Chapter .3 **ประจันหน้า**..

1533 Words
เขาสูงใหญ่ บึกบึนและคมเข้ม เคล้าเสือกเก้าอี้ไปด้านหลัง ผุดลุกขึ้นยืนแล้วจึงก้าวเดินตรงไปยังลิฟต์ เพื่อโดยสารลงไปชั้นล่างสุด...เพื่อจะลงไปต้อนรับคนที่มาเยือน...หนุ่มมาดเข้มเดินตรงไปยังเค้าเตอร์ประชาสัมพันธ์เพื่อถามหาคนที่เจ้านายต้องการพบ “คุณครูมณีริน ครูของคุณหนูวินเซ้นต์อยู่ไหน? บอสต้องการพบเธอ” เขาแจ้งความจำนงและหมุนมองหารอบๆ ตัวเพื่อหาคนที่ต้องการพบเจอ จนสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนแต่งตัวผิดแผกจากที่เขาเคยเห็นเป็นประจำ เธออยู่ในกระโปรงยาวกรอมเท้าสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดแขนยาวจรดปลายแขน ผมสีดำคลับถูกครอบด้วยตาข่ายขมวดเป็นมัดมวยกลมๆ ไว้ด้านหลังท้ายทอย แต่งตัวเหมือนนางชี... ผิดกับที่เขาคาดไว้ เธอคงมาด้วยธุระของคุณหนูวินเซ้นต์จริงๆ ประชาสัมพันธ์คนสวยอ้าปากค้าง แม่คนนั้นมีโอกาสได้พบแองเจลโร่เจ้านาย...แบบเกินคาด... เธอรีบชี้มือไปที่มณีริน แต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเคล้า เดินจ้ำๆ เขาไปหา เพราะเขาพอจะคาดเดาออก “ขอโทษครับ ใช่คุณครูมณีรินไหมครับ?” เสียงทุ้มนุ่มและกริยาแสนสุภาพ มณีรินเปิดยิ้มกว้าง เธอยกมือขึ้นขยับแว่นตากรอบโต พรางพยักใบหน้ารับ เคล้าครางในอก รอยยิ้มของหญิงสาวจริงใจและสดใส อีกอย่างหน้าตาของเธอก็ไม่ได้ขี้ริ้ว แม้จะถูกบดบังด้วยแว่นตาอันใหญ่เกือบครึ่ง...แต่ก็ยังพอมองเห็นเค้าความงามที่ซ่อนอยู่หลังแว่นตากรอบใหญ่ๆ...นั่นได้ หล่อนสวยคมซึ้ง และหากจับแต่งตัวดีคงหยาดฟ้ามาดิน!! “เชิญครับ บอสให้ผมลงมารับคุณครู” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง เขารีบผายมือให้หญิงสาวเดินตามทางที่เขาเชื้อเชิญ “ค่ะ” มณีรินยิ้มอ่อนๆ เธอเดินตามผู้ชายร่างสูงใหญ่ หัวใจเต้นตุ่มๆ ต๋อมๆ ขณะเดินตามผู้ชายร่างสูง เธอคิดไปตลอดทาง เธอควรพูดอย่างไรให้ผู้ชายจอมเย็นชาคนนั้นเข้าใจนะ? ควรชักจูงแบบไหน? ให้เขากลับมาใส่ใจบุตรชายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกสักเล็กน้อย ไม่ใช่ใจจดใจจ่อจมอยู่กับการทำงาน... ลิฟต์เคลื่อนที่ขึ้นไปยังชั้นบนสุด...สถานที่ทำงานแสนจะโอ่อาของชายหนุ่มผู้มีอำนาจสูงสุด!! แองเจลโร่ โรเรนโซ่ มหาอำนาจทางการเงินเจ้าของธุรกิจนำเข้าและส่งออกขนาดใหญ่ เขาขยายอาณาเขตได้แบบรวดเร็ว จนตอนนี้แทบจะครองพื้นที่การค้าโซนยุโรปไว้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สวีเดน นอร์เวย์ โปรแลนด์ เยอรมัน ตุรกี สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษฯ ความที่ประเทศอิตาลีมี่พื้นที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิตาลี ถูกล้อมรอบด้วยทะเลในทุก ๆ ด้านยกเว้นด้านเหนือ โดยอาณาเขตทางทิศเหนือติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย อันมีเทือกเขาแอลป์กั้นแบ่งในเทือกเขาแห่งนี้มีภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก คือภูเขามอนเตบีอังโก (อิตาลี: Monte Bianco) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เทือกเขาที่สำคัญอีกแห่งของอิตาลีมีชื่อว่า เทือกเขาแอเพนไนน์ (อิตาลี: Appennini) พาดผ่านจากตอนกลางสู่ตอนใต้ของประเทศ แม่น้ำที่ยาวที่สุดในอิตาลีคือแม่น้ำโป (Po) และแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านกรุงโรม อิตาลีมีดินแดนที่ราบลุ่มริมแม่น้ำราว 25 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งประเทศ โดยที่ราบลุ่มแม่น้ำโป ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นบริเวณพื้นที่ราบที่กว้างใหญ่ที่สุด อิตาลีมีเกาะมากมาย เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือเกาะซิซิลี รองลงมาคือเกาะซาร์ดิเนีย ทั้งสองแห่งสามารถเดินทางได้โดยทางเรือและทางเครื่องบิน...เขาใช้สินค้าที่มีอยู่เกลื่อนประเทศ พัฒนาและส่งออกไปขาย กระจายรายได้สู่คนชั้นล่าง แม้จะมีสินค้าบางชนิดที่เลี่ยงกฎหมาย เขาจึงถูกขนานนามว่า ‘มาเฟีย’ เมื่อมีทั้งของถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย...และมันสร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ ห้องทำงานประธาน…โรเรนโซ่... ป้ายหน้าห้องยังคงความขลัง บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบ สมกับเป็นอาณาเขตของผู้กุมบังเ**ยน มณีรินเริ่มสั่นเทา เธอรู้สึกว่าขาของตัวเองหนักอึ้ง มันแทบจะขยับเดินไม่ไหว...รู้สึกถึงแรงกดดันที่พุ่งเข้าจู่โจม!! มันเป็นพลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากภายในห้องตรงด้านหน้า โดยผู้ชายที่อยู่ในนั้น “เชิญครับ บอสกำลังรอคุณครูอยู่...” เคล้าเปิดประตูห้องทำงานของแองเจลโร่ให้ หลังเคาะประตูส่งสัญญาณให้คนด้านในนั้นรู้... มณีรินสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอเดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปภายใน พยายามปรับความหวั่นไหวให้สงบลงเพื่อผลสำเร็จของการพุดคุย!! “สวัสดีคุณครู” แองเจลโร่เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร เขาหรี่ตาประเมินแม่สาวตรงหน้า...แล้วจึงส่ายใบหน้าแอบเบ้ปาก... หล่อนติดลบเรื่องการแต่งตัว กระโปรงยางกรอมเท้าสีทึมๆ เสื้อที่ใส่อีกสีแม่ชีขาวสะอาดและเช่นกันมันยาวจนถึงข้อมือ แถมตัวใหญ่โคร่ง... มองไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อสักนิด...ผมขมวดเป็นมวยแน่นตึง เอาเป็นว่าหล่อนเหมาะสมกับอาชีพของหล่อน แต่มันหาได้มีสิ่งเจริญหูเจริญตา...ให้ต้องตาต้องใจ “เอ่อ...ค่ะ สวัสดีค่ะ” มณีรินเงอะๆ งะๆ หัวใจเธอเต้นดังยิ่งกว่าเสียงนาฬิกาที่ตั้งอยู่ยอดตึกของโรงเรียน ดวงตาของชายหนุ่มคมกริบ แววตาสงบนิ่งเหมือนผิวน้ำในทะเลสาบที่ใสแจ๋วจนอยากที่จะคะเนถึงความลึก!! หญิงสาวรวบรวมกำลังใจที่ลอยกระจัดกระจาย เธอฝืนยิ้มแหยๆ และกำลังจะเริ่มพูดถึงวัตถุประสงค์ของการเจรจา “เราเริ่มคุยกันได้หรือยังล่ะ” ชายหนุ่มยกมือวางประสานกัน เขาวางข้อศอกบนผิวโต๊ะและมองมณีรินตาเขม็ง!! “ค่ะ!! ถ้าคุณผู้ปกครองพร้อม ดิฉันก็พร้อมค่ะ” เสียงหวานๆ เย็นๆ หู เธอคลี่รอยยิ้มอ่อน และรีบทรุดตัวลงนั่งก่อนที่ขาจะหมดแรง “เริ่มได้เลย... เวลาของเธอเหลือแค่25 นาที!!” เหอะ!! เธอเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะมัวแต่ตกตะลึงกับรูปโฉมอันงามสง่าของบิดาของวินเซ้นต์ แต่เขามันก็เป็นแค่ซาตานในคราบเทพบุตรชัดๆ ทั้งเย็นชาและกร้าวกระด้าง มณีรินสะบัดใบหน้าพรืด!! เธอรีบพูดรัวๆ เพราะเสน่ห์ของชายหนุ่มหลุดกระเด็นหายไปจากใจเธอเสียแล้ว เมื่อเขาพ่นคำพูดเย็นชาออกมาจากปากคู่นั้น...หนอย...เธอมาเพราะเรื่องเด็กในการดูแล ไม่ได้คิดจะมาอ่อยหรือยั่วยวนเขานะ ทำเป็นหรี่ตามองเธอแบบเหยียดๆ เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวเจอฤทธิ์แม่มณีริน “ดิฉันอยากทราบว่าใน1อาทิตย์คุณผู้ปกครองวินเซ้นต์ เจอเค้ากี่ครั้งคะ?” “ทำไม!! ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วยล่ะ” ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ถีบปลายเท้าจนเก้าอี้นั่งถอยออกห่างโต๊ะทำงานมากพอที่จะตวัดปลายเท้าขึ้นพาดบนขอบโต๊ะ ท่าทางกวนโทสะจนมณีรินฉุนกึก เธอยกมือขึ้นขยับขาแว่น ก่อนจะถอดออกมาเพื่อเช็ดคราบไอร้อนๆ ที่ระเหิดขึ้นไปเกาะจนกระจกแว่นตาพร่ามัว แองเจลโร่ขมวดคิ้ว แว่นตากรอบใหญ่ๆ พ้นไปจากใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม หลังแว่นตากรอบโตๆ เขาเห็นแพขนตางามงอนและดวงตากลมโตใสกระจ่าง ปลายจมูกเล็กๆ มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา เธอเหลือบมองเขาเหมือนกับกำลังตำหนิ เมื่อสายตาหวานฉ่ำปลายตามองแค่ปลายรองเท้าของเขา “โทษที...เราไม่ได้คุยธุรกิจกันน่ะ ฉันเลยเผลอทำตัวสบายมากไปสักนิด” เขาตวัดปลายรองเท้ากลับลงไปอยู่ที่เดิม และกระชากแว่นตาที่หล่อนกำลังสาละวนเช็ด เก็บมาวางไว้ข้างตัว แค่นี้บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไป เธอสวยอย่างที่ลูก้าคาบมาบอกจริงๆ ผิวแก้มใสวิ้ง!! ริมฝีปากสีเชอรี่สุกแดงก่ำน่าลิ้มรส โค้งหน้าผากโหนกนูน รับกับปลายจมูกโด่งพองาม ดวงตากลมโตล้อมกรอบด้วยแพขนตาที่ดำสนิทหนาเหมือนปีกผีเสื้อยามกระพือปีก และหากจับหล่อนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าตามแฟชั่น คงงดงามไม่น้อยหน้านางแบบชื่อดังๆ ที่เคยเป็นคู่ควงหรือคูนอนของเขามาก่อน “ขอแว่นตาดิฉัน...คืนมาค่ะ!!” มณีรินกระพริบเปลือกตาถี่ๆ ตาเธอพร่ามัวทันที เมื่อสายตาเธอสั้นเกินกว่ามาตรฐานของคนปรกติ ภาพตรงหน้ามัวและไม่ชัดเจน มันเหมือนภาพสะท้อนจากเงาน้ำ ยามที่ผิวน้ำเป็นระรอกคลื่น... “15 นาที เวลาของเธอใกล้หมดแล้วน่ะ” อารมณ์กรุ่นๆ เริ่มปะทุขึ้นในอก ผู้ชายคนนี้ทำตัวน่าโมโห และเขากำลังกลั่นแกล้งเธอ จนเกือบจะสิ้นความอดทน...หญิงสาวสูดลมหายใจแรงๆ เธอปรับความโกรธลงไปเก็บไว้ที่เดิม...แล้วจึงเริ่มพูดช้าๆ แต่ชัดเจน ก่อนที่เวลาของเธอจะหมดลง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD