เมื่อปฏิบัติการสำเร็จสามน้ำตามความมุ่งหมาย ผู้หมวดเก่งกล้ากับนางสาวเรไรต่างคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน หมวดเก่งนั้นค่อยย่องเข้าไปในเต๊นท์อย่างแผ่วเบา เขามองเพื่อนแล้วยิ้ม มันยังคงหลับสนิท หน้าอกกระเพื่อมเป็นจังหวะขึ้นลงสม่ำเสมอ เขาเอนศีรษะลงนอน ก่อนจะนึกถึงบทรักอันร้อนแรงที่ถึงอกถึงใจเหลือเกินเมื่อครู่ถึงกับต้องครางออกมาเบา ๆ
“ สุดยอดจริง ๆ แม่เจ้าประคุณรุนช่อง ”
“ สุดยอดมากไหม ”
“ เออ สุดสอยเลยล่ะ เฮ้ย ! ไอ้ภู มึงไม่ได้หลับเหรอ ”
เขาตกใจเมื่อดึงสติกลับมาแล้วพบว่าเป็นเสียงเพื่อนที่เขาคิดว่านอนหลับสนิท
“ เป็นชายชาติทหาร เป็นนักรบปกป้องประเทศชาติ ถ้ามัวแต่นอนหลับสนิท ใครมาทำอะไรจะรู้ได้ยังไง กูนอนไวตื่นไวเป็นปกติ ”
“ แล้วมึงตื่นมาตอนไหนวะ ” เขาลองถามหยั่งเชิงเสียงอ่อย เพื่อนยังคงนอนหลับตานิ่งแต่ก็ตอบกลับมา
“ ก็ตื่นตั้งแต่มึงคุยโทรศัพท์นัดแนะกับแม่เรไรที่สวนลำไยนั่นละ ”
“ ฮะ นี่มึงแอบฟังกูคุยโทรศัพท์เหรอเนี่ย ”
“ กูไม่ได้แอบฟัง แต่มึงคุยให้กูได้ยินเอง หูของพวกเราถูกฝึกมาให้ตื่นตัวต่อเสียงต่าง ๆ และรับฟังได้อย่างดีอยู่แล้วนี่ ”
“ แล้ว มึงรู้อะไรอีกบ้าง ”
“ กูรู้ทุกอย่างที่มึงไปทำ รู้ตำแหน่ง รู้กระทั่งว่ามึงใช้ถุงยางไปกี่ชิ้น ”
“ นี่มึงแอบดูกูเหรอไอ้ภู ” เมื่อคุยถึงตรงนี้ ภูผาก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นนั่ง
“ ไอ้เก่ง เราเป็นนักรบ นักรบที่ต้องปกป้องประเทศชาติ ศัตรูเราก็อยู่ใกล้แค่คืบแถมมันยังมีเส้นสายมากมาย แล้วกูจะไว้ใจให้มึงเดินตามผู้หญิงที่พึ่งรู้จักกันไปในสวนมืด ๆ ค่ำ ๆ เปลี่ยว ๆ โดยที่มึงหน้ามืดตามัวจนโงหัวไม่ขึ้นขนาดนั้นได้ยังไง ถ้าผู้หญิงคนนั้นลวงมึงไปฆ่าปาดคอจะทำยังไง ”
เก่งกล้านั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นด้วยความสำนึกผิด
“ กูขอโทษนะ ขอโทษที่ให้กิเลสมาอยู่เหนือความถูกต้อง แล้วกูก็ขอบคุณมึงมากด้วยที่เป็นห่วงกู ไอ้เพื่อนยาก ” ภูผาพยักหน้า
“ หวังว่าครั้งนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่มึงทำอะไรตามใจโดยไม่ตระหนักถึงความผิดชอบชั่วดี ความถูกต้อง กฎระเบียบ เรา เสืออากาศแห่งกองทัพไทย เรา ทหารหาญชาตินักรบ มีหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินและปวงชนชาวไทยทั้งปวง ถ้าเรื่องกฎระเบียบแค่นี้เรายังทำไม่ได้แล้วจะเอาปัญหาที่ไหนไปปกป้องประเทศชาติ หน้าที่เราสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ” เก่งกล้าพยักหน้าอีกครั้ง
“ มึงตามกูไป กูไม่รู้เรื่องเลย มึงนี่มันเสือตีนเบาจริง ๆ ”
“ กูไม่ได้ตีนเบา มึงตัณหาหนักเอง หูอื้อตาลายเลยสิ ถึงไม่รับรู้ว่ากูสะกดรอยตาม ”
“ แล้วมึงไปยืนดูกูตรงไหนเนี่ย ”
“ กูไม่ได้ยืนดู ”
“ ไม่ได้ยืนดูแล้วรู้ได้ไงว่ากูใช้ถุงยางกี่ชิ้น เฮ้ย หรือว่ามึงไปแอบศึกษาภาคปฏิบัติโดยตรงเพื่อจะปฏิบัติจริงกับแม่ค้าหน้าหวานคนนั้นวะ ” เก่งกล้าเอ่ยกระเซ้ามา
“ ไอ้ห่า ความคิดมึงนี่ทุเรศจริง ๆ มึงกับแม่เรไรนั่นคุยเสียงดังขนาดนั้น อย่าว่าแต่เสียงคุยเลย เสียงอย่างอื่นก็ดังข้ามฝั่งแม่น้ำไปอีกล่ะมั้ง ” เก่งกล้าหัวเราะเก้อ ๆ
“ ภู กูถามมึงจริง ๆ เหอะ มึงเคยมีอะไรกับผู้หญิงยัง ” ภูผาสำลักน้ำลายพรวดทันที
“ นี่มึงไม่มีอะไรจะคุยแล้วเหรอ ”
“ ก็กูอยากรู้อะ มึงเหมือนหลวงพ่อ อยู่ในกรอบในระเบียบตลอด กูไม่เห็นมึงจะเคยสนใจผู้หญิงคนไหนบ้างเลย ”
ภูผานิ่ง ไม่ตอบ อันที่จริงเขาก็เคยผ่านผู้หญิงมาบ้างจากการชักนำของราม เพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้านอ้อมกอด ในวัยกำลังคึกคะนอง รามพยายามหาเหตุผลมาหว่านล้อมเพื่อจะพาเขาไปอาบอบนวด โดยให้เหตุผลว่า เกิดเป็นชายชาตรีถ้าไม่เคยผ่านผู้หญิง ไม่มีประสบการณ์จะสมชาติชายได้อย่างไร เพราะรามคงเห็นเขาไม่เคยมีแฟนเลยเป็นห่วง เขาก็เลยเห็นด้วย
เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไป พอเห็นผู้หญิงสวย ๆ มาเปลือยกายยั่วยวนตรงหน้าก็มีปฏิกิริยาทางธรรมชาติเป็นธรรมดา บทรักของเขาหนักหน่วงร้อนแรงจนผู้หญิงในอาบอบนวดต้องร้องขอ เขาไปเที่ยวอยู่สี่ห้าครั้งก็ไม่ไปอีกเลย เพราะเขามั่นใจว่า ผู้ชายที่จะเก่งในเรื่องร่วมรักไม่จำเป็นต้องผ่านผู้หญิงมากมายหลายครั้ง แต่มันมาจากธรรมชาติที่สรรค์สร้างมาแล้วต่างหากที่จะสอนให้คนเรียนรู้และทำตามความต้องการทางร่างกาย อย่างที่เขาพิสูจน์มาแล้ว
“ เฮ้ย ทำไมเงียบวะ มึงมีอะไรในใจหรือเปล่า หรือมึงไม่ชอบผู้หญิง บอกกูได้ตรง ๆ นะ ”
“ ไอ้ห่า ” เขาเอ่ยตอบเพื่อนมาเพียงแค่นี้ก็ล้มตัวลงนอน ขี้เกียจจะเสวนาเรื่องไร้สาระต่อไป
“ ภู ”
“ อะไรอีกวะ กูจะนอนแล้ว ”
“ อีกคำถามเดียว มึงชอบน้องบัวตอง แม่ค้าหน้าหวานใช่ปะ ”
ภูผาหัวใจกระตุกทันทีที่ได้ยินชื่อเธอ เขาเงียบ
“ ใช่ไหม ” เขาก็ยังเงียบ
“ ถ้ามึงไม่ชอบ กูจีบนะ ” ภูผาลืมตาทันที
“ ไร้สาระ ”
“ ฮั่นแน่ ”
“ หุบปากแล้วนอน ไอ้เก่ง ไม่งั้นกูจะเขียนรายงานเรื่องมึงไปทำศึกกับแม่สาวเรไรนั่นให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ”
“ เออ เงียบก็ได้วะ ” นิ่งไปสักพัก เสียงแหบห้าวก็เรียกมาอีกครั้ง
“ ไอ้ภู ”
ครั้งนี้เสืออากาศภูผาไม่ยอมนิ่งอยู่เช่นเคย เขาลุกพรวดหยิบมีดพกติดตัวมากดสปริงดังฉับ กระโจนทีเดียวประชิดตัวเก่งกล้า มือข้างหนึ่งคว้าคอแล้วกด อีกข้างจี้ปลายมีดแหลมเกือบติดคอหอย เรืออากาศโทเก่งกล้าตาเหลือก อ้าปากพะงาบ ๆ
“ ไอ้ภู มึงเล่นอะไรเนี่ย เล่นพิเรนทร์ ๆ เดี๋ยวผีผลักนะเว้ย ”
“ กูไม่ได้เล่น กูเอาจริง ” ใบหน้าหล่อเหลาเงียบขรึมของเพื่อนมีประกายตาดุดันแข็งกร้าวที่เขาสบสายตาแล้วเสียวสันหลังวาบ
“ ถ้าขืนมึงยังแหกกฎ ออกไปหาแม่เสือสาวนั่นอีกละก็ กูจะใช้มีดนี้แทงเข้าที่คอหอยแล้วค่อย ๆ ปาดให้หัวมึงหลุดออกจากบ่า จากนั้นกูจะหั่นแยกอวัยวะมึงออกเป็นส่วน ๆ เสร็จแล้วจะเอาไปฝังไว้ในสวนลำไย มึงจะได้ตายอย่างมีความสุข สงบสุขอยู่ในที่ที่มึงเคยขึ้นสวรรค์กับแม่สาวนั่น ดีไหม ” เสียงแหบห้าวแข็งกร้าวน่ากลัว เก่งกล้ายกมือไหว้เพื่อนปะหลก ๆ
“ กูไม่ทำแล้ว ภู กูสัญญา ไม่ทำแล้ว ปล่อยกูไปเถอะนะ ” ภูผาปล่อยมือจากคอเพื่อน แต่ยังยกมีดขึ้นชี้หน้า
“ แล้วก็เงียบด้วย กูจะนอน ถ้ามึงเรียกกูอีกครั้งหนึ่งนะ กูจะเอามีดนี่กรีดปากมึงให้ไปถึงหูทั้งสองข้าง ”
เก่งกล้าพยักหน้าแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุม ไอ้ห่า ทำไมเพื่อนเขามันน่ากลัวแบบนี้วะ เขาไม่กล้าทำอีกแล้ว เห็นสายตาก็รู้ว่ามันเอาจริง ถ้าขืนฝืนคำสั่งมันอีกละก็อาจได้ตายสงบอยู่ในสวนลำไยตราบชั่วนิรันดร์
ภูผาเดินหันหลังมา เก็บมีดพับไว้ข้างตัวเช่นเคย เขาดึงผ้าห่มขึ้นถึงหน้าอกแล้วหลับตา ริมฝีปากยกยิ้มนิดหนึ่ง กับเก่งกล้าต้องเล่นไม้แข็งไม่งั้นจอมกะล่อนลื่นเหมือนปลาไหลต้องหาช่องทางไปซุกซนอีกแน่
สักห้านาที เก่งกล้าก็หลับไปอย่างรวดเร็วเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการกรำศึกกับแม่สาวไฟแรงสูงนั่น แต่คนที่ไม่หลับกลับกลายเป็นผู้หมวดภูผาที่ลืมตาโพลงจ้องผ้าเต็นท์อยู่อย่างนั้น เพราะหลับตาคราใดก็เห็นแต่ใบหน้าหวาน ๆ มายิ้มให้อยู่ร่ำไป