Aom Part.
วันนี้เป็นวันที่ดีมากสำหรับฉันเพราะนอกจากเมื่อวานจะถูกหวยแล้วก็ยังได้โบนัสพิเศษจากพี่กีต้าร์เจ้าของร้านกาแฟที่ฉันทำงานอีกด้วย
ชีวิตที่ไม่มีฐานแบบฉันแถมไร้พ่อแม่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า ทำให้ฉันต้องดิ้นรนมากกว่าคนอื่น แถมฉันยังมาสอบติดมหาลัยดังระดับต้นๆที่ค่าใช้จ่ายล้นมือจึงต้องขยันหาเงินขี้เกียจไม่ได้
ถ้าให้ไล่เรียงงานที่ฉันทำก็มีทั้งงานพาร์ทไทม์ร้านกาแฟ แปลเอกสารภาษาอังกฤษ รับจ้างสอนพิเศษเด็กประถมเสาร์อาทิตย์ แล้วยังขายของออนไลน์อีก แม้จะเหนื่อยแต่ก็ทำให้ฉันมีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าเรียนและค่ากิน
"อารมณ์ดีจังเลยนะ"
ส้มเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันทักขึ้น สงสัยว่าวันนี้ฉันจะดูสดใสเป็นพิเศษล่ะมั้ง
"ก็มีเรื่องราวดีๆไง"
"เรื่องอะไรเหรอ?"
"เดาเอาสิจ๊ะ"
ฉันเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่ส้มนี่สิดูท่าทางหงุดหงิดอะไรไม่รู้
"เป็นอะไรไปส้ม?"
"ไม่มีอะไรหรอก"
"งั้นไปกินติมกัน ฉันเลี้ยงเอง"
ส้มดูอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อยพอฉันบอกว่าจะเลี้ยงไอติม เราสองคนลุกจากโต๊ะก่อนจะพากันเดินมาที่ร้านไอติม
"ฉันเอาช็อคโกแล็ต เธอล่ะ?"
ฉันถามส้มที่กำลังดูเมนูอยู่
"เอามะนาวก็ได้"
ฉันและส้มนั่งกินไอติมกันเงียบๆ ส่วนฉันก็สังเกตุเห็นหน้าเพื่อนดูเครียดๆแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปกลัวว่าเธอจะรำคาญ
"อ้าว! ออม"
ฉันหันมองพี่โจที่เดินเข้ามาในร้านเเละเอ่ยทักฉันเสียงดัง พี่โจเป็นพี่รหัสของฉันซึ่งเขาค่อนข้าวเฟรนด์ลี่แต่ติดตรงที่เจ้าชู้มากไปหน่อย
"พี่ขอนั่งด้วยนะ"
พอฉันพยักหน้าพี่โจก็นั่งลงตรงข้ามส้มทันที ส่วนเพื่อนเขาอีกคนที่มาด้วยก็นั่งตรงข้ามฉันแต่ฉันไม่ได้สนใจอะไรมากมายยังคงก้มหน้าก้มตากินไอติมเหมือนเดิม
"ไปตายอดตายอยากมาจากไหนออม?"
ไอ้พี่รหัสปากเสีย! อุตส่าห์นั่งเงียบๆแล้วเชียว
"พอดีหนูต้องรีบไปทำงานน่ะ ก็เลยต้องรีบ"
ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก ที่ฉันรีบกินเพราะไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับไอ้พี่โจต่างหาก
"ไม่ใช่ว่าอยากหนีหน้าพี่เหรอ หื้ม?"
"บ้า! หนูจะไปหนีหน้าพี่ทำไม"
พี่โจนี่พูดจาไม่รู้เรื่องจริงๆ ฉันจะไปไหนหนีหน้าเขาทำไม เขาไม่ได้ทำอะไรให้ฉันซะหน่อย
"ก็นึกว่าหนีหน้าพี่ เรื่องข้อความนั้นซะอีก"
เรื่องข้อความอะไรฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พี่โจเขาพูดเรื่องอะไรน่ะ
"ออมฉันว่าเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวแกจะเข้างานสายนะ"
จู่ๆส้มก็พูดขัดขึ้นมาและรีบดึงฉันเดินออกมาจากร้านทันที
"มีอะไรป่ะแก ทำไมถึงรีบออกมาล่ะ?"
"ไม่มีอะไรหรอกฉันแค่ไม่อยากให้แกไปสนิทสนมกับคนพวกนั้นมาก คนแบบพี่โจไว้ใจไม่ค่อยได้หรอกนะ"
ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้ส้มพูดเลยถึงพี่โจเธอเจ้าชู้ไปหน่อยแต่เขาก็ไม่ได้อันตรายมากมายอะไร
"ฉันว่าแกคิดมาก"
"แกนั่นแหละที่คิดน้อยไป ลองหันไปมองดีๆ"
ฉันหันกลับไปมองที่ร้านตรงที่เรานั่งเมื่อครู่ ก่อนจะสบสายตาเข้ากับเพื่อนพี่โจที่มองฉันอยู่และสายตาของเขาทำให้ฉันขนลุกซู่
"ฉันว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่ แกอย่าไปยุ่งเด็ดขาด!"
ฉันพยักหน้าเชื่อตามที่เพื่อนบอกเพราะเมื่อกี้ตอนที่มองไปที่เพื่อนพี่โจฉันก็รู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ถึงเขาจะหล่อแต่เขาดูไม่น่าไว้ใจจริงๆนั่นแหละ
"แกรีบไปทำงานเถอะ เดี๋ยวฉันจะกลับบ้านแล้ว"
ส้มโบกมือและเดินไปตึกคณะแพทย์เพื่อรอกลับบ้านพร้อมพี่สาวของเธอ ส่วนฉันก็เดินออกมาที่ป้ายรถเมล์เหมือนเดิมทุกวัน
จริงๆปกติตอนเช้าฉันจะใช้รถไฟฟ้าแต่ว่าช่วงเย็นไม่ต้องรีบฉันจึงนั่งรถเมล์แทน อีกอย่างร้านที่ฉันไปทำงานก็ไม่มีรถไฟฟ้าผ่านด้วยแหละ
ปิ๊นๆๆๆ!
ฉันที่กำลังนั่งเหม่อมองรองเท้าสุดเน่าของตัวเองต้องสะดุ้งสุดแรงเมื่อถูกจู่ๆก็มีคนขับรถหรูมาจอดตรงหน้าแถมยังบีบแตรลั่น
ฉันจ้องเข้าไปในรถอย่างเอาเรื่องพร้อมยืนเท้าเอว ปกติฉันไม่ใช่คนยอมใครอยู่แล้วยิ่งมาบีบแตรรบกวนชาวบ้านไม่มีมารยาทแบบนี้คงต้องลงมาไฝว้กันสักทีแล้วแหละ!
"ให้พี่ไปส่งไหมครับ น้องออม"
ฉันชะงักเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาจนเห็นเจ้าของรถในนั้น อันที่จริงตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะด่าให้สักทีแต่ตอนนี้กับพูดไม่ออกซะงั้น
"อะ เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ"
ฉันจำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือเพื่อนพี่โจคนเมื่อกี้ ผู้ชายที่มีสายตาน่ากลัวและทำให้ฉันขนลุก...