ความชอบของหย่งอ๋อง

1985 Words
เนื่องจากมีประสบการณ์ที่น่ากลัวจากการขี่ม้าครั้งที่แล้ว เหลียนฮวาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะขี่ม้าตัวอื่นอีกเช่นกัน เกาหยีเทียนจึงต้องทำหน้าที่เป็นสารถีขี่ม้าตัวเดียวกันกับนาง เขาแสดงสีหน้าอมทุกข์คล้ายกับไม่ได้รับความยุติธรรม "เหตุใดสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งให้ข้าได้รับหน้าที่ดูแลบุรุษหน้าตาอัปลักษณ์เช่นเจ้าด้วย เหตุใดท่านอ๋องถึงไม่รับสั่งให้คนที่ข้าต้องดูแล เป็นแม่นางในดอกเหลีนนฮวาผู้นั้น" เกาหยีเทียนมองดูเหลียนฮวาในอ้อมกอดที่นั่งอยู่ด้านหน้าของตนอย่างหมดแรง เขาพึมพำออกมาเสียงเบาเมื่อทอดมองไปที่หยางหย่งเล่อและหรูเยี่ยนฟางที่กำลังนั่งอยู่บนหลังอาชาตัวเดียวกันด้วยท่าทีแนบชิด โดยลืมกลิ่นหอมที่ลอยเข้าจมูกของเขาตอนนี้ไปอย่างสิ้นเชิง "ดูก็รู้ว่านางมีใจให้ท่านอ๋อง ถึงขนาดที่มีรถม้าให้นั่งอย่างสุขสบายนางยังหาข้ออ้าง เพื่อที่จะใกล้ชิดกับท่านอ๋องจนได้" "น่าจะเป็นอย่างที่ท่านนายกองกล่าว" เหลียนฮวา พยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่ดูพระพักตร์ของท่านอ๋องเถิด เหตุใดถึงได้ดูบึ้งตึงและยังเย็นชาถึงเพียงนั้น คล้ายกับพระองค์หาได้มีความยินดีที่จะใกล้ชิดกับสตรีผู้นั้นอย่างนั้นแหละ" เกาหยีเทียนมองใบหน้าของหยางหย่งเล่อ ก็เห็นเป็นจริงอย่างที่เหลียนฮวากล่าว "ข้าว่าใบหน้าตอนที่ท่านอ๋องอยู่กับเจ้ายังจะดูดีกว่าตอนนี้เสียอีก" เขากล่าวเสร็จก็รู้สึกตกใจในคำกล่าวของตน ก่อนที่จะค่อยๆ ทอดมองใบหน้าของเหลียนฮวาอย่างพิจารณา ครู่หนึ่งเขาก็กล่าวออกมาแผ่วเบา "ท่านอ๋องคงมิได้มีรสนิยมชายตัดแขนเสื้อจริงๆ หรอกนะ" ก่อนที่ขนในกายจะลุกชันขึ้นทั่วร่าง ภาพหยางหย่งเล่อเมื่อเช้าลอยเข้ามา เหลียนฮวาที่ยังไม่เข้าใจว่าเกาหยีเทียนหมายถึงตนเอง ก็ได้แต่แสดงสีหน้างุนงง "นี่ท่านอ๋องชมชอบสิ่งใดในตัวเจ้ากัน" เหลียนฮวาที่เริ่มจะเข้าใจในคำกล่าวของเขาเกือบจะสำลักน้ำลายตนเองจนนางต้องรีบแย้งออกมาว่า "นายกองเกากำลังหมายถึงสิ่งใด ท่านอ๋องชมชอบผู้ใดกัน ข้าว่าท่านจะต้องเข้าใจสิ่งใดผิดไปเป็นแน่" "หึ ตอนแรกข้าก็ไม่คิด แต่ตอนนี้เริ่มคิดแล้วดูเอาเถิด ตอนที่สายตาของบุรุษมากมายกำลังจดจ้องไปยังสตรีที่ท่านอ๋องทรงโอบกอดอยู่ แต่สายตาของท่านอ๋องหาได้หยุดอยู่ที่สตรีนางนั้น มีหลายต่อหลายครั้งที่พระองค์เอาแต่ทอดมองมาที่เจ้า" เหลียนฮวายังมีท่าทีไม่เชื่ออยู่บ้าง แต่เมื่อนางหันไปทางหยางหย่งเล่อก็เห็นว่าเขากำลังจ้องมองมาที่ตนอยู่จริงๆ ในตอนนี้นางถึงกับขนลุกซู่ เผลอจับไปที่ดวงหน้าของตนเอง เพื่อสำรวจว่าใยบัวที่ทำการแปลงโฉมของนางยังอยู่ดีอยู่หรือไม่ เกาหยีเทียนเองก็ขนลุกไม่ต่างจากนาง และเขายังกล่าวต่ออีกว่า "ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ เผื่อว่าเจ้ายังไม่รู้ ตลอดระยะเวลาที่ข้าอยู่รับใช้ท่านอ๋องมาหลายปีท่านอ๋องไม่เคยอนุญาตให้ผู้ใดนอนร่วมเตียงเลยสักครั้งครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเจ้านอนอยู่บนเตียงท่านอ๋อง ก็ให้ตกตะลึงแล้ว พระองค์ยังอนุญาตให้เจ้าร่วมสำรับกับพระองค์อีกต่างหาก หากไม่ เห็นด้วยตาตนเองพูดไปใครเล่าจะเชื่อ" เหลียนฮวามีสีหน้าไม่เชื่อถืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กล่าวแย้งเขาออกไป 'เขาสนใจในตัวข้าจริงๆ หรือ น่าเสียดาย' แต่นางไม่ใช่บุรุษอย่างที่เขาชื่นชอบเสียนี่ เหลียนฮวาถอนหายใจ บุรุษอย่างหยางหย่งเล่อหากผู้ใดได้อยู่ใกล้ย่อมเกิดความหวั่นไหวได้ไม่ยาก เพราะความน่าเกรงขาม บวกกับความเป็นเลิศในเรื่องของหน้าตาของเขาแล้ว นางต้องยอมรับว่าบุรุษผู้นี้ช่างกร้าวใจนางยิ่งนัก หยางหย่งเล่อที่เห็นทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ก็ให้เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา หรูเยี่ยนฟางที่ไม่ได้รับความสนใจจากหยางหย่งเล่อทั้งที่นางพยายามหาวิธีอยู่ใกล้เขาแล้ว ก็ให้เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเช่นกัน "ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะอารมณ์ไม่ดีนะเพคะ" "เปิ่นหวางเพียงคิดว่าอีกไม่นาน พวกเราจะเดินทางพ้นเขตชายแดนระหว่างแคว้นฉินและแคว้นจ้าวแล้ว กลุ่มคนที่ตามเรามาอยู่ห่างๆ นั้นคงจะเริ่มลงมือ เพราะนี่คงจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาจะสามารถชิงตัวเจ้าไปได้" "พระองค์กลัวหรือ…!? " "ย่อมไม่มีสิ่งใดที่ต้องหวาดกลัว แต่อย่าได้ประมาทเป็นดีที่สุด" เพียงจบประโยค หยางหย่งเล่อก็มีสีหน้าแววตามืดครึ้ม "เจ้าเข้าไปในรถม้าเถิด" หรูเยี่ยนฟางที่เริ่มรับรู้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ก็ไม่ได้ดื้อดึงที่จะอยู่ใกล้ชิดเขาอีกนางถูกส่งตัวให้เข้าไปในรถม้า เพียงไม่นานก็เกิดควันลอยขึ้นมาจากทุกทิศทุกทางหยางหย่งเล่อรีบใช้มือปิดจมูกของตนเองเอาไว้พร้อมทั้งกล่าวว่า "ควันยาสลบ" แคว้นฉินที่มีความชำนาญในเรื่องของการใช้ควันยาสลบ ทำให้เหตุการณ์นี้หยางหย่งเล่อคาดเดาได้ไม่ยากนัก ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด ซึ่งเขาก็ได้เตรียมรับมือกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว เพียงหยางหย่งเล่อทำสัญญาณมือบางอย่าง เม็ดยาที่ทหารแต่ละคนได้พกติดตัวเอาไว้ ก็ถูกส่งเข้าปากพร้อมทั้งนำผ้ามาปิดจมูกของตนเอง พวกเขาแปลขบวนพร้อมรบ ต่อมาลูกธนูที่แหวกว่ายผ่านอากาศเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ก็ถูกพวกเขาตั้งรับเอาไว้ได้ และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทหารบางส่วนของหยางหย่งเล่อคล้ายกับได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้เป็นอย่างดี พวกเขาหยิบบางอย่างออกมาและโยนมันออกไปตามแนวป่า จนเกิดเป็นฝุ่นควันตลบอบอวนไปโดยรอบ เพียงไม่นานเสียงร้องโหยหวนก็ได้ดังขึ้น "นั่นคือควันอะไรหรือขอรับ" เหลียนฮวาที่สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นตาไม่กระพริบ ถามเกาหยีเทียนออกมาด้วยความสงสัย "ควันยาสลบของแคว้นฉินหรือจะสู้ควันพิษที่ท่านอ๋องได้ทรงให้คนคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะได้" เมื่อเห็นว่าทหารเหล่านั้นทำเพียงแค่เดินทัพของตนเองผ่านไปโดยไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงร้องโหยหวนที่อยู่รอบด้าน เหลียนฮวาจึงได้เกิดความสงสัยขึ้นมาอีกรอบ "พวกเราไม่จำเป็นต้องไปสำรวจดูเสียงร้องโหยหวนเหล่านั้นหรือขอรับ" "ไม่จำเป็น เพียงเท่านี้ก็ทำให้พวกมันล่าถอยไปได้แล้ว" เหลียนฮวารู้สึกนับถือคนเป็นผู้นำในการเดินทางครั้งนี้ แผนการทุกอย่างถูกเตรียมไว้เป็นอย่างดี ทหารหลายแสนนายไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่เพียงผู้เดียว องค์ชายใหญ่จ้าวเฟยเทียนที่นำกำลังคนของตนเอง ตามดูขบวนเดินทางของหยางหย่งเล่ออยู่ไม่ไกลกันนั้น ก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเอ่ยออกมาเสียงเครียดว่า "อ๋องหย่งผู้นี้ใช่ว่าจะเคี้ยวได้โดยง่าย เกรงว่าพวกเราคงต้องอาศัยจังหวะที่คนผู้นี้พลั้งเผลอลอบชิงตัวนางมาเสียแล้ว ขนาดแคว้นฉินที่ชำนาญในเรื่องควันยาสลบยังแพ้ราบคาบ โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับผลกระทบเลยแม่ฝ้แต่เพียงคนเดียว" ที่ปรึกษาของจ้าวเฟยเทียนเอ่ยแผนการของตนเอง "พวกเราจะตามพวกเขาไปเรื่อยๆ เมื่อสบโอกาสแล้วค่อยหาจังหวะชิงตัวนางมา" ทหารของเขารับคำและค่อยๆ กระจายกำลังออกไปเพื่อที่จับตามองอยู่ห่างๆ อ๋องหนิงอันที่พึ่งสูญเสียผู้คนไปมากมายเมื่อสักครู่นี้ ก็ได้แต่ข่มโทสะของตนเองเอาไว้อย่างยิ่งยวด เขากล่าวคำผรุสวาทออกมามากมาย "ไม่คิดเลยว่าหย่งอ๋อง จะสามารถหาวิธีมารับมือกับพวกเราได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ ดูเหมือนว่าข้าจะดูเบาฝีมือของคนผู้นี้ไปเสียแล้ว… สั่งการคนของเราที่เหลือให้กระจายกำลังกันออกไป จับตาดูอยู่ห่างๆ เมื่อสบโอกาสให้ชิงตัวนางมาทันที ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก่อนที่พวกเขาจะผ่านเข้าสู่แคว้นเว่ยฉีต้องชิงตัวนางมาให้จงได้" ระยะทางจากตรงนี้ถึงแคว้นเว่ยฉีคงต้องใช้ระยะเวลาเดินทางอีกประมาณสามวัน พวกเขามีเวลาเพียงเท่านั้น เพราะหากหยางหย่งเล่อสามารถเดินทางถึงแคว้นของตนเองได้ เกรงว่าตอนนั้นพวกเขาคงหมดสิ้นโอกาสแล้ว "นอกจากทั้งสองแคว้นแล้ว พวกเจ้าก็อย่าได้ประมาทกลุ่มอื่นที่ตามดูพวกเราอยู่ห่างๆ หากเห็นแล้วว่ามีสิ่งใดผิดปกติ ก็สามารถลงมือกำจัดคนพวกนั้นได้ทันที" หยางหย่งเล่อเห็นว่า ยังมีอีกหลายกลุ่มนักที่ตามพวกเขาอยู่ไม่ไกล จึงได้สั่งการให้คนของตนคอยจับตามองดูให้ดี เมื่อสั่งการคนของตนเสร็จแล้ว เขาก็ได้ควบม้าไปยังทิศทางที่เหลียนฮวาอยู่ "เจ้ามานี่" เหลียนฮวารู้สึกงุนงงเมื่ออยู่ดีๆ หยางหย่งเล่อก็ควบม้ามาที่นาง "ข้าต้องการให้เจ้าทำบางสิ่งส่งเขามา" เพียงสิ้นคำสั่งของหยางหย่งเล่อ ร่างทั้งร่างของเหลียนฮวาก็ได้ลอยละลิ่วไปที่ม้าตัวที่เขานั่งอยู่ เหลียนฮวาหวีดร้องออกมาด้วยอารามตกใจ "ท่านอ๋อง" เหลียนฮวา เอ่ยชื่อเขาพอดีกับที่ร่างของนางปะทะเข้ากับอกแกร่ง เหลียนฮวาช้อนมองดวงหน้ารูปงามสลักเสลาราวหยกที่ถูกปิดด้วยหน้ากากเงินครึ่งซีก พร้อมกับจับไปที่แขนกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของบุรุษเพศ "หวีดร้องเป็นอิสตรีไปได้ อย่าลืมว่าเจ้าเป็นบุรุษมิใช่สตรี…" หากคนที่ไม่รู้คงจะคิดว่าเขากำลังตำหนินางอยู่ แต่ในถ้อยคำนี้ก็สามารถแปลความหมายได้อีกทาง ว่าเขากำลังสงสัยถึงสถานะของนางอยู่เช่นกัน "กระหม่อมเพียงตกใจ" เกาหยีเทียนหรี่ตาจับผิดทั้งคู่ หยางหย่งเล่อที่ได้ตัวเหลียนฮวาไปแล้วก็ควบม้าจากไป ลืมสิ้นถึงคำสั่งที่จะให้เกาหยีเทียนไปจัดการก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เกาหยีเทียนขยับปากเพื่อจะถามถึงหน้าที่ของตนเอง แต่ก็เลือกที่จะเงียบปาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสลด ได้แต่คิดในใจว่า 'ไม่คิดเลยว่าท่านอ๋องจะเป็นบุรุษเช่นนี้ไปได้ ถึงท่านจะนิยมชมชอบในตัวบุรุษเพศ ก็ควรที่จะเลือกที่ดีกว่านี้สักหน่อย เหตุใดจึงได้ไปติดใจพลทหารที่ไม่มีดีแม้นกระทั่งหน้าตา หรือความสามารถเช่นนั้นได้' หรูเยี่ยนฟางเองก็รู้สึกเสียหน้าไม่น้อย นางสัมผัสได้ว่าหยางหย่งเล่อหาได้มีความเสน่หาในตัวนางแต่อย่างใด อีกทั้งเขายังให้ความสนใจกับพลทหารที่หน้าตาไม่น่าสนใจผู้นั้นด้วยแล้ว จึงทำให้ตอนนี้สายตาของนางที่ทอดมองไปยังทั้งคู่เต็มไปด้วยความไม่พอใจที่คล้ายกับกำลังเสียหน้า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD