EP02.2 ll ความในใจ [2]

1813 Words
แต่ถามว่าเอามั้ย... ก็เอาอยู่ดี เฮ้อ! “พอเหอะ ไม่ต้องทำเป็นพูดดีหรอก ไม่อยากจะฟัง” ฉันฮึดฮัด รู้สึกรำคาญใจอย่างอธิบายไม่ถูก เลิกสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้ฉันสักทีเหอะ ไม่ต้องทำให้ฉันรู้สึกดีทั้งที่มันไม่มีได้ปะวะ เขาไม่เข้าใจหรอกว่าเวลาที่ฉันต้องเฟลเรื่องเดิมซ้ำๆ มันเจ็บ มันเซ็งแค่ไหนอ่ะ ก็รู้นี่ว่าฉันใจง่าย ยอมเขาง่ายๆ แล้วยังจะมามากมายกับฉันอีกนะ เกินคำว่าแย่ไปมากอ่ะ “เนลไม่ได้โง่นะ เนลดูออก” ฉันบอกกับนนท์ตรงๆ เพราะสิ่งที่เขาทำนอกจากมันจะไม่ช่วยให้ฉันรู้สึกดีแล้ว มันยังรู้สึกเหี้ยกว่าเดิมอีกอ่ะ ฉันรู้สึกเหมือนนนท์มีจุดประสงค์อะไรสักอย่างที่ไม่ได้บอกฉัน ฉันเลยอยากจะคาดคั้นกับเขาก่อน “แล้วจะให้พูดไง ให้ด่าเหรอ?” เขาหัวเราะกับสิ่งที่ฉันบอก มือยังคงซุกซนวนเวียนอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อของฉัน นัยน์ตาสีเข้มทอดมองมาอย่างยั่วเย้าราวกับเชิญชวนฉันให้พุ่งกระโจนใส่เขาทุกขณะ “ก็พูดอย่างที่นนท์คิดไง คิดอะไรก็พูด” “เนลไม่อยากรู้หรอก” “มันคงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้วมั้ง รู้ให้เฟลอีกนิดนึงก็คงไม่ตายหรอก” ฉันกึ่งประชดนิดๆ ก่อนจะแค่นยิ้มฝืนๆเมื่อเห็นคนตัวสูงแสดงสีหน้าสำนึกผิดขึ้นมาเล็กๆ มือของเขาคลายแรงที่กำลังฟอนเฟ้นหน้าอกของฉันลง บางทีการที่ฉันพูดจาแบบนี้อาจทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านของเขาหดก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ “ก็ได้” เขาหยุดมือแล้วจ้องหน้าฉันนิ่ง “มันก็แค่คนที่นนท์ชอบเหมือนจะไปมีคนใหม่” “...” “แล้วนนท์ก็บังเอิญเจอเนล จบ” ให้ฉันเดา ฉันว่านนท์คงสอบตกวิชาภาษาไทยในการสรุปความแน่ๆ เขาควรจะรู้ตัวนะว่าเขาเป็นคนที่เล่าเรื่องได้บัดซบมากขนาดไหน จนบางทีฉันก็นึกสงสัยว่าทำไมฉันต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้คาดหวังจะฟังเรื่องอย่างนี้เลย แต่ฉันก็พอจะนึกออกว่าเขาอยากให้ฉันทำอะไร เขาไม่ได้จะเอาฉันมาแก้เหงาอย่างเดียว บางทีคงอยากจะควงฉันประชดผู้หญิงคนนั้นด้วยล่ะมั้ง เฮอะ ทำตัวเป็นพระเอกงี่เง่าไปได้ มีอะไรไม่พูดไม่คุย เอาแต่ประชด ประสาท “อ๋อ อารมณ์ไม่อยากเสียหน้า เลยหาคนมาควงบ้าง ถูกมั้ย?” ฉันสรุปสั้นๆ ให้ได้ใจความ ไม่ต้องสาธยายมากหรือหาเหตุผลงามๆ มาอ้างกับฉันหรอก ฉันไม่ใช่คนโง่และไม่ได้โลกสวยฟรุ้งฟริ้งเหมือนอยู่ในทุ่งยูนิคอร์น ฉันรู้ว่านนท์เป็นคนยังไง ฉันถึงได้ไม่คาดหวังความรัก ความรับผิดชอบ หรือแม้แต่ความเอาใจใส่จากเขา “แสนรู้” “ฟังดูสนุกจังเนอะ เล่นกับความรู้สึกชาวบ้านอ่ะ” “ไม่ได้บังคับให้ทำนะ แต่ถ้าเนลไม่ทำ นนท์ก็แค่หาคนอื่น... จบ” จ้ะ... จบ กวนตีนนะ เขาพูดเหมือนไม่บังคับ แต่กลับบีบให้ฉันไม่มีทางออก ฉันแค่นหัวเราะแห้งๆ นึกเกลียดนนท์อยู่บ้าง เขาก็เห็นแก่ตัวซะอย่างนี้ แต่ฉันก็ดันเสือกชอบเขาไง เป็นความรู้สึกสับสนที่น่าหงุดหงิดเนอะ เอาเหอะ... ช่างมัน ฉันก็ไม่ได้มีทางเลือกนักหรอก อันที่จริงฉันก็ไม่ได้เสียเปรียบ ฉันมองว่าต่างคนก็ต่างได้ ฉันได้เขา เขาได้ฉัน ยังไงเราก็วินวินกันทั้งคู่ ถูกมั้ย? ฉันไม่มีอะไรให้คิดหรอก ฉันปลงละอะ ถ้าจะมีอะไรแย่กว่านี้อีกสักนิด ก็คงจะไม่ทำให้ฉันสะเทือนนักหรอก “ก็ได้” “ทำไมง่ายจัง นึกว่าจะโวยวายซะอีก” “คนอย่างเนลไม่มีอะไรต้องยาก คุยรู้เรื่อง ไม่ต้องวกวน เนลเข้าใจ” อันที่จริงเปลี่ยนจากเนลเข้าใจ เป็นเนลปลง น่าจะถูกกว่าอะนะ “ก็ดี พูดเข้าใจง่ายดี ไม่ต้องเหนื่อยอธิบาย” เขาหัวเราะ ฉันรู้ว่านนท์รู้สึกยังไงตอนที่เห็นคนที่ตัวเองชอบมีคนใหม่ บางทีคนที่จะเข้าใจเขาที่สุดก็อาจจะเป็นฉันเนี่ยแหละ ฉันอ่ะเผชิญมาแล้วทุกโมเม้นต์ จะร้ายจะดี ทั้งฟิน ทั้งเฟล ผ่านร้อนผ่านหนาวเป็นบุคคลผู้แข็งแกร่งและตายด้านทางจิตใจระดับบอสเลยแหละ เพราะฉะนั้นถ้าใครสักคนจะเข้าใจนนท์ มันก็คือฉันเลย “ใช่ อยากจะทำอะไรก็ทำเลย ไม่ต้องเกรงใจ เนลไม่ว่านนท์หรอก” ฉันว่าก่อนจะมองหน้าเขา นนท์อมยิ้มเหมือนชอบสิ่งที่ฉันเอ่ย อันที่จริงฉันไม่ใช่คนใจกว้าง และไม่ได้รับทุกอย่างที่เขาพูดได้หรอก ฉันก็ทำสตรองไปอย่างนั้น อย่างน้อยฉันคิดว่าฉันรู้ทุกอย่างยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย แล้วต้องมาคอยฟังเขาพูดจาดีๆ ให้ความหวังฉันอ่ะ ฉันยอมมองโลกตามความจริงที่ฉันไม่อยากจะเห็นยังดีซะกว่าจะฝันลมๆ แล้งๆ ไปวันๆ อย่างที่ฉันเคยเป็น “ขนาดนั้นเลย?” “ใช่ อยากจะเล่นกับความรู้สึกเนลแค่ไหนก็เอาเลย” “...” “วันไหน เนลทนไม่ไหว ก็ไปเองแหละ” ฉันหัวเราะทั้งที่มันไม่ตลก มีคนเคยบอกว่าความรักทำให้คนตาบอด ฉันว่ามันก็มีส่วนเป็นเรื่องจริงนะ... รู้ทั้งรู้ว่าเขาจะเอาฉันมาประชดผู้หญิงคนนั้น ฉันยังยอมเลยอ่ะ เฮ้อ ก็อย่างที่เค้าว่ากันอะนะ... เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย แต่เจ็บฉิบหายก็คือกู พอ ฉันจะไม่คิดละ ฉันพอแล้ว ฉันเลยจุดที่เรียกว่าเจ็บมานานมากแล้ว และฉันจะไม่ย้อนกลับไปตรงนั้นอีก ฉันพ่นลมหายใจยาวด้วยความเซ็ง นนท์มองหน้าฉันเหมือนอยากจะถามอะไร แต่จู่ๆ ริงโทนโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้นมาก่อน บทสนทนาและทุกการกระทำของเราก็เลยหยุดไว้แค่ตรงนั้น Rrrr Rrrr... ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋า และขยับตัวเปลี่ยนจากการนั่งตักไปนั่งข้างๆ นนท์แทน นนท์ไม่ว่าอะไร เขาก็แค่มองฉันเฉยๆ ไว is calling… ฉันมองชื่อของคนที่โทรมา แล้วนิ่งไปครู่นึง นึกในใจว่ามันโทรได้ถูกจังหวะเหลือเกิน เอ๊ะ หรือว่ามันจะรู้ว่าฉันแอบออกมาแรดกับนนท์... ไม่มั้ง ช่างเหอะ จะรู้หรือไม่รู้ก็ช่างมัน ฉันตัดสินใจภายในไม่กี่วินาทีก่อนจะกดรับสายไว พลางเหลือบสายตาไปมองข้างๆ คิดว่าเขาจะสนใจฉันบ้าง แต่ก็ไม่ นนท์เอนตัวพิงกับโซฟาด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนกำลังรอฉันคุยให้จบธุระ “ว่าไงไว” [เนล ทำไรอยู่อ่ะ] ฉันชะงักไปนิดนึงกับคำถามที่ฟังดูเหมือนมันตรัสรู้เลยว่าฉันกำลังจะทำเรื่องชั่วๆ อยู่ ฉันเม้มริมฝีปากเล็กๆ เพราะไม่รู้จะตอบมันไปว่าไง จะบอกว่ากำลังจะมีอะไรกับผู้ชายก็ไม่ได้อีก “ก็ไม่ได้ทำอะไร มีไรเหรอ?” ฉันโกหกหน้าด้านๆ แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะรู้หรอก... [อยู่กับใครเนี่ย?] เอ๊ะ หรือมันจะรู้วะ? ฉันย่นคิ้วและสตั๊นไปอีกนิดนึง แต่คิดไปคิดมา ไอ้ไวมันก็ชอบถามแบบนี้ตลอด “อยู่คนเดียวอ่ะ” ฉันโกหก เพราะขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืด และมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ มันอาจจะด่าฉันก็ได้ถ้ารู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน และกับใครอ่ะ [เออ ดี แล้วตอนนี้ว่างปะ?] “มีไรวะ?” [ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยดิ เจนขวัญเทกู] “เขาเทมึงแล้วเกี่ยวอะไรกับกูเนี่ย?” [เออน่า มาเหอะ เจอกันที่เดิม ให้เวลาแต่งหน้าชั่วโมงนึง บาย] แล้วมันก็ตัดสายไปแบบไม่รอคำตอบ ฉันเบะปากและนึกในใจว่าไอ้ไวมันก็ไวสมชื่อ มาไว เคลมไว แถมไม่รอให้ฉันตอบด้วย ฉันถอนหายใจยาวก่อนจะตวัดสายตาไปที่นนท์แล้วรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมานิดๆ ตอนแรกฉันว่าฉันจะปล่อยให้ไอ้ไวแห้งเหี่ยวตายและดูหนังอย่างเดียวดายในโรงนั่นแหละ แต่พอเห็นนนท์ฉันก็เปลี่ยนใจไปกับมันดีกว่า ฉันจับบราและพยายามสวมให้มันกลับเข้าที่ก่อนจะติดกระดุมกลับให้เรียบร้อย นึกหงุดหงิดที่นนท์ทำให้เสื้อฉันยับยู่ยี่ คนตัวสูงย่นคิ้วนิดๆ ก่อนจะยื่นมาหยุดแขนฉันเหมือนงงว่าฉันทำอะไร “ติดกระดุมทำไมเนี่ย?” “พอดีมีธุระต่ออ่ะ” “จะไปตอนนี้เลย?” เขาทำหน้าไม่พอใจขึ้นมานิดนึง คงโกรธที่ฉันปลุกอารมณ์เขาแล้วปล่อยให้เฉาต่อที่ห้อง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของนนท์แล้วล่ะ “ใช่” “แฟนโทรตามเหรอ?” “ไม่ได้เป็นแฟน” ฉันตอบเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่จัดแจงเสื้อผ้าตัวเองเรียบร้อยแล้วก่อนจะลุกพรวดขึ้นพร้อมหยิบกระเป๋าเตรียมตัวอพยพไปหาไอ้ไว สำหรับไอ้ไวแล้ว ฉันไม่รู้จะนิยามว่าเขาเป็นอะไร จะบอกว่าแฟนก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเพื่อนก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเรามันออกจะอธิบายยาก และฉันคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ที่ฉันต้องอธิบายกับใครหรอกมั้ง “ค่อยไป” เขาพูดเหมือนเป็นคำสั่ง ฉันก็อยากจะตอบว่าได้อยู่หรอกนะ แต่พอเห็นปฏิกิริยาอันไร้ซึ่งความใส่ใจของนนท์แล้ว ฉันก็ตงิดใจขึ้นมา นนท์คงคิดว่าเขามีอิทธิพลกับฉันมากขนาดที่ฉันจะยอมฟังทุกอย่างที่เขาบอก เขาคงคิดว่าที่ฉันตามเขามา เพราะฉันคิดถึง ซึ่งจริงๆ มันก็ถูกต้องครึ่งนึง แต่ที่ฉันมาก็เพราะฉันอยากจะมา และถ้าฉันอยากจะไป ฉันก็จะไป ฉันทำเพราะฉันอยากทำ ไม่ใช่เพราะนนท์สั่ง ถึงบางอย่างมันจะขัดความรู้สึกฉันนิดนึงก็เหอะ ฉันปัดแขนนนท์ออกด้วยใบหน้าเฉยชาอย่างที่นนท์ชอบทำ แล้วหยิบมือถือนนท์ขึ้นมากดโทรออก เพื่อเม็มเบอร์เขาเอาไว้ จะได้ติดต่อกันง่ายๆ ฉันไม่ได้โกหกนนท์ เรื่องที่ฉันบอกว่าฉันชอบเขา ฉันชอบนนท์มากจริงๆ แต่ฉันก็ไม่เคยบอกเขานี่... ว่าฉันชอบเขาแค่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD