเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมหลงตัวเองเลยละ แต่ถึงใครบนโลกจะบอกว่าผมกับไอ้พอสเหมือนแฝดกันมากเท่าไร แต่มันก็มีอยู่คนหนึ่งที่อุตริแซวว่าเราสองคนเหมือนผัวเมียกันมากกว่า มันคือไอ้โต้ง เมทหอในที่ผมจับฉลากได้ตอนปีหนึ่ง ไม่รู้ว่าซวยอะไรของผมถึงจับฉลากได้มาอยู่กับคนกวนส้นเท้าและจินตนาการล้ำเลิศอย่างมัน อาจจะเพราะความกวนของมันเอง อาจจะเพราะผมกับพอสสนิทกันมากเกินไป หรือเพราะอะไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีพอเริ่มขึ้นปีสอง ไอ้โต้งมันก็เริ่มแซวผมกับพอสแล้วละ ยังดีที่มันไม่ได้อยู่คณะเดียวกับผม ผมรับรองว่าถ้าสโนว์ได้ยินโต้งมันแซวผม ไอ้ตัวแสบของกลุ่มเรามันจะต้องแซวตามแน่ๆ แกร๊ก “ผัวมึงจริงด้วยนะ” นั่นไง เห็นไหมครับว่ามันกวนตีนจริง “งั้นหลบหน่อย จะเข้าไปหาเมีย” แต่ความซวยของผมก็คือไอ้พอสมันก็เป็นพวกบ้ายุครับ พอโต้งมันแซว พอสมันก็เล่นด้วย ก็แหงละ มันโดนแซวว่าเป็นผัว ไม่ได้ต้องเป็นเมียอย่างผมนี่ แต่คิดแล้วก็เซ็ง ถ้าอยู่กับคนอื่นผมไม่ได้เป็นเมียหรอก แต่ดูตัวมัน ดูความหล่อของมันสิ ทำบุญด้วยอะไรวะ “เสร็จยังเนี่ย ป่านนี้สองคนนั้นมันรอละ” พอสมันถามผมครับ สองคนนั้นที่ว่าคือสโนว์เพื่อนรักของพวกเรากับ ‘เปอร์’ เพื่อนในเอกที่พวกเราทำงานด้วย วันนี้พวกเราทำงานที่ห้องเปอร์กัน แต่ผมกับสโนว์มัวแต่เล่นเกมงานเลยไม่เสร็จ สุดท้ายพวกเราเลยต้องไปนอนห้องเปอร์ แต่ระหว่างนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับมาอาบน้ำที่ห้องก่อน “โนมันคงไม่อยากให้เรารีบไปหรอก” “มึงว่าไรนะ” “เปล่าๆ” ผมบอกปัดๆ ไป ก็จะให้บอกไปได้ไงล่ะว่าสโนว์มันกำลังแอบชอบเปอร์ แล้วมันก็กำลังอ่อยเปอร์อยู่ แต่ถึงผมจะไม่บอก ผมก็มั่นใจว่าคนที่ดูฉลาดเป็นกรดอย่างพอสมันจะต้องมีสงสัยหรือแอบรู้บ้างแหละ แค่ยังไม่พูดเท่านั้น หลังจากผมเก็บของเสร็จ เราทั้งสองคนก็ไปที่ห้องของเปอร์ เราพบว่าสโนว์อยู่ก่อนแล้ว ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้มันทำอะไรกันบ้าง รู้แค่ว่าหน้าตาสโนว์ดูมีความสุข เห็นเพื่อนมีความสุขผมก็ไม่ได้อยากจะไปซักไซ้อะไรเท่าไรนัก การทำงานของเราสี่คนดำเนินไปจนเสร็จ จากนั้นเราก็เข้านอนกัน โดยที่ผมกับพอสนอนข้างล่าง แล้วให้เพื่อนตัวจิ๋วอย่างสโนว์นอนข้างบนกับเปอร์แทน “เปอร์ ไม่มีหมอนข้างแล้วเหรอวะ” พอสมันถามระหว่างที่พวกเรากำลังปูที่นอนกัน “ไม่อะ” ผมหันมองพอสแบบหน้าเอือมๆ มันก็ไม่ควรจะมีอยู่แล้วแหละ แค่ลำพังเปอร์มีที่นอนสำรองให้ก็บุญแล้ว ใครมันจะไปพกหมอนข้างหลายๆ อันไว้ในห้องกันนะ “ไม่ต้องมองเหมือนด่ากูเลย” แล้วมันก็รู้ดีสมเป็นเพื่อนผมด้วยนะ มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าผมด่า “เฮ้อ” ผมถอนหายใจเบาๆ ให้กับความเรื่องมากของมันก่อนจะนอนลง พอเห็นผมนอน จะด้วยความอยากแกล้งหรืออะไรผมก็ไม่แน่ใจ จู่ๆ พอสมันก็นอนทับผมลงมาแบบเต็มแรง ไม่เผื่อผมจะจุกเลยแม้แต่น้อย “อึก อะไรของมึงเนี่ย” “นี่ไงหมอนข้าง” ไอ้มนุษย์ตัวเท่ายักษ์ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวผมแล้วกอดผมแน่น พร้อมทำเป็นหลับตาพริ้มเหมือนเคลิ้มๆ ผมพยายามดิ้นแต่ก็ดิ้นไม่หลุด ถ้ากับคนอื่นผมแรงเยอะมากนะ แต่กับมัน ผมยอมแพ้จริงๆ “ปล่อย” “อย่าดิ้นดิหมอนข้าง” “เคยโดนหมอนข้างถีบปะ” “ทำไมโหดจังเมีย” “สัด” คำเดียวเท่านั้นก่อนผมจะคว้าเอาหมอนมาตีมัน มันถึงจะยอมปล่อยผมไป เป็นอย่างนี้ตลอด พอเวลาเล่นกันแล้วอยากเอาชนะผม มันจะแกล้งเรียกผมด้วยคำที่ไอ้โต้งมันชอบแซว พอสมันคงรู้ว่าเวลาแกล้งเรียกผมแบบนี้แล้วผมจะไม่เถียงต่อ อันที่จริงผมไม่ได้เขินหรอกนะ แต่กลัวสโนว์มันได้ยิน เพราะถ้าสโนว์รู้ว่ามีคนแซวผมกับพอสว่าเป็นผัวเมียกัน ผมรับรองว่าคนดื้อๆ อย่างสโนว์มันต้องล้อต่อแน่ๆ “ทำหน้าบึ้งว่ะ งอนเหรอครับเมีย” “เงียบๆ ดิ” ผมเอามือปิดปากมันแล้วดันตัวให้มันนอนลงกับที่ ท่าทางเหมือนคนแอบคบกันแล้วต้องปิดบังเพื่อนไม่มีผิด ทั้งๆ ที่ความจริงคือเป็นเพื่อนกัน แค่มีเพื่อนที่กวนตีนเกินไปเท่านั้นเอง หลังจากนั้นพอสมันก็กวนผมเป็นพักๆ จนเราต่างคนต่างเหนื่อยแล้วแยกย้ายกันนอนจริงจัง แต่มันก็ยังปั่นประสาทผมด้วยการแกล้งขยับตัวมาชิดผมจนตัวผมชิดเตียงของเปอร์นั่นแหละ พอสในสายตาคนอื่น แม้กระทั่งตัวสโนว์ที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันคงจะเป็นคนที่ดูสุขุม นิ่งๆ เป็นผู้ใหญ่ แต่สำหรับผมมันเป็นผู้ชายที่กวนตีนที่สุดในโลก อาจจะเพราะด้วยเราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก จนมาแยกกันเมื่อตอนม.ปลายที่อยู่คนละโรงเรียน พอกลับมาเจอกันใหม่เลยจูนกันง่าย ในขณะที่สโนว์เป็นเพื่อนใหม่ที่เราสองคนเพิ่งรู้จักตอนมหาวิทยาลัย แต่สำหรับตัวผม ผมก็รักเพื่อนทั้งสองคนเท่าๆ กัน สำหรับพอสเองมันก็คงไม่ได้รู้สึกว่าไม่สนิทกับสโนว์หรอก แต่แค่อยู่กับผมมันจะเป็นตัวของตัวเองมากไป จนเรียกได้ว่าไม่เหลือลุคหนุ่มเพอร์เฟกต์ของทุกคนอยู่เลยละ “เปอร์” เวลาผ่านไปสักพัก ผมยังไม่ทันได้นอนหลับสนิทก็ได้ยินเสียงเรียกเจ้าของห้องดังขึ้นแผ่วเบา มันคือเสียงของสโนว์ สองคนนั้นคุยอะไรกันบางอย่าง ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจจะฟังแต่มันก็ได้ยินบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามจะข่มตาหลับ จนกระทั่งได้ยินประโยคที่ทำเอาหลับไม่ลง “เปอร์ มดกัดอะ ช่วยดูหน่อย อ๊ะ ตรงนั้นแหละ อื้อ มดอยู่ตรงนั้น” “อึก” ผมกลืนน้ำลายลงคออัตโนมัติ หน้าเหวอไปไม่เป็นกับสิ่งที่ได้ยิน ประโยคว่าสยิวแล้ว แต่ที่สยิวยิ่งกว่าคือไอ้น้ำเสียงที่ฟังดูยั่วๆ นั่น ในใจภาวนาว่าอย่าให้สโนว์มันทำอะไรแผลงๆ เช่นยั่วเปอร์แล้วโบ๊ะบ๊ะกันตอนนี้เลย “มันเข้าไปตรงนี้แน่เลยมึง กูคันตรงนี้อะ เปอร์ ช่วยทำให้หายคันที” มารัวเป็นกลองชุด เซ็ตแรกว่าหนักหนาแล้ว เซ็ตนี้ทำเอาผมตาค้าง รู้สึกอยากลุกขึ้นไปลากเพื่อนรักไปปรับทัศนคติมันตอนนี้เลย สโนว์ มึงจะทำแบบนี้ไม่ได้ มึงจะยั่วกันตอนเพื่อนนอนอยู่ไม่ได้ “เปอร์...คันนะ” “มดมันออกแล้วละ นอนเถอะ กูง่วงแล้ว” ผมทนฟังสโนว์มันยั่วเปอร์จนถึงตอนที่เปอร์ตัดจบ รู้สึกโล่งอกโล่งใจ คิดว่าบุญแล้วที่จบตอนนี้ ไม่งั้นมีหวังผมต้องมุดหน้าเข้าเตียงแล้วละ พอเห็นว่าเสียงทุกอย่างสงบลง ผมเองก็โล่งใจ พลิกตัวหันหลังหมายจะหาท่าเหมาะๆ แล้วรีบนอน แต่ปรากฏว่าทันทีที่หันหลัง ก็พบว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่ผมอยู่ พอส “มะ...” ผมกำลังจะถามว่ามึงยังไม่นอนเหรอ แต่พอสมันยกมือขึ้นปิดปากผมไว้ แล้วขยับตัวมาชิดจนหน้าผากเราชนกัน ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วประมวลผลในใจ อย่าบอกนะ ว่ามันได้ยิน ถึงจะถามในใจ แต่พอสมันก็พยักหน้าราวกับรู้ว่าผมสงสัยอะไร ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาดื้อๆ อายแทนเพื่อนก็อาย ไหนจะรู้สึกทำตัวไม่ถูกอีก สโนว์มันจะรู้ไหมว่าที่อ่อยผู้เมื่อกี้เพื่อนได้ยินหมดเลยนะ “อื้มมม” แต่ความน่าปวดหัวระลอกแรกจบไป ความน่าปวดหัวระลอกที่สองก็ตามมาติดๆ เมื่อจู่ๆ เสียงครางของเปอร์ก็ดังขึ้น ผมมองหน้าเพื่อนหน้าหล่อตรงหน้า พยายามจะถามว่าเอาไงดี พอสมันเลยขยับหน้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนปลายจมูกเราชิดกัน แล้วเอานิ้วชี้ขึ้นมาวางที่ปากเพื่อจะบอกให้ผมเงียบและรอฟังก่อน “ยั่วจังนะ ไม่รู้รึไงว่ากูก็เ****นเป็น” แต่ประโยคต่อมาของเปอร์ก็ทำเอาผมแทบร้องอุทานออกมา ดูท่าทางเพื่อนรักของผมจะยั่วเปอร์ไว้มากกว่าไอ้มดกัดเมื่อกี้แน่ๆ คนเงียบๆ แบบเปอร์ถึงดูทนไม่ไหวขนาดนี้ “ขอนะ ไม่ไหวแล้วว่ะ” “ยะ….” ได้ยินประโยคนั้นของเปอร์ ผมก็เตรียมจะร้องบอกให้มันสองคนหยุดก่อนที่จะเลยเถิด แต่ร่างสูงตรงหน้ามันกลับไวกว่า มือหนาปิดลงบนปากผมแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมผมไว้ มันส่ายหน้าบอกให้ผมอย่าพูดอะไร โอเค ตอนนี้ผมไม่พูดเรื่องเปอร์กับสโนว์ก็ได้ แต่ที่ผมอยากพูดตอนนี้คือหนัก... บอกกันดีๆ ก็ได้จะต้องขึ้นมาทับกันทำไมวะ ตัวก็ใหญ่ ไอ้มนุษย์ยักษ์เอ๊ย “อื้ม ซอยนะ” ประโยคหื่นๆ ยังคงดังออกมาจากปากเปอร์อย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนจะมีแต่ผมที่เลิ่กลั่กกับประโยคนั้น ในขณะที่พอสมันดูเฉยๆ แต่นั่นแหละ จะเฉยไม่เฉยมันก็ควรลงจากตัวผมก่อน “อึก สโนว์” เป็นผมที่เขินแทนเพื่อนจนทนไม่ไหวเลยยกมือขึ้นปิดหน้า แต่พอสมันไม่ยอม มันจับแขนผมขึ้นแล้วทิ้งตัวให้ผมซุกหน้าลงกับคอมันแทน แรกๆ ผมก็พยายามผลักแต่มันไม่ยอมลุกจนผมต้องยอมเพราะเสียงครางเปอร์เริ่มดังขึ้น ไม่น่าเลย ไม่น่ามานอนกับพวกมันเลย ผมซุกหน้าลงกับซอกคอของไอ้เพื่อนหน้าหล่อ กลิ่นหอมประจำตัวของมันลอยแตะจมูก พยายามจะไม่ฟังเสียงของเปอร์แต่ก็ยากเหลือเกินเพราะเปอร์ครางดังมาก ชนิดที่ว่าไม่มีทางที่สโนว์จะไม่ได้ยิน แล้วยิ่งพอคิดว่าสโนว์มันรู้สึกตัวแต่แกล้งหลับอยู่ผมยิ่งตื่นเต้นและเขินแทนมัน พวกบ้านี่ ผมจะทำยังไงกับพวกมันดีนะ “อื้ม แม่ง ทำอะไรลงไปวะ” เปอร์ทำอย่างนั้นจนเสร็จเลยสบถออกมา เออผมก็อยากจะถามว่ามึงทำอะไรของมึงเพื่อน คือกูกับพอสอยู่ เกรงใจกูบ้าง กูจ้างพวกมึงก็ได้ พอเปอร์มันลักหลับเพื่อนตัวน้อยของพวกผมเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำไปทำความสะอาด ผมจึงได้ทีผลักไอ้เพื่อนตัวสูงที่นอนทับอยู่ให้นอนลงดีๆ “หนัก” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่มัน ก่อนจะพลิกตัวหันหลังเพื่อเตรียมจะนอนสักที แต่มันก็ดันขยับตามจนแผ่นอกของมันชิดกับแผ่นหลังผม ผมลืมบอกว่านอกจากอยู่กับผมมันจะกวนและเป็นตัวของตัวเองมากกว่าอยู่กับคนอื่น เวลาอยู่กับผมไอ้เพื่อนบ้านี่มันก็ชอบทำตัวเป็นโรคขาดความอบอุ่นมากกว่าปกติด้วย บอกเลยว่าโคตรวอแว “ฟังพวกมันแล้วเ****นเลยว่ะ” ขยับมาชิดยังไม่พอ ยังมากระซิบคำพูดหื่นๆ ใส่หูผมอีก ผมหันหลังไปกะจะด่า แต่พอหันไปก็พบว่าหน้าของพอสมันขยับมาชิดจนจมูกผมชนกับปากมัน “ลองแบบคู่บนเตียงบ้างปะ” “ไปลองกับพ่อมึงเถอะ” ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีพาตัวเองลุกขึ้นแล้วเอาหมอนมาตีมัน ก่อนจะรีบนอนลงเพราะกลัวเปอร์จะออกมาก่อน ผมจะจำไว้เป็นบทเรียนว่าจะไม่นอนกับพวกมันสามคนอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD