เมื่อกลับมาจากวิ่งก็ได้เวลาอาบน้ำและรับประทานอาหาร หลังจากนั้นก็เป็นเวลาส่วนตัวที่เหล่าเสืออากาศจะได้พักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งหมวดภูใช้เวลานั้นกางแผนที่เพื่อศึกษาเส้นทางและที่ตั้งของจอมโจรเล่าตงผู้ผลิตและค้ายาเสพติดรายใหญ่
“ ภู ไปเดินเล่นกัน ” เก่งกล้าเอ่ยชวนเพื่อนเมื่ออาบน้ำปะแป้งเรียบร้อย
“ เดินเล่นที่ไหนวะ กูดูแผนที่อยู่เนี่ย ”
“ เออ มึงก็รีแล็กซ์บ้างสิวะ มีเวลาอีกหลายวัน วันนี้เดินทางก็เหนื่อยกันแล้ว ”
“ เราไม่ควรประมาทนะ พวกนี้มันมีคนหนุนหลังที่ใหญ่พอสมควร อาวุธหนักมันอาจจะมากกว่าเราก็ได้ ” เก่งกล้าถอนใจเฮือก เบื่อหน่ายในความมุ่งมั่นเหลือเกินของเพื่อน บางทีก็ตึงจนเกินไป
“ มึงฟังกูนะ ไปเดินเล่นแป๊บเดียว ถือว่าไปสำรวจสถานที่ตั้งของเรารอบ ๆ ก็ได้ เผื่อพวกมันบุกมาไม่รู้ตัวจะได้รู้ทางหนีทีไล่ไง ” เขาพยายามหาเหตุผลมาหว่านล้อม ภูผานิ่งไปครู่หนึ่งก็พยักหน้า
“ เออ ก็ดีเหมือนกัน ไปก็ไป กูเก็บของก่อน ” พลางเก็บเอกสารทั้งหลายลงกล่อง ล็อคเรียบร้อย ก่อนจะเดินตามเพื่อนไป
“ สาวเหนือนี่แจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ ขาว ๆ ตัวเล็ก ๆ โอ๊ย ! ใจพ่อแทบละลาย ” ท้ายเสียงครางออกมาอย่างรัญจวนใจของเก่งกล้า ที่สาวเท้าเดินไปยังตลาดน้ำคู่กับภูผา ความหล่อเหลาคมเข้มที่ทั้งคู่ไม่แพ้กัน เพียงภูผาผิวขาวกว่า สูงกว่า แต่เก่งกล้ามีความคมเข้มมากกว่า รูปร่างฉกาจฉกรรจ์แข็งแกร่งแน่นตึงไปด้วยมัดกล้ามทั้งคู่
“ พี่ทหารเจ้า เหล้าปั่นสักหน่อยไหม รสหวานทานง่าย คนขายแซ่บนะเจ้า ” เสียงร้องเรียกจากร้านเหล้าปั่นเล็ก ๆ ริมคลองดังขึ้นจากปากหญิงสาวรุ่นนางหนึ่งผิวขาวจั๊วะ สวมเสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงยีนขาสั้นจู๋ อยู่กับพรรคพวกของเธออีกสี่ห้าคน ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อเห็นทหารหล่อสองนายเดินมาคู่กัน เก่งกล้าเมื่อเห็นเนื้อนมไข่ยืนล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้าก็เลี้ยวเข้าไปทันทีตามสไตล์เสืออากาศจอมกะล่อน แต่ภูผาดึงแขนเพื่อนไว้
“ ไอ้เก่ง เรามาทำงานนะ มาปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ สำนึกหน่อยสิวะ ”
“ โธ่ภู นี่มันเวลาพักนะเว้ย เหล้าปั่นมันไม่เมาหรอก ดีกรีต่ำกว่าพวกสปายอีก ใช่กะเจ๊า ” ท้ายเสียงหันไปถามผู้หญิงนางนั้นเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมส่งสายตาเยิ้มฉ่ำ หญิงสาวสะเทิ้นอายม้วนต้วนแล้วพยักหน้า
“ ไม่เมาเจ้า ลองดูจ้ะจ่า ”
“ ผมหมวดครับ ได้โปรดอย่าลดยศกันเลยนะ กว่าจะได้มาลำบากเหลือเกิ๊น ” สาว ๆ หัวเราะกันเกรียวกราว เธอผสมเครื่องดื่มแล้วส่งให้เก่งกล้า
“ นี่จ้ะ พี่หมวด ชื่ออะไรนะจ๊ะ ”
“ พี่หมวดเก่งครับ น้องคนสวยล่ะ ชื่ออะไรกันบ้าง ”
“ น้องชื่อเรไรจ้ะ ” หลังจากนั้นเธอก็แนะนำเพื่อนอีกสี่ห้าคนให้เขาได้รู้จัก ภูผาทำได้เพียงยืนนิ่ง ๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มนิด ๆ ตามมารยาท
“ แล้วพี่หมวดสุดหล่อคนนั้น ชื่ออะไรจ๊ะ ” เรไรเอ่ยถาม
“ ผมชื่อภูผาครับ ”
“ พี่หมวดภูผา ชื่อเข้มแข็งน่าซบจังเลย ” พูดพลางผสมเครื่องดื่มเทใส่แก้วแล้วเดินไปส่งให้ เขายิ้มแล้วส่ายหน้า
“ ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ”
“ น้องเรไรคนสวยเอามานี่ เดี๋ยวพี่ดื่มแทน ”
เรไรจึงเดินนวยนาดกลับมาส่งเครื่องดื่มใส่มือให้เก่งกล้า มือใหญ่แข็งแรงรับแก้วแล้วแกล้งจับมือเธอนิ่งอยู่อย่างนั้น เรไรเงยหน้าขึ้นส่งสายตาเย้ายวน เธอไม่ธรรมดา เก่งกล้าบอกตัวเองอยู่ในใจ
เขายกเครื่องดื่มขึ้นจรดริมฝีปากแล้วค่อย ๆ ดื่มพร้อมกับมองเธอราวกับจะกลืนกินไปด้วย หัวใจเรไรสั่นไหว ผู้ชายอะไรหล่อล่ำ แถมยังเถื่อนดิบ เจ้าชู้กะล่อน แบบนี้เธอชอบ
“ เก่ง มันเริ่มมืดแล้วนะ กูว่าควรกลับได้แล้ว ” เก่งกล้าพยักหน้า
“ สองแก้วนี้เท่าไหร่ครับ ”
“ สำหรับพี่หมวดเก่งสุดหล่อ เรไรไม่คิดเงินหรอกจ้ะ ถือว่าเป็นเครื่องดื่มต้อนรับสู่เมืองเหนือ ”
“ สวยแล้วยังใจดีอีก วันหลังถ้าจะให้พี่หมวดเก่งตอบแทนอะไร ก็บอกมาได้เลยนะครับ ยอมทุกอย่าง ” พูดพลางส่งสายตาหวานไปทั่วร่างเธอ ราวกับจะปอกเปลื้องเสื้อผ้าเธอให้พ้นไปจากกาย เรไรสะท้านไปกับสายตานั้น
“ ถ้าอย่างนั้น เรไรของเบอร์โทรศัพท์พี่หมวดเก่งไว้หน่อยนะจ๊ะ เผื่อมีอะไรให้ช่วยฉุกเฉิน จะได้โทรไปได้ทันท่วงที ” เธอส่งโทรศัพท์มือถือให้เขา เก่งกล้ารับไปกดเบอร์เขาให้แล้วโทรเข้าไปโชว์เบอร์เครื่องตัวเอง
“ ถ้าพี่ไม่รับก็แปลว่าติดงาน แต่เมื่อไรที่ว่างคุยได้พี่จะรีบโทรกลับทันที นะคะเรไรคนสวย ” เขาส่งโทรศัพท์คืนให้เธอแล้วทิ้งท้ายด้วยกันกุมมือบางแล้วบีบเบา ๆ ก่อนจะเดินจากไปกับภูผา สาวเจ้าได้แต่ยืนมองตามตาละห้อย
“ โอ๊ย อกอีเรไรจะระเบิด ยะอะหยังมาหล่อแต๊หล่อว่า หล่อจนอยากจะถวายโต๋ ”
“ นั่นละก๋า ฮาว่าเปิ้นสนใจคิงนะเรไร ” เรไรยิ้มหวานเยิ้ม
“ สนใจบ่าสนใจ เดี๋ยวคืนนี้กะรู้ หล่อ ๆ แบบนี้ ฮาบ่าปล่อยหื้อหลุดมือแน่ ” เธอเอ่ยถ้อยคำอย่างมีเลศนัยออกมา
สองเสืออากาศเดินออกมาแต่เก่งกล้ายังไม่ยอมกลับ เดินตรงไปยังตลาดน้ำต่อ
“ เอ้า ไอ้เก่ง ทางกลับมันทางนี้ ” ภูผาเอ่ยเมื่อเห็นเพื่อนเดินไปต่อ
“ เออ กูรู้แล้ว นี่มันพึ่งหกโมง เดินดูตลาดอีกสักหน่อยจะเป็นไรวะ นั่นไง ถึงแล้วตลาดน้ำ เฮ้ย นั่นมันน้องเรานี่หว่า ” เก่งกล้าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่แกร่งของรุ่นน้องเสืออากาศยืนรุมกันอยู่บนฝั่งหลายคน
“ ทำอะไรกันวะ ไปดูกัน ” ทั้งสองจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วทั้งสองก็เห็นคำตอบ น้อง ๆ ยืนมุงเรือขายขนมไทยของแม่ค้าหน้าหวานอยู่
“ อันนี้ขนมอะไรครับ ”
“ ขนมข้าวโพดเจ้า ข้างในเป็นแป้ง น้ำตาล มะพร้าว แล้วกะข้าวโพดเจ้า ”
“ อันนี้ล่ะ ”
“ อันนี้ขนมฟักทองเจ๊า ”
“ ผมไม่เคยกินเลย อร่อยไหม ” เธอพยักหน้าแล้วยิ้ม
“ หวานเหมือนแม่ค้าหรือเปล่าครับ ”
หนึ่งในเหล่าเสืออากาศเอ่ยขึ้น พร้อมเสียงเพื่อน ๆ โห่ฮาเกรียวกราวตามมา แม่ค้าหน้าหวานก้มหน้างุด
“ ทำอะไรกัน ! ” เสียงห้าวหนักแน่นดังขึ้น ทหารหนุ่มทั้งหลายสะดุ้งเฮือกแล้วหันมามอง