ตอนที่ 2 เพื่อนครับ ไปเอากันไกลๆ ได้เปล่า

3622 Words
ตอนที่ 2 เพื่อนครับ ไปเอากันไกลๆ ได้เปล่า หลังจากต้องนอนในค่ำคืนที่แสนจะทดสอบสติและจิตใจ ผมก็ตื่นมาในเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส สิ่งแรกที่ผมทำคือเก็บของแล้วชวนไอ้พอสกลับห้องโดยเร็วที่สุด ไอ้เหตุการณ์เล่นเสียวของสโนว์กับเปอร์มันยังวนเวียนอยู่ในหัวจนผมคิดว่าถ้ายังอยู่ต่อ ผมต้องเผลอทำหน้าตาเลิ่กลั่กใส่มันสองคนแน่ๆ เลยขอถอยมาตั้งหลักก่อน แกร๊ก ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องตอนเจ็ดโมงกว่าๆ มองไปที่เตียงพบว่าไอ้โต้งมันนอนอยู่ และมันกำลังขยับตัวตื่นเพราะเสียงผมเปิดประตู “กูเองโต้ง มึงนอนต่อเลย” ผมบอก รู้สึกเกรงใจมันครับที่ต้องตื่นเพราะผม “อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ไงนอนกับผัว เสียตูดไหมวะ” ตื่นมาก็พ่นคำพูดไม่เป็นมงคลเลย เห็นแล้วผมอยากจะวิ่งเข้าไปเขย่าตัวให้มันมีสติพร้อมตะโกนบอกว่าคนอย่างนะไม่มีทางเสียตูดให้ใคร แต่คิดไปคิดมา คนอย่างไอ้โต้ง ต่อให้ผมทำแบบนั้นมันก็ไม่เลิกล้อ “ค*ย” คำเดียวสั้นๆ พอ “ของใคร ของไอ้พอสเหรอ” “สัด” โอเค ผมจะไม่ด่าไอ้โต้งด้วยคำนี้อีก หลังจากโดนไอ้โต้งปั่นประสาทจนเต็มที่ พอสมันก็ชวนผมไปกินข้าว เรามากินกันที่ร้านป้าดวงหน้าหอ ซึ่งก็เป็นร้านประจำของเรา มาถึงพอสมันก็เดินไปสั่งอาหารโดยไม่ต้องถามด้วยซ้ำว่าผมจะกินอะไร จากนั้นก็ตักน้ำแข็งมาให้ แล้วเดี๋ยวเวลาอาหารมาเสิร์ฟ มันก็จะทำหน้าที่หยิบช้อน ผมมีหน้าที่แค่รินน้ำและก็กิน ไม่ใช่แค่เรื่องกินข้าว แต่ทุกอย่างในชีวิตประจำวันของเรามันเป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าอีกคนต้องการอะไร เพราะถ้าให้พูดกันตามตรง ผมกับมันก็สนิทกันชนิดที่ว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอน ผมมองคนที่ยกน้ำมาให้เหมือนปกติ พอมานึกๆ ว่าเราสนิทกันแค่ไหน มันก็ทำให้ผมแอบคิดเล่นๆ เหมือนกันว่าถ้าวันหนึ่งมันมีแฟน ผมคงจะเหงาน่าดู “เป็นไรไอ้หมา” มันถามผมครับ พอสมันชอบบอกว่าเวลาผมสงสัยชอบทำหน้าเหมือนหมาสงสัย เวลาหงอยก็ดูหน้าเหมือนหมาหงอย ง่ายๆ คือมันคงจะด่าว่าผมหน้าหมาแน่ๆ “กำลังคิดว่าถ้ามึงไปมีแฟนกูคงเหงา” “ฝันอยู่รึไง” พอสมันว่าขำๆ ก็แหงแหละ เห็นหล่อลากขนาดนี้แต่มันไม่มีแฟน ไม่มีคนคุย ไม่เคยพูดแม้กระทั่งว่าชอบใครด้วยซ้ำ ไม่สิ ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ มันไม่เคยมองผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ เวลาที่ผมชี้ให้ดูว่าคนนั้นสวย คนนี้น่ารัก มันแค่มองตามแล้วถามว่ามึงชอบแบบนี้เหรอ แล้วก็ถอนหายใจ เรียกได้ว่าเป็นคนที่ใช้ความเพอร์เฟกต์ของตัวเองได้ไม่คุ้มเลย นี่ถ้าผมเป็นมันนะ รับรองว่าสาวตรึม “ถามจริง มึงไม่มีคุยๆ กับใครบ้างเลยเหรอวะ” “ไม่อะ จริงๆ มึงไม่ควรถามปะ กูอยู่กับมึงตลอดจะให้เอาเวลาไปคุยกับใคร” ก็ถูกของมัน แล้วไอ้ที่ผมไม่มีแฟนก็เพราะมันเนี่ยแหละ ตามประกบจนผมไม่มีเวลาไปยุ่งกับใคร นึกแล้วเหงา คนหล่อแบบผมไม่ควรเปลี่ยวใจรึเปล่านะ “งั้นห่างกันดูมะ มึงจะได้มีเมีย กูก็จะหาของกูเหมือนกัน” เพล้ง เสียงวางช้อนดังจนผมสะดุ้ง ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าแล้วกะพริบตาปริบๆ “กูไม่ห่าง กูไม่หา และไม่ให้มึงหาด้วย” มันพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ดูจริงจังจนผมต้องแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อน “กูล้อเล่นเอง ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้ ติดเพื่อนนะเรา ฮ่าๆ” ผมขำแห้งคนเดียวเพราะดูพอสมันไม่ขำกับผมสักนิด โอเค ไอ้พอสมันติดเพื่อนกว่าที่ผมคิดไว้ ผมไม่ควรพูดคำว่าห่างให้มันมีน้ำโห “อันที่จริงกูก็มีวิธีให้เราสองคนมีแฟนโดยไม่ต้องห่างกัน” ระหว่างที่ผมกำลังกินข้าวต่อ พอสมันก็พูดเรื่องนี้ขึ้นต่อ ผมเงยหน้ามองแล้วกะพริบตาถี่ๆ เพื่อรอว่าวิธีที่มันจะบอกนั้นจะเป็นอะไร “มึงมาเป็นแฟนกูดิ” “พ่อมึงเถอะ” ผมส่ายหน้าให้กับความกวนตีนของมันแล้วกินข้าวต่อ มันไม่พูดอะไรเอาแต่ยิ้มมุมปาก ถึงจะดูน่าหมั่นไส้แต่ผมก็ดีใจที่เห็นมันยิ้ม เพราะนั่นแปลว่ามันไม่ได้เคืองที่ผมพูดแล้ว หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็มาเล่นเกมที่ห้องของพอสต่อ วันนี้เป็นวันหยุด ไอ้โต้งน่าจะนอนต่อถึงเที่ยง ผมเองก็ไม่ได้อยากจะกวนมัน แล้วมันก็บอกว่าตอนเย็นจะพาเพื่อนมาทำงานอีก แล้วเพื่อนมันแต่ละคนก็โคตรไม่ใช่แนวผมเลย มีคนหนึ่งตัวโตๆ เคยทักไอจีมาถามว่าผมชอบผู้ชายไหม อยากลองคุยด้วย บอกเลยว่าสยอง ตัวผมก็ไม่ได้ไม่ชอบเกย์หรอกนะ ไม่งั้นคงไม่มีเพื่อนซี้เป็นสโนว์ แต่ผมก็รู้สึกแปลกๆ ที่จะโดนผู้ชายจีบ อย่างน้อยถ้าวันหนึ่งผมจะชอบผู้ชาย ผมต้องได้เป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตามสิ “ตามสบายมึง ไอ้บูมไม่อยู่” บูมที่ว่าคือเมทมันครับ ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงมันแล้วเล่นเกมอย่างสบายใจ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พอสมันสั่งอาหารมากินแล้วเราก็เล่นกันต่อจนถึงเย็น จนผมเริ่มเหนื่อยเลยบอกมันเลิกเล่น ซึ่งพอสมันก็ว่าง่ายครับ ตามใจผมสุดๆ นี่คือความสบายอย่างหนึ่งของการอยู่กับมัน คือผมว่าอะไร มันก็ว่าอย่างนั้นไม่ค่อยขัดเท่าไร “พอส” พอว่าง สมองผมมันก็เริ่มทำงาน เริ่มนึกอะไรๆ ออก “อะไรวะ” ไอ้พอสที่นอนอยู่ข้างๆ ผมขยับตัวมาชิดจนผมต้องดันหน้ามันออก เนี่ยบอกแล้วว่ามันขาดความอบอุ่น โคตรจะวอแวเลย “มึงว่าเมื่อคืนเปอร์กับสโนว์มันทำไรกันวะ” เพียะ “โอ๊ย” ผมลูบหน้าผากพร้อมทำหน้ามุ่ย จู่ๆ มันก็ตีหัวผม แล้วยังทำหน้าเอือมอีก “ก็เกือบเอากันไง ถามแปลก แม่งเข้ากันดีขนาดนี้ เผลอๆ จัดกันไปหลายรอบแล้วมั้ง” พอสมันว่าด้วยท่าทีชิลๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ “เฮ้ย พูดอะไรเนี่ย” “มึงอายทำไมก่อน มันชอบกัน แล้วมันก็เอากัน มันแปลกเหรอวะ กูยังอยากเอาคนที่กูชอบเลย” ไอ้พอสมันขยับหน้ามาวางบนไหล่ผม ถ้าเป็นปกติผมต้องดันหน้ามันหนี แต่ตอนนี้ผมกำลังใช้สมอง เลยไม่ได้สนใจมันเท่าไร “มึงรู้ได้ไงว่ามันชอบกันอะ สโนว์มันบอกว่ามันเคยบอกกูคนเดียวนี่” “เผื่อมึงลืมว่ากูฉลาดมาก แล้วพวกแม่งก็ดูออกโคตรง่าย มองจากดาวอังคารยังรู้ว่าชอบกัน” “ขนาดนั้นเลยเหรอ” “เออ แต่มึงมองไม่ออกก็ไม่แปลก มีคนอาการชัดกว่าสโนว์มึงยังมองไม่ออก” “ใครอะ” “เฮ้อ” พอสมันถอนหายใจแล้วขยับตัวมาคร่อมผมไว้ ก่อนจะฟุบตัวนอนซบลงบนอกผม พอผมผลักมันออก มันก็พลิกตัวเป็นฝ่ายนอนแล้วให้ผมนอนซบลงบนอกมันแทน ถึงท่าทางจะดูหวานแหววไปหน่อย แต่พอมันให้ผมอยู่ข้างบนผมก็รู้สึกโอเคกว่าอยู่ข้างล่าง เลยยอมๆ มันไป “นี่ แบบนี้สโนว์มันโดนเปอร์หลอกไหมวะ กูเป็นห่วงมันอะ กลัวมันหลอกฟันเพื่อนเรา” ผมยังถามต่อ ถึงสโนว์มันจะชอบเปอร์ แต่ผมยังไม่รู้ว่าเปอร์ชอบสโนว์ขนาดนั้นไหม กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนรักจะโดนหลอกฟันฟรีๆ “นะ มึงฟังนะ” พอสมันจับผมเงยหน้าขึ้นมองตามัน ก่อนจะค่อยๆ พูดให้ผมฟัง “สโนว์มันแค่ตัวเล็กสุดในกลุ่ม มึงจะมองมันด้วยฟิลเตอร์ลูกยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่มึงต้องรู้คือลูกมึงมันไม่ได้ซื่อขนาดนั้น แล้วมันก็ร้ายกว่ามึงเยอะด้วย ถ้าจะห่วงใครมึงห่วงตัวเองก่อน” “ห่วงทำไม กูแข็งแรง กูปกป้องสโนว์ได้” “เออแล้วแต่เลย พ่อคนเก่ง คุณพ่อน้องสโนว์” พอสมันว่าเหมือนไม่อยากจะเถียง ซึ่งนั่นมันก็ถูกแล้ว มันจะมาเถียงผมได้ยังไงล่ะ จากนั้นเราก็นอนเล่นกัน คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปสักพัก ก่อนที่เสียงไลน์พอสมันจะดัง มันอ่านสักพักก่อนจะเด้งตัวขึ้น แล้วดึงแขนผมให้ลุกตาม “อะไรวะ” “ไอ้บูมกำลังกลับมาว่ะ แต่กูบอกมันละว่ากูไม่อยู่” “เอ้า ทำไมอะ” “จะแกล้งมัน ไปแอบกัน” พอสมันลากผมไปหน้าตู้เสื้อผ้าของมัน ก่อนจะยัดตัวเองเข้าไป แล้วดึงผมให้เข้าไปตาม “แล้วพอมันเข้ามาเราจ๊ะเอ๋เลยเหรอ” ผมหันไปถามไอ้คนที่อยู่ด้านหลังผม เพราะอยู่ในตู้เสื้อผ้าทำให้แผ่นหลังผมแนบชิดกับแผ่นหลังพอสแบบชนิดที่ว่าแทบรวมเป็นคนเดียวกัน แล้วยิ่งพอยืนชิดกันแบบนี้ยิ่งตอกย้ำว่าความสูงของผมกับมันห่างกันแค่ไหน นี่ผมก็สูง 178 แล้วนะ ใครใช้ให้มันสูงเกือบ 190 วะ กลายเป็นผมเตี้ยเฉยเลย “ยังก่อน รอกูให้สัญญาณค่อยออกไป” ผมพยักหน้ารับรู้แล้วตั้งตารอการมาของไอ้บูมครับ จริงๆ ก็แปลกนะที่พอสมันชวนผมเล่นอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้ ปกติผมจะเล่นกับสโนว์สองคน แล้วมีมันนั่งเก๊กหล่อ ทำหน้าเอือมๆ ใส่พวกผม แกร๊ก เรารอกันอยู่สักพักเสียงประตูก็ดังขึ้น ผมมองลอดออกไปตรงกลางที่เราแอบแง้มๆ ตู้ไว้ให้มีอากาศหายใจ ภาพที่เห็นคือไอ้บูม เมทของพอสมันเดินเข้ามาในห้อง แต่ประเด็นคือมันไม่ได้เดินเข้ามาคนเดียว แต่กลับมีผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วย “อ๊ะ เอาเลยเหรอ” “ไม่ไหวแล้ว เ****นตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว” บทสนทนาของทั้งสองคนทำเอาผมเบิกตากว้าง แต่นั่นไม่เท่ากับการที่ทั้งสองคนพุ่งตัวเข้าจูบกันอย่างร้อนแรง บูมมันจูบไป มือก็อุ้มหนุ่มน้อยคนนั้นแล้วเดินไปที่เตียง จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ผมจะหันไปหาพอสว่าเราจะเอายังไงต่อดี แต่พอสมันเอื้อมมือมาปิดปากผมไว้ก่อน ผมเองก็พยายามเงียบตามที่มันบอก ขืนโผล่ออกไปตอนนี้ต้องเลิ่กลั่กกันหมดแน่ๆ “ดูดให้หน่อยดิพิว” บูมมันว่าเสียงกระเส่า ปกติบูมมันเป็นผู้ชายกวนๆ ครับ พอๆ กับไอ้โต้งเมทผมเลย ไม่คิดว่าตอนทำเรื่องอย่างว่ามันจะดูน่ามองขนาดนั้น “อ่อก” และทันทีที่มันพูดจบ หนุ่มร่างเล็กที่น่าจะชื่อพิวก็ก้มลงดูดของไอ้บูมจนมันร้องซี้ด มือลูบผมหนุ่มน้อยคนนั้นแล้วเด้งเอวใส่ปากของร่างเล็กรัวๆ ผมใจเต้นตึกตักกับภาพที่เห็น ไม่คิดว่าต้องมาเจอเมทไอ้พอสเล่นหนังสดต่อหน้าต่อตา ภาพเสียงชัดแจ๋ว อยากจะหลับตาหรืออยากจะเบือนหน้าหนีก็ทำไม่ได้ ก็ไอ้ความอยากรู้เนี่ยสิ ด้วยความที่ผมไม่เคยทำกับผู้ชาย พอมาเห็นแบบนี้ก็ดันอยากจะดู อยากจะรู้ว่าผู้ชายทำกันมันเป็นยังไง “ซี้ด พอก่อนพิว ไม่ไหวแล้วว่ะ ขอเอาเลยนะ” บูมมันว่าเสียงกระเส่าแล้วจับร่างเล็กยืนขึ้น มันจับพิวยืนหันหน้าเข้ากำแพง ดึงก้นพิวให้โก่งออกมา ก่อนจะเสียบส่วนนั้นของตนเองเข้าไปอย่างแรง แทนที่พิวจะร้องด้วยความเจ็บ ร่างเล็กกลับแอ่นก้นรับแล้วทำหน้าตาสุขสมสุดๆ ภาพพวกนี้มันทำให้ผมมวนท้องไปหมด หน้าตาและเสียงร้องของทั้งสองคนมันดูสุขสมเกินไป ก็แค่เอากันทำไมแต่ละคนดูชอบแล้วทำเหมือนกับว่ามันสุดยอดขนาดนั้นนะ “อึก” ระหว่างที่ผมกำลังยืนดูไอ้บูมโยกเอวใส่พิวรัวๆ ผมก็รู้สึกถึงอะไรที่มันดุนดันก้นผมขึ้นมา ผมจะหันไปต่อว่าไอ้พอสที่ดันมีอารมณ์ไม่รู้เวล่ำเวลา ก็โดนมือหนาของมันคว้าหมับเข้าที่ส่วนกลางลำตัวแล้วมันยังบีบนวดของผมเบาๆ “อื้อ” ผมพยายามส่ายหน้าบอกมันว่าไม่เล่น แต่ไอ้พอสมันยังดื้อครับ มันล้วงมือเข้ามาในกางเกงผม โอเคเราสองคนสนิทกันมาก แต่สาบานว่าเรายังไม่สนิทถึงขั้นล้วงของลับของกันแน่ๆ “ซี้ด โคตรแน่น เอามันสุดๆ เลยพิว” “บูม เข้ามาลึกๆ เอาให้แหกเลยบูม” ข้างล่างก็โดนปลุกปั่น ภาพตรงหน้ายิ่งเข้าไปใหญ่ ตอนนี้พิวผลักให้ไอ้บูมนอนกับเตียงแล้วขึ้นขย่มเอง พิวร่อนเอวไปมาแล้วกระแทกตัวลงแรงๆ ราวกับว่าชอบให้ของไอ้บูมเข้าไปในตัวเองซะมากมาย ผมไม่เข้าใจ พิวควรจะเจ็บ หรืออึดอัดที่มีอะไรเข้าไปในร่างกาย แต่หน้าพิวกลับดูสุขสม ดูเหมือนชอบและอยากได้จนใจจะขาด มันทำให้ผมเริ่มสงสัยว่าการโดนผู้ชายทำมันรู้สึกดีขนาดนั้นหรือพิวแค่แสร้งทำเพื่อเอาใจบูมกันแน่นะ “อื้อ” ผมพยายามกลั้นเสียงครางเพราะตอนนี้ไอ้เพื่อนรักของผมมันเริ่มซนมากกว่าเดิม พอสมันถอดกางเกงผมให้ลงไปคาอยู่ที่ข้อเท้า และของมันก็ด้วย มือหนาก็รูดรั้งแก่นกายของผม มันคงหวังดี กลัวผมมีอารมณ์เพราะไอ้สองคนนั้นแล้วจะอึดอัด แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ไหม ของผมผมรูดเองได้เถอะ “ขาชิดหน่อย” พอสมันว่าเสียงเบา ดีที่สองคนนั้นครางดังเลยไม่ได้ยินเสียงพวกเรา ผมไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไร จนกระทั่งมันสอดท่อนเอ็นของตนเองเข้ามาตรงหว่างขาผม ผมตกใจจนเริ่มดิ้น มันเห็นแบบนั้นก็รีบกอดรัดร่างกายผมไว้แน่น “อ่อย อูไอ้เอ้น (ปล่อย กูไม่เล่น) ” ผมเริ่มโวยวาย แต่ไอ้สองคนที่มันกำลังเล่นกิจกรรมเข้าจังหวะกันก็ไม่ได้สนใจผมแม้แต่น้อย “ใจเย็น ขอยืมขาหน่อย มือกูไม่ว่าง ช่วยชักให้มึงอยู่นี่ไง” ไอ้เพื่อนตัวสูงพูดออกมาหน้าด้านๆ แล้วผมได้ขอมันไหมเนี่ย มาชักของผมเองแล้วยังโทษว่าเพราะผมทำให้มือมันไม่ว่างอีกนะ ดูมันสิ “กูไม่ได้ขอ” ผมกัดฟันพูดไป แต่มันก็ยังไม่ปล่อย แถมยังเริ่มขยับเอวใส่หว่างขาผมอีก “อย่าขยับ เดี๋ยวตู้สั่น” “มันไม่สนใจหรอก ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ารูพิวหรอก” “สัด” “อยู่นิ่งๆ ดินะ ก็มึงทับอยู่แบบนี้กูจะรูดของกูได้ไง ที่มันแคบก็ต้องใช้ให้ประหยัด อยู่เฉยๆ แป๊บเดียวออกเชื่อกู” ผมหมดคำจะด่า ได้แต่ยกมือขึ้นปิดปากแล้วภาวนาให้เวลานี้มันผ่านไปไวๆ “ซี้ด ไม่อยากปล่อยเลยว่ะ อยากเอาถึงเช้าเลย” ไอ้บูมพูด กูไหว้ล่ะ สงสารกูก่อน “เหมือนกัน บูมเอามันสุดๆ” ผมหน้าแดงกับคำพูดทั้งสองคน แต่ละคนพูดอะไรกันเนี่ย ไม่อายเลยรึไง แล้วดูมันทั้งสองคนสิ ใส่กันยับเหมือนอดอยากมาสามชาติ แถมยังทำหน้าตามีความสุขเกินเหตุจนคนดูอย่างผมมีอารมณ์ตาม หนักใจกับภาพตรงหน้าแล้วก็หนักใจกับไอ้คนข้างหลังด้วย ตอนนี้มือข้างหนึ่งของพอสมันกอดเอวผมไว้ ส่วนอีกข้างชักรูดน้องชายให้ผม มันเก่งครับ มันรูดแล้วเสียวกว่าผมทำของตัวเองเยอะ แล้วจังหวะที่มันโยกเอวใส่ก้นผมก็ดีมากจนผมว่าถ้าพิวเจอไอ้พอสไป พิวต้องทิ้งไอ้บูมแน่ๆ “อึก เบา” ผมห้ามเมื่อพอสมันเริ่มมีอารมณ์มากขึ้น แล้วขยับเอวแรงขึ้นจนมีเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะมองพิวเลยมีอารมณ์หรืออะไรกันแน่ แต่เสียงหอบหายใจกับจังหวะการโยกแสนดุดันของมันฟังดูเก็บกดน่าดู “อยากเอาแล้วว่ะ” พอสมันพูดข้างหูผม ผมคิดว่ามันน่าจะหมายถึงอยากเอาพิวรึเปล่า แต่ที่สัมผัสได้คือมันกอดผมแน่นขึ้น แล้วเริ่มเลียใบหูผม เห็นมันมีอารมณ์มากและเริ่มคลั่งขึ้น ผมเลยช่วยให้มันถึงไวๆ โดยเริ่มด้วยการหนีบขาให้ชิดกันมากขึ้น “ซี้ด ตอดเก่ง” คำพูดลามกดังออกจากปากมันไม่หยุด ทิ้งคราบหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟกต์ไปจนหมด ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันมีอารมณ์มากขนาดนี้ รู้แค่ว่ามันทำผมมีอารมณ์ตาม “ได้เอาเมื่อไหร่กูจะเอาให้สลบเลย ฮึ่ม” พอสมันว่าเสียงกระเส่า ผมเดาว่าตอนนี้มันอาจจะจินตนาการถึงใครสักคนอยู่ ก็ไอ้คำพูดพวกนั้นมันคงไม่ได้พูดกับผมหรอก แต่ถึงรู้ว่ามันไม่น่าจะพูดกับผม ผมดันเผลอมีอารมณ์แล้วจินตนาการว่ามันพูดกับผมจนเผลอเสร็จออกมาคามือมัน “อื้อ” ผมปลดปล่อยออกมาเต็มมือมัน ไอ้พอสละมือจากท่อนเอ็นของผม แล้วยกมือมาบีบหน้าอกผมต่อจนน้ำรักของผมมันเลอะหน้าอกของตัวผมเอง ไอ้เพื่อนบ้านี่เล่นอะไรเลอะเทอะ หลุดออกจากตู้นี้เมื่อไหร่มันต้องโดนผมด่าแน่ๆ “ซี้ด ไม่ไหวแล้วบูม” “พร้อมกันนะ อื้อ” ทำไปอีกสักพัก ทั้งสองคนก็ปลดปล่อยออกมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้พอสมันโยกเอวใส่ผมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วปล่อยออกมาจนเลอะขาผม ผมอยากจะถอนหายใจแรงๆ สรุปคือผมเลอะไปทั้งตัวแล้วแหละตอนนี้ “เมื่อกี้สุดยอดไปเลยพิว มึงเอาโคตรมัน” พอทำกันเสร็จ ไอ้สองคนก็นอนกอดกันแล้วพร่ำพรรณนาถึงความสุดยอดของอีกคน ผมละอยากจะบ้าตาย เมื่อคืนยังมาแต่เสียง วันนี้มาเต็มๆ ทั้งภาพทั้งเสียง ทำไมช่วงนี้ดวงผมมันผูกกับเรื่องสิบแปดบวกขนาดนี้นะ ชมกันจนพอใจ มันสองคนก็ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าเพราะพิวบ่นหิว ตอนแรกไอ้บูมยังชวนพิวกินไส้กรอกของตัวเองอีก ดีนะที่พิวหิวจริง ไม่อย่างนั้นผมเป็นบ้าตายแน่ๆ “เออบูม แล้วนี่เมทมึงไม่อยู่เหรอ” ระหว่างที่เดินออกจากห้องพิวก็หันมาถามไอ้บูม “ไม่อะ เมื่อกี้ไลน์ไปถามมันว่าขอพาพิวมาเอา มันยังบอกว่าเต็มที่อยู่เลย” จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากห้องไป สิ่งแรกที่ผมทำคือผลักประตูตู้ออกแล้วด่าไอ้เจ้าของห้องทันที “สัด เลอะเต็มตัวกูไปหมด” ผมด่าไอ้พอส มันไม่ตอบโต้แล้วยังยืนมองร่างกายผมที่เลอะไปด้วยน้ำสีขาวด้วยสายตาแวววาว แล้วเหมือนเมื่อกี้ผมจะเห็นมันเลียปากตัวเองอีก “ก็ในตู้มันไม่มีทิชชู” มันว่าแล้วเดินมาใกล้ ตอนนี้หน้าตาไอ้พอสมันดูไม่น่าไว้ใจมากๆ ไม่รู้ทำไมผมมองหน้ามันแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยขนาดนี้นะ “หลบ กูจะไปล้าง” “ให้กูช่วยล้างปะ” พอสมันลูบต้นขาผมที่มีน้ำของมันเลอะจนผมต้องรีบดันมือมันออกแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ผมจัดการล้างตัวให้เรียบร้อยแล้วใส่เสื้อผ้าออกมาจากห้องน้ำอย่างเรียบร้อย เจอไอ้พอสมันกำลังนั่งผิวปากอย่างสบายใจ เห็นแล้วหมั่นไส้อยากจะฟาดหัวมันสักทีจริงๆ “มาแล้วเหรอจ๊ะสาวน้อย” “กวนตีนละ แล้วเมื่อกี้ที่ไอ้บูมบอกคือไร มึงบอกว่าเต็มที่นี่มันยังไง” “กูคิดว่ามันล้อเล่น ใครจะคิดว่ามันจะพาคนมาเอาจริงๆ” ผมมองหน้ามันด้วยความสงสัยว่ามันพูดจริงไหม แต่ก็คงเป็นอย่างที่มันว่าแหละ มันอาจจะแค่คิดว่าบูมล้อเล่น ไอ้พอสมันไม่น่าจะอนุญาตให้เมทพาคนมาเอาทั้งๆ ที่ผมก็อยู่หรอกน่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD